ตอนที่ 44 ศิษย์เอก ‘เกโด’
ตอนที่ 44 ศิษย์เอก ‘เกโด’
ร่างสฟิงซ์แตกกระจายออกทันทีเมื่อมีคนเอ่ยชื่อของมันออกมา มันเบิกตากว้างด้วยความกลัว เศษซากของมันเลยทิ้งไว้เพียงฝุ่น
ชื่อของมันนั้นก็คือ “ความเงียบ” เพราะความเงียบจะไม่เงียบอีกต่อไปถ้ามีเสียงใดเล็ดลอดออกมา
ความเงียบเป็นได้ทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนแอในเวลาเดียวกัน หากเลือกที่จะเงียบศัตรูก็ไม่สามารถล่วงรู้ในสิ่งที่เราคิดได้ แต่มันก็หมายถึงความไม่รู้ในบางมุมมอง
[ความเงียบคือนิรันดร์: สกิล]
[รายละเอียด: ในหลายร้อยหลายพันปีก่อนมีสฟิงซ์ที่เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมแต่มันมีจุดอ่อนเพียงอย่างเดียว คือมันไม่สามารถพูดหรือสื่อสารกับใครได้เลย ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามันมีแต่ศัตรู ไม่มีสหายให้แบ่งปันความสำเร็จความเงียบที่มันรังเกียจทำให้มันต้องตายเพียงลำพัง]
[ลักษณะ: ทำการใบ้ศัตรูไม่ให้ใช้งานสกิลและสื่อสารได้ภายใน 10 วินาที เมื่อครบกำหนดเป้าหมายที่ถูกใบ้จะได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 5% เป็นเวลา 10 วินาที]
เจสเปอร์หยิบม้วนสกิลออกมาพร้อมกับเรียนรู้มัน แต่หลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดอย่างครบถ้วนแล้วก็พบว่ามันเหมือนเป็นดาบสองคม ที่สามารถนำมาทำลายผู้ที่ใช้มันได้หากไม่ระวัง
‘คงต้องคิดให้ดีก่อนที่จะใช้มัน’
แม้มันจะเป็นอสูรกายที่เลเวลสูงมากๆ แต่ก็มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่ส่งผลให้มันตายได้ง่ายๆ จึงไม่แปลกที่ไอเท็มที่มันดร็อปลงมามีเพียงแค่ ม้วนสกิล เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ต้องวิ่งหนีสฟิงซ์แห่งความเงียบและปราบมันลงได้ เจสเปอร์ก็มุ่งกับไปในทิศทางเดิม จนในที่สุดเขาก็มาถึงประตูที่สฟิงซ์พิทักษ์เอาไว้
‘สฟิงซ์เฝ้าอะไรอยู่ หลังบานประตูนั่นคืออะไร’
เขาพยายามนึกคิด แต่ก็เปิดเข้าไปอย่างระมัดระวัง คนที่สั่งการให้สฟิงซ์อสูรกายระดับสูงขนาดนี้เป็นผู้พิทักษ์ประตูได้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เมื่เข้ามาภายในแล้ว มองสำรวจรอบอย่างถี่ถ้วนก็สัมผัสได้ถึงพลังเวทมนต์ที่เอ่อล้นอยู่ภายในห้องไหลเวียนเข้ามาที่ดาบอีเทอนัลวอร์เบลด ดาบเองก็มีปฏิกิริยาตอบเรากับพลังเวทมนต์ภายในห้องนี้เช่นกัน ดาบพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากมือของเขา แม้เขาจะจับมันไว้ด้วยแรงทั้งหมดแต่ก็ไม่มากพอจะเหนี่ยวรั้ง การดิ้นรนครั้งนี้ได้
ดาบอีเทอนัลวอร์เบลดที่หลุดออกจากมือเจ้าของของมันลอยขึ้นสูงกลางอากาศ ดูดซับเวทมนต์ภายในห้องอย่างหิวกระหาย
‘เกร้ง’
ดาบปริศนาอีกเล่มก็ลอยมาทางดาบอีเทอนัลวอร์เบลด เกิดการปะทะกันของดาบทั้งสองเล่มโดยไม่มีเจ้าของควบคุม ดาบทั้งสองพยายามต่อต้านซึ่งกันและกัน แต่แล้วในที่สุดดาบอีเทอนัลวอร์เบลดก็กดข่มดาบปริศนาให้ยอมจำนนได้
“ดาบเล่มนี้ ใครกันที่สามารถใช้ดาบของท่านอาจารย์ได้”
ชานปริศนาในชุดคลุมสีดำยาว ปรากฏขึ้นเมื่อดาบของตน ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในด้านกำลัง เขาเรียกดาบของตัวเองกลับคืนมาและเก็บมันลงไป
“ไอ้หนูเจ้าเป็นใครทำไมถึงมีดาบเล่มนี้” ชายปริศนาที่อยู่ตรงหน้าเจสเปอรืแท้ที่จริงแล้วคือ ศิษย์เอกทั้ง 3 ของปรมาจารย์เมนอสและยูออน นามว่า ‘เกโด’
เกโดที่เจสเปอร์เห็นมีลักษณะที่แตกต่างจากร่างเงาในบททดสอบอยู่มาก ด้วยวัยและประสบการณ์ เกโดที่อยู่ตรงหน้าเขาแม้จะยังคงรูปลักษณ์ไม่ให้แก่ชราไปแต่หากสังเกตุพฤติกรรมก็รู้ว่ามีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว
“คารวะศิษย์พี่ใหญ่เกโด ผู้น้อยมีนามเจสเปอร์ได้รับคำสั่งมาจากปรมาจารย์เมนอสให้ออกตามหาศิษย์พี่ใหญ่เพื่อแจ้งข่าวสำคัญ”
เจสเปอร์ที่ได้พบกับตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้มีหรือจะไม่แสดงความเคารพ เขาคุกเข่าลงไปพร้อมกับแจ้งสาเหตุที่มาให้กับเกโดได้รับฟัง
“เหลวไหลน่า ท่านอาจารย์เมนอสหายสาบสูญไปนานมากแล้ว ใยถึงเพิ่งจะกลับมา หากท่านอาจารย์จะแจ้งข่าวทำไมไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเรา ด้วยลำพังเราเองก็เป็นถึงศิษย์เอก”
“ท่านปรมาจารย์เมนอสไม่สามารถคงกายเนื้อไว้ได้นาน จิตของท่านเองก็อ่อนแอเมื่อต้องผนึกราชาปีศาจ Diablo เลยไม่สามารถปรากฏแจ้งข่าวให้พวกท่านได้ เผอิญศิษย์น้องได้เข้ารับการทดสอบผู้ควบคุมธาตุและฝ่าฟันไปถึงบทที่ 5 ที่มีจิตส่วนนึงของท่านเมนอสอยู่ที่นั่น เลยได้รับการชี้แนะสั่งสอนและฝากฝังเรื่องสำคัญนี้มาให้แก่พวกท่าน”
“บททดสอบผู้ควบคุมธาตุอย่างนั้นหรือ อ่า...จริงสิ มันคือบททดสอบที่พวกเรากับท่านอาจารย์ทำขึ้นไว้ เจ้าบอกว่าไปถึงบททดสอบบทที่ 5 อย่างนั้นเชียวหรือ”
ศิษย์เอกเกโดหลับตาลงพลางนึกคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา
“อืม ข้าเข้าใจแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์น้องอย่างเจ้าถึงมีดาบเล่มนี้อยู่ในมือ ฮ่าฮ่า มีพรสวรรค์จริงๆ หากเจ้าผ่านบททดสอบบทที่ 4 ที่มีพวกเราทั้ง 3 พิทักษ์ด่านได้ละก็ไม่แปลกที่ท่านอาจารย์จะฝากฝังดาบนี้ไว้กับเจ้า เจ้ามีเรื่องอะไรก็รีบแจ้งเราเถิด”
เจสเปอร์เล่าเรื่องทั้งหมดที่ปรมาจารย์เมนอสได้เตือนเอาไว้ให้กับศิษย์เอก เกโด จนหมด สีหน้าของ เกโด เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจและเคร่งเครียดไปในทันทีที่หลังทราบเรื่องทั้งหมด
“เจ้าได้ไปบอกศิษย์พี่คนอื่นๆแล้วหรือยัง” เกโดที่เคร่งเครียดถามออกมาแทบจะทันทีหลังจากที่เจสเปอร์พูดจบ
“ข้ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับศิษย์พี่ใหญ่คนอื่นๆ ศิษย์น้องคนนี้โง่เขลาไม่ทราบที่อยู่ของพวกท่านจึงได้แต่เดาสุ่มและอาศัยโชคในการออกตามหา”
เจสเปอร์แสดงละครต่อได้อย่างแนบเนียนแต่เรื่องที่พึ่งโชคที่นำมาตรงนี้คือเรื่องจริง แม้แต่ตัวเขาเองยังเกือบลืมไปเลยว่าเคยรับเควสตำนานนี้มาตอนทำบททดสอบ เนื่องจากระยะเวลาของเควสมีมากถึง 1 ปี ไม่มีแม้แต่ข้อมูลที่อยู่ของศิษย์เอกทั้ง 3 ทำให้เขาเองไม่ได้โฟกัสไปที่เควสตำนานมากเท่าที่ควร
“เอาล่ะอย่าโทษตัวเองไปเลย เจ้าทำได้ดีมากแล้วเป็นพวกเราเองที่ปกปิดและหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน หลังจากนี้ข้าจะกลับไปที่สภาผู้ควบคุมธาตุเพื่อเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อม หน้าที่ของเจ้ายังคงเป็นเช่นเดิมคือการออกตามหาศิษย์เอกคนอื่นๆอีก 2 คน”
“ข้าทราบแล้วแต่ศิษย์พี่ใหญ่อีก 2 คนอยู่ที่ใด ท่านศิษย์พี่เกโดได้โปรดชี้ทางสว่างให้กับข้าด้วย”
ถึงแม้จะเป็นเควสระดับตำนาน ถึงยังไงก็ต้องมีคำใบ้หลุดรอดออกมาให้ผู้เล่นได้รับรู้บาง แต่คำใบ้ก็คงไม่ใช่อะไรที่จะตามหาได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน
“พวกเราเลือกที่จะหลบซ่อนและปกปิดตัวตนให้ออกห่างจากโลกภายนอก ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นอยู่ที่ใด เพราะหลังจากที่แยกย้ายกันไปพวกเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่ข้าพอจะรู้ตำแหน่งคร่าวๆของซีริคที่น่าจะอยู่แถวๆเมืองหนาว ถ้าให้ข้าเดาคงเป็นอยู่ที่เมืองแบล็คแคสเทิล”
“แบล็คแคสเทิล!!”
เมื่อได้รับรู้ตำแหน่งที่ เกโด เผยออกมาสีหน้าของเขาก็หมองคล้ำลงทันที เควสตำนานนี้คงไม่มีที่สามารถทำมันได้สำเร็จอีกต่อไปแล้ว และเขาเองก็จะโดนลงโทษจากระบบอย่างไม่ต้องสงสัย
“เหตุใดเจ้าถึงกลัวเมืองแบล็คแคสเทิล กันละที่นั่นเต็มไปด้วยผู้คนมากมายไม่ใช่หรือไงกัน” เกโดที่สัมผัสความตื่นกลัวที่เจสเปอร์แสดงออกมาได้ก็กล่าวถาม
“เมืองแบล็คแคสเทิล ไม่หลงเหลือผู้คนอยู่อีกแล้วบ้านเมืองถูกทะลายเสียหายเหลือไว้เพียงปราสาท ที่มี มังกรปีศาจ Xanidarth ปกครองไว้อยู่” เจสเปอร์เล่าเรื่องเหตุการณ์การบุกโจมตีของกองทัพปีศาจและมังกรปีศาจ Xanidarth เมื่อหลายปีก่อนให้ เกโด ฟัง
“มังกรปีศาจ Xanidarth!! ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงที่ผนึกของท่านอาจารย์เริ่มที่จะต้านพวกมันไว้ไม่อยู่เอาล่ะ ข้าพอจะรู้ทางเข้าลับใต้ดินที่นั้น นี้คือแผนที่ดั้งเดิมจงรับมันไป”
เจสเปอร์รับแผนที่ที่ค่อนหน้าตาค่อนข้างเก่ามาไว้พร้อมกับเปิดมันออก แผนที่นี้แตกต่างจากแผนที่ปัจจุบันไปอย่างมากจนแทบจะดูไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ บ้านเมืองที่ตั้งอยู่ในปัจจุบัน เป็นที่ว่างร้างเปล่า ส่วนบ้านเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีตกลับกลายเป็นซากโบราณสถานที่ถูกทำลาย แต่มีหลายสิ่งที่สะดุดตาเขาเป็นอย่างมากนั้นก็คือทางเดินลับใต้ดินที่คอยเชื่อมต่อจุดทางเข้าต่างๆเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่าหรือดินแดนล้วนอยู่ในเส้นทางเดินนี้เอาไว้ทั้งหมด
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางเดินใต้ดินพวกนี้จะถูกค้นพบไปแล้วหรือยัง บางส่วนอาจจะถูกถล่มไปแล้วก็เป็นได้แต่ข้าเชื่อว่ามันยังพอมีประโยชน์สำหรับเจ้าไม่มากก็น้อย” เกโดในตอนนี้เริ่มเก็บเอกสารต่างๆภายในห้องลับแห่งนี้อย่างช้าๆเพื่อเตรียมออกเดินทางกลับไปยังสมาคมผู้ควบคุมธาตุที่อยู่ในอาณาจักรโกลด์สตาร์
เกโดยังคงเก็บของต่อไปโดยไม่สนการมีอยู่ของเจสเปอร์แม้แต่น้อย เจสเปอร์หยิบดาบอีเทอนัลวอร์เบลดที่กลืนกินพลังเวทมนต์ภายในห้องนี้ออกมาดูอย่างช้าๆก็พบว่า มีการพัฒนาไปถึงขั้นที่ 3 แล้ว
[Eternal Menos Warblade : เขียว(เติบโต)]
[พลังโจมตี : 149-187]
[เลเวลขั้นต่ำ : 15]
[สถานะ : ค่าพละกำลัง+ 12 , ความว่องไว+12,สติปัญญา+21,เมื่อสังหารศัตรูมีโอกาสได้พลังเวทมนต์ฟื้นคืนเล็กน้อย]
[ไอเท็มผูกมัด ไม่สามารถขายหรือมอบให้แก่ผู้อื่นได้]
[การเติบโตขั้นที่ 3 : ดาบเล่มนี้กำลังคืนสภาพของตัวมัน......... ดาบอีเทอนัลวอร์เบลดมีการกลืนกินที่น่ากลัวทำให้แหล่งพลังที่อยู่รอบๆตัวมันถูกกลืนกินเข้าไปด้วยหลังจากที่มันได้รับพลังเวทมนต์ที่คุ้นเคยเข้าไปทำให้มันกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง]
ดาบเติบโตไปถึงขั้นที่ 3 แล้วยิงเติบโตและกลือนกินมาเท่าไร การต่อต้านของมันก็เริ่มมากยิ่งขึ้น เจสเปอร์ยังคงเป็นกังวลเรื่องนี้อยู่บางแต่ทางเดียวที่จะควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์คือเขาต้องแข็งแกร่งกว่านี้และสยบดาบที่พยศเล่มนี้ให้จงได้
หลังจากที่เกโดเก็บของเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินมาพร้อมกับแร่ Telelium อีกหนึ่งก้อนพร้อมๆกับส่งมันมาทางเขา
“ดูเหมือนว่าแร่ Telelium ชิ้นนี้จะถูกดาบอีเทอนัลวอร์เบลดของท่านอาจารย์ดูดกลืนพลังของมันไปมากพอตัว จนไม่มีประโยชน์อันใดแก่ข้าอีก เจ้าจงนำแร่นี้กลับไปกับเจ้าเถิดเพื่อพัฒนาดาบของอาจารย์ให้แข็งแกร่งโดยไว”
เกโดสนทนากับเจสเปอร์อีกไม่กี่ประโยคก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เจสเปอร์อยู่ในห้องที่เกือบจะว่างเปล่าโดยลำพัง ดูเหมือนการได้พบเจอกับเกโดโดยบังเอิญจะนำผลกำไรมาให้เขาได้อย่างมากมายมหาศาล
เจสเปอร์เปิดแผนที่ที่ได้รับมาของเกโดขึ้นมาเพื่อหาทางออก จนในที่สุดเขาก็เปิดทางลับที่อยู่ใต้เก้าอี้ของเมดูซ่าออกมาได้ โดยมีเพื่อนๆในปาร์ตี้ต่างนั่งคอยเขาอยู่อย่างสีหน้าเป็นห่วง ริคเตอร์ที่ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ขอตัวกลับเมืองเพื่อออฟไลน์
“เกิดอะไรขึ้นเจสเปอร์ ฉันไม่สามารถส่งข้อความหานายได้เลย”
“ส่งข้อความก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ อืมๆเข้าใจแล้ว”
เจสเปอร์เล่าเรื่องทางลับใต้ดินให้กับเพื่อนในปาร์ตี้ได้ฟังจนละเอียดแต่ก็เลือกที่จะปิดบังเควสตำนานเอาไว้อยู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจเพื่อนของตนเอง แต่เควสในตำนานอันตรายเกินไปและเขากลัวว่าเพื่อนของเขาจะเป็นห่วงไปมากกว่านี้
“เราได้แร่ Telelium มาแล้วแถมระหว่างที่รอนายกลับมา พวกเรากับคราซ่าก็ขุดแร่บริเวณนี้ออกมาได้อีกหลายก้อนเลยดูสิ” คราวนี้เป็นโบม่อนที่ชิงพูดได้บาง ทุกคนต่างส่งแร่ที่ขุดได้มาให้เจสเปอร์ตรวจสอบทั้งหมด
ตลอดการเดินทางกลับจากภูเขาแรร์เอิร์ธเป็นไปอย่างสงบสุข แต่ความสงบมักมาพร้อมกับปัญหาลูกใหญ่ที่กำลังจะถาโถม
.............
ภายห้องส่วนตัวของสมาคมกิลด์ มีชายคนนึงกับพรรคพวกของเขากำลังล้อมวงประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
“เราจะเอาแผนนี้จริงหรือหัวหน้า”
“พวกเราต้องจัดการพวกมันให้เด็ดขาด ดูความเสียหายที่มันทำกับกิลด์ของพวกเราสิ ลืมกันไปแล้วหรือยังไง” โอไบรอันตวาดลั่นห้อง ด้วยสีหน้าที่โกรธจัด
“พวกเราไม่ลืมอย่างแน่นอน ถ้าหัวหน้ายืนยันแบบนั่นพวกเราก็พร้อมที่จะจัดการ ให้พวกมันได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของกิลด์ Blackrat”
“ใช่มันต้องอย่างนี้ แม้หัวหน้าของเราจะต้องสูญเสียไป 1 หนึ่งเลเวลเพราะแผนชั่วของเจ้าเจสเปอร์ แต่หัวหน้าของพวกเราก็ยังคงแข็งแกร่งติด 1 ใน 10 ผู้นำของอาณาจักรอยู่ดี ผิดกับไอ้เลวเจสเปอร์และลูอิสคนทรยศ ที่จนป่านนี้ยังทำไม่ได้ถึงครึ่งของหัวหน้าเรา”
กิลด์ Black rat ที่อยู่ภายในห้องต่างหยอกล้อกันและกันภายในห้องส่วนตัว โดยมีโอไบรอันหัวหน้ากิลด์เป็นคนเปิดการสนทนานี้ขึ้นมา โดยมีแผนที่จะดักสุ่มโจมตีเล่นงานปาร์ตี้ของเจสเปอร์ในวันพรุ่งนี้แต่การดักสุ่มครั้งนี้จำเป็นที่ต้องทำกันนอกเมือง โอไบรอันที่หยิ่งผยองกับการได้เป็น 1 ใน 10 อันดับแรก ยิ้มกริ่มด้วยเคียดแค้น
‘คอยดูเถอะ ไอ้ลูกหมาเจสเปอร์แกกล้ามากที่จะมาลองดีกับฉัน ฉันจะทำให้แกไม่กล้าที่จะอยู่เมืองอัลคาเดียนี้อีกเลย’
โอไบรอันกำดาบในมือของตนเองด้วยความโมโห เขายังจำรสชาติของแผลที่เขาถูกเจสเปอร์สังหารได้อย่างดี 1 เลเวลกับไอเท็มส่วนนึงถูกชิงไปโดยลูกไม้สกปรก ที่เสียไปจะต้องได้รับการแก้แค้น สมาชิกในกิลด์ Black Rat เองก็มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวเช่นกัน พวกเขาต่างถูกจับกลุ่ม คุมขังในคุกที่ทั้งมือและเน่าเหม็นถึง 2 วัน โทสะทั้งหมดที่มีจะถูกนำมาลงที่แก เจสเปอร์
...โปรดติดตามตอนต่อไป...