PTH44 ไม่ใช่ศัตรูแต่ไม่อยากพบ
“โห!” เว่ยสั่วอุทาน
ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกมากมาย ไขว้ผสานจนดูซับซ้อน หากไม่ได้นางนำทางคงไม่มีทางพบหญ้าหยกเมฆา
เว่ยสั่วไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงรู้ว่าในถ้ำแห่งนี้มีหญ้าหยกเมฆาอยู่ อีกอย่างนางรู้ด้วยว่ามีอสูรอะไรอยู่ในนี้บ้าง
หลังจากเดินตามนางไปไม่นานก็พบถ้ำแห่งหนึ่ง มีขนาดใหญ่นัก ทางเข้าถ้ำเพียงพอให้คนเดินเข้าไปได้เพียงสองคน
ตำแหน่งที่หญ้าหยกเมฆาอยู่นั้นไม่ห่างจากบริเวณที่เหยี่ยววิญญาณวายุอยู่มากนัก เหยี่ยววิญญาณวายุคือนกที่มีขนาดใหญ่ ขนวาบวับราวกับแผ่นโลหะ จงอยปากขนาดใหญ่ดูคล้ายเหยี่ยว กรงเล็บแหลมคมดูทรงพลัง
ถัดจากเหยี่ยววิญญาณวายุ มีกลุ่มตั๊กแตนน้ำแข็งอยู่ประมาณ 30 ตัว ดวงตาที่แดงฉานของพวกมันดูน่าสะพรึงกลัว เคียวคมกริบ แผ่กลิ่นอายปราณน้ำแข็งเหมือนแมงมุมใยน้ำแข็ง
“อีกไม่นานหญ้าหยกเมฆาก็จะโตเต็มที่แล้ว!”
เว่ยสั่วมองเห็นหญ้าหยกเมฆาที่กำลังเปล่งแสง ส่งกลิ่นหอมเย้ายวลราวกับอีกไม่นานมันจะเติบโตเต็มที่
“พวกมันยังไม่เคลื่อนไหว”
หนานกงยู่ฉิงและเว่ยสั่วมองหน้ากัน อสูรทั้งสองฝ่ายยังไม่มีฝ่ายไหนลงมือ
ตั๊กแตนน้ำแข็งราวกับกำลังเตรียมการบางอย่าง ในกลุ่มพวกมันจ่าฝูง ร่างกายใหญ่กว่าตั๊กแตนทั่วไป จ่าฝูงออกคำสั่ง ปีกที่แผ่นหลังของพวกมันสั่นไหวราวกับเตรียมพร้อม ในเวลานั้นเอง จ่าฝูงอากปากพ่นน้ำแข็ง 3 สายจู่โจมไปยังทิศทางที่เหยี่ยววิญญาณวายุอยู่
“หืม… อสูรพวกนี้แข็งแกร่งมาก”
ในขณะที่เว่ยสั่วกล่าว การจู่โจมของตั๊กแตนน้ำแข็งก็เข้าใกล้เหยี่ยววิญญาณวายุ แต่เหยี่ยววิญญาณวายุกลับไม่ขยับ แค่อ้าปากขนาดใหญ่ พ่นปราณกระบี่วายุออกมาพร้อมกับเสียงคำราม กระบี่วายุแต่ละเล่มทรงพลังไม่ต่างจากปราณกระบี่วารีของเว่ยสั่ว
หากอสรพิษยักษ์ที่เคยพบเป็นอสูรระดับ 4 ที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5 ได้ เหยี่ยววิญญาณวายุตัวนี้น่าจะแข็งแกร่งพอที่จะต่อกับเขตขั้นวัฏจักรสวรรค์ที่ 1 ได้
ตูม ตูม ตูม
ปราณกระบี่วายุและปราณน้ำแข็งเข้าปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่น ปราณกระบี่วายุจำนวนหนึ่งหลุดรอดไปยังเหล่าตั๊กแตนน้ำแข็ง ฟาดฟันพวกมันจนโลหิตสาดดกระจาย แต่ปราณน้ำแข็งที่ตั๊กแตนเหล่านั้นปล่อยมาก็หลุดรอดไปยังเหยี่ยววิญญาณวายุเช่นกัน
ด้วยที่เพิ่งใช้ปราณกระบี่วายุไป เหยี่ยววิญญาณวายุยังไม่สามารถใช้ปราณกระบี่ต่อได้ทันที มันจึงสะบัดขนบนร่างเข้าต้านปราณน้ำแข็งที่ตรงเข้ามา
ฉากที่เกิดขึ้น เว่ยสั่วแทบกลืนน้ำลาย เพราะอานุภาพของขนเหยี่ยววิญญาณวายุ ไม่ได้ด้อยไปกว่าปราณกระบี่วายุ สามารถ หักล้างทำลายปราณน้ำแข็งทั้งหมด ทั้งยังตรงเข้าปลิดชีพตั๊กแตนน้ำแข็งไปหลายตัว
ในชั่วพริบตาถัดมา เงาร่างของเหยี่ยววิญญาณวายุหายไป ก่อนจะปรากฏขึ้นยังตำแหน่งเดิมพร้อมกับศีรษะของตั๊กแตนน้ำแข็ง 3 ตัวในปาก อีก 4 ตัวอยู่ใต้กรงเล็บที่แข็งแกร่ง
ยามนี้ตั๊กแตนน้ำแข็งเหลืออยู่ไม่มาก จ่าฝูงของพวกมันสั่งให้รวมตัว ผสานปราณน้ำแข็งจู่โจม ก่อนจะหนีออกจากถ้ำ
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
ปราณน้ำแข็งผสานก่อตัวเป็นกำแพงหนาอย่างรวดเร็ว ตั๊กแตนน้ำแข็งที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งหนีไม่ทัน ถูกแช่แข็งผนึกไปพร้อมกับกำแพง
การดิ้นรนเอาตัวรอดของเหล่าตั๊กแตนน้ำแข็งทำให้เหยี่ยววิญญาณวายุมองพวกมันด้วยสายตาเย้ยหยัน มันอ้าปากพ่นปราณกระบี่วายุเข้าทำลายกำแพงน้ำแข็งในพริบตา
แต่ในชั่วลมหายใจถัดมา ปราณกระบี่น้ำแข็งสองสายปรากฏขึ้นไม่ทราบที่มา ฟาดฟันเข้าที่ร่างของเหยี่ยววิญญาณวายุจนเกิดแผล
เหยี่ยววายุเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด กำแพงน้ำแข็งเมื่อครู่เพียงอำพรางปราณกระบี่น้ำแข็ง
แต่เมื่อกำแพงน้ำแข็งถูกทำลาย ตั๊กแตนน้ำแข็งไร้เกราะป้องกัน เหยี่ยววิญญาณวายุที่โกรธเกรี้ยว สะบัดปีกส่งขนที่คมกริบเข้าใส่
จ่าฝูงตั๊กแตนราวกับรู้ว่าเหยี่ยววิญญาณน้ำแข็งจะตอบโต้ มันเร่งหดหัวและเกรงขาคู่หลังขนาดใหญ่ ถ่ายปราณเข้าไปภายในเสริมอานุภาพให้แข็งแกร่งราวกับเป็นกระบี่ยักษ์เพื่อใช้ต้านรับ
แม้ว่ามันจะมั่นใจในการป้องกันของตน แต่ทันทีที่ขาทั้งสองข้างปะทะกับปราณกระบี่วายุของเหยี่ยววิญญาณวายุ สีหน้าจ่าฝูงตั๊กแตนแปรเปลี่ยนหวาดกลัว เสียงแคร้กดังขึ้น ขาทั้งสองข้างไม่อาจทานอานุภาพการจู่โจม ซ้ำร้าย ร่างกายและแก่นอสูรของมันยังถูกปราณกระบี่วายุฟาดฟันจนขาด
เมื่อจ่าฝูงตั๊กแตนถูกสังหาร ตั๊กแตนตัวอื่นๆก็ไม่อาจรอดพ้นความตาย
เหยี่ยววิญญาณวายุหันมองหญ้าหยกเมฆา ยามนี้ใบของมันกางเต็มที่ ภายในใบที่กางออก เผยให้เห็นสปอร์ขนาดเท่าไข่มุกสีขาวกระจ่างใส ราวกับถึงเวลาให้เก็บเกี่ยวแล้ว
แววตาเหยี่ยววิญญาณวายุแปรเปลี่ยนดีใจ อ้าปากหมายจะกัดกินหญ้าหยกเมฆา แต่ในชั่วพริบตานั้น เงาร่างสองสายปรากฏขึ้นโดยไร้ซุ่มเสียง ทะยานตรงเข้าด้านหลังเหยี่ยววิญญาณวายุ ลงมือจู่โจมเข้าใส่อย่างรวดเร็วจนมันไม่อาจตอบโต้ได้ทัน
ตูม ตูม ตูม
การจู่โจมระดมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ปรากฏตัวคือเว่ยสั่ว ระดมจุดยันต์เพลิงจู่โจมเข้าใส่ หนานกงยู่ฉิงจู่โจมบริเวณหน้าท้องของมันอย่างหนักหน่วง หวังถอนขนคุ้มกายของมันออก
แต่ด้วยที่มันเป็นอสูรระดับสูง แม้จะถูกกุ้มรุมโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ยังสามารถตอบโต้เว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิงได้
ในชั่วพริบตาเดียวกัน หนานกงยู่ฉิงนำอาวุธของตนออกมา ระดมจู่โจมอย่างต่อเนื่องจนทำให้ขนปกคลุมกายแทบจะหลุดร่วงไปทั้งหมด
เมื่อไร้ซึ่งขนป้องกัน เว่ยสั่วจุดยันต์เพลิงจำนวนมากเข้าแผดเผาจนทำให้เหยี่ยววิญญาณวายุดูไม่ต่างจากไก่ย่าง
แม้เหยี่ยววิญญาณวายุจะทรงพลัง แต่เมื่อโดนยันต์เพลิงกระหน่ำเข้าไปถึง 20 แผ่น มันก็ไม่อาจยื้อชีวิตได้อีก นับว่าโชคดีที่ตั๊กแตนน้ำแข็งพวกนั้นเป็นฝ่ายเริ่มยั่วยุเหยี่ยววิญญาณวายุก่อน จึงถูกสังหารไปจนหมดโดยที่เว่ยสั่วไม่ต้องลงมือ
เมื่อไร้ผู้ขัดขวาง หญ้าหยกเมฆาที่งดงามก็เป็นของเว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิง
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
หนานกงยู่ฉิงและเว่ยสั่วหัวเราะด้วยความดีใจ แต่ขณะที่ทั้งสองกำลังจะไปเก็บหญ้าหยกเมฆา กลับมีเสียงของบางคนดังขึ้น “พวกเจ้าจัดหมดแล้วเหรอ?”
เว่ยสั่วประหลาดใจ แต่เมื่อหันกลับไปดูเขากลับหัวใจแทบวาย เพราะผู้ที่มาคือสตรีในอาภรณ์เงินผู้นั้น...