บทที่ 78: รอยยิ้มที่ผู้ชายทุกคนรู้ว่าหมายความว่าอะไร
วิลเลียมจะสามารถเอาชนะใจเจ้าหญิงในเพียงเวลาสั้นๆได้อย่างไร
ก็เห็นๆ กันอยู่
มันเป็นคำถามที่ไม่ง่ายเลย
แต่สำหรับวิลเลียมผู้หล่อเหลา…
“เอ่อ มันก็ยากพอๆ กัน เธอมียูนิคอร์นที่สามารถทำลายแผนการของฉันได้อยู่” วิลเลียมขบคิดและคิดแผนขึ้นหนึ่งมาได้ เขาเดินอาดๆ ไปด้วยความมั่นใจ
ทิวทัศน์ของเมืองบลูมูนสวยงดงามเหมือนภาพวาด ทะเลสาบสีฟ้ากระเพื่อมเป็นประกายในขณะที่สิ่งก่อสร้างดูสง่างามและหรูหรา เมืองแห่งนี้อยู่ในระดับที่สูงกว่าเมืองแห่งรุ่งอรุณ
มันก็ช่วยไม่ได้
ภายในส่วนลึกของป่าแบล็คลีฟที่ๆ เอลฟ์อาศัยอยู่นั้นไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นเมือง มันถูกพัฒนาเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไร้กำแพงแทน ดังนั้น มันจึงดูน่ามองยิ่งขึ้น
เอลฟ์เด็กทั้งหลายไม่ต้องแบกรับภาระกับการศึกษาภาคบังคับเก้าปี พวกเขามีอิสระของพวกเขา และก็สามารถเล่นเรื่อยเปื่อยได้จนถึงอายุ 13 พวกเขาถูกปล่อยให้โตอยู่กับธรรมชาติและใช้ชีวิตอยู่กับมัน เนื่องจากเอลฟ์มีอายุยืนยาวมาก
หลังจากที่อายุของพวกเขาไปถึง 13 ปี พ่อแม่ของพวกเขาก็จะปล่อยให้ลูกๆ ของพวกเขาเลือกทางเดินชีวิตเอง มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นอะไร ตราบใดที่ลูกๆของพวกเขารักในสิ่งที่ทำ พ่อแม่ของพวกเขาก็จะสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่
แล้วเด็กเหล่านั้นจะเลือกที่จะเป็นมืออาชีพรึเปล่า?
เอิ่ม…
เหล่าเอลฟ์ไม่เหมือนกับมนุษย์ ความสามารถและศักยภาพของพวกเขาก็เพียงพอที่จะให้พวกเขากลายเป็นมืออาชีพแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พยายามอะไรมากมายเลย การเรียนเวทมนต์และการเรียนรู้พลังการต่อสู้มันง่ายเกินไปสำหรับพวกเขา
มันไม่เหมือนกับอาณาจักรมนุษย์ที่สร้างวิทยาลัยสำหรับการศึกษาพลังการต่อสู้และเรียนรู้ทักษะเวทมนต์
อายุขัยของเอลฟ์คือพันกว่าปี พวกเขามีเวลาทั้งหมดในการเป็นนักวิชาการ, นักรบ, ศิลปินและกวีที่น่าเคารพนับถือ
“โอ้ ท่านนั่นเอง ผ่านมานานมากเลยนะท่านลุง” เด็กหญิงตัวเล็กน่ารักคนหนึ่งที่เล่นอยู่ริมทะเลสาบเดินเข้ามาเมื่อเธอเห็นวิลเลียม หูทรงแหลมทั้งคู่ของเธอแดงเถือกราวกับเธอกำลังเขินอาย
“ฮี่ๆ เจ้านั่นเอง…” วิลเลียมพยายามไม่ยิ้ม มันเป็นพรหมลิขิตของเขาที่ได้พบกับสาวน้อยเจื้อยแจ้วคนนี้ เขาเองก็เคยเจอเธอมาก่อนแล้ว
“ชื่อของข้าคือ เอลิยา ซีลล์ ท่านลุงชื่ออะไร?” เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักคนนี้กลัวคนแปลกหน้า แต่เธอก็จำคำพูดของแม่เธอ ‘จงกล้าหาญ’
เธอพิจารณาคุณลุงผู้หล่อเหลาและเลือกที่จะเผยนิสัยเป็นมิตรออกไป เขาหล่อเกินกว่าที่จะเป็นคนไม่ดี
เธอเองก็เคยเห็นเขามาก่อน ตอนนั้นทั้งคู่ยังเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นคนสนิทคุ้นเคย
“เอลิยา ซีลล์?” วิลเลียมช็อค สถานะค่าความโชคดีของเขาเปลี่ยนแล้วหรอ?
เขาเริ่มเปิดใช้งานการดูหน้าต่างตัวละครและ…
เขาก็เจอเข้ากับแจ็คพอต
เด็กผู้หญิงที่ทำให้เขาล้มคะมำคนนี้ไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดา เขาคงต้องได้รับการอวยพรด้วยโชคดีเป็นแน่สำหรับที่การพบเจอนี้ได้เกิดขึ้น
“เอลิยา ซีลล์ นักธนูแห่งรุ่งอรุณระดับรีเจนดารีในอนาคต หรือที่เรียกกันในชื่อ ธิดาแห่งรุ่งอรุณ…” วิลเลียมเริ่มนึกข้อมูลของเธอออก ในเวอร์ชั่น 1.0 และ 2.0 เด็กน้อยคนนี้ไม่ได้โด่งดังเป็นที่รู้จักอะไรขนาดนั้น
แต่เพียงในเวอร์ชั่น 3.0 ที่ตัวตนที่แท้จริงของเธอก็ได้เปิดเผยออกมา
เธอได้รับชื่อเสียงมากขึ้นและมากขึ้นในเวอร์ชั่นถัดๆ ไปจนกระทั่งเธอกลายมาเป็นระดับรีเจนท์ที่แท้จริง
“ท่านลุง?” เด็กหญิงตัวน้อยถอยหลังกลับด้วยความระมัดระวัง เธอพบว่าลุงรูปหล่อกำลังยิ้มอย่างร้ายกาจ
ความคิดที่ยาวเป็นขบวนรถไฟของวิลเลียมพังลง เขากระแอมไอกลบเกลื่อนแล้วพูด “เรียกเราว่า วิลเลียม แบล็คลีฟ นี่เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพวกเรา สวัสดี”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็กำลังขยายกรงเล็บของเขา…
เด็กหญิงตัวน้อยถอยหลังกลับด้วยความกลัวก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็น ในมือขวาของวิลเลียมที่กางออกเผยให้เห็นลูกกวาดที่ห่ออยู่ในกระดาษไข
เอลิยาเลียริมฝีปากและทำจมูกฟุดฟิด ดวงตาของเธอขยายกว้าง ก่อนจะถามอย่างไม่อยากเชื่อ “นี่... ลูกกวาดนี้สำหรับข้าหรอ? นั่นมันคือลูกกวาดของมนุษย์ใช่มั้ย?”
“ใช่ สำหรับเจ้า” วิลเลียมยิ้มอย่างเป็นอบอุ่น เขาพยายามทำให้ดูจริงจังที่สุดที่เขาทำได้
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลักพาตัวเธอ แต่เขายังคงมีโอกาสที่จะชนะใจเธอได้!
“ฮึ่มม” เอลิยาประสานมือทั้งสองข้างของเธอเข้าด้วยกันและลังเลอยู่นานก่อนที่จะยอมจำนนให้กับลูกกวาดตรงหน้าในที่สุด จากนั้นเธอก็มองหน้าวิลเลียมด้วยใบหน้าทะเล้นแล้วพูด “ท่านเป็นเจ้าชายรึเปล่า? ท่านมาที่นี่เพื่อจีบเจ้าหญิงแอนนี่หรอ?”
“เอ่อ นี่มันอะไร?” วิลเลียมส่ายหัวอย่างกระอักกระอ่วน เด็กผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องไม่น้อยเลย
“ท่านคงมีศัตรูหัวใจแล้วล่ะ เมื่อวานนี้เจ้าชายอีกคน จู่ๆ ก็มาที่นี่” เอลิยาหัวเราะและวิ่งไปยังทะเลสาบ เธอดำลงไปในน้ำราวกับปลาคราฟ
หลังจากนั้นสักพัก เอลิยาก็โพล่ออกมาจากน้ำและเสยผมของเธอไปด้านหลังในขณะที่ระลอกคลื่นกระเพื่อมไปรอบๆ
แก้มทั้งสองข้างของเธอป่อง ไม่รู้เลยว่าเธอกินลูกกวาดเหล่านั้นเข้าไปตอนไหน เธอโบกมือให้วิลเลียม “แบล็คลีฟ… นามสกุลราชวงศ์ ฮึ่มม พี่วิลเลียม ท่านไม่ได้กำลังรีบไปและไปสู้กับศัตรูหัวใจท่านหรอ?”
วิลเลียมมองเด็กหญิงตัวน้อยที่เพิ่งจะดำลงไปในทะเลสาบราวกับปลาด้วยความประหลาดใจ เธอว่ายไปรอบๆ ทะเลสาบอย่างพริ้วไหว เขาจำได้ว่าครั้งที่แล้วเอลิยาก็เล่นน้ำอยู่แค่ตรงริมทะเลสาบเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอเป็นเหมือนกับเอลฟ์แห่งน้ำตนหนึ่งเลย
เขายิ้มกว้างอย่างจริงใจและพยักหน้าไปที่เอลิยาก่อนจะหันหลังจากไป
“ติดผู้หญิง? ศัตรูหัวใจ?” วิลเลียมพึมพัมกับตัวเอง “ฉันแค่จะเข้าหาหนังสือดีๆ ของเธอและพิมพ์เขียวสำหรับการต่อเรือ อันที่จริงมันคือโมโม่… แค่ก”
“แอนนี่ ทำไมเธอถึงไม่ยอมเจอข้า? ข้าจริงจังกับเรื่องนี้นะ หัวใจของข้าเป็นเหมือนกับดวงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทุกๆคืนจะปรากฏอยู่เหนือหัวเจ้า…”
“หัวใจของข้าเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ทุกๆเช้าจะทำให้เจ้าพร่างพราวด้วยแสงอาทิตย์”
“หัวใจของข้า…”
“หุบปาก!” เสียงนุ่มตะโกนขัดจังหวะการรำพันรักที่ไม่มีท่าทีจะหยุด
มันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว
มันเป็นช่วงหน้าร้อนและฤดูสำหรับการสืบพันธ์ุ เอลฟ์หนุ่มตนหนึ่งกำลังเล่นเกมสืบพันธุ์อยู่
เอลฟ์มูนไลท์มากมายอาศัยอยู่บนต้นไม้จันทร์ที่สูงโด่ง พวกเขามองลงมายังเจ้าชายเอลฟ์แบล็คลีฟด้วยความสงสัยเมื่อเขายังคงตามจีบเจ้าหญิงของพวกเขาไม่หยุด
ที่ยืนอยู่ข้างต้นไม้จันทร์ก็เป็นเอลฟ์แบล็คลีฟหลายตนที่กำลังดูโชว์ตรงหน้าอยู่
มันเป็นเรื่องชายหญิงระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิง มันก็ต้องคุ้มค่าที่จะดูอยู่แล้วสิ
ไม่สำคัญว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นสักกี่ครั้ง เหล่าเอลฟ์ก็ไม่เคยเบื่อที่จะดู เหล่าเอลฟ์ผู้มีอายุขัยยืนยาวรักที่จะดูละครที่น่าตื่นเต้นประเภทนี้
เจ้าชายแบล็คลีฟคนนี้ชื่อ เทเลอร์ แบล็คลีฟ เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องที่เพิ่งจะมีอายุได้ 30 ปีของราชาเอลฟ์
ด้วยตำแหน่งราชวงศ์ของเขา เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแอนนี่ และเขาก็ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกคนโปรดของราชวงศ์ดอลล์…
ลูกชายของเจ้าหญิงถูกเรียกว่าเจ้าชาย และลูกชายของราชาเองก็เรียกว่าเจ้าชายเช่นกัน
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
นอกจากราชาเอลฟ์ เจ้าหญิงและเจ้าชายทุกคนก็จะอยู่ในระดับเดียวกันถ้าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด พวกเขาจะเรียกกันด้วยชื่อแทนการใช้คำเรียกตามอายุ
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการสืบพันธุ์สำหรับเอลฟ์เป็นเรื่องยาก
เทเลอร์กำลังอยู่ในความเดือดดาลเมื่อเขาถูกปฏิเสธและถูกตะโกนใส่หน้า ยังดีที่เขาเชื่อว่าเวลาจะทำให้เขาสามารถเอาชนะใจแอนนี่ได้ด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาและคุณสมบัติที่ดีอื่นๆ อีก
เพียงแต่ก่อนที่เขากำลังจะตะโกนตอบ
แขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งก็เดินผ่านเขาไปและเดินหน้าไปยังต้นแสงจันทร์
ไม่มีใครรู้ว่าสหายคนนี้พูดกับเอลฟ์องครักษ์ว่าอะไร
แต่เขาก็ได้รับอนุมัติให้เข้ามาในทันที…
ในขณะเดียวกัน
วิลเลียมก็หันศีรษะของเขาและยิ้มให้กับเทเลอร์…
โอ้!
มันเป็นรอยยิ้มที่ผู้ชายทุกคนรู้จักดี