HPST ตอนที่ 2 : รุ่นพี่ในอนาคต
HPST ตอนที่ 2 : รุ่นพี่ในอนาคต
อีวานทำใจให้สงบ แล้วเดินตามหลังพ่อแม่ของเขาเข้าไปในบ้าน
สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ เวอร์นอน เดอสลี่ย์ ในชุดที่ดูเป็นทางการ พร้อมกับหูกระต่าย ยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้นและดูกล้าหาญเหมือนดั่งสิงโต
“สวัสดีตอนเย็นครับ!”
“สวัสดีตอนเย็นครับ คุณและคุณนายมาสัน”พร้อมกับรอยยิ้มประหลาดๆของเขา “ส่งเสื้อคลุมมาให้ผมได้ไหมครับ”
“ขอบคุณค่ะ , อีวาน!”แม่ของอีวาน ดึงอีวานออกมาจากข้างหลังของเธอ พร้อมทั้งแนะนำตัวของเขาให้กับ ดัดลี่ย์ “นี่คืออีวานจ้ะ ฝากดูแลเขาตอนเขาเข้าเรียนหลังจากนี้ด้วยนะจ๊ะ”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับคุณนาย”
พอได้เห็นดัดลี่ย์พุ่งเขามาทำท่าเหมือนจะกอดเขา อีวานได้ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว แล้วก็หมุนตัวเดินตามพ่อแม่ของเขาเข้าไปในห้องรับแขกขณะพูดคุยอย่างสุภาพ และแอบมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
เพื่อการพบปะวันนี้ บ้านของพวกเขาถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่ไกลจากห้องครัว กลิ่นหอมๆของพุดดิ้งสำหรับมื้อเย็นวันนี้ก็โชยเข้ามา บนโต๊ะยังมีเค้กสีครีมขนาดใหญ่ และมีเสียงของบาร์บีคิวชิ้นใหญ่ดังออกมาจากในเตาอบ
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่อีวานต้องการจะตามหา ตามที่หนังสือได้อธิบายไว้ว่า ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ของแฮรี่ที่เห็นได้ชัด มันทำให้ชัดเจนว่า ครอบครัวเดอสลีย์ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับหลานชายที่แสนจะแปลกประหลาดของพวกเขา
อีวานรู้สึกขุ่นเคืองใจเล็กน้อย เด็กน้อยที่โชคร้ายคนนี้ เขาควรจะหลบซ่อนอยู่ในห้องเล็กๆที่ชั้นบน โดยไม่แม้แต่จะมีเสียงเดียวเล็ดรอดออกมา นั้นเพื่อจะทำให้มีไม่ใครได้รู้ถึงการดำรงอยู่ของเขา
เขารู้สึกว่านี่มันจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“ขอโทษครับคุณเดอส์ลีย์...” อีวานขัดขึ้นมาระหว่างมุกตลกเกี่ยวกับนักกอล์ฟชาวญี่ปุ่น “เอ่อ...คือว่าผมไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวบ้านคนอื่นสักเท่าไหร่ ผมเลยค่อนข้างจะอยากรู้เกี่ยวกับที่นี่ให้มากขึ้น ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมอยากให้ดัดลีย์พาผมไปเดินดูรอบๆก่อนมื้อเย็นจะได้ไหมครับ”
“ไม่มีปัญหา ให้ดัดลีย์พาเธอไปเล่นเป็นเพื่อนที่ห้องของเขาแล้วเล่นเกมใหม่ของเขาดูสิ” มันดูเหมือนกับว่าด้วยอายุของอีวาน เลยทำให้เขาน่าจะไม่เข้าใจมุกตลกนักกอล์ฟที่เขากำลังเล่าอยู่ เลยทำให้เวอร์นอน เดอสลี่ย์กล่าวตกลง “เธอไปเล่นจนก่อนถึงตอนอาหารเย็นเสร็จแล้วกัน เดี้ยวฉันจะให้เพ็ตทูเนียเดินขึ้นไปเรียกตอนถึงเวลานะ”
ดัดลีย์ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่ก็เดินออกจากห้องรับแขกพร้อมกับอีวาน ตามแผนการที่วางไว้เขาควรที่จะอยู่ตรงนี้แล้วคอยใช้คำพูดน่าฟังมาคอยเอาอกเอาใจคุณและคุณนายมาสันให้พอใจ แทนที่จะไปพาเด็กน้อยเดินเล่นไปรอบๆบ้าน
เขาพยายามอดกลั้นไม่พูดอะไรที่มันหยาบคายออกมา และมันเป็นความท้าทายสำหรับดัดลีย์เป็นอย่างมากที่จะทำให้มันประสบความสำเร็จ
พวกเขาก้าวขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน พร้อมกับฟังดัดลีย์บรรยายถึงเครื่องเล่นเกมเครื่องใหม่ของเขา ขณะที่มองเข้าไปยังห้องเล็กๆที่สุดทางเดิน โดยที่ประตูนั้นปิดอยู่
“นั้นมันห้องอะไรหรอ?”
“นั้นห้องของลูกพี่ลูกน้องของฉันน่ะ แต่เขาไม่ได้อยู่บ้านตอนนี้”
สีหน้าของดัดลีย์ดูไม่ค่อยปกติสักเท่าไร “พวกเรายังต้องไปที่ห้องของฉัน รีบไปกันเถอะ ห้องของชั้นอยู่ทางนี้….”
ยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยค พวกเขาก็ถูกขัดด้วยเสียงดังปั้ง ที่ดังออกมาจากห้องเล็กๆ ไม่กี่วินาทีต่อมาก่อนเขาจะได้ตะโกนห้าม เขาก็ได้เห็นเด็กผู้ชายข้างๆเขาเดินออกไปแล้วเปิดประตู
อีวานเปิดประตู ด้วยแสงสลัวๆ เขาก็ได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตู้เสื้อผ้า
เด็กคนนี้ตัวผอม ดวงตาสีเขียวสว่าง ผมสีดำ กับรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าเล็กๆบนหน้าผากของเขา
แฮรี่ พอตเตอร์มีความรู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาพึ่งจะเอา ‘ดอบบี้’ เอลฟ์ประจำบ้านใส่เขาไปในตู้เสื้อผ้า และประตูก็เปิดออก น่าแปลกใจที่นั่นไม่ใช่ลุงเวอร์นอน แต่กลับเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“สวัสดี นายน่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของดัดลีย์ใช่ไหม ชั้นอีวาน มาสัน ยินดีที่ได้รู้จัก”
อีวานยื่นมือขวาของเขาออกไป ในใจเต็มไปด้วยความยินดี ในที่สุดเขาก็ได้เจอกับแฮรี่ พอตเตอร์
“สวัสดี ชั้นชื่อแฮรี่ พอตเตอร์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก” แฮรี่พูดอย่างลังเล พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือกับอีวาน
ถ้าให้เขาเดา เขาน่าจะเป็นเด็กที่เข้ามาพร้อมกับคนที่จะมาคุยเรื่องธุรกิจในวันนี้ แต่แฮรี่ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะพูดคุยกับคนอื่นดีไหมเนื่องมาจากลุงเวอร์นอน บอกให้เขาควรจะอยู่เงียบๆในห้องของเขาและแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่มีตัวตน
แฮรี่ได้ยินลุงเวอร์นอนพูดถึงความสำคัญของมื้อเย็นวันนี้มานานไม่ต่ำกว่าสองสัปดาห์ได้แล้ว ถ้ามื้อเย็นล่มไม่เป็นท่าแล้ว เขาจินตการไม่ออกเลยว่าวันต่อมาจะได้เจออะไรบ้าง
ข้างนอกของห้อง ดัดสีย์กำลังเรียกให้อีวานออกไปแม้เขาจะรู้สึกแย่มากๆ แต่นี่เป็นอีกเรื่องที่แฮรี่เห็นด้วยกับดัดลีย์นอกจากเรื่องวันหยุดฤดูร้อน แถมในตู้เสื้อผ้าของเขายังมีเอลฟ์ประจำบ้านอยู่ข้างใน มันไม่ควรที่จะถูกเห็นโดยมักเกิ้ล
อีวานดูเหมือนจะไม่ได้ฟังดัดลีย์สักเท่าไหร่ เพราะความสนใจของเขาตกไปอยู่ที่กรงนกข้างๆหน้าต่าง ที่มีนกฮูกสีขาวเหมือนหิมะอยู่ข้างใน
“นั้นมันนกฮูกสีขาวนี่!” อีวานหันไปหาแฮรี่พร้อมกับถาม “มันชื่อว่าอะไร?”
“เฮ็ดวิก เธอเป็นสัตว์เลี้ยงของฉันน่ะ” แฮรี่เอิ้อมมือไปปิดประตูเงียบๆ
“ฉันเองก็อยากเลี้ยงสัตว์แบบนี้เหมือนกันนะ แต่แม่ของฉันน่ะสิ ดันเป็นพวกกลัวนก” อีวานหันไปพร้อมกับจ้องไปที่เฮ็ดวิก “ฉันให้อาหารเธอได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา แต่ฉันไม่มีอาหารอะไรเลยตอนนี้” แฮรี่ถอนหายใจ ตั้งแต่ลุงเวอร์นอนห้ามไม่ให้เขาเลี้ยงเฮ็ดวิก แฮรี่ก็ต้องเอาอาหารของเขามาให้เธอกินตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าร้อน
“เธอกินอะไรได้บ้างล่ะ ข้างล่างมีของกินเต็มไปหมดที่ห้องครัว”
“อีวาน แม่ฉันตะโกนเรียกให้พวกเราลงไปกินข้าวด้านล่างได้แล้ว” อีวานพูดไม่ทันจบ พวกเขาก็ถูกขัดจังหวะโดยดัดลีย์ที่มีความกล้าเสียที่ที่จะเดินเข้ามาในห้องของแฮรี่ เพื่อพาอีวานออกไป
“งั้นหลังกินมื้อเย็นเสร็จ ฉันจะกลับมาอีกที”
อีวานเดินตามหลังดัดลีย์ไป หลังจากก้าวไปได้สองก้าวเขาก็สังเกตว่าแฮรี่ไม่ได้เดินตามเขามาแม้แต่น้อย มันดูแปลกๆนะ “แฮรี่นายจะไม่มากับพวกเราหรอ?”
“ฉัน...ฉันไม่ไปน่ะ ฉันกินข้าวเย็นไปแล้ว!”
หลังจากนั้นก็มีเสียงร้องดังออกมาจากท้องของแฮรี่ แต่เขามั่นใจได้เลยว่าป้าเพ็ตทูเนียจะไม่มีความสุขแน่นอนเมื่อได้เห็นเขาอยู่ที่โต๊ะ
“ไม่เอาน่ะ ถึงนายจะกินไปแล้ว แต่มันก็ยังมีของหวานนะ” อีวานเดินตรงไปยังแฮรี่ และจับแขนของแฮรี่ไว้แน่นแล้วพูดต่อ “หลังจากนั้นเราจะได้หาอะไรสักอย่างมาให้เฮ็ดวิกกินไง ดูเหมือนเธอจะหิวแล้วนะ”
“นายทำอย่างงั้นไม่ได้นะ เขาจะมากินกับพวกเราไม่ได้” ดัดลีย์พูดปฏิเสธอีวานอย่างรวดเร็ว
“ทำไมล่ะ เขาไม่ใช้ลูกพี่ลูกน้องนายหรอกหรอ?”
“มันก็ใช่ แต่...” ดัดลีย์ไม่รู้จะเอาคำไหนมาอธิบายให้อีวาน “เขาไม่เหมือนพวกเรา เขามันพวกประหลาด”
“ประหลาดหรอ?!” อีวานขมดคิ้ว ขณะเขาเห็นแฮรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตื่นเต้นมาก ถึงขนาดลืมปิดประตูห้องของเขา
ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีสัตว์ประหลาดสีเขียวกระโดดออกมาจากตู้เสื้อผ้า ด้วยหูที่เหมือนปีกค้างคาวขนาดใหญ่และดวงตาสีเขียวคู่โตเหมือนกับลูกเทนนิส
อีวานพยายามนึกอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าเอลฟ์ประจำบ้าน จะหน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้
“ต่อหน้าด๊อบบี้ แกกล้ามาดูถูกท่านแฮรี่ พอตเตอร์ที่แสนจะยิ่งใหญ่ได้ยังไง” ด๊อบบี้ตะโกนออกมาพร้อมกับกระโดดจากตู้เสื้อผ้า
ก่อนที่ถูกคนจะตั้งตัวทัน เขาก็ยื่นมือออกมาพร้อมกับนิ้วชี้ข้างขวา ชี้ไปทางดัดลีย์
ทันใดนั้น แสงสีเขียวก็สว่างวาบขึ้นมาไปทั่วทั้งห้องพร้อมกับเสียงเบาๆ คล้ายๆกับเสียงนกหวีด ดัดลีย์กรีดร้องขึ้นมา หลังจากนั้นก็จับก้นอ้วนๆของเขาด้วยมือทั้งสองข้างแล้วกระโดดไปมาด้วยความเจ็บปวด อีวานเห็นหางหมูเป็นขดๆ โผล่ออกให้เห็นจากกางเกงของเขา