ตอนที่ 47 เสียหายอย่างหนัก
ตอนที่ 47 เสียหายอย่างหนัก
ปาร์ตี้ Rising Sun เดินหน้าลุยเข้าใส่สมาชิกกิลด์ Black Rat แบบสายฟ้าฟาด ทำให้กลุ่มที่แยกตัวออกไปล่ามอนสเตอร์ของกิลด์ Black Rat ถูกสังหารลงภายในไม่กี่นาที
“หัวหน้า แย่แล้วกลุ่มที่ 1 ที่ออกไปลากมอนสเตอร์ถูกกำจัดไปหมดแล้ว”
ผู้เล่นภายในกิลด์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงานโอไบรอันในทันทีเมื่อพบเห็นสมาชิกฝั่งตนถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา
“พวกมันมีกี่คน รู้หรือเปล่าว่าพวกมันเป็นใคร”
โอไบรอันโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้าแต่เมื่อได้รับรายงานต่อมาก็ยิ่งทำให้ความโกรธทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก
“พวกมันมีกัน 6 คน ล้วนเป็นปาร์ตี้ Rising Sun ของเจสเปอร์และลูอิส พวกมันกำลังมุ่งตรงมาทางพวกเราในอีกไม่นาน”
“แล้วทางกลุ่มที่ฉันให้พวกมันแอบติดตาม ทำไมถึงไม่รายงานเข้ามา บัดซบ!!”โอไบรอันไม่มีท่าทีเอื้อยเฉื่อยอีกต่อไป สีหน้าที่โกรธจัดทำให้เลือดลมสูบฉีดราวกับเป็นราชสีห์ที่กำลังคลุ้มคลั่ง
เจสเปอร์และสมาชิกในปาร์ตี้หลังจากที่เก็บกวาดกลุ่มย่อยของสมาชิกกิลด์ Black Rat ไปทั้งหมดแล้วก็ถึงเวลาเผชิญหน้ากับศัตรูคู่แค้นที่มีเรื่องกันมาตั้งแต่วันแรกๆกันอย่างจริงจังสักที
ป่าขุนเขาถึงแม้จะมีที่กำบังและจุดลอบเร้นหลบซ่อนมากมายแต่ก็ไม่อาจหลบซ่อนไฟแค้นที่สุ่มอยู่ในอกของทั้งสองฝ่ายได้เลย
ปาร์ตี้ Rising Sun พุ่งเข้าปะทะกับสมาชิกกิลด์ Black rat โดยทันที ริคเตอร์ขึ้นแถวหน้าเป็นโล่ให้กับทุกคนโดยมีอามมี่คอยตีสกัดไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นเข้ามาใกล้นักรบของพวกเขามากจนเกินไป
แต่ในหมู่กิลด์ Black rat เองก็ไม่ใช่คนโง่ในเมื่อการปะทะซึ่งหน้าไม่ได้ผล เหล่าจอมเวทย์และนักธนูต่างก็รีบแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา ลูกบอลไฟ ศรน้ำแข็ง ถูกกระหน่ำเข้าใส่ริคเตอร์ เอฟเฟกต์แสงสีมากน้อย ทำให้การต่อสู้ในขณะนี้ยิ่งดุเดือดมากขึ้นไปอีก
แต่การโจมตีระยะไกล จะขาดลูอิสไปได้อย่างไร เมื่อเข้าประจำตำแหน่งลูอิสก็เริ่มยิงธนูของตนเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างแม่นยำเช่นเดียวกัน
< Rain of Arrows!!>
ฝนธนูตกกระทบเข้าใส่กลุ่มจอมเวทย์และนักธนูฝ่ายตรงข้ามจนต้องล่าถอยออกมา แต่ทุกอย่างเปรียบไม่ได้เลยกับการปะทะของเจสเปอร์ที่พุ่งเข้าใส่โอไบรอัน บ้าดีเดือดโดยแท้!!
เจสเปอร์ก้มตัวลงพร้อมกับม้วนหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ ขณะยืนขึ้นมาดาบสลักอาคมก็เข้าถึงตัวโอไบรอันแล้วแม้สายตาของโอไบรอันจะมองตามการเคลื่อนไหวของเจสเปอร์ได้ทันแต่ดาบของโอไบรอันก็ตอบสนองช้าเกินไป การโจมตีส่งผลให้โอไบรอันถอยกระเด็นออกไปด้วยแรงปะทะ
การโจมตีของเจสเปอร์ยังคงไม่จบเพียงแค่นั้น ตามต่อมาทันที โอไบรอันจำสกิลนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะการตายครั้งที่แล้ว ตนก็พลาดท่าเสียทีให้กับทักษะนี้ไปแล้วครั้งนี้ตนจะต้องไม่พลาดซ้ำสองอีก
‘ฉึก ฉึก ฉึก เกร้ง เกร้ง’
ในที่สุดโอไบรอันก็รับสกิลกรีดเฉือนของเจสเปอร์ได้แล้ว มีรอยยิ้มเยี่ยงผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโอไบรอัน แต่ก็ถูกกลบด้วยแววตาที่เร้าร้อนของเจสเปอร์ไปในทันที เมื่อโอไบรอันเผลอสบตากับศัตรูของตนเมื่อครู่ เมื่อมองเข้าไปก็ทำให้ตนที่เหมือนราชสีห์ในตอนต้นเป็นได้แค่ลูกไก่ที่กำลังจะถูกเชือดเท่านั้น
เมื่อศัตรูจับทิศทางทักษะของตัวเองได้ เจสเปอร์ก็รีบเปลี่ยนจังหวะของตัวเองไปอีกระดับโดยเร็ว ความต่อเนื่องยังคงไม่ขาดช่วง ทว่าไม่มีโอกาสซ้ำสองที่โอไบรอันจะโชคดีรับดาบได้อีกต่อไป
เมื่อระยะสกิลหมดลง โอไบรอันก็ทำได้แค่กระโดดถอยออกมาตั้งหลัก เมื่อตรวจเช็คว่าปริมาณพลังชีวิตของตนยังพอรับไหวก็ได้แต่ดูถูกฝ่ายตรงข้ามที่แม้จะมีลีลาเยอะแต่ความเสียหายที่ทำได้นั้นเบากว่ายุงซะอย่างนั้น
“ฮ่าฮ่า ก็ดีแต่เล่นกระโดดไปกระโดดมา แต่ความเสียหายที่แกทำได้ มีแค่นี้เองหรือ”
“...”
เจสเปอร์ไม่ได้โต้ตอบคำพูดอะไรกลับไป ดาบสลักอาคมก็พุ่งทะยานออกไปเริ่มการต่อสู้ยกที่ 2 ในทันที
การเคลื่อนที่ของเจสเปอร์รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมจนคราวนี้โอไบรอันเริ่มที่จะมองตามไม่ทันดาบที่กวัดแกว่งออกมามั่วซั่ว ปัดป้ายไปทั่ว ไร้ซึ่งความอันตรายใดๆ ไม่นานก็ถูกเข้าประชิดเป็นคำรบที่ 2
โอไบรอันที่รอโอกาสเมื่อรู้ว่าเจสเปอร์เช้าถึงตัวแล้ว ก็รีบเปิดใช้สกิลยั่วยุออกมาโดยทันที
‘แต่เอ๊ะ!! ไม่มี เจสเปอร์ไม่อยู่ตรงนั้น เป็นไปได้อย่างไร’
เพียงชั่วอึดใจเดียวก่อนที่โอไบรอันจะใช้สกิลยั่วยุ เจสเปอร์ที่อ่านการเคลื่อนไหวออกตั้งแต่แรก รีบชิงความได้เปรียบด้วยสกิล
เมื่อหมอกสีดำปกคลุม เจสเปอร์ก็จางหายไปในม่านหมอกนั้นอย่างรวดเร็ว สกิลยั่วยุไร้ผล แต่ว่าสกิลกำแพงหมอกเป็นเพียงสกิลอำพรางตัวที่ช่วยป้องกันการโจมตีระยะไกล ไม่ใช่สกิลที่ทำให้หายตัวไปได้ โอไบรอันเหวี่ยงดาบเข้าใส่กำแพงหมอกอย่างบ้าคลั่ง แต่ดาบที่เหวี่ยงออกไปโดยไร้จุดหมายไม่มีทางที่จะทำอันตรายแก่ศัตรูได้เลย
“แกอยู่ไหน” โอไบรอันตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย
“อ้อ ตามหาฉันอยู่หรอ ฉันอยู่บนหัวนายไง” เขาไม่ได้โกหก เสียงของเจสเปอร์อยู่เหนือหัวของโอไบรอันจริงๆพร้อมกับทิ่มแทงเข้าใส่โอไบรอัน
ที่โอไบรอันไม่รู้ว่าเจสเปอร์ไปอยู่ด้านบนได้นั้นเป็นเพราะ มุมมองของโอไบรอันที่ถูกอำพรางด้วยกำแพงหมอก เจสเปอร์อาศัยหมอกที่บดบังทัศนวิสัยของศัตรูกระโดดขึ้นไปเหยียบที่ก้อนหินก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าใส่โอไบรอัน
หากสมาชิกกิลด์ Black Rat กล่าวเตือนการเคลื่อนไหวให้โอไบรอันได้รับทราบก่อนหน้านี้ แม้เพียงเล็กน้อยก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“ผู้รักษา รักษาฉันเร็วเข้า” พลังชีวิตของโอไบรอันเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ใบหน้าไม่หลงเหลือความมั่นใจอีกต่อไปแล้ว สีหน้าที่ตื่นตระหนกแสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด
แต่ใครกันที่จะปล่อยให้ตัวรักษาได้ทำตามหน้าที่ โดยปรกติหากคนที่เล่นเกมออนไลน์อื่นๆมาก็คงพอรู้ว่า ตัวรักษาส่วนมากมักตกเป็นเป้าหมายอันดับแรกของทุกการต่อสู้อยู่แล้ว ครั้งนี้ไม่ต่างกัน
ลูกธนู 2 ดอก พุ่งแหวกอากาศเข้าใส่ตัวรักษาที่หมายจะวิ่งเข้าไป ฮีล ให้กับโอไบรอันจนหน้าทิ่มพื้น ตามด้วยเวทย์มนต์ *AOE จากหิมะน้อยที่เตรียมรอคอยท่าไว้ด้วยแล้ว ผู้รักษาที่ล้มลง น่าจะต้องโบกมือลาขอตัวกลับเมืองก่อนโอไบรอัน เป็นแน่แท้
‘ตูม’
ทุกๆอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเวทย์บอลไฟเข้าปะทะ โอไบรอันที่รอคอยอย่างมีความหวังก็ถูกดับแสงเทียนแห่งการมีชีวิตไปด้วยเช่นเดียวกัน แค่มีหรือที่ตนจะยอมตายไปทั้งแบบนี้ มีหนทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ นั่นก็คือ ‘หนี’
“ทุกคนรีบปกป้องฉันเร็ว ห้ามให้ฉันตายเด็ดขาดอย่าลืมสิว่า พวกเรามาเก็บเลเวลครั้งนี้กันทำไม”
โอไบรอันเตรียมที่จะละทิ้งสมาชิกกิลด์ของตนเองและวิ่งหนีเอาตัวรอด ใครจะเป็นอย่างไรเขาไม่สนอีกต่อไป ขอเพียงตัวรอด กิลด์ Black Rat จะไม่เสียหายใดๆ เหล่าสมาชิกกิลด์เมื่อรับรู้เจตนารมย์นี้เริ่มพุ่งเข้ามาบดบังเอาตัวเองเป็นโล่มนุษย์ให้กับโอไบรอันทันที
แต่สิ่งที่สมาชิกกิลด์ Black Rat ไม่ทราบเลยคือ ปาร์ตี้ของเจสเปอร์ยังมีอีกหนึ่งคนที่รวดเร็วกว่าเจสเปอร์อยู่อีก อามมี่ที่คอยสอดประสานการโจมตีกับริคเตอร์อยู่นั่นได้หายไปอย่างเงียบๆต่อหน้าโล่มนุษย์ที่มาเป็นกำบังให้กับการหลบหนีของโอไบรอัน
‘ก้าวพริบตา’
อามมี่ไปปรากฏขึ้นตรงหน้าโอไบรอันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปล่อยหมัดคู่ที่ทรงพลังเข้าใส่ ร่างโอไบรอันลอยกลับมาตรงจุดสมรภูมิการต่อสู้อีกครั้งและคนที่รอต้อนรับการมาครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจสเปอร์
< Infernal Impact!!>
ประกายคมดาบสีสดใส ประปนกับเลือดที่ไหลกระเซ็นตามวิถีดาบ ปรากฏภาพให้ผู้พบเห็นถึงกับตะลึงค้าง สภาพของหัวหน้ากิลด์ Black Rat ขณะนี้ไม่เหลือเค้าโครงของผู้ที่ว่างกรามดั่งราชสีห์อีกต่อไป
“เจสเปอร์แกๆ เรื่องไม่จบเพียงแค่นี้แน่ คอยดูเถอะสักวันแกต้องชดใช้กับสิ่งที่แกทำกับฉัน” โอไบรอันพยายามกระเสือกกะสนดันร่างกายให้หนีไปไกลพร้อมกับพ่นคำขู่หมายจะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ
แต่คำตอบคือ ‘ไม่’ แม้จะไม่มีใครพูดแต่สายตาที่เจสเปอร์มองมายังโอไบรอันก็บ่งบอกถึงคำตอบได้เป็นอย่างดี
ดาบสลักอาคมปิดชีพโอไบรอัน เมื่อขุนได้ตายลงเบี้ยก็ไร้ทิศทาง
ดวงวิญญาณนับ 10 ดวงถูกส่งกลับเมืองตามโอไบรอันไปอย่างช้าๆ การต่อสู้ถูกเก็บกวาดเรียบร้อยเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกคนต่างพักผ่อนและตรวจเช็คไอเท็มสินสงครามที่ได้รับมากันอย่างเบิกบานใจ แต่มีเพียง ริคเตอร์ที่ยังคงไม่ขยับเขยือนไปไหน ยังคงยืนมองทุกๆคนในปาร์ตี้ด้วยความตะลึงงัน
‘ไม่จริงน่า ต้องล้อเล่นกันแน่ๆ ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด ถึงจะคล้ายแต่ก็ไม่น่าจะใช่’
สีหน้าที่ประหลาดใจ ตกใจ รวมอยู่ในทุกอณูบนหน้าของริคเตอร์ ทุกคนหันไปมองนักรบเพียงหนึ่งเดียวของปาร์ตี้ด้วยความงุนงง
“เป็นอะไรไปไอ้หนู โดนใครกระแทกหรือวางยามาหรือเปล่าสีหน้าดูไม่โอเคเลยนะ” อามมี่ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
ริคเตอร์มีอาการสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีคนพูดถึงตน แต่ความสงสัยใคร่รู้ก็ไม่อาจปกปิดไว้ได้นาน เขาจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“เอ่อ...พวกคุณคือปาร์ตี้ Ris…ing..S..S..Sun ใช่หรือเปล่าครับ”
ทุกคนไม่เข้าใจในคำถามของริคเตอร์ที่ถามมาอาจด้วยส่วนนึงที่ริคเตอร์ตื่นเต้นจนเกินไปทำให้คำพูดที่สื่อสารออกมา ติดขัดไปเสียหมด จนฟังไม่ได้ความ
เจสเปอร์ที่เห็นท่าลักษณะนั้น เลยนึกขึ้นได้ว่า ริคเตอร์เป็นแฟนคลับของปาร์ตี้ตนมาตั้งแต่มีเรื่องครั้งก่อน และมีโอกาสได้เจอกับเด็กคนนี้ตอนที่มีแก๊งต้มตุ๋นแอบอ้างชื่อปาร์ตี้ของตนและเป็นริคเตอร์ที่ยื่นมือเข้าปกป้องชื่อเสียงเหล่านั้นโดยไม่กลัวอันตราย
เขาเดินเข้าไปโอบไหล่ ริคเตอร์เบาๆเพื่อให้เด็กหนุ่มมีสติและความกล้ามากขึ้น
“ปาร์ตี้นี้คือปาร์ตี้ Rising Sun ใช่หรือไม่”
เด็กหนุ่มหลับตาลงพร้อมกับถามคำถามออกไป แม้ความกล้าจะทำให้ตนกล้าที่จะพูดออกไปแต่ไหนเลยจะช่วยลบเลือนความตื่นเต้นไปได้
“...”
แต่ทำไมทุกคนเงียบกันหมดล่ะ ไม่ได้ยินคำถามที่ตนถามไปหรือไง หรือความจริงแล้วตนอาจคิดผิด ริคเตอร์ค่อยลืมตาขึ้นมาเพื่อมองสมาชิกตรงหน้า
ใบหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความงุนงง โบม่อนถึงขั้นเกาหัว หิมะน้อยหัวเราะเสียงดังพร้อมๆกับเอามือกุมท้อง ลูอิสเบือนหน้าไปเล็กน้อยและเอามือตบหน้าผากตัวเอง
‘ตนทำเรื่องตลกไปสินะ จะเป็นไปได้ยังไงที่ปาร์ตี้นี้จะเป็นปาร์ตี้ RisingSun ที่ลึกลับไปได้ เรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึงไม่มีคำในนิยามได้อีกนอกจากคำว่าแข็งแกร่ง’
“เจส!! แกไม่ได้บอกน้องมันอีกยังงั้นหรอ” อามมี่ตะโกนเสียงดังเข้าใส่เจสเปอร์ที่กำลังหันหลังหนีไปอย่างช้าๆ
ก้าวพริบตา!!
“เฮ้ย!! อามมี่แกจะมาใช้ทักษะพร่ำเพรื่อแบบนี้ไม่ได้นะ” อามมี่ปรากฏตัวต่อหน้าเพื่อนรักของตนโดยทันที ในเมื่อเจสเปอร์เลือกที่หนีหน้าก็ไม่มีทางอื่นนอกจากบังคับมันมารับความผิดโดยตรง
“ถ้าฉันไม่ทำ แกก็หนีไปได้สิ ไอ้ตัวแสบ บอกความจริงน้องมันไป ฉันก็นึกว่าแกบอกน้องมันไปแล้วซะอีก จริงไหมทุกคน”
อามมี่หันมาถามคนอื่นๆในสมาชิก ทุกคนต่างผงกศรีษะตอบรับ โดยมีเพียงริคเตอร์ที่ยืนงงกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เจสเปอร์ที่หนีเอาตัวรอดไม่ได้แล้ว ก็ได้แต่เล่าความจริงทั้งหมดให้ริคเตอร์ฟังและเมื่อได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด ทุกคนเห็นสภาพแข็งทื่อของริคเตอร์ ดวงตาเบิกโพลง ปากอ้ากว้าง ได้แต่ส่ายศรีษะถึงการแสดงออกของเด็กหนุ่มด้วยความเห็นใจ
อามมี่และคนอื่นที่ไม่นับเจสเปอร์ ได้แต่ส่ายศรีษะกับภาพที่เห็น คงต้องรออีกสักพักริคเตอร์ถึงจะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติได้ คำถามมากมายถูกยิงออกมาจำนวนมากและคนที่ต้องรับชะตากรรมในการตอบนั่นเป็นใครไปไม่ได้อีกนอกจาก ‘เจสเปอร์’
หลังจากที่ตอบคำถามที่ค้างคาใจของริคเตอร์ทั้งหมดแล้ว ทุกคนก็เตรียมเดินทางกลับเมืองอัลคาเดียเพื่อที่จะกลับไปส่งเควสของ ศจ.อลาสเตอร์ แต่มีสายตาคู่นึงที่ยังคงจับจ้องปาร์ตี้กลุ่มนี้จากใน พุ่มไม้มืดๆ สายตาที่จังจ้องมองตรงไปที่เจสเปอร์ด้วยสายตาที่เย็นชาในแววตาคู่นั้นแฝงไปด้วยกลิ่นไอรังสีฆ่าฟันที่รุนแรง.
สายตาที่จับจ้องไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากนักฆ่า ‘ทวิสเต็ด’ที่กำลังออกตามล่าปาร์ตี้ Rising Sun
ร่างของเขาค่อยเลื่อนหายไปในความมืดพร้อมกับสายตาที่น่าหวาดกลัวคู่นั้น
“…”
“คราวนี้ก็รู้แล้วสินะว่า เป้าหมายของนายคือใคร”
เจสเปอร์หันไปมองที่พุ่มไม้ต้นที่ทวิสเต็ดซ่อนตัวอยู่เมื่อครู่ ก่อนที่พูดบางอย่างออกมา เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีคนแอบตามกลุ่มของพวกเขาตั้งแต่เริ่มต่อสู้กันที่ป่าขุนเขา นักฆ่าแม้จะมีสกิลทักษะอำพรางที่แนบเนียนแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นความรู้สึกของชายที่โดนลอบสังหารมาจนชินเช่นเจสเปอร์ไปได้เลย แม้เขาจะมองไม่เห็นแต่สัญชาติญาณที่ถูกขัดเกลามาเป็นเวลานาน สามารถคาดเดาและจับกลิ่นไอที่ปล่อยออกมาได้
...โปรดติดตามตอนต่อไป...