บทที่ 79 : ทำลายแผนการ
เมื่อเทย์เลอร์เห็นดังนั้น เขาก็ไม่ได้หัวเราะแต่กลับหน้ายับยู่ยี่แทน
เขาแค่อยากจะยื่นมือออกมาทักทาย แต่ว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาเสียก่อน
เขาเดินโคลงเคลงเข้ามาหาเทย์เลอร์ เป็นเอลฟ์เด็กอายุสามขวบ ปากของเขาเปื้อนน้ำลายเหมือนกับมีอะไรอยู่ข้างใน เขาเคี้ยวหยุบหยับก่อนจะกล่าวว่า “อืม...ฝ่าบาท คนๆนั้น...เขาขอให้ข้ามอบหมวกฟางใบนี้ให้ท่าน”
เทย์เลอร์เข้าใจ เขาหยิบหมวกฟางสีเขียวขึ้นมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่เขาก็สวมมันลงไปบนศีรษะ
“หืม? รู้สึกดีมากเลยหนิ ค่อนข้างสบายเลย...” เทย์เลอร์ทำท่ามีความสุข เขาอดคิดไม่ได้ว่าคนๆนั้นวางแผนที่จะยกยอเขารึเปล่านะ?
“โอ้ ไม่ต้องสงสัยเลย ข้าคือองค์ชาย คนผู้นั้นต้องรู้ตัวตนของข้าและอยากจะเข้ามาประจบเป็นแน่ แต่ทำไมเขาดูค่อนข้างคุ้นเคยกันนะ?” เทย์เลอร์ลูบคาง ความทรงจำค่อยๆผุดขึ้นในจิตใจของเขา…
เพราะฉะนั้น
เวลาจึงผ่านไปอย่างช้าๆ
รอยยิ้มของเทย์เลอร์ก็หายไปก็เช่นกัน
เขาโยนหมวกฟางทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ก็ยังมีเศษหญ้าติดอยู่บนศีรษะของเขาประปราย เขาตะโกนด้วยความโกรธ “วิลเลียม! ใครกันที่ทำให้เจ้ากล้าเข้ามายังหมู่บ้านบลูมูน?”
…………………………...
น้ำไหลเอื่อยๆลงมาจากน้ำพุ, เหล่าวิหคขับขานร้องเพลง และหมู่ดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอม
การตื่นเต้นกับความงดงามของสวนกลางเวหานั้นเป็นเรื่องปกติ
เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่นั่งอยู่บนศาลาในสวนนั้นดูเหมือนว่าจะได้ยินอะไรบางอย่าง แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจแม้ว่ามันจะดังขึ้นเรื่อยๆก็ตาม…
“ว้าว คริสตัลเวทย์นี่งดงามมาก ท่านพี่วิลเลียมจะให้น้องจริงๆหรอคะ?” แอนนี่สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ท่าทางดูเป็นคนขี้เหนียว ดวงตากลมโตของเธอคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว เธอกระพริบตาปริบๆพร้อมกับกอดคริสตัลเวทย์ทั้งสามที่อยู่บนโต๊ะไว้
วิลเลียมหัวเราะ “นี่คือของขวัญสำหรับน้องสาวแอนนี่ตัวน้อย ทำไมถึงต้องเก็บเงินด้วยล่ะ!”
ขณะที่วิลเลียมพูด เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรง เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งราวกับถูกตัดแขนขาก็ไม่ปานเมื่อแอนนี่จับคริสตัลเหล่านั้น
“พรึ่บ” คริสตัลเวทมนตร์สองอันหายไปในอากาศ และอันสุดท้ายอยู่ในมือของแอนนี่ เธอสังเกตมันใกล้ๆ
วิลเลียมเลิกคิ้ว สมบัติหายไปในอากาศ!
แอนนี่ไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ เธอจ้องไปที่มืออย่างมีความสุข ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเช่นกัน “มันเป็นคริสตัลเวทมนตร์จริงๆ ข้างในมีเวทย์มนตร์เต็มไปหมด มันมีประโยชน์ต่อการฝึกฝนเวทย์มนตร์หรือการสร้างเครื่องมือมากเลยค่ะ”
“ดิ๊งด่อง”
“ความสัมพันธ์ของแอนนี่ที่มีต่อคุณเพิ่มขึ้น 50 แต้ม”
แอนนี่วางคริสตัลเวทมนตร์ลงบนโต๊ะแต่เธอดูหมดอาลัยตายอยาก เธอมองไปยังวิลเลียมอย่างไร้ประโยชน์ “น่าเสียดายซะจริง! มันมีน้อยเกินไป จำนวนเท่านี้ไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าไหร่ เราอยากจะใช้พวกมันประดับตกแต่งห้องนอน คงจะดีหากเราสามารถเสกเวทมนตร์ขนาดยักษ์ได้!”
เทพธิดาหัวเราะขณะที่เหยียดแขนเหยียดขา “จะดีที่สุดหากเราสามารถแช่ในมหาสมุทรแห่งเวทมนตร์ได้ อัตราการฝึกฝนของเราก็คงจะเร็วมาก และเมื่อฉันกลายเป็นรีเจนท์ที่แท้จริงพ่อของฉันก็จะ…”
เมื่อเธอพูดจบแอนนี่ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ เธอไม่ได้มองวิลเลียม แต่กลับจ้องมองไปยังผืนฟ้าแทน "ท่านรู้รึเปล่า…"
“รู้อะไรหรือ?” วิลเลียมหูตั้ง ครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะเป็นผู้ฟัง
ราวกับว่าคริสตัลวิเศษเหล่านี้ไม่ได้ทำให้แอนนี่มีความสุขมากขึ้น แต่มันกลับเรียกความทรงจำที่น่าเศร้าเข้ามาแทน นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ารำคาญเล็กน้อย
“ท่านพ่อกำลังจะกลับไปที่ต้นเวิร์ล แต่ท่านไม่อนุญาตให้เรากลับไป… ท่านไม่ต้องการให้เราเจอท่านเป็นครั้งสุดท้าย เราคิดถึงท่าน ... เราอยากกลับบ้าน เราอยากกลับบ้านจริงๆ….” เด็กสาวเศร้ามาก ดวงตาของเธอประกายไปด้วยน้ำตาขณะที่เธอกำลังจะร้องไห้
ตอนนี้แอนนี่อายุ 18 เธอถูกส่งไปยังป่าแบล็คลีฟตอนที่ยังเด็กมากนัก
องครักษ์นับพันได้ติดตามเธอไปในเวลานั้น
แต่เจ้าหญิงองค์นี้ไม่ได้ขาดวัตถุสิ่งของ สิ่งที่เธอต้องการคือความรักที่แท้จริงจากครอบครัวของเธอ
หลังจากพูดออกมาเธอก็เริ่มร้องไห้ เธอทำเช่นนั้นจนกระทั่งดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ น้ำตาที่ดูเหมือนไข่มุกของเธอยังคงร่วงหล่นจนกระโปรงของเธอเปียกชื้น
วิลเลียมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ได้สูงมากนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแอนนี่ถึงได้พูดเรื่องนี้กับเขา
“หืม เธอไม่สามารถอ่านความคิดของฉันได้งั้นเหรอ?” ทันใดนั้นวิลเลียมก็เข้าใจ
แอนนี่ผู้มีทักษะของยูนิคอร์นที่สามารถอ่านใจคนได้ มันเป็นทักษะที่แข็งแกร่งมาก เธอสามารถมองเห็นความคิดของคนอื่นในระดับเดียวกับเธอยกเว้นแค่ไม่กี่คนที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากๆเท่านั้น
ในสายตาของเธอ มีเพียงท่านพ่อที่มีอายุยาวนานผู้เดียวเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่และความรักต่อเธอ ส่วนคนอื่นๆล้วนซ่อนเร้นความคิดที่ชั่วร้ายหรือไม่ก็ล้วนแต่ปรารถนาในตัวเธอกันทั้งนั้น
วิลเลียมนั้นมีลักษณะของทั้ง NPC และผู้เล่น มันทำให้เธอไม่สามารถมองความคิดของเขาได้เลย มันจึงดึงดูดความสนใจของแอนนี่
นอกจากนี้เขาไม่รู้ว่าหลังจากการพบปะกันครั้งก่อน เธอได้ค้นหาบันทึกโบราณบางอย่าง ข้อความในบันทึกเหล่านั้นกล่าวว่าคนที่ไม่สามารถใช้ทักษะการอ่านใจมองความคิดได้คือคนที่ใจดีและบริสุทธิ์
ด้วยเหตุนั้น
แม้ว่าแอนนี่จะยังไม่มีความสัมพันธ์ต่อวิลเลียมสูงมากนัก แต่เธอก็ยังอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเขามาก
โอ้ ให้ตายสิ
เทย์เลอร์นั้นอยู่ในช่วงหาคู่ แต่ข่าวของท่านพ่อของเธอเพิ่งมาถึงหูเธอไม่นานนัก นี่ก็ดีถมแล้วที่เจ้าหญิงไม่ได้ระเบิดออกมาซะก่อน…
“นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากในการเพิ่มความสัมพันธ์!” วิลเลียมมีแผนในใจของเขา แต่จิตใจของเขากลับล่องลอยไปที่อื่น
เขาจำได้ว่าแอนนี่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้เล่น เธอจะเกิดอุบัติเหตุตอนแอบกลับไปยังป่ามูนไลท์รึเปล่านะ?
หากเขาเพิ่มความสัมพันธ์ไปจนถึงขีดสุดแล้วล่ะก็ เขาจะสามารถนำพิมพ์เขียวกลับมาได้ไหมนะ?
“ถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉันคงต้องฝืนให้คริสตัลเวทมนตร์ไปอย่างแน่นอน” มุมปากวิลเลียมกระตุก ดีที่เขาไม่ได้คำนวณไว้มากนัก และรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เฮ้อ ฉันจะเล่นเป็นคนแสนดีจนจบและปลอบเธอหน่อยก็ได้”
เมื่อคิดอย่างนั้นแล้ว
วิลเลียมตบไหล่หญิงสาวเบาๆอย่างไม่คาดคิด
แอนนี่มองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ วิลเลียมกล่าวว่า “หากเจ้าอยากร้อง ก็ร้องดังๆเถอะ ไหล่นี่เป็นของเจ้าแล้ว”
“ฮึก...” เสียงร้องไห้ของเธอดังและชัดเจนยิ่งขึ้นดูเหมือนว่ามันจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและคิดถึง
วิลเลียมเหลือบมองไปที่แอนนี่ที่ยังคงพิงไหล่ของเขาอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างไร้เดียงสา ขณะนั้นความคิดของเขาก็บินไปไกลแสนไกล ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่มีองครักษ์เข้ามารบกวนพวกเขา
ไม่มีเสียงดังออกไปภายนอก
ด้วยเหตุผลบางอย่าง
เขตแดนป้องกันเสียงได้ถูกสร้างขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าใดแล้ว
แอนนี่ยืนขึ้น ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ดูเหมือนเด็กสาวที่เพิ่งร้องไห้มา เธอกลับมาเป็นตัวเองตามปกติก่อนจะยิ้มแย้มอย่างเช่นเจ้าหญิง “ท่านพี่วิลเลียม ท่านให้คริสตัลเวทมนตร์กับเรามากกว่านี้ได้หรือไม่?”
“แน่นอนสิ เราเอามา 99 ชิ้น เราหวังว่าเจ้าจะได้รับพรและมีความสุขไปนานๆนะ”
วิลเลียมไม่ลังเล เขาได้วางแผนที่จะมอบคริสตัลเวทย์มนตร์เหล่านั้นให้กับเธออยู่แล้ว เขาไม่ได้สนใจว่าเขาอาจไม่ได้บรรลุวัตถุประสงค์อื่นก็ตาม
สุดท้ายแล้ว เขาก็มีกำลังจ่าย เขาเป็นเจ้าของเหมืองหลายแหล่งและมีเงินทองมากมาย
“ท่านพี่วิลเลียม แล้วท่านต้องการอะไร?” แอนนี่ยิ้ม
รอยยิ้มของเธอแสดงออกถึงความสุขแต่ก็เจือไปด้วยความอ่อนเพลีย เธอไม่โง่ ถึงเธอจะไม่สามารถอ่านความทรงจำของวิลเลียมได้ แต่ก็รู้ว่าเขามีแผน ...
วิลเลียมสังเกตเห็นและเป็นกังวลเล็กน้อย หากในตอนนี้เขาขอร้องอะไรไป แอนนี้ก็จะตกลง ใช่มั้ย?
บางทีมันอาจจะสร้างความมั่นใจให้เธอกลับไปที่ป่ามูนไลท์?
ดังนั้น…
เขาตัดสินใจ ก่อนรอยยิ้มสบายๆจะปรากฏบนใบหน้าของเขา “เราแค่อยากนำมามอบให้แก่น้องสาวตัวน้อย เรามีเหมืองคริสตัลเหล่านี้อยู่ที่เมืองของเรา แม้ว่าจะมอบให้เจ้าอีกสัก 999 ชิ้นก็ไม่เป็นปัญหาเลยสักนิด!”
“แต่ว่า...”
“แต่อะไร?” แอนนี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
วิลเลียมหัวเราะ “เราหวังว่าเจ้าจะไปเมืองแห่งรุ่งอรุณกับเราและดูมันสักหน่อย เราอยากพาเจ้าเดินไปรอบๆเพื่อแสดงให้เห็นความสวยงามของมัน องค์หญิงคงเป็นใบ้แน่หากอุดอู้อยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน”
และในตอนนี้เอง
เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กๆเบาๆ
เด็กสาวรู้สึกราวกับว่าเธอได้รับการฟื้นฟู
แอนนี่รู้สึกว่าวิลเลียมที่แม้ว่าจะอายุน้อยกว่าแต่ก็ทำให้เธอเรียกเขาว่าพี่ชายได้ และเป็น… เป็นแสงสว่างยามเช้าของเธอ
บางที
อนาคตของเธอคงจะไม่ตกอยู่ในความมืดมิด มันอาจจะสดใสมากก็เป็นได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า…
วิลเลียมเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ เขาไม่หวั่นในการใช้วิธีที่ไร้ยางอายเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง
แต่ก่อนที่เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง จิตใจที่ดีในหัวใจของเขาจะก็จะแผ่ขยายและไม่ถูกทำลายลง
“มันก็แค่พิมพ์เขียวเรือ คิดสิ คิดสิ...”
วิลเลียมที่สมองจะระเบิดยืนอยู่ใกล้กับม้าของตนและมองเหล่าเอลฟ์ที่กำลังจะย้ายบ้าน
เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าหมาย ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเพียงการพยายามหรือแผนการครั้งใหญ่ในการที่จะทำลายแผนการของเขา
แต่ใครจะไปรู้กันว่าแอนนี่จะตอบรับคำขอของเขาอย่างกระทันหันล่ะ?