HPST ตอนที่ 29: คุณนายนอร์ริสที่กลายเป็นหิน
HPST ตอนที่ 29: คุณนายนอร์ริสที่กลายเป็นหิน
“มีอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น?”
ฟิลช์ถูกดึงดูดโดยเสียงตะโกนของมัลฟอย เขาเดินผ่าฝูงชนออกมาด้านหน้า
“แมวของฉัน! แมวของฉัน! เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” ฟิลช์พูดขึ้นขณะเดินไปข้างหน้าและจับตัวของอีวาน “ฉันจะฆ่าแก”
“ปล่อยผมไปนะ!” อีวานพูดขณะปัดมือของฟิลช์ออกไปจากตัว “ผมไม่ได้แม้แต่จะแตะต้องแมวของคุณเลย ไม่มีใครแตะต้องเธอ พอพวกเรามาถึงเธอก็อยู่ในสภาพนั้นแล้ว”
“โกหก แกกำลังโกหก! มีบางคนเห็นพวกแกทำไม่ใช่หรอ!” ฟิลช์ร้องออกมา
“ฟิลช์!”
ดัมเบิลดอร์มาถึงที่เกิดเหตุ ตามมาด้วยอาจารย์คนอื่นๆ ในไม่ช้าเขาก็เดินเขามาหาอีวาน,แฮรี่,รอน ,และเฮอร์ไมโอนี่ และนำแมวลงจากคบเพลิง
“คามฉันมาฟิลช์” ดัมเบิลดอร์บอกกับฟิลช์ “และพวกเธอ คุณเมสัน,คุณพอตเตอร์,คุณวีสลีย์ และคุณเกรนเจอร์” ดัมเบิลดอร์กล่าว
ล็อคฮาร์ตพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “ห้องทำงานของผมอยู่ใกล้ๆกับตรงนี้ คุณจะไปใช้ก็ได้ถ้าคุณต้องการ”
“ขอบคุณ กริลเดอรอย!” ดัมเบิลดอร์พยักหน้า
ฝูงชนที่พูดไม่ออกนี้ได้เปิดทางให้พวกเขาเดินออกไป
พวกเขานำทางไปยังห้องทำงานมืดๆของล็อคฮาร์ต ตามมาด้วยศาสตราจารย์มักกอนมากัล และสเนป อีวานเห็นล็อคฮาร์ตรีร้อนเก็บกวาดกองรูปภาพของที่อยู่บนโต๊ะ
ล็อคฮาร์ตจากนั้นก็จุดเทียนบนโต๊ะแล้วถอยกลับไปยืนด้านหลัง ดัมเบิลดอร์วางแมวลงบนโต๊ะสะอาดและเริ่มวินิจฉัยเธอ
ดัมเบิลดอร์สังเกตแมวอย่างระมัดระวัง ขณะที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลอยู่ใกล้ๆขณะที่เธอกำลังสังเกตที่แมว เธอเกือบจะสัมผัสกับมัน
สเนปยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ครึ่งตัวนั่นหลบอยู่ในเงามืดพร้อมกับหน้าตาที่บูดบึ้ง ใบหน้าของเขาดูแปลกประหลาด ราวกับว่าเขากำลังควบคุมตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา ล็อคฮาร์ตเดินไปรอบๆพวกเขาและคอยให้คำแนะนำไปเรื่อย
อีวาน,แฮรี่,รอน, และเฮอร์ไมโอนี่ กำลังมองหน้ากันด้วยสายตาเป็นกังวล พวกเขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่แสงจากเทียนส่องมาไม่ถึง ฟิลช์ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาพร้อมจ้องเขม่งไปที่อีวาน ราวกับว่าเขาระบุได้แน่ชัดแล้วว่าเขานั้นคือฆาตกร
“มันต้องเป็นเพราะคำสาปที่ฆ่ามัน เป็นไปได้ว่ามันจะเป็นคาถาที่ทำให้สูญเสียรูปร่างและทรมานเป้าหมาย” ล็อคฮาร์ตกล่าว “ฉันเคยเห็นคาถาแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ฉันขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น เพราะว่าฉันรู้คาถาที่จะช่วยชีวิตเธอได้”
เมื่อฟลิช์ได้ยินคำพูดของล็อคฮาร์ต มันทำให้เขากระตุกด้วยความเศร้าโศกเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่อยู่ถัดจากโต๊ะ พร้อมกับมือกลุมหน้าไม่กล้ามองไปที่สภาพที่น่าสังเวชของคุณนายนอร์ริช
ในเวลานั้น ดัมเบิลดอร์กระซิบคำพูดออกมาสองสามคำ และใช้ไม้กายสิทธิ์เคาะเบาๆบนตัวของคุณนายนอร์ริช แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง คุณนายนอร์ริชยังคงนอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน
“อาจารย์ใหญ่ แมวตัวนี้ตายแล้ว ผมจำเหตุกาณ์คล้ายๆแบบนี้ในหนังสือของผม มันเป็นการโจมตีแบบต่อเนื่อง” ล็อคฮาร์ตกล่าว “ในเวลานั้น,ผมได้มอบเครื่องรางเพื่อแก้ปัญหาของพวกคนทั่วไปเหล่านั้น”
“ศาสตราจารย์เธอยังไม่ตาย เธอแค่กลายเป็นหิน”
อีวานรู้สึกว่าเขาต้องพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่ล็อกฮาร์ตจะทำให้ฟิลช์พยายามฆ่าเขา
“ไร้สาระ! แกเป็นคนฆ่าเธอ!” ฟิลช์คำรามออกมา
“คุณเมสันพูดถูก เธอยังไม่ตาย” ดัมเบิลดอร์กระซิบพูดกับฟิลช์ “เธอแค่ถูกทำให้กลายเป็นหินโดยคำสาปที่รุนแรง นักเรียนปีหนึ่งทำแบบนี้ไม่ได้หรอก”
“เขาเป็นคนทำ เขาเป็นคนทำ! คุณก็เห็นที่เขียนบนผนังข้างๆ คุณนายนอร์ริช เธอพยายามจะห้ามไม่ให้เขาเข้าไปในห้องน้ำหญิงที่ชั้นสามตั้งหลายครั้ง” ฟิลช์กล่าว “เจาต้องเก็บความไม่พอใจไว้แน่ๆ”
“ผมไม่ได้แตะแมวของคุณ!”
“แล้วมีเรื่องอะไรให้คุณเมสันที่โด่งดังต้องพยายามเข้าไปในห้องน้ำหญิง หรือมันจะมีข่าวอะไรให้ลงในหนังสือพิมพ์เฟ้อฝันของเธอ?”
“ผมกำลังมองหาผีในปราสาทที่จะช่วยผมนำเสนอแหล่งข่าวสำหรับหนังสือพิมพ์ของผม ผมว่ามันจำเป็นที่จะต้องไปคุยกับ เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ เธอมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับฮอกวอตส์ และสาวๆหลายคนชอบเธอ” อีวานอธิบาย แต่ฟิลช์ไม่เชื่อคำพูดของเขา
“ฉันค่อนข้างจะสงสัยเกี่ยวกับเลือกนี้จริงๆ” สเนปพูดเป็นนัยเยาะเย้ย ขณะหันมามองที่แฮรี่ “สิ่งที่เธอพูดมามันเต็มไปด้วยช่องโหว่ ทำไมพวกเธอต้องขึ้นมาชั้นบนและไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้วันฮาโลวีน?”
สเนปยิงคำถามใส่เขาเป็นชุด ทำให้อีวานรู้สึกว่าตัวเขาเหมือนคนแก่
โชคดีที่เขาไม่ต้องอธิบาย เนื่องจากแฮรี่,รอน, และเฮอร์ไมโอนี่แย่งกันอธิบายว่าพวกเขาอยู่ในงานปาร์ตี้ฉลองวันตาย
“ผีร้อยกว่าตัวสามารถเป็นพยานว่าพวกเราอยู่ที่นั่น”
“แต่หลังจากนั้น ทำไมพวกเธอถึงไม่กลับไปที่ปาร์ตี้?” สเนปถามด้วยตาเป็นประกายในแสงเทียน “ทำไมพวกเธอถึงขึ้นมาที่ทางเดินนี่?”
“เนื่องจากรอนมีความเข้าใจผิดเล็กน้อยกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ พวกเราเลยมาเพื่อขอโทษเธอ”
“ไปขอโทษผี แทนที่จะไปกินมื้อค่ำ?” สเนปกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มภูมิใจ “ฉันไม่คิดว่าอาหารในปาร์ตี้ผีจะเหมาะกับพวกเธอนะ”
“พวกเราไม่หิว” รอนพูดเสียงดัง แต่ท้องของเขาก็ร้องออกมา ซึ่งมันทำให้รอยยิ้มของสเนปเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น
“ในความคิดเห็นของผมนะอาจารย์ใหญ่ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์อย่างแท้จริง ดังนั้นเราควรจะยกเลิกสิทธิพิเศษของพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะยอมพูดความจริงกับพวกเรา” สเนปกล่าว “ส่วนตัวผมคิดว่าพวกเราควรระงับหนังสือพิมพ์ของคุณเมสัน และให้คุณพอตเตอร์ออกจากทีมควิดดิชจนกว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์จริงๆ”
“ว่าตามตรงนะ เซเวอรัส” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลสอดขึ้น “ฉันไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรให้เด็กพวกนี้หยุดทำกิจกรรมนอกหลักสูตรที่พวกเขาชอบ เพราะแมวก็ไม่ถูกตีที่หัวด้วยหนังสือพิมพ์หรือไม้กวาด และมันก็ยังไม่มีหลักฐานว่าพวกเขาทำอะไรผิด”
ดัมเบิลดอร์มองไปที่ทั้งสี่ด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น ดวงตาของเขาดูเหมือนจะมองผ่านได้ทุกสิ่ง
“ตราบใดที่พวกเขายังไม่ถูกพิสูจน์ว่าผิด พวกเขาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เซเวอรัส” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างหนักแน่น
สเนปและฟิลช์ดูหงุดหงิด
“แมวของฉันโดนสาปเป็นหิน และฉันอยากเห็นใครสักคนถูกลงโทษ!”
“เราสามารถรักษาเธอได้ ฟิลช์” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างใจเย็น “คุณสเปราต์พึ่งได้แมนเดรกมา และเมื่อมันโตแล้ว เราจะสามารถทำโพชั่นมารักษาคุณนายนอร์ริช”
“ผมจะทำมันเอง!” ล็อคฮาร์ตกล่าวแทรก “ผมเคยทำมาแล้วมากกว่าร้อยครั้ง ผมทำได้แม้กระทั่งตอนหลับอยู่”
“พูดอีกทีสิ! ฉันคิดว่าฉันเป็นอาจารย์ปรุงยาของโรงเรียนนี้นะ” สเนปกล่าว
เกิดความเงียบที่น่าอึดอัด ล็อคฮาร์ตรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
“พวกเธอไปได้แล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดกับอีวาน,แฮรี่,รอน, และเฮอร์ไมโอนี่
พวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว เกือบจะคล้ายรีบวิ่งออกไป เมื่อพวกเขาออกจากห้องทำงานของล็อคฮาร์ต พวกเขาเข้าไปในห้องเรียนที่ว่างเปล่าและปิดประตูเบาๆ
ในความมืด เฮอรืไมโอนี่หลี่ตามองที่อีวาน,แฮรี่, และรอน