HPST ตอนที่ 26: งานฉลองวันตายของนิกหัวเกือบขาด
HPST ตอนที่ 26: งานฉลองวันตายของนิกหัวเกือบขาด
เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้ อีวานเลือกที่จะรออย่างระมัดระวัง
ถ้าหากไดอารี่ถูกมอบให้ใครบางคนโดยลูเซียส เช่นนั้นห้องแห่งความลับน่าจะถูกเปิดแล้ว
อีวานจำได้ว่าการโจมตีเริ่มต้นในวันฮาโลวีน
ในวันฮาโลวีน ,เขาตั้งใจจะอยู่กับจินนี่เพื่อจับตาดูเธอ หรือดูว่ามีใครน่าสงสัยหรือไม่ แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็นด้วย เธออยากให้อีวานไปงานฉลองวันตายของนิกหัวเกือบขาดกับพวกเขา
“เฮอร์ไมโอนี่ ฉันป่วยนะให้ฉันอยู่ในโลกคนเป็นเหอะ นอกจากนั้นฉันยังต้องเขียนบทความเกี่ยวกับวันฮาโลวีนสำหรับพาดหัวข่าวสัปดาห์หน้านะ”
“นายหายป่วยตั้งแต่วันอังคารแล้วอีวาน!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธไม่ให้อยู่ที่นี่ “บทความค่อยให้โคลินกับจินนี่ทำแทนก็ได้ นิกหัวเกือบขาดเขาช่วยพวกเรารวบรวมข่าว ดังนั้นเราจะไม่ไปงานของเขาไม่ได้”
“แต่ดัมเบิลดอร์จองนักเต้นโครงกระดูกมาเป็นโชว์บันเทิงด้วยนะ” แฮรี่พูดด้วยความลังเลเพราะเขาและรอนไม่ต้องการเข้าร่วมงานฉลองวันตาย
เฮอร์ไมโอนี่หันหัวเพื่อเตือนแฮร์รี่และพูดว่า“นายกับรอนเป็นคนที่สัญญากับนิกหัวเกือบขาดเองนะ ว่านายจะเข้าร่วมปาร์ตี้วันตายของเขา”
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่ม ,ทั้งสี่คนก็เดินออกจากประตูไปทางห้องโถงใหญ่ มีของตกแต่งมากมาย และจานสีทองวางอยู่บนโต๊ะ มันน่าดึงดูดมากแต่แทนที่พวกเขาจะเข้าไปในงานปาร์ตี้ พวกเขาเดินลงไปในดันเจี้ยน
ถึงแม้พวกเขาจะเดินไปเรียนวิชาปรุงยาด้วยทางนี้ แต่พอตกกลางคืนมันก็น่ากลัวเป็นพิเศษ
เทียนบางเส้นตั้งอยู่ในห้องโถง แต่ผลของนั้นไม่ได้ยอดเยี่ยมเพราะเทียนเล่มบางๆถูกเผาเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกเศร้าหมอง
ทุกก้าวที่ทั้งสี่ก้าวไปข้างหน้า อุณหภูมิก็ลดตามไปด้วย
นั่นทำให้อีวานจามและห่มเสื้อผ้ารอบตัวเขาแน่นขึ้น
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงที่เหมือนกับเล็บนับพันกำลังขูดบนกระดานดำ
“นั่นเสียงอะไรน่ะ?” รอนพูดด้วยอาการหวาดกลัว
“ฉันคิดว่ามันเป็นเสียงดนตรีนะ” แฮรี่กระซิบ
พวกเขาเลี้ยวที่หัวมุมและเห็นนิกหัวเกือบขาดในทันที เขากำลังยืนอยู่ด้านข้างประตูทางเข้า
“เพื่อนรักของฉัน” นิกกล่าว “ฉันรู้สึกยินดีที่คุณมา ยินดีค้อนรับ ยินดีต้อนรับ”
เขาถอดหมวกของเขาออกและก้มลงเล็กน้อยและเชิญให้พวกเขาเข้างาน
แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ดันเจี้ยนเต็มไปด้วยกว่าร้อยร่างโปร่งแสง พวกเขาส่วนมากกำลังเต้นไปมาบนฟลอร์เต้นรำที่มีผู้คนหนาแน่ พวกเขาคร่ำครวญด้วยเสียงที่น่ากลัว วงออเคสตราบรรเลงบนเวทีที่มีพื้นสีดำยกสูง
แชนเดอเรียร์มีเทียนมากกว่าพันเล่มจุดไฟอยู่บนนั้นเพื่อเปร่งแสงสว่างอันงดงามออกมา
อีวานสามารถเห็นลมหายใจของเขา มันเหมือนกับเขาได้อยู่ในตู้เย็น
“เอ่อ พวกเราจะทำอะไรกันดีล่ะ?”
“งั้นเดินดูรอบๆกันก่อน” แฮรี่แนะนำ
“ระวังอย่าไปเดินทะลุใครเข้าล่ะ” รอนพูดอย่างเป็นกังวล
พวกเขาเดินอย่างระมัดระวังรอบๆขอบของฟลอร์เต้นรำ พวกเขาเห็นกลุ่มของแม่ชีมืดมน ชามตัวขาดที่คล้องโซ่ไว้และ นักบวชตัวอ้วน
จากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับบารอนเลือด ผีประจำบ้านสลิธิรีนที่มีใบหน้าที่ผอมแห้งและเสื้อคุลมที่เปื้อนเลือดสีเงิน ไม่มีใครกลางเข้าไปใกล้เขา ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เขา ดังนั้นผีตัวอื่นๆจึงเขยิบตัวถอยห่างจากเขา
“โอ้ ไม่นะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าว “หันไปทางอื่นเร็ว ฉันไม่อยากคุยกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ!”
“ใครนะ?” แฮรี่กระซิบ
“เธอเป็นผีที่คอยหลอกหลอนคนอยู่ในห้องน้ำหญิง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
“หลอกหลอนในห้องน้ำ?”
“ใช่ เพราะว่าห้องน้ำนั่นเสียตั้งแต่เธอทำให้ทำท่วมพื้น ถ้านานพยายามหลบเธอได้พวกนายก็รอด แต่ถ้านายไปที่ห้องน้ำเธอจะกรีดร้องใส่นาย มันน่ารำคาญจริงๆ”
“นั่นเขากำลังทำอะไร?”
“ไม่รู้สิ บางทีเมอร์เทิลอาจจะเป็นสเปคของอีวาน” รอนพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า “ฮะฮะ นี่แหละข่าวใหญ่”
เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขม่งไปที่รอน และหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เดินตามแฮรี่ไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากทางเข้าห้องแห่งความลับตั้งอยู่ในห้องน้ำที่เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญอยู่ อีวานจึงอยากถามถ้าเธอเห็นใครบางคนแปลกๆเข้าไปเมื่อไม่นานมานี้
ในปัจจุบัน ตำแหน่งของไดอารี่ของทอม ริดเดิ้ลยังไม่แน่ชัด ดังนั้นจึงไม่ควรจะมองข้ามร่องรอยใดๆ
ก่อนอีวานจะมีโอกาสได้พูดคุยกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ เขาเห็นสิ่งมีชีวิตที่สวมหมวกตัวตลกสีส้ม ผิวสีขาวซีด ผมสีดำและดวงตาสีดำปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
“เด็กน้อยทั้งหลาย อยากจะลองสักหน่อยไหม?” พีฟส์กล่าวขณะที่ถือถ้วยที่มีถั่วลิสงขึ้นรา
“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ” อีวานพูดปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ฉันพึ่งได้ยินที่พวกเธอคุยกันเกี่ยวกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญที่น่าสงสาร นั่นไม่สุภาพเลยนะ”
พีฟส์สูดหายใจลึก และคำรามออกมา “เฮ้ เมอร์เทิล!”
“พีฟส์ ขอร้องล่ะอย่าบอกเธอเรื่องที่ฉันพึ่งพูดไป เธอจะต้องเสียใจแน่ๆ” เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังยืนอยู่ข้างๆพูด และกระซิบอย่างรีบเร่ง “ฉันแค่พูดเล่น…..”
คำพูดของเธอสั้นลงเมื่อเธอเห็นเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญลอยเข้ามาใกล้ๆ
การแสดงออกของเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและหม่นหมองที่สุดที่อีวานเคยเห็นมาก่อน
“มีอะไร?” เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญถามด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“สวัสดี เมอร์เทิล ยินดีที่ได้พบคุณนอกห้องน้ำ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์
“คุณเกรนเจอร์พึ่งพูดถึงเธอเมื่อไม่นานมานี้เอง” พีฟส์พูดอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
“พวกเราพึ่งคุยกันว่าคุณดูสวยมากในคืนนี้” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับจ้องไปที่พีฟส์
“เธอกำลังล้อเลียนฉัน”
เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างสงสัย แต่ทันใดนั้นเองน้ำตาก็ไหลลงมาจากดวงตาที่อยู่ใต้แว่นแก้วของเธอ
“ไม่นะ ฉันพูดความจริง ไม่ใช่ว่าฉันพึ่งจะพูดไปว่าเมอร์เทิลดูสวยมาก?” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะตีศอกใส่แฮรี่กับรอน
“ใช่….”
“เธอพูด!”
“ไม่ต้องมาโกหกฉัน ,พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าคนอื่นเรียกฉันลับหลังว่าอะไร” เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม “ยัยอ้วยเมอร์เทิล ,ยัยเมอร์เทิลขี้เหร่ ,ยัยเมอร์เทิลหน้าบึ้งจอมสะอื้น!”
“เธอยังลืม….” พีฟส์พูดขณะหัวเราะ
“พอได้แล้วพีฟส์!” อีวานพูดขัดจังหวะพีฟส์อย่างรวดเร็ว อีวานมีเรื่องบางอย่างที่จะต้องถามเมอร์เทิล ดังนั้นเขาไม่สามารถจะให้พีฟส์มาทำมันพังไม่ได้
“พวกเราเชื่อจริงๆว่าคุณนั้นสวยมากในคืนนี้ คุณเป็นผีที่เป็นมิตรไม่เหมือนกับผีตัวอื่นๆ คุณคือผีที่ดีที่สุด เชื่อผมสิ….”
พอได้ยินคำชมของอีวานเกี่ยวกับเมอร์เทิล แฮรี่,รอน,และเฮอร์ไมโอนี่อ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ
“อยากบอกนะว่าจริงๆแล้วเขาแอบชอบเมอเทิล?” รอนกระซิบบอกแฮรี่ แต่โชคไม่ดีที่เขาถูกได้ยินโดยพีฟส์และเมอร์เทิล
“นายกำลังโกหก ไม่มีใครที่ชอบฉัน”เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญร่ำไห้อีกครั้งก่อนจะวิ่งออกไปจากดันเจี้ยน
“ไม่มีใครชอบเมอร์เทิล , ยัยหน้าสิวเมอร์เทิล!” พีฟส์ตะโกนไล่ตามหลังเธอและโยนถั่วลิสงขึ้นราใส่