บทที่ 77 หยุนปิงผู้ลังเล
หยุนปิงขยี้ดวงตาอันอ่อนล้าทั้ง 2 ข้างอย่างใจลอย ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อ 8 ปีที่แล้วเธอก็ไม่เคยกลับไปปักกิ่งอีกเลย และด้วยเหตุการณ์นั้นเองก็ทำให้แฟนของเธอขอแยกทาง ส่วนคนที่ทำร้ายเธอก็ยังอยู่อย่างสุขสบายในปักกิ่งจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่ลูกสาวของเธอถิงถิงก็ยังถูกครอบครัวของแฟนเก่าบังคับเอาตัวไปอีก
สาเหตุที่ทำให้คืนนี้เธอไม่ได้นอนก็เพราะแฟนเก่าของเธอ...เฝิงหรงกลับมาจากอเมริกาแล้ว เมื่อ 8 ปีก่อนหลังจากที่เกิดเรื่องนั้น…เฝิงหรงก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้เธอเห็นอีกเลย เธอค่อยมารู้ภายหลังว่าเขาเดินทางไปอเมริกาแล้ว ตอนนั้นเธอรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด...เขากลับจากไปโดยไม่แม้แต่จะบอกลา
ทว่าวันนี้เขากลับมา...ทั้งยังชวนให้เธอกลับไปปักกิ่งด้วย คอมพิวเตอร์ตรงหน้าของเธอกำลังแสดงอีเมลของเฝิงหรงที่เพิ่งส่งมา เขาบอกเธอว่าตอนนั้นเขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอแม้แต่น้อย…นั่นเพราะวันถัดมาเขาก็ถูกครอบครัวส่งตัวมาอเมริกาโดยไม่บอกอะไรสักคำ หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อหาเธอไม่ได้อีกเลย สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากกลับมาคือตามหาเธอ อีเมลแอดเดรสของเธอเขาก็ยังต้องถามหาจากคนอื่นหลังจากกลับมาถึงปักกิ่งแล้วเลย
เขาบอกกับหยุนปิง...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่เก็บมาใส่ใจทั้งนั้น ตัวเขาเฝิงหรงยังรักเธออยู่เสมอ
ครั้งแรกที่หยุนปิงเห็นอีเมลของเฝิงหรง…ความคิดแรกที่แวบขึ้นมาในหัวคือลบมันซะ! แต่เมื่อเห็นเนื้อหาที่สื่อว่าเขายังรักเธออยู่ แถมตอนนั้นก็ยังเป็นรักแรกที่บริสุทธิ์ของเธอ นั่นทำให้หยุนปิงเกิดรู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อย เธอกลัวคนที่ทำร้ายเธอในวันนั้น หากเฝิงหรงยังรักเธอจริงอย่างปากว่าล่ะก็...เขาคงจะพาเธอไปอเมริกาด้วยได้ และบางทีเธออาจจะลืมเรื่องเลวร้ายนั้นไป
ครั้งที่แล้วหากเธอไม่ได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจเย่โม่ผิดไปล่ะก็...เธอคงจะเดินทางกลับไปปักกิ่งแล้ว แต่เพราะยังรู้สึกผิด...เย่โม่ช่วยชีวิตเธอไว้ หยุนปิงคิดอยากจะพูดขอบคุณเย่โม่ต่อหน้า น่าเสียดายที่ตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอเย่โม่อีกเลย
ถึงแม้ครั้งที่แล้วซูจิ้งเหวินจะบอกเธอว่าเย่โม่ไปหาเรื่องคนใหญ่คนโต...ทำให้ไม่อาจโผล่หน้ามาได้ แต่หยุนปิงก็ยังนึกหวังว่าจะได้เจอเขาที่หนิงไห่นี้อีกสักครั้ง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่อาจสงบใจได้ ที่จริงแล้วยังมีสาเหตุอีกอย่างที่ทำให้เธอยังไม่ย้ายออกจากหนิงไห่...บางทีเธออาจจะไม่อยากยอมรับ แต่ลึกๆ ในใจแล้วเธอยังรู้สึกหวาดกลัวปักกิ่งอยู่บ้าง
มาวันนี้เมื่อเฝิงหรงกลับมา...เธอจะกลับไปหรือไม่กลับไปดี? ถึงแม้ตอนนั้นเธอจะเกลียดเขามาก แต่ในเมื่อเขาบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องเลย และสิ่งแรกหลังจากกลับมาคือตามหาตัวเธอ...นั่นทำให้หยุนปิงรู้สึกว่าตัวเองยังถูกจดจำอยู่
ผ่านมาหลายปีแล้ว หยุนปิงรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่มุมหลืบที่ถูกลืมเท่านั้น ถึงแม้ภาพลักษณ์เย็นชาจะช่วยเธอหลีกเลี่ยงปัญหาได้เยอะ แต่ทุกครั้งที่กลับมาบ้าน...ภายในห้องอันเงียบเหงาก็มักจะทำให้เธอเกิดรู้สึกอ้างว้างขึ้นมา เธอมักจะคิดถึงสิ่งเล็กๆ เมื่อครั้งที่เธอยังมีรักครั้งแรกอยู่
แต่เรื่องเมื่อครั้งนั้นเฝิงหรงไม่รู้จริงๆ หรือ? ต่อให้เขาไม่รู้...หรือแม้แต่ครอบครัวก็ไม่บอกเขาเรื่องนี้ อีกทั้ง 8 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ติดต่อเธอเลย เพราะอะไรกัน? หยุนปิงเกิดรู้สึกไม่อยากคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หลังจากคิดอยู่นานหยุนปิงก็ถอนหายใจออกมา เธอยังรู้สึกอยากกลับไปปักกิ่งเพื่อดูให้ชัดไปเลย ถึงยังไงถิงถิงก็อยู่ที่ปักกิ่ง แม้เธอจะกลัวเขาคนนั้นมากแต่บางครั้งการหนีก็ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดเสมอไป เธอเปิดไฟล์ขึ้นมาเตรียมจะเขียนอีกเมลเพื่อให้ซูจิ้งเหวินส่งให้เย่โม่อีกที
ขณะที่หยุนปิงกำลังเปิดไฟล์อยู่นั้นเอง ตรงมุมซ้ายของหน้าจอก็แจ้งเตือนข่าวขึ้นมา ขณะที่เธอกำลังจะคลิ๊กปิด...ภาพที่กระทบสู่สายตาก็ทำให้เธอรู้สึกว่าคุ้นเคยอยู่บ้าง ถึงแม้ภาพจะเบลอแต่หยุนปิงก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ดี เธอรีบกดเปิดข่าวนั้นทันที
‘ชืออิ่ง ยอดฝีมือจากหนิงไห่! โค่นครูฝึกเทควันโดจากเกาหลี!’ พาดหัวข่าวและภาพข้างล่างทำให้หยุนปิงถึงกับตะลึงงัน เธอรู้สึกว่าคนๆ นี้คล้ายกับเย่โม่จริงๆ เพียงแต่ใบหน้าของเขาไม่ค่อยชัดก็เท่านั้น
อีกทั้งชื่อที่เขียนไว้ข้างบนนั้นไม่ใช่เย่โม่ แต่เป็นชืออิ่ง
ตัวหยุนปิงเองถึงแม้จะไม่ใส่ใจเรื่องในมหาวิทยาลัยมากนัก แต่เรื่องสำนักเทควันโดเกาหลีเธอก็พอจะเคยได้ยินอยู่บ้าง อายุของเธอเองก็เลยจุดนั้นมาแล้ว เรื่องพวกนี้แค่รับรู้ไว้ก็พอ คิดไม่ถึงว่ามหาวิทยาลัยหนิงไห่จะปรากฏคนอย่างชืออิ่งออกมาได้ ในข่าวยังบอกว่าเขาใช้แค่กระบวนท่าเดียวโค่นผู่ตงเหวินคนนั้นเสียด้วย
โดยปกติแล้วข่าวพวกนี้หยุนปิงจะมองแค่ผ่านๆ เท่านั้น แต่ชืออิ่งคนนี้คล้ายกับเย่โม่อยู่หลายส่วน หยุนปิงรีบล็อคอินเข้าไปในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งหนิงไห่ เวลานี้เองเธอถึงได้เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่ามีชีวิตชีวา เธอมาเวลาก็พบว่าตอนนี้ตี 4 กว่าๆ แล้ว แต่ในเว็บไซต์ก็ยังเต็มไปด้วยผู้คนอยู่เลย
โพสต์ล่าสุดถูกคลิ๊กไปกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว คอมเมนต์ข้างล่างก็มีกว่าหลายพันคอมเมนต์
สิ่งที่เขียนไว้นั้นชัดเจน ‘ชืออิ่ง สุดหล่อของพวกเรา’ คอมเมนต์ข้างล่างนั้นราวกับว่าต่อให้กดรีเฟรชหลายรอบก็ยังเห็นได้อยู่ดี
‘เออ ยอมรับก็ได้ว่าชื่นชมชืออิ่ง แต่บอกก่อนนะว่าผมไม่ได้เป็นเกย์’---แบกปุ๋ยเข้าโรงอาหาร
‘ผมรับรองได้เลยว่าพี่ใหญ่ชืออิ่งเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในหนิงไห่!’---นั่งสูบบุหรี่เหงาๆ หน้าหลุมศพ
‘ว้าว! บอกไรอย่างหนึ่งนะ ฉันมีลายเซ็นต์ของพี่ใหญ่ชืออิ่งด้วย อิจฉากันไปซะ!’---น้ำใสสะอาด
‘มีที่ให้ยืนดูตรงนั้นก็ดีใจแล้ว ชืออิ่ง ฉันรักนายจริงๆ วันที่เหลือฉันจะทำยังไงดี...’---ใครเปลี่ยนป้ายหน้าหลุมศพฉัน
‘งั้นใครเป็นคนถ่ายล่ะ ถ่ายพี่ชืออิ่งของพวกเราออกมาเป็นแบบนี้ ขอคัดค้านอย่างแรง!’--- ใส่กางเกงใน
..........
ยังมีคอมเมนต์ต่อข้างล่างอยู่อีกหลายพันคอมเมนต์ หยุนปิงไม่เสียเวลาไปนั่งไล่ดูทีละคอมเมนต์ เธอคลิ๊กไปดูคอมเมนต์ที่อยู่บนสุด
ฉากที่เย่โม่ประลองกับผู่ตงเหวินปรากฏขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าถ่ายได้คมชัดมาก ภาพของผู่ตงเหวินนั้นชัดเจน…แต่ใบหน้าของเย่โม่กลับเลือนราง การปะทะกันครั้งนั้นสั้นเอามากๆ การประลองเริ่มได้พักเดียวผู่ตงเหวินก็ถูกถีบจนลอยเสียแล้ว
หยุนปิงจ้องมองวิดีโอตรงหน้าด้วยอาการตะลึงงัน ถึงแม้วิดีโอจะสั้นแต่เธอก็รู้ทันทีว่าคนๆ นี้คือเย่โม่ แต่ทำไมในเมื่อถ่ายเวลาเดียวกัน...ใบหน้าของผู่ตงเหวินนั้นชัดเจนแต่ของเย่โม่กลับเลือนรางแบบนั้น?
ตอนนี้ก็ตี 4 กว่าๆ แล้วแต่หยุนปิงกลับยังนั่งนิ่งอยู่กับที่ หากเป็นเย่โม่จริงแล้วเธอพลาดโอกาสนี้จะทำยังไง คิดถึงตรงนี้หยุนปิงก็รีบลงไปข้างล่าง เธอขับรถไปมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งหนิงไห่ทันที!
ในช่วงเวลาเช้ามืดแบบนี้ ถึงแม้จะมีรถสัญจรไปมาอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มีมากมายอะไร อีกอย่างหยุนปิงก็เลือกขับไปทางลัดจึงไม่ได้เห็นคนอื่นๆ บนท้องถนนอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นหยุนปิงจึงขับรถด้วยความรวดเร็ว ทว่าเวลานั้นเองที่มีร่างๆ หนึ่งเดินโซซัดโซเซจนเกือบจะชนเข้ากับรถของเธออยู่แล้ว หยุนปิงมองจากกระจกหลังก็เห็นว่าชายคนนั้นล้มลงกับพื้นหลังจากรถของเธอขับผ่านไปแล้ว
ถึงแม้เธอจะไม่ได้ขับชนชายคนนั้นแต่หยุนปิงก็ยังย้อนรถกลับมาอยู่ดี เธอเปิดกระจกถาม “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ชายที่นอนอยู่บนพื้นไม่ตอบกลับ แสงไฟสีเหลืองสลัวๆ ตามท้องถนนทำให้เธอเห็นรอยเลือดบนตัวเขา เธอรู้สึกตกใจ หรือว่าเมื่อกี้เธอชนเขาจริงๆ!?
เนื่องจากกลัวว่าเธอจะขับรถชนคนเข้าจริงๆ หยุนปิงจึงรีบลงมาจากรถแล้วพยุงชายคนนั้นขึ้นมา แต่เมื่อแสงไฟตามท้องถนนส่องหน้าเขาชัดๆ แล้วหยุนปิงก็ต้องนิ่งงัน ชายที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเธอก็คือเย่โม่นั่นเอง!
ทำไมเขาถึงอยู่ในสภาพนี้ได้? เสื้อผ้าบริเวณแผ่นหลังของเย่โม่ฉีกขาด รอยเลือดที่ลากผ่านแผ่นหลังของเขานั้นยาวและลึกจนถึงกระดูก สีหน้าของเขาก็ซีดขาว ดวงตาของเขาปิดแน่น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอาการโคม่าแล้ว
หยุนปิงรู้สึกเป็นห่วงเย่โม่มาก ถึงจะไม่รู้ว่าเขาตกอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไรแต่เธอก็รู้ว่าสถานการณ์ของเขาตอนนี้ถือว่าเสี่ยงอันตรายมาก เธอรีบลากเย่โม่ขึ้นรถอย่างไม่รอช้า ความคิดแรกของหยุนปิงคือพาเย่โม่ไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็นึกถึงคำของซูจิ้งเหวินขึ้นมาได้...เย่โม่มีเรื่องกับคนใหญ่คนโตมา เขาไม่มีที่หลบซ่อนจึงได้แต่หนีออกจากหนิงไห่
ถ้าเธอไปส่งเขาที่โรงพยาบาลตอนนี้ คนที่ตามล่าตัวเขาอยู่จะรู้ไหม?