MATOP ตอนที่ 14
กาเลนนั้นคือคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือพ่อของเขาเป็นนายกเทศมนตรีของเมือง และเขาก็เป็นเจ้าของเหมือง แม้ว่าแร่ธาตุต่าง ๆ นั้นจะไม่ได้ทำกำไรได้มากมายนัก แต่ก็ยังทำให้ชีวิตของ กาเลนนั้นสะดวกสบายอยู่ดี
กาเลนมองโรแลนด์หัวจรดเท้า ท้ายที่สุดเขาก็เห็นแก่ความต้องการของฟอลเคน เขากล่าวว่า "เอาล่ะ เนื่องจากท่านฟอลเคนแนะนำนายมาแล้ว ฉันก็จะรับตัวนายไว้ อย่างไรก็ตามฉันนั้นเป็นคนยุติธรรม ฉันจะให้เงินเขาตามแร่ธาตุที่เขาขุดได้โดยไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ มากกว่าคนอื่น ฟังดูเป็นอย่างไรบ้าง”
ฟอลเคนหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ไม่มีปัญหา”
จากนั้นเขาตบไหล่ของโรแลนด์เบา ๆ แล้วเดินจากไปช้า ๆ กาเลนเปิดประตูบ้านหินของเขา กลิ่นเหม็นอับของหินต่าง ๆ ถูกปล่อยออกมา แร่ธาตุต่าง ๆ นั้นกองอยู่ในโกดัง
กาเลนหยิบจอบและตะกร้าจากข้างในแล้วโยนให้โรแลนด์ เขากล่าวว่า “นี่คือเครื่องมือของนาย เริ่มทำงานได้เลย… เออ ใช่แล้วนายชื่ออะไรนะ ? ฉันจำเป็นต้องลงทะเบียนไว้”
กาเลนหยิบปากกาขึ้นมาและเปิดสมุดที่หยิบขึ้นมาจากในลิ้นชักอย่างระมัดระวัง “บอกชื่อมาและก็อายุของนายด้วย”
“โรแลนด์อายุ 17”
โรแลนด์นั้นอายุ 24 ในความเป็นจริง แต่ตัวละครในเกมของเขาถูกกำหนดให้อายุ 17 ซึ่งอยู่ระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ ดังนั้นเขาสามารถให้ข้อมูลดังกล่าวได้ เพราะท้ายที่สุดเขานั้นก็ดูเด็กเกินไปที่จะอายุ 24 และกาเลนอาจจะไม่เชื่อถ้าเขาพูดอย่างนั้นออกไป
กาเลนเขียนชื่อของเขาลงในสมุด โรแลนด์เหลือบไปเห็นมันและพบว่าคำในโลกนี้นั้นเป็นเหมือนรูปสัญลักษณ์ ตัวอักษรก็ไม่ตั้งตรง ไม่รู้ว่ามันเป็นรูปแบบมาตรฐานหรือเป็นสไตล์ส่วนตัวของกาเลน
ท้ายที่สุดกาเลนโบกไล่โรแลนด์ และโรแลนด์ก็เดินเข้าไปในถ้ำพร้อมจอบขุดและตะกร้า
ถ้ำนั้นค่อนข้างกว้างและใหญ่ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้เพราะทุกคนก็ต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ในเหมืองเช่นกัน มีการจุดตะเกียงน้ำมันทุก ๆ สิบเมตรระหว่างทาง ผนังเปียกชื้นและโรแลนด์รู้สึกได้ถึงน้ำในนั้น
โรแลนด์ลากตะกร้าไปข้างหน้า มีหลุมและก้อนกรวดอยู่เต็มไปหมดระหว่างทาง ผ่านไปหลายนาทีในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงดังอยู่ข้างหน้า ไม่ช้าเขาก็เห็นคนหลายคนกำลังทำงานอย่างหนักที่ปลายสุดของถ้ำขณะหันหน้ากันไปคนละทาง
นี่คือเหมืองของจริง มันเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง โดมด้านบนนั้นสูงประมาณ 10 กว่าเมตรและมีความกว้างประมาณ 30 เมตรจากปลายด้านซ้ายไปจนสุดด้านขวา ที่แห่งนี้ค่อนข้างจะสลัว ๆ แม้จะมีโคมไฟแขวนอยู่บนผนังก็ตาม
โรแลนด์กระโดดลงจากพื้นข้างบน มีคนบางคนสังเกตเห็นถึงเสียงดังนั่น แต่ไม่นานก็กลับไปสนใจกับการขุดของพวกเขา เวลานั้นเป็นเงินเป็นทองสำหรับคนงานในเหมือง
เมื่อสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด โรแลนด์ก็มาถึงมุมที่ว่างอยู่ เขามองดูคนงานเหมืองคนอื่น ๆ ที่กำลังทำงาน จากนั้นเขาก็เลียนแบบวิธีตามแบบของพวกเขา
ผลจากการขุดแร่และการออกแรงตลอดทั้งวัน เขาได้ทองแดงที่มีความบริสุทธิ์ระดับ 5 และนั่นคือทั้งหมดที่เขาหาได้...
เสียงประกอบของเสียงขุดที่ดังไปทั่วทั้งเหมืองนั้น โรแลนด์จำเสียงนี้ได้ดี เมื่อครั้งเกม MMORPG เป็นที่นิยม เขายังเป็นเด็กน้อยอายุเพียง 10 ขวบ เขาประหยัดเงินค่าอาหารเช้าตลอดทั้งเดือนเพื่อซื้อบัตรรายเดือนสำหรับเล่นเกม จากนั้นเขาก็ขุดเหมืองวันละ 2 ชั่วโมงทุกวัน และจ่ายเงินสำหรับเล่นเกมด้วยเหรียญที่เขาได้รับในเกมเพื่อที่จะเล่นมันต่อ
ความประทับใจที่ลึกซึ้งที่สุดของเขาต่อเกม MMORPG เกมแรกคือการขุดเหมืองนี่ และตอนนี้เขาก็ต้องขุดเหมืองอีกครั้งในเกมที่สมจริงเกมแรกของโลก เขาสงสัยว่าเขาอาจจะถูกลิขิตให้เป็นคนงานเหมืองก็ได้
การขุดเป็นงานที่ยากลำบาก แต่ผู้เล่นรวมถึงผู้ใช้เวทมนตร์อย่างโรแลนด์มีค่าสถานะของร่างกายที่ดีกว่าคนทั่วไปมาก เมื่อตอนแรกที่เขาเริ่มขุดนี่ จอบของเขามักจะชนโขดหินแข็ง ๆ หรือติดอยู่ในรอยแยก แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมาโรแลนด์ก็รู้สึกว่าเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับของมันมากขึ้น
หินสีเหลืองและสีขาวถูกขุดออกมา โรแลนด์หยิบมันขึ้นมาและสังเกตมันครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่ายหัวโยนมันออกไปและทำงานต่อ ก่อนหน้านี้ตอนที่กาเลนเปิดโกดัง เขาได้ถ่ายภาพแร่ในโกดังด้วยฟังก์ชั่นภาพถ่ายของระบบซึ่งทำให้เขาสามารถเปรียบเทียบหินที่เขาขุดออกมากับก้อนหินที่มีอยู่เพื่อประเมินมูลค่าได้
แน่นอนว่าการเปรียบเทียบนั้นอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าการเดาแบบสุ่มมาก
หลังจากนั้นอีกชั่วโมงคนงานคนอื่น ๆ ก็นั่งลงและพักผ่อน แต่โรแลนด์ยังคงทำงานต่อไป คนงานเหมืองเหล่านั้นรวมตัวกันและชี้มาที่เขา แม้กระทั่งเสียงหัวเราะที่เบา ๆ ที่ลอยเข้าหูเขา พวกเขานั้นต้องล้อเลียนโรแลนด์อยู่แน่ เพราะคิดว่าโรแลนด์ไม่สามารถทนขุดอยู่ได้อีก
ทว่าโรแลนด์ไม่สนใจพวกเขาและยังคงลงมือทำต่อไป เขานั้นต้องพยายามต่อไปจนกว่าเขาจะรู้สึกหมดแรง
คนงานเหมืองเหล่านั้นพักผ่อนอยู่สักพักและกลับไปทำงาน อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำงานได้อีกครั้ง แต่โรแลนด์ยังคงขุดด้วยจอบในมือ คราวนี้พวกเขาไม่ได้หัวเราะโรแลนด์แล้วแต่กลับจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ
หลังจากพักผ่อนสักพักพวกเขาก็ขุดต่อไป แต่เมื่อรวมตัวกันอีกครั้งและพักหนึ่งชั่วโมงต่อมาโรแลนด์ยังคงขุดจอบในมืออยู่เหมือนเดิม
คนงานในเหมืองจ้องไปที่ชายหนุ่มร่างผอมด้วยสายตาไม่เชื่อ ใครบางคนไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปและเดินเข้ามาหาโรแลนด์ เขามองไปที่ก้อนหินในตะกร้าของโรแลนด์และรอยยุบบนผนังที่โรแลนด์เพิ่งขุดขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
โรแลนด์งัดก้อนหินออกจากกำแพงแล้วโยนกลับเข้าไปในตะกร้า เขายิ้มให้กับคนงานเหมืองที่เดินเข้ามาหาเขาและออกจากเหมืองพร้อมตะกร้าที่หนักนั่น
ขณะนี้ความสามารถทางภาษาที่ฟอลเคนร่ายไว้ให้สิ้นสุดลงแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสื่อสารกับคนอื่น ๆ
คนงานเหมืองเฝ้าดูเขาเดินจากไป เมื่อมองไปที่ตะกร้าของพวกเขาที่ยังว่างอยู่ครึ่งหนึ่งพวกเขาก็หมดแรงจูงใจที่จะทำงาน
โรแลนด์ออกจากถ้ำพร้อมกับตะกร้า เขาใช้เวลาพอสมควรในการทำความคุ้นเคยกับแสงแดดที่ส่องประกายอยู่ด้านนอก ท้ายที่สุดเขาลากตะกร้าไปให้กับกาเลน ยกขึ้นไปที่บนโต๊ะทำงานของเขา
ตะกร้านั้นหนักมากจนโต๊ะแทบจะพัง กาเลนรู้สึกประหลาดใจอย่างมากและสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน เขาอุทานหลังจากเห็นตะกร้าและโรแลนด์ที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังมัน
หลังจากที่ฟังกาเลนพูดอยู่เป็นเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามโรแลนด์ไม่สามารถเข้าใจเขาได้ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ขอโทษด้วย ความสามารถทางภาษาหมดเวลาแล้ว”
กาเลนตะลึงเพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจโรแลนด์เช่นกัน ทว่าในฐานะพ่อค้าที่เดินทางบ่อยเขาเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มีหลายอย่างที่เขาอยากจะพูด แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่หุบปาก เขาย้ายตะกร้าลงไปที่พื้นและคัดหินในตะกร้า เอาสิ่งที่ไม่มีค่าทิ้งไปและ เอาของมีค่าแบ่งออกเป็น 3 กองตามคุณภาพของมัน ในท้ายที่สุดเขาก็นับมันและวางเหรียญยี่สิบแปดเหรียญไว้บนโต๊ะ
โรแลนด์หยิบเหรียญเหล่านั้นและจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย