ตอนที่ 32 ข่าวลือในเมืองหลวง (ฟรี)
ดาบเฉิงอิ๋ง : หนึ่งในสิบดาบที่มีชื่อเสียงในจีนโบราณถูกเรียกว่าดาบแห่งความสง่างามของบุรุษ ใบดาบเป็นสีดำและมีด้ามจับเป็นสีดำสลับแดง ว่ากันว่ายิ่งฟาดฟันในสถานที่ที่มืดมิดเท่าไหร่ใบดาบจะมืดสนิทจนแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้
ระดับ : สวรรค์ขั้นสูง
"เฉิงอิ๋งเจี้ยน!"
ลู่เฟิง ครุ่นคิดเล็กน้อยรอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาจากนั้นเขาก็บ่นพึมพัมออกมา"ดาบเฉิงอิ๋ง นี้ รู้จักกันในชื่อดาบความสง่างามของบุรุษแม้ เจี๋ยสวี่ จะได้ชื่อว่าเป็น บุรุษพิษ แต่เขาก็ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะนักวิชาการพิษ เขาควรจะมีความสุขกับมันไม่ใช่น้อย!"
ด้วยการเคลื่อนไหวของ ลู่เฟิง เขาได้จับไปที่ด้ามดาบสีดำสลับแดง
แต่ไม่ได้ชักมันออกมา!
ลู่เฟิงสัมผัสได้ว่าหลังจากที่เขาจับไปที่ด้ามดาบอุณหภูมิโดยรอบได้ลดลงหลายองศา
เจี๋ยสวี่ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดวงตาของเขา สว่างวาบขึ้นและจ้องมองไปที่ดาบในมือของลู่เฟิง
ในฐานะนักรบระดับสุดยอดขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของดาบนี้ได้โดยธรรมชาติ
แม้จะมองเห็นแค่ด้ามดาบ เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสุดยอดของมัน
ดาบชั้นดี!
ในใจของ เจี๋ยสวี่ รู้สึกอยากจะได้ครอบครองมัน
เจี๋ยสวี่ รู้สึกอยากจะเห็นใบดาบของ ดาบเฉิงอิ๋ง มาก แต่แล้ว ลู่เฟิง ก็ไม่ได้ชักมันออกมาทำให้เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ลู่เฟิง ที่สังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของ เจี๋ยสวี่ เขาได้หัวเราะเบา ๆ "เหวินเหอ เจ้าคิดยังไงกับดาบเล่มนี้?"
"ฝ่าบาท นี่เป็นดาบชั้นยอดไม่ผิดแน่!"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"ถูกต้องนี่เป็นดาบชั้นยอด แต่มันไม่ใช่ของข้าหรอก!"ลู่เฟิง ได้ยิ้มออกมา
เจี๋ยสวี่ ได้ผงะเล็กน้อยเเละจ้องมองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยความสงสัย ในไม่ช้าเขาก็นึกอะไรได้บางอย่าง ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทคิดจะมอบดาบเล่มนี้ให้เขาหรอกนะ?
ถ้า ลู่เฟิง รู้ว่า เจี๋ยสวี่ คิดอะไรอยู่ เขาคงจะต้องรู้สึกเสียใจอย่างแน่นอน ที่ปรึกษาระดับสูงคนนี้คิดอะไรแตกต่างไปจากคนอื่น แต่มันก็สามารถคาดเดาได้ง่ายว่าเขาคิดจะทำอะไรและต้องการอะไร
ลู่เฟิง ได้ยื่นดาบ เฉิงอิ๋ง ให้กับ เจี๋ยสวี่ เเละ กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม"เหวินเหอ ดาบเล่มนี้จะเป็นของเจ้านับจากนี้เป็นต้นไป!"
"นี่...ฝ่าบาทดาบเล่มนี้ล้ำค่าเกินไปข้าน้อยไม่กล้ารับเอาไว้!"เจี๋ยสวี่ ได้รีบลดศีรษะลงและตอบกลับ
แม้ว่าเขาจะต้องการมัน แต่เขาก็รู้ว่าดาบเล่มนี้เป็นดาบที่มีระดับที่สูงมาก
แน่นอนว่าดาบระดับมนุษย์ขั้นกลางในมือของเขาไม่สามารถเทียบได้กับดาบที่อยู่ในมือของลู่เฟิง
ดาบเล่มนี้ย่อมมีพลังไม่ต่ำกว่าอาวุธวิเศษระดับสวรรค์ ของล้ำค่าขนาดนี้เขาจะกล้ารับมันไว้ได้ยังไง
"ถ้าข้าบอกว่ามันเป็นของเจ้า มันก็ต้องเป็นของเจ้า!"
"ฝ่าบาทข้า..."
"หรือว่าเจ้าไม่พอใจในสิ่งที่ข้าให้?"ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ ด้วยรอยยิ้ม
เจี๋ยสวี่ ได้ผงะไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็รับดาบด้วยสองมือและกล่าวพูดด้วยความเคารพ"ฝ่าบาท เจี๋ยสวี่ ขอบพระทัยในพระกรุณาธิคุณของฝ่าบาทที่มอบดาบให้!"
เขาได้เก็บงำความตื่นเต้นเอาไว้ในใจ
ลู่เฟิง รู้ดีว่า ที่ปรึกษาระดับสูงคนนี้ แทบจะไม่สามารถระงับอาการตื่นเต้นได้
"ติ๊ง ระบบตรวจพบค่าความภักดีของ เจี๋ยสวี่ ที่มีต่อโฮสต์เพิ่มขึ้น 8 คะแนน ค่าความภักดีในปัจจุบันคือ 98!"
ในเวลานี้ เสียงเตือนของระบบได้ดังขึ้นในใจของลู่เฟิง
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่า ค่าความภักดีที่เพิ่มขึ้นมา 8 นี้ก็คุ้มค่ากับการที่เสียดาบ เฉิงอิ๋ง แล้ว
ค่าความภักดี 98 แทบจะใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์ สำหรับลู่เฟิง นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ดาบเฉิงอิ๋ง และ กับความภักดีของที่ปรึกษาระดับสูงนั้นคุ้มค่าอย่างถึงที่สุด
"เหวินเหอ ไปกันเถอะ พวกเราจะออกจากดินเเดนหมื่นหุบเขาและกลับไปที่เมืองหลวงของอาณาจักร ข้าเองก็ต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง"
"ขอรับ"
ลู่เฟิง และ เจี๋ยสวี่ ได้ใช้เวลากว่าครึ่งวันในการออกจากดินเเดนหมื่นหุบเขาและกลับไปที่เมืองสัตว์อสูร
"ฝ่าบาท เมืองสัตว์อสูรอยู่ภายใต้อำนาจของราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ท่านต้องการซ่อนตัวตนหรือไม่?"เจี๋ยสวี่ ได้กระซิบบอก ลู่เฟิง ขณะที่ อยู่นอกกำเเพงเมืองสัตว์อสูร
ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะ"ข้าคือจักรพรรดิของอาณาจักรหนานหยาน การที่ข้าจะเดินเล่นในอาณาเขตของอาณาจักรตัวเองข้าจำเป็นจะต้องซ่อนตัวตนด้วยงั้นหรือ?"
"ถ้าพวกเขาต้องการจะรู้ตำแหน่งของข้าก็ปล่อยให้พวกเขารู้ไปเพราะโลกนี้ความแข็งแกร่งคือตัวกำหนดทุกสิ่ง!"
"ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!"
เจี๋ยสวี่ เข้าใจความหมายของ ลู่เฟิง
ลู่เฟิง ต้องการให้ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย รู้ว่าเขายังไม่ตาย และ รับทราบว่านักฆ่าที่เขาส่งออกไปนั้นไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ
ด้วยวิธีนี้ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย จึงยังไม่สามารถลงมือได้ อย่างน้อยเขาจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่านักฆ่าที่เขาส่งไป หายตัวไปไหน
ลู่เฟิง ต้องการใช้เวลาช่วงนี้ จัดการปัญหาภายในอาณาจักรและแก้ไขปัญหาของโม่เต๋าและนิกายหยุนกง จากนั้น เขาค่อยจัดการ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย
ลู่เฟิง ได้พา เจี๋ยสวี่ เข้าไปในเมืองสัตว์อสูร แต่แล้วพวกเขาก็ถูกดักซุ้มรอจากใครบางคน
ลู่เฟิงสังเกตุเห็นว่าคนที่ดักซุ้มรอนั้นได้มามอบซองจดหมายให้กับ เจี๋ยสวี่
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในเมืองสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว
เจี๋ยสวี่ ได้หยิบซองจดหมายออกมาและอ่านมันสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
"เกิดอะไรขึ้น?"ลู่เฟิง ได้กล่าวถามเมื่อเห็นการแสดงออกของ เจี๋ยสวี่
เจี๋ยสวี่มองไปที่ลู่เฟิงและตอบกลับ"ฝ่าบาทนี่เป็นข่าวจากเมืองหลวงที่ถูกส่งมาโดยกองทหารจินยี่เหว่ย ดูเหมือนว่าภายในเมืองหลวงตอนนี้จะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับตัวฝ่าบาท"
"ข่าวลืออะไร?"
"นี่..."
"พูดมาเลยข้าไม่ถือ!"
"ขอรับ!"
เจี๋ยสวี่ ได้อ่านจดหมาย"ดูเหมือนว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงจะเป็นเรื่องที่ฝ่าบาทหลงเสน่ห์องครักษ์ส่วนพระองค์ที่ชื่อฮวามู่หลาน ก่อนหน้านี้ ราชเลขาทั้งสี่ได้คุกเข่าอยู่นอกวังเป็นเวลาสามวันสามคืนเพื่อที่จะรอคำตอบจากฝ่าบาทแต่กลับถูกหลอกโดยปีศาจสาวฮวามู่หลานและเธอไม่อนุญาติให้ใครเข้าพบฝ่าบาทอีก"
"ตอนนี้ในเมืองหลวงต่างก็มีเสียงด่าทอตะโกนให้กำจัดฮวามู่หลาน"
หลังจากนั้น เจี๋ยสวี่ ก็จ้องมองไปที่ลู่เฟิงอย่างระวังและตรวจสอบการแสดงออกของเขา เขาไม่ได้ตกใจทั้งราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
"แล้วไงต่อ?"
"มีคำนินทามากมายเกี่ยวกับท่านและหนึ่งในนั้นยังพูดเสนอบอกว่าพวกเขาสมควรกำจัดฝ่าบาทและให้เสนาบดีโม่เต๋าขึ้นครองบัลลังก์แทนพวกเขาเชื่อว่าภายใต้การชี้นำของเสนาบดีโม่เต๋าอาณาจักรหนานหยานจะถูกชี้นำไปยังเส้นทางที่สดใส"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"ฮ่าฮ่า,น่าสนใจจริง ๆ !"
ลู่เฟิง ได้ยิ้มและกล่าวถาม เจี๋ยสวี่"เหวินเหอ เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?"
"ฝ่าบาท เกี่ยวกับข่าวลือเหล่านั้นข้าเชื่อว่ามันน่าจะเป็นแผนการของเสนาบดีโม่เต๋าที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของท่าน เขากำลังทำให้คนที่สนับสนุนเขาลุกขึ้นมาต่อต้านพระองค์!"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"ไม่ใช่เรื่องนี้ ที่ข้าถามก็คือเจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับข่าวลือในวัง?"ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม
"นี่...ข้าน้อยไม่กล้าแสดงความคิดเห็น"
"พูดเถอะข้าไม่ได้จะเอาผิดเจ้า!"
เมื่อเจี๋ยสวี่ ได้ยินดังนั้นเขาก็ตอบกลับ"ฝ่าบาท ข้าคิดว่าข่าวลือในวังคงจะมาจากหนึ่งในแผนการของท่านเป็นแน่ จุดประสงค์ของท่านก็คือการทำให้ศัตรูคนอื่น ๆ ตายใจ!"
"ถูกต้อง สมแล้วที่เจ้าเป็นถึง นักวิชาการพิษ สามารถมองทะลุแผนการของข้าได้ทั้งหมดในครั้งเดียว!"
ลู่เฟิง ได้แสดงรอยยิ้ม"ในเมืองหลวงมีพวกหมาลอบกัดอยู่มากมาย ดังนั้นหากพวกมันไม่ได้รับโอกาสที่เหมาะสมก็คงจะไม่ออกมาเห่าหอนเป็นแน่ ดังนั้นข้าจึงมอบโอกาสให้กับพวกมัน"
"แต่..."
เจี๋ยสวี่ ได้กล่าวถามลู่เฟิง"ฝ่าบาทท่านเชื่อใจ ฮวามู่หลาน ว่าจะปฏิบัติตามรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
"มู่หลานไม่เคยทรยศข้า!"
หลังจากพูดจบเขาก็เงยหน้าจ้องมองไปยังทิศทางของเมืองหลวงและถอนหายใจ แผนการของเขาดำเนินต่อเป็นไปได้ด้วยดี แต่ ตอนนี้ ฮวามู่หลาน กำลังทุกข์ทรมาน จากแผนการของเขา
เธอเป็นหญิงสาวที่ไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองแต่ทว่า ลู่เฟิง ก็รู้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันมากขนาดไหนในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่
"มู่หลาน ตอนนี้เจ้าจะเป็นยังไงบ้าง?"