HPST ตอนที่ 11: มาร่วมพิธีคัดสรรสาย
HPST ตอนที่ 11: มาร่วมพิธีคัดสรรสาย
อีวานไม่ได้รู้สึกกังวลกับการถูกไล่ออก
นี่เป็นข้อดีของการรู้เนื้อเรื่องล่วงหน้า ถึงแม้มันจะเปลี่ยนไปเขาก็ไม่กังวลแม้แต่น้อย
พอเขาได้เห็นหน้าของสเนป เขารู้ได้ทันทีว่าความเกลียดของสเนปมันแทบจะพุ่งถึงขีดสุดแล้ว ซึ่งนั่นมันก็น่าสงสารจริงๆ
เขารู้สึกสนใจในตัวของศาสตราจารย์สเนปและวิชาปรุงยา แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ เขารู้ว่าถ้าเขายังไปไหนมาไหนกับแฮรี่ เขาก็จะถูกสเนปเกลียดชังเช่นเดียวกัน
ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำยังไงไม่ให้สเนปเล็งมาที่เขา ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็เข้ามา
อีวานมองไปที่พ่อมดที่เก่งกาจที่สุดในโลกเวทย์มนต์ด้วยความอยากรู้ เข้าเป็นชายแก่ที่มีเคราสีขาวเงางาม
เขาต้องยอมรับว่าดัมเบิลดอร์มีนิสัยที่น่าประทับใจมาก
สายตาของดัมเบิลดอร์ดูซีเรียสอย่างผิดปกติ เขาก้มลงมามองพวกเขาด้วยสายตาที่ดูเยือกเย็น
“ช่วยอธิบายหน่อย ว่าทำไมพวกเธอถึงทำแบบนี้”
ด้านหน้าที่ดัมเบิลดอร์จ้องไป ทั้งแฮรี่และรอนเปลี่ยนเป็นหน้าซีดขาว ราวกับชีวิตของเขาอยู่บนเส้นด้าย
แฮรี่มองไปที่หัวเขาพร้อมกับหัวที่โน้มลง พร้อมกับอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาอธิบายได้อย่างละเอียดแต่ไม่ได้พูดว่ารถคันนั้นเป็นรถของคุณวีสลีย์ เขาพูดเหมือนกับว่าเค้าอยู่ที่ถนนกลางกรุงลอนดอน แล้วพบเข้ากับรถบินได้โดยบังเอิญ
อีวานดูสีหน้าท่าทางของดัมเบิลดอร์ แต่อีวานก็ได้เห็นดับเบิลดอร์ขยิบตาให้เขาในทันใด อีวานไม่ได้ทำตัวเหมือนกับเด็กที่กำลังจะเจอกับปัญหาสักนิด
“ศาสตราจารย์ คุณจะไล่อีวานออกไม่ได้ เขาต้องการจะส่งจดหมายให้ทางโณงเรียนทราบด้วยเฮ็ดวิค แต่ผมเป็นคนดึงเค้าขึ้นมาบนรถเอง” แฮรี่พูดขึ้นอย่างสิ้นหวัง
“และผมเป็นคนที่สตาร์ทรถเอง อีวานไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเราจะขอรับผิดเอง” รอนพูด
“พวกเธอกำลังพูดเรื่องอะไรกัน? วีสลีย์” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดขึ้น
“พวกเรากำลังจะถูกไล่ออกไม่ใช่หรอ?” รอนกล่าว
“ไม่ใช่วันนี้ คุณวีสลีย์” ดัมเบิลดอว์ตอบ, “แต่ฉันจะทำให้เธอตระหนักว่าการกระทำของพวกเธอนั้นร้ายแรงขนาดไหน ดังนั้น,ฉันจะเขียนจดหมายไปให้ผู้ปกครองของเธอ แล้วฉันจะเตือนเธออีกครั้งว่า ถ้าเธอทำแบบนี้อีก เธอจะถูกไล่ออก”
สีหน้าของสเนปเหมือนกับเด็กที่ถูกบอกว่าคริสต์มาสถูกแคนเซิล สเนปกะแอมเล็กน้อยแล้วพูด “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เด็กพวกนี้แหกกฏอยากร้ายแรงและใช้เวทย์มนต์ภายนอกโรงเรียนและทำให้เกิดความเสียหายกับต้นวิลโลว์จอมหวด พฤติกรรมของเด็กพวกนี้สมควรถูกลงโทษ”
“ฉันต้องกลับไปที่งานเลี้ยง” เขาหันไปหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลและพูด “คุณเมสันต้องได้รับการคัดสรร และต้องได้รับทราบอะไรบ้างอย่าง”
“แต่ศาสตราจารย์!” สเนปพูด
“มาเถอะ สเนป มันพายคัสตาร์ดอร่อยๆรอเราอยู่ พวกเรากลับกันได้แล้ว”
อีวานเดินตามสเนปกับดัมเบิลดอร์มาที่ห้องโถงใหญ่ พอดัมเบิลดอร์ก้าวขึ้นแล้วพูดไม่กี่คำ ทั้งห้องก็เงียบลง
ทุกๆคนได้อยู่ทุกการกระทำและมองไปที่อีวานกำลังยืนอยู่หน้าที่นั่งของคณาจารย์ พวกเขาพยายามจะได้เห็นเขาชัดๆ
อีวานรู้สึกประหม่า ความรู้สึกที่ถูกจ้องโดยทุกๆคนเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะดีเท่าใด หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบๆ
“ดูนั้น เขาเป็นเด็กที่หายตัวไป”
“ตัวเขาโชกเลือดไปหมด เขาพึ่งไปสู้กับสัตว์ประหลาดมาหรอ?”
“นายได้อ่านเดลี่พรอเฟ็ตวันนี้หรือยัง เขาอยู่ในรถบินได้กับแฮรี่ พอตเตอร์”
“รถบินได้ ฟังดูเจ๋งไปเลย!”
“ฉันได้ยินพวกวิญญาณคุยกัน คุยว่าพวกเขาขับไปชนกับต้นวิลโลว์จอมหวด”
เสียงคุยเริ่มดังขึ้น หลังจากนั้นสักพัก อีวานก็เลิกฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันทันที เขาเห็นศาสตราจารย์สเนปนำเอาหมวกคัดสรรออกมาและไปที่หน้าเก้าอี้
“อีวาน เมสัน!” สเนปพูดขึ้นพร้อมกับหน้าที่บูดบึ้ง
เพราะว่าศาสตราจารย์มักกอนนากัลยังไม่ได้กลับมา เขาเลยต้องเป็นคนทำพิธีคัดสรรแทน เขายัดหมวกคัดสรรเข้าที่หัวของอีวาน
“อะฮ่า!” อีวานได้ยินเสียงที่เล็กและแหลม “นักเรียนใหม่ที่มาสาย เป็นคนฉลาดเฉลียว เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ไม่เลว เธอน่าจะไปบ้านเรเวนคลอ ที่ซึ่งจิตใจที่เตรียมพร้อม เป็นที่ที่ผู้ที่มีไหวพริบและการเรียนรู้มักจะพบกับคนประเภทเดียวกัน”
อีวานพยักหน้า เรเวนคลอ ก็เป็นทางเลือกที่ดี
ที่ได้ยินมาว่า เรเวนคลอมีห้องสมุดส่วนตัวอยู่ ที่นั้นมีหนังสือที่ไม่มีตีพิมพ์อยู่ด้านใน ซึ่งมันจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น และ โรเวน่า เรเวนคลอเป็นคนที่ฉลาดเกี่ยวกับเวทย์มนต์วิญญาณ เธอเหลือบันทึกทิ้งไว้ ซึ่งมันจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการต่อกรกับวอลเดอมอร์
“แต่ฉันได้ยินเรื่องราวของเธอ” หมวกยังบิดไปมาไม่หยุดบนหัวของอีวาน “ในนักเรียนใหม่ทั้งหมดที่ฉันได้เห็นตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ฉันยังไม่เคยเห็นนักเรียนใหม่คนไหนมาเข้าเรียนได้ประทับใจแบบนี้มาก่อน กล้าหาญ ฉันคิดว่ากริฟฟินดอร์น่าจะเข้ากับเธอได้มากกว่า”
ไม่ทันจะได้รอความคิดเห็นของอีวาน หมวกคัดสรรก็ตะโกนดังขึ้นมา “กริฟฟินดอร์!”
สเนปถอดหมวกคัดสรรออก แล้วจ้องที่อีวานอย่างดุดัน
เขาจำไม่ได้ว่าเขาไปที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์ได้อย่างไร หลังจากเขาได้ยินเสียงปรบมือดังสนั่นราวกับว่าเขาได้กลายเป็นวีรบุรุษไปแล้ว
“สุดยอด!” พูดโดยเด็กชายคนหนึ่งที่ยืนขึ้นมาแล้วจับมือกับเขา อีวานจำเขาได้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคู่ฝาแฝด ลี จอร์แดน “เป็นวิธีเข้าเรียนที่โคตรจะเท่ ใครๆก็จะพูดเรื่องนี้ทั้งปี เข้าเรียนวันแรกด้วยการขับรถบิน แถมยังชนกับต้นวิลโลว์จอมหวดด้วย”
โต๊ะอาหารของกริฟฟินดอร์ครื้นเคร้งเป็นอย่างมาก และพวกรุ่นพี่หลายๆคนที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อก็เดินเข้ามาจับมือกับอีวาน
ไม่นานหลังจากนั้น, เฟรดกับจอร์จเบียดเข้ามาและถาม “ทำไมไม่เรียกพวกเราให้ไปกับนายด้วย?”
อีวานไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร แต่โชคดีที่พวกเขาถูกผลักออกไปโดยเด็กหนุ่มตัวเล็กผมบลอนด์ถือกล้องถ่ายรูปในมือ
“สวัสดีอีวาน ฉันชื่อโคลิน ครีฟวีย์ เหมือนกับนาย เป็นนักเรียนใหม่ปีนี้” โคลินนั้นรวดเร็วและขี้อายนิดหน่อย “ฉันได้ยินมาว่านายกับแฮรี่ พอตเตอร์มาโรงเรียนด้วยรถบิน ฉันขอถ่ายรูปของนายได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา!”
อย่างไรก็ตามก่อนที่อีวานจะได้โพสต์ท่า คนที่อยู่ด้านหน้าของอีวานก็เปลี่ยนเป็นเฮอร์ไมโอนี่แทน เธอดูคล้ายๆกับเพอร์ซี ไม่แฮปปี้เลยซักนิด
“มันน่าขำนะ ที่นายไม่ได้ขึ้นรถไฟมาโรงเรียน” น้ำเสียงของเฮอร์ไมโอนี่นั้นเกือบจะเหมือนกับของมักกอนนากัล “นี่นายบินมาโรงเรียนจริงๆหรอ?”
“ใช่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่!” อีวานตอบพร้อมพยักหน้า
“นายกล้าดียังไง…….” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มบ่น
โชคยังดีที่มันไม่ได้นาน คนที่อยู่ด้านหน้าอีวานก็เปลี่ยนเป็นจินนี่ สาวน้อยที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“อย่าโกรธเฮอร์ไมโอนี่เลย พอเธอไม่ได้เห็นว่าพวกนายอยู่บนรถไฟ เธอเป็นกังวลมาก” จินนี่ถามด้วยท่าที่เป็นห่วง “แล้วแฮรี่กับรอนล่ะ?”
“พวกเขาสบายดี” อีวานพูดขณะตักพุดดิ้งมาใส่จานของเขา “เดียวเราค่อยคุยกันทีหลัง ฉันขอหาอะไรใส่ท้องสักหน่อย ฉันไม่ได้กินอะไรเลย เธอก็รู้”
ไม่ทันให้เขาได้ตักพุดดิ้งเข้าปาก อาหารทั้งหมดตรงหน้าเขาก็หายไป เหมือนกับมันไม่เคยได้มีอยู่ตั้งแต่แรก มื้อค่ำได้จบแล้ว
“ม่ายยยยยยยย” อีวานพูดพร้อมกับทรุดลงไปบนเก้าอี้