ตอนที่ 45 ถูกลอบโจมตี
ตอนที่ 45 ถูกลอบโจมตี
ตลอดทั้งคืนหลังจากที่เจสเปอร์ออฟไลน์ออกจากเกม ด้วยการผจญภัยที่หนักหน่วงและแบกรับภาระความกดดันที่สูงมากทำให้เขาหลับไปกระทั่งสวมหมวก VR ไว้บนศรีษะจนถึงเช้า หลังจากที่ได้นอนพักผ่อนร่างกายของเขาก็พร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่แล้ว
กิจวัตรประจำวันยังคงเป็นเหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมา เขาออกไปเรียนที่มหาลัยตามปรกติดังวัยรุ่นทั่วไป การเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกวิชาที่เข้าเรียนเคยอยู่ในหัวของเขาทั้งหมดจากอดีต แต่การมาเรียนแบบนี้เป็นเพียงเสมือนการมาทบทวนความทรงจำให้กลับมาอีกครั้งเท่านั้น มหาลับแห่งนี้จะอิงหลักคะแนนจากการสอบเป็นหลักแต่ก็ควรที่จะมาเข้าเรียนบางเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ
เมื่อคลาสเรียนของวันนี้จบลง เจสเปอร์ก็มุ่งหน้าไปที่ห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาทันที เจสเปอร์เคาะห้องประตูเบาๆ เพื่อเตือนคนที่อยู่ด้านในตามหลักมารยาท จนเมื่อเสียงภายในอนุญาต เขาถึงเข้าไปด้านใน
“ว่าไงเจสเปอร์ มาหาอาจารย์มีธุระอะไร...นั่งสิ” อาจารย์ที่ปรึกษาพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลพร้อมกับยิ้มแย้มเมื่อได้พบเจอกับเจสเปอร์ที่เปรียบเสมือน ดอกไม้ประจำหมาวิทยาลัย
“ผมมีเรื่องจะมาแจ้งอาจารย์ถึงการเข้าเรียนของผมครับ”
“อืมว่ามาสิ อาจารย์รอฟังอยู่”
“ผมมีความจำเป็นที่จะอาจเข้าเรียนในบางวิชาได้ ไม่ทราบอาจารย์พอจะแนะนำได้หรือไม่”
“อืม ตามหลักแล้วมหาลัยของเราก็อิงหลักคะแนนสอบเป็นหลักอยู่แล้ว การมาเข้าเรียนหรือศึกษาจากตำราเอง ล้วนไม่แตกต่างกัน อาจารย์ก็ดูจากเกรดเฉลี่ยของเธอที่ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ที่สูงพอสมควร อาจารย์ว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร หากเธอตัดสินใจแล้วอาจารย์ก็ขอทราบเหตุผลของเธอจะได้ไหม”
เจสเปอร์และอาจารย์ต่างพูดคุยเพื่อทางออกร่วมกันจนในที่สุดก็ได้ความว่า เจสเปอร์ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนทุกวิชาเช่นเดิมอีกต่อไปแต่รายงานเอกสาร รวมถึงผลงานวิจัย และการสอบจะต้องมีผลที่ดีเกิน 70% หากต่ำกว่านี้เป็นอันว่าข้อตกลงเป็นอันสิ้นสุด
เขายิ้มออกมาอย่างเบิกบานใจกับการพูดคุยเมื่อสักครู่เพราะรายงานเอกสาร ผลงานวิจัยที่เขาเคยทำเอาไว้ในอดีตสูงถึง 85% ในที่สุดเขาก็หาทางออกให้ตัวเองโดยที่ไม่ต้องทิ้งการเรียนเป็นผลสำเร็จสักที แม้ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข แต่อีกปัญหาที่ยังมาไม่ถึงกำลังจะเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
...................
“ลูอิสคนทรยศ ออนไลน์แล้ว ส่งคนไปดักซุ่มดูความเคลื่อนไหวของพวกมันให้ดี” โอไบรอันออกคำสั่งออกไปโดยทันทีเมื่อตรวจเช็คจากรายชื่อเพื่อนของตนที่ยังมีลูอิสเป็นหนึ่งในรายชื่อติดต่อ
“ครับ” สมาชิกกิลด์ Black Rat จำนวน 2 คน รีบวิ่งกลับเข้าเมืองโดยทันที โดยทั้ง 2 คนนี้มีคลาสอาชีพเป็นนักพเนจรทั้งคู่
โอไบรอันที่กำลังเก็บเลเวลอย่างเอาเป็นเอาตายโดยมีสมาชิกกิลด์ของตน คอยช่วยเหลือในที่สุดก็เลื่อนระดับขึ้นมาที่เลเวล 11 ได้สำเร็จ การเก็บเลเวลของโอไบรอันในครั้งนี้ ให้สมาชิกภายในกิลด์ไปตีมอนสเตอร์ให้เลือดเหลือน้อยๆและลากมาส่งให้กับโอไบรอันปลิดชีพสังหาร หรือการ ลาสมอน(การโจมตีครั้งสุดท้าย) วิธีนี้เป็นการการทำที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอื่นที่ต้องการอัพเลเวลของตัวเองให้ได้แบบเร็วๆก็เลือกใช้วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุด
โอไบรอันแค่ยืนอยู่จุดเดิม ทำการเหวี่ยงดาบแบบไม่ต้องใช้หัวคิดอะไรมาก อย่างสบายอกสบายใจโดยมีผู้ติดตามตอยเอามาป้อนให้ถึงที่ เพียงเพราะต้องการตอบสนองความต้องการของตนเองที่จะเลื่อนลำดับในตารางอันดับเลเวลของอาณาจักรกรีนเวต้า
ชื่อเสียงที่ติดอันดับของกิลด์ Black Rat เริ่มที่จะสูงขึ้นเป็นอย่างมากมีผู้เล่นอิสระเริ่มที่จะเข้าร่วมกับกิลด์ Black Rat มากถึง 30 คนต่อวัน โอไบรอันที่ยินดีกับผลตอบรับเช่นนี้ไม่แปลกเลยที่จะให้ความสำคัญในการเก็บเลเวลของตัวเองให้นำสมาชิกคนอื่นๆ แต่ผลลัพธ๊ที่โอไบรอันได้รับมานั่น เทียบไม่ได้เลยกับกิลด์ Blood Commander ที่มีผู้เล่นติดอันดับสูงถึง 4 คน และ 1 ในนั่นคือไอเดนที่ครอบครองอันดับ 1 อีกด้วย
ผู้เล่นไหลทะลักเข้าสู่กิลด์ Blood ฉommander เป็นจำนวนมากมายมหาศาล ชื่อเสียงที่มากล้น จำนวนคนที่เยอะกว่ากิลด์อื่นหลายเท่าตัว ส่งผลให้กิลด์ Blood Commander ถูกยกให้เป็นกิลด์อันดับ 1 ของ อาณาจักรกรีนเวต้า ไปโดยปริยาย
“พบเห็นคนทรยศแล้ว พวกเรากำลังติดตามมันอยู่หัวหน้าจะให้พวกเราลงมือตอนนี้เลยไหม” 2 นักพเนจรของกิลด์ Black Rat ส่งข้อความกลับมาโอไบรอันทันทีเมื่อพบตัวลูอิส
“ยังก่อน รอให้มันออกจากเมืองก่อนและจับตามองเอาไว้ด้วยว่ามีคนในปาร์ตี้ของพวกมันอยู่อีกหรือไหมถ้ามีก็ให้รีบแจ้งกลับมา ฉันจะส่งคนไป”
โอไบรอันเหวี่ยงดาบไปสังหารมอนสเตอร์แบบท่าทางเหลาะแหละ พร้อมๆกับค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นมาแบบง่ายๆ
ไม่นานโบม่อน ก็ออนไลน์เช่นเดียวกัน ลูอิสและโบม่อนต่างเข้ามาสำรวจตลาดตามที่เจสเปอร์ได้ฝากเอาไว้เป็นประจำทุกวันก่อนคนอื่นๆ แม้พวกเขาทั้งหมดต่างพึ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่ก็มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันค่อนข้างสูงเหมือนรู้จักกันมานาน หลังจากที่ทั้งคู่จัดการตลาดเสร็จเรียบร้อย หิมะน้อยก็ได้ตามมาสมทบพร้อมๆกับริคเตอร์ที่เพิ่งเลิกเรียน ปาร์ตี้ Rising Sun ในตอนนี้ขาดเพียง เจสเปอร์และลูอิส
พวกเขาต่างออกไปเก็บเลเวลที่ป่าขุนเขาตามเดิมโดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามีกลุ่มคนมากกว่า 6 คน กำลังติดตามพวกเขาอยู่ห่างๆ
การเก็บเลเวลของทั้งปาร์ตี้เป็นไปได้ด้วยดี ริคเตอร์เริ่มปรับตัวเข้ากับปาร์ตี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ การมีนักรบเข้ามาทำให้ปาร์ตี้มีการเล่นที่สอดคล้อง ลงตัว มากยิ่งขึ้น แต่ยังห่างไกลกับคำว่าสมบูรณ์ในความคิดของเจสเปอร์
มีสายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมาทางกลุ่มปาร์ตี้ของพวกเขามากขึ้นเรื่อย และ คนที่จับสัญญาณความผิดปกตินี้ได้เป็นคนแรกก็คือ ลูอิส ที่มีสายตาที่ดีกว่าคนอื่นๆ
‘ผู้เล่นที่มาเก็บเลเวลแถวป่าขุนเขา น่าจะมีมากกว่านี้ แต่ทำไมตลอดทางพวกเขา ผู้เล่นคนอื่นๆต่างเลือกที่จะเดินหนีออกห่างเหมือนพวกเขาเป็นเชื้อโรคร้าย’
หลังจากที่เขาประเมินสถานการณ์ได้คร่าวๆ ก็รีบเข้าประชิดตัวเพื่อนๆเพื่อบอกความผิดปกติให้ทุกคนรับฟัง มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็คือ หิมะน้อยมาร์กี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าลูอิสกลัวเธอจะตกใจ การตายจากพิษของราชางูในรอบนั่นยังคงหลอกหลอนเธออยู่จนถึงทุกวันนี้ ทำให้ลูอิสไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับเธอ
“ยื้อสถานการณ์นี้ไว้ก่อน พวกเราค่อยทำทีเหมือนไอเท็มเพิ่มพลังชีวิตหมดลงจำเป็นที่จะต้องกลับเมืองเถอะ ฉันว่าพวกนี้คงไม่กล้าทำอะไรพวกเราในเขตเมืองหรอก”
โบม่อนเสนอความคิดเห็นออกไป ลูอิสและริคเตอร์ต่างเห็นด้วยกับความคิดนี้เช่นกัน
ปาร์ตี้ Rising Sun เริ่มแสดงความเหยาะแหยะออกมาให้คนที่แอบตามมาได้เห็น มีเพียงหิมะน้อยเท่านั้นที่ไม่รู้แผนการยังคงจัดหนักจัดเต็มเข้าใส่มอนสเตอร์อย่างโหดร้าย
“ไอ้เจ้าพวกนี้กระจอกเป็นบ้าเลยวะ ขนาดมอนสเตอร์ธรรมดายังโจมตีไม่โดน เป็นความจริงหรอที่พวกนี้เคยได้เฟิร์สเคลียร์สุสานนับรบกันนะ”
“นายเพิ่งเข้ามาใหม่อาจยังไม่รู้เรื่องราว หัวหน้าของพวกเราต่างหากที่พาปาร์ตี้ห่วยๆนั้นพิชิตสุสานนักรบ แต่เมื่อบอสกำลังจะตาย หัวหน้าของพวกเราก็ถูกพวกมันเตะออกจากปาร์ตี้ยังไงล่ะ”
ไม่แปลกเลยที่เรื่องราวในสุสานนักรบจะถูกบิดเบือนไปจากความเป็นจริงอยู่มาก โอไบรอันคงไม่มีทางเล่าเรื่องให้ตัวเองดูแย่ในสายตาลูกน้องกิลด์ของตัวเองอยู่แล้ว คนที่ซุ่มโจมตีที่ได้รับฟังเรื่องราวต่างๆทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าสมาคมกิลด์เมื่อหลายวันก่อนด้วยแล้ว ก็ยิ่งเหมือนเชื้อไฟที่ถูกเติมลงในกระทะ สมาชิกกิลด์ Black Rat ถูกความโกรธแค้นบดบังความจริงไปทั้งหมด
“พวกมันมีแค่ 4 คนแถมฝีมือกระจอกขนาดนั้น พวกเรามีกันตั้ง 8 คน ยังจะกลัวอะไรอีกลุยกันเลยเถอะ”
“ช้าก่อนไม่ได้ยินที่หัวหน้าสั่งหรือยังไงให้ติดตามมันไปก่อน”
“จะช้าไม่ได้แล้ว ดูสิพวกนั้นกำลังจะเดินทางกลับไปที่เมือง ถ้าพวกมันกลับไปที่เมืองพวกเราคงทำอะไรไม่ได้อีก แล้วอีกอย่างนะเราต้องแก้แค้นให้หัวหน้าของพวกเราสิ”
สมาชิกกิลด์ Black rat เริ่มแตกความคิดเห็นออกเป็นหลายส่วน บางส่วนอยากให้ไร้ตาม บางส่วนอยากให้แจ้งหัวหน้า แต่เมื่อมีคนพูดขึ้นมาเพียงประโยคเดียวความคิดเห็นทั้งหมดก็คล่อยตามกันในทันที
“พวกแกมั่วแต่เถียงกันอยู่นั่นละ พวกเราเป็นเพียงสมาชิกใหม่ที่แทบจะไม่มีใครในกิลด์รู้จัก อีกนานแค่ไหนกว่าพวกเราจะไต่เต้าไปถึงสมาชิกระดับสูงที่มีเงินเดือนแบบพวกนั้นได้ล่ะ ฉันคิดว่าอีกนาน เผลอๆอาจเป็นปี พวกแกลองคิดดูถ้าพวกเรากำจัดไอ้พวกขยะก้อนนี้ได้ หัวหน้าจะชื่นชมเรามากแค่ไหน พวกเราสามารถจัดการศัตรูคู่อริของหัวหน้าได้โดยไม่รบกวนการเลื่อนระดับของท่านโอไบรอันได้ พวกแกลองคิดดูจะยอดเยี่ยมขนาดไหน”
“ใช่เราจะรอให้คนอื่นๆมาชิงตัดหน้าผลงานไม่ได้เด็ดขาด พวกนั้นก็แค่ลากมอนสเตอร์โง่มาให้หัวหน้า ดูพวกเราสิลำบากขนาดไหนต้องแอบหลบๆซ่อนอยู่ตลอดมาหลายชั่วโมงหากให้คนอื่นมาแย่งเค้กก้อนนี้ บอกเลยฉันคนหนึ่งไม่ยอมเด็ดขาด”
“ฉันด้วยๆ”
เมื่อมีคนพูดความจริงที่ว่าสมาชิกระดับสูงต่างได้รับเงินเดือนออกมา สีหน้าทุกคนก็ยิ่งฮึกเหิมมากขึ้นกว่าเดิม ในเมื่อมีโอกาสที่จะได้ทำผลงานแล้วมีหรือที่พวกเขาจะปล่อยให้คนอื่นมาแย่งผลงานความดีความชอบนี้ไป
ความคิดเห็นเริ่มเป็นเสียงเดียวกัน พวกเขาเหล่านี้เลือกเดินเกมดักซุ่มโจมตีขั้นต่อไปโดยปราศจากความเห็นจากโอไบรอันที่กำลังทุ่มเทให้กับการเลื่อนระดับอย่างบ้าคลั่ง มอนสเตอร์ถูกลากมาเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ อันดับของตารางเองก็มีการเปลี่ยนแปลง โอไบรอันแซงหน้าสมาชิกกิลด์ Blood Commander ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9 ได้แล้ว หากรักษาความเร็วในการเก็บเลเวลให้เป็นเช่นนี้ได้ต่อไปเรื่อยๆ การจะขึ้นไปอยู่ในอันดับ 8 คงไม่ใช่เรื่องยาก สมาชิกกิลด์ Black Rat ที่เห็นการปรับเปลี่ยนอันดับการยิ่งทุ่มเทมากขึ้นเรื่อยๆสมาชิกกิลด์ที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าในเมื่อคนบ้าคลั่ง มีหรือที่ตนจะอยู่เฉยๆได้อีก
..............
ทางฝั่งที่ดักซุ่มโจมตีก็เริ่มปฏิบัติการครั้งนี้แล้วสมาชิกกิลด์จำนวน 8 คนโผล่ออกมาจากพุ่งไม้ ทำการปิดล้อม ลูอิส โบม่อน ริคเตอร์และหิมะน้อย ไม่ให้หนีหรือถอยหลังได้
“สมาชิกกิลด์ Black Rat สินะ ดูจากเจตนาที่ตามพวกเรามา พวกแกคงอยากมีเรื่อง” ลูอิสไม่เคยเห็นหน้าคนพวกนี้มาก่อนในตอนที่ยังอยู่กับโอไบรอัน
“ยอมมอบชีวิตพวกแกมาซะดี พวกเราสัญญาว่าจะเบามือ” นักพเนจรคนหนึ่งก้าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าขยะแขยง
“โอ้ ว้าวในกลุ่มของพวกแกก็มีผู้เล่นหญิงอยู่ด้วยหรอเนี่ย เอายังงี้ไหมส่งผู้หญิงของพวกแกออกมา แล้วพวกเราจะปล่อยพวกแกไป ฮ่าฮ่า”
ความหื่นกระหายล้วนมาจากชายคนที่มีรอยยิ้มขยะแขยง แต่ดูเหมือนสมาชิกกิลด์ Black Rat เองก็หัวเราะชอบใจกับการกระทำครั้งนี้อยู่ไม่น้อย เช่นเดียวกัน
ทางกลุ่มปาร์ตี้ Rising Sun ที่โดนล้อเลียนอย่างสนุกสนานยังไม่มีท่าทีตอบโต้อะไรแสดงออกมา ก็ยิ่งทำให้สมาชิกกิลด์ Black Rat ได้ที่พูดจา โอ้อวด ข่มขู่ ต่างๆนานา จนในที่สุดโบม่อนก็เปิดสังเวียนครั้งนี้ด้วยคำพูดของเขาเอง
“พูดมากน่ารำคาน จะฆ่าก็ฆ่า รออะไรอยู่อีกละ” สิ้นเสียงชายทั้ง 8 ก็หยุดเสียงหัวเราะ ดาบและมีดในมือถูกชักออกมาพร้อมกับกระโดดเข้าใส่พวกเขา
‘ติ้ง!! คุณถูกผู้เล่น...โจมตี คุณสามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่มีการลงโทษ’
เมื่อสัญญาณที่พวกเขารอคอยแจ้งเตือน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องรั้งรออะไรอยู่อีก ริคเตอร์ยกดาบพร้อมกับโล่กวัดแกว่งอย่าคล่องแคล่ว ลูอิสยกคันธนูขึ้นสายประทับบ่า เสียงเพลงที่ปลุกเร้าอารมณ์บรรเลงจากสายกีตาร์ของโบม่อนเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการต่อสู้ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี และปิดท้ายด้วยลูกบอลไฟที่เต้นอยู่บนฝ่ามือของหิมะน้อยมาร์กี้
{ย้อนกลับไปไม่กี่นาทีก่อนการต่อสู้}
“ใจเย็นๆไว้ก่อนอย่าไปฟังคำยั่วยุพวกนี้ จำที่เจสเปอร์บอกให้ดี ‘คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้คือคนที่พ่ายแพ้’เพราะฉะนั้นอดทนไว้”
โบม่อนพูดลงในช่องการสื่อสารของปาร์ตี้ ในช่วงเวลาพักผ่อนเจสเปอร์คอยพูดและย้ำเสมอกับปาร์ตี้ของเขาถึงกฏต่างๆในเกมและวิธีการรับมือกับผู้เล่นคนอื่นๆ วึ่งในตอนแรกพวกเขาก็ฟังเพียงผ่านๆแต่ในวันนี้ก็รู้แล้วว่าการเจอคำพูดดูถูกจากผู้เล่นคนอื่น ส่งผลกระทบกับจิตใจพวกเรามากแค่ไหน
พวกเขาทั้ง 4 ต่างพยายามข่มใจ อย่างสุดกำลัง บางคนกัดฟันแทบจะแตกหักแต่ต้องปั่นหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เหมือนสัญญาณที่พวกเขารออยู่ให้สัญญาณก็ไม่มีอะไรต้องทนอีกต่อไป
“ตูมๆ” ลูกบอลไฟส่งตรงหิมะน้อยพุ่งตรงเข้าที่ชายรอยยิ้มขยะแขยงที่พูดจากแทะโลมเธออย่างรุนแรง แรงระเบิดจากลูกบอลไฟ กระจัดกระจายไปทั่ว สมาชิกกิลด์ Black Rat ที่อยู่ใกล้ๆก็ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดไปตามๆกัน
ลูอิสเองก็เปิดประเดิมด้วย ฝนธนู ลูกธนูจำนวนมากตกลงจากท้องฟ้าปักลงที่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
นักพเนจรของสมาชิกกิดล์ Black Rat เองก็ตอบโต้ด้วยการ หายตัวเพื่อสุ่มโจมตี เป้าหมายของพวกมันก็คือ โบม่อน นักกวีที่มีค่าพลังป้องกันต่ำและไม่มีสกิลใดๆช่วยเหลือตนเองได้เลย เป็นเป้าหมายแรก
มันยังเข้ามาประชิดโบม่อนอย่างช้าๆ มันหยิบมีดอาบยาพิษ หมายจะปาดเข้าที่คอของโบม่อนเงียบๆ แต่แล้วมันก็ต้องปรากฏตัวด้วยสกิลยั่วยุขอริคเตอร์
ผลของสกิลยั่วยุทำให้นักฆ่าที่หายตัว โผล่ขึ้นมาจากสถานะล่องหนกันเกือบทั้งหมด พวกมันต่างถูกบังคับให้เข้าโจมตีริคเตอร์ที่เป็นนักรบ มีดที่มันภาคภูมิใจฟันลงที่โล่อันใหญ่โต กับเกราะหนักที่หนาเตอะ
“อ๊ากๆๆ” สกิลคอมโบต่อเนื่องของริคเตอร์ก็ติดตามมาในทันที
< Tornado Attack!!>
ริคเตอร์หมุนตัวเองเป็นวงกลมพร้อมกันกับดาบที่ เชือดเฉือนสมาชิกกิลด์ Black Rat อย่างโหดร้าย มีดวงวิญญาณลอยขึ้นมาแทนที่พร้อมกับร่างที่จางหายไป
การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว การดักซุ่มโจมตีล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สมาชิกนักพเนจรทั้ง 8 ที่ถูกส่งมาถูกสังหารลงทั้งหมด พร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของ 2 สมาชิกปาร์ตี้ Rising Sun
...โปรดติดตามตอนต่อไป...