ตอนที่ 35 ข้าไม่ต้องเสียการเวลากับพวกเจ้า! (ฟรี)
ในไม่ช้ากลุ่มขบวนก็เดินทางมาถึงนอกประตูเมริเดียน
มีเวทีขนาดใหญ่ในสถานที่เเห่งนี้เดิมเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิใช้ประหารอาชญากรแต่ตอนนี้...
มันก็ยังเป็นสถานที่ใช้สังหารอาชญากรอยู่ดี!
เพราะลู่เฟิงตั้งใจมาที่นี่เพื่อสังหารหมู่ผู้คนจากนิกายหยุนกง!
"ฝ่าบาทเริ่มกันเลย!"โม่เต๋าได้จ้องมองไปที่ลู่เฟิง
ลู่เฟิง ได้หันหน้าไปมองอย่างแผ่วเบาเขาได้เดินขึ้นไปบนเวที
หลังจากนั้นศิษย์สายตรงของนิกายหยุนกงคนนึงก็เดินขึ้นไปและหัวเราะเยาะ"จักรพรรดิน้อย ข้าได้ยินความกล้าของเจ้ามาบ้าง คิดจะทำให้ศิษย์น้องเฉียนเอ๋อร์ของพวกเรากลายเป็นนางสนม วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารับรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเรานิกายหยุนกง"
ชายคนนี้ได้กล่าวพูดออกมาเขามีความแข็งแกร่งระดับ 9 ขั้นรวมพลังหยวน ถือเป็นศิษย์หลักที่มีพรสวรรค์
แต่ลู่เฟิง ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแม้เเต่น้อยเขาได้ตอบกลับ"มันไม่ง่ายเลยที่จะเจอเจ้าเช่นนั้นข้าจะต่อให้เจ้าสามกระบวนท่าเป็นอย่างไร?"
"อะไรนะ?"
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของลู่เฟิงพวกเขารู้สึกตกใจ
คนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นศิษย์หลักของนิกายหยุนกง ทั้งยังมีความแข็งแกร่งระดับ 9 ขั้นรวมพลังหยวน แต่ ลู่เฟิง กลับกล้าบอกว่าต่อให้สามกระบวนท่า?
เขาไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วหรือไม่?
แม้แต่เกาชุนก็รู้สึกเป็นห่วงลู่เฟิงในเวลานี้
เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของจักรพรรดิของเขาไปถึงระดับ 9 ขั้นรวมพลังหยวน แต่ประสบการณ์ต่อสู้ล่ะ?
นอกเหนือจากระดับขั้นพลังแล้วประสบการณ์ต่อสู้ก็เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นเดียวกัน
ศิษย์หลักของนิกายหยุนกงเบื้องหน้านี้มีระดับขั้นพลังไม่ต่ำกว่าลู่เฟิงและดูจากกลิ่นอายพลังที่ปลดลป่อยออกมาเห็นได้ชัดว่าเขามีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย
เกาชุนรู้สึกกังวลมากเกี่ยวกับพฤติกรรมของลู่เฟิง
แม้เเต่ ฮวามู่หลาน ที่ได้ยินดังนั้นเธอก็กังวลมากขึ้น เธอไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิง จะพูดคำเหล่านี้ออกมา
"ฝ่าบาทจะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว เขากำลังทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย"ฮวามู่หลาน เริ่มกระวนกระวาย
"แม่นาง มู่หลาน เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฝ่าบาทหรอก พระองค์จะไม่เป็นไร!"เจี๋ยสวี่ ได้หัวเราะเบา ๆ
คนอื่นอาจจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของลู่เฟิง แต่เขานั้นทราบดี เขารู้ว่าศัตรูในระดับขั้นพลังเดียวกันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่าบาทของเขาเป็นแน่
สำหรับประสบการณ์ต่อสู้ตอนที่เขาได้ฝึกดาบกับลู่เฟิงในหลายวันที่ผ่านมา ลู่เฟิง มีความก้าวหน้าอย่างมาก และ ประสบการณ์ต่อสู้ของอีกฝ่ายเองก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถึง เจี๋ยสวี่ จะพูดอย่างนั้น ฮวามู่หลาน ก็อดจ้องมองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยความกังวลไม่ได้
คนของนิกายหยุนกงและคนของโม่เต๋ารู้สึกดีใจมากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาไม่คิดเลยว่าลู่เฟิงกำลังมองหาความตายเช่นนี้!
หลายคนได้จ้องมองไปที่ศิษย์บนเวทีประลองพวกเขาขอให้อีกฝ่ายฆ่าลู่เฟิงโดยตรง
ศิษย์คนนี้เข้าใจทันทีและจ้องมองไปที่ลู่เฟิงด้วยรอยยิ้มกว้าง"จักรพรรดิน้อย ในเมื่อเจ้าหยิ่งผยองขนาดนี้ ให้นายน้อยคนนี้ทดสอบความแข็งแกร่งของเจ้าหน่อย!"
เมื่อสิ้นสุดเสียงเขาก็หยิบดาบยาวออกมาจากถุงเก็บของและพุ่งแทงใส่ลู่เฟิง
ลู่เฟิงไม่ได้รีบหลบ เขาได้รอจนกว่าการโจมตีของชายคนนี้จะมาถึงระยะหนึ่งก่อนที่จะหลบ
สิ่งนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคนและการหลบหลีกของลู่เฟิงในครั้งนี้พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเพราะความโชคดี
นี่ยังทำให้ราชเลขาทั้งสี่รู้สึกกังวลมากขึ้น
ราชเลขาคนนึงได้กล่าวถอนหายใจออกมา"ฝ่าบาททำไมท่านถึงพูดตรัสออกไปแบบนั้นนี่มันจะทำให้..."
เขาอยากจะบอกว่าลู่เฟิงกำลังมองหาความตาย แต่ลู่เฟิงเป็นถึงจักรพรรดิเขาเป็นเพียงแค่ข้าราชบริพารเขาไม่กล้าพูด
แม้เเต่เกาชุนก็จ้องมองไปที่ลู่เฟิงด้วยความประหลาดใจในเวลานี้
ระดับขั้นพลังที่แท้จริงของเขาคือ ราชาศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่วิสัยทัศน์๘องเขาก็ค่อนข้างสูง ขเาสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่การโจมตีจะเข้าถึงตัวของ ลู่เฟิง อีกฝ่ายสามารถหลบได้อย่างทันท่วงที นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
"ดูเหมือนว่าที่ฝ่าบาทตรัสไปก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม!"
เกาชุนได้กระซิบในใจ
"จักรพรรดิน้อย เพียงแค่โชคดีที่หลบได้อย่าเพิ่งดีใจไปคราวนี้เจ้าไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งก่อนแน่!"
หลังจากพูดจบชายคนนี้ก็แทงดาบออกไปอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ลู่เฟิงได้หลบในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ดาบยาวของศิษย์จากนิกายหยุนกงจะถึงตัว มาคราวนี้เขาก็ทำแบบเดิมอีกครั้ง
"การโจมตีสองครั้งแรกเจ้าพลาดไปแล้วเหลืออีกเพียงครั้งเดียว!"ลู่เฟิงได้กล่าวพูดเบา ๆ ขณะที่มองไปที่ศิษย์ของนิกายหยุนกง
"หึ่ม,ดูเหมือนว่าเจ้าจะโชคดีจริง ๆ ที่หลยการโจมตีของข้าได้ถึงสองครั้ง แต่คราวนี้ข้าจะทำให้โชคของเจ้านั้นจบลง"หลังจากเขาพูดจบเขาก็ขยับมือและตะโกนขึ้น"ดาบเพลิง!"
พลังชี่ของเขาได้ถูกปลดปล่อยออกมาและครอบคลุมไปทั่วทั้งดาบก่อนที่จะฟันไปที่ลู่เฟิง
"เป็นเพียงแค่ทักษะต่อสู้ที่แสนจะธรรมดากลับกล้าที่จะแสดงมันออกมา?"
ลู่เฟิง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เดิมเขาวางแผนที่จะดูว่าศิษย์หลักของนิกายหยุนกงนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน เพื่อที่มันจะช่วยฝึกฝนประสบการณ์ให้เขา แต่ดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไป
"แค่ทักษะธรรมดาเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้า!"ศิษย์คนนั้นได้ตะโกนออกมาอย่างเย็นชาเขาได้ขยับดาบเพลิงในมือเร็วขึ้น
แต่น่าเสียดายที่ลู่เฟิงก็ทำแบบเช่นเดียวกับสองครั้งก่อนหน้านี้เขาได้หลบมันอย่างง่ายดาย
"เป็นไปได้ยังไง!"
ศิษย์คนนี้รู้สึกตกใจมาก สิ่งที่เขาแสดงออกมาคือทักษะธรรมดาขั้นสูง มันเป็นทักษะที่มีชื่อเสียงในนิกายหยุนกง
แต่จักรพรรดิน้อยนี่กลับหลบเลี่ยงมันได้?
"สามกระบวนท่าผ่านไปแล้ว ถึงตาข้ามั่งล่ะ!"
"อะไรนะ?"
"วาดดาบ!"
ศิษย์ของนิกายหยุนกงคนนี้ไม่ทันจะได้ตอบสนองพริบตาเดียวคอของเขาก็ปรากฏโลหิตไหลออกมา
"...."
เขายื่นมืออกไปจับอย่างหมดหวังแต่มันก็ไร้ประโยชน์ในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้นทันที
ก่อนที่เขาจะตายเขายังคงรู้สึกสงสัยว่าเขาตายได้ยังไง?
น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถอธิบายให้เขาฟังได้!
ผู้ชมทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงกับฉากที่เห็นนี้
"ฝ่าบาท พระองค์กลับซ่อนความแข็งแกร่งเช่นนี้เอาไว้ อาณาจักรหนานหยานของพวกเรา จักรพรรดิองค์แรกท่านมองเห็นมันจากบนสวรรค์หรือไม่ ฝ่าบาทของพวกเรา..."
ราชเลขาทั้งสี่ต่างก็แสดงอาการออกมาอย่างตื่นเต้นพวกเขากระทั่งมีน้ำตาไหลหยดลงมา
เกาชุนได้แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าเขาได้บ่นพึมพัมเล็กน้อย"ความแข็งแกร่งของฝ่าบาทพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ด้วยความเร็วในการออกดาบเช่นนั้นแม้จะเป็นนักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนหากไม่ระวังพวกเขาก็คงศีรษะหลุดออกจากบ่า!"
ฮวามู่หลาน เองก็รู้สึกโล่งใจเช่นเดียวกัน
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของข้าราชบริพารผู้ภักดีต่อราชวงศ์เหล่าข้าราชบริพารที่อยู่เบื้องหลังของโม่เต๋า ต่างก็รู้สึกโศกเศร้า
จักรพรรดิน้อยมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไรพวกเขารู้สึกไม่สบายใจ!
พวกเขากังวลว่าพวกเขาจะเลือกอยู่ข้างผิด!
ตอนนี้พวกเขาได้จ้องมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญจากนิกายหยุนกงที่อยู่ข้างหน้า และ หวังว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าลู่เฟิงได้
ลู่เฟิงได้จ้องมองไปที่ศิษย์ของนิกายหยุนกงที่ถูกเด็ดศีรษะก่อนที่จะส่ายหัวเขาได้พูดว่า"เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์จริง ๆ !"
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองศิษย์หลักคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้าที่เย็นชา พวกเจ้าต้องการจะฆ่าข้าในการประลองทักษะต่อสู้ ? งั้นก็ดี ข้าจะแสดงให้เห็นว่าวันนี้ความคิดของพวกเจ้านั้นไร้สาระแค่ไหน!
สายตาของเขาได้ล็อคเป้าไปที่ศิษย์หลักของนิกายหยุนกงเขาได้กล่าวพูดเบา ๆ "เข้ามาให้หมดพร้อมกันนั่นแหล่ะข้าไม่ต้องการเสียเวลากับพวกเจ้ามากเกินไป!"
"อะไรนะ?"