HPST ตอนที่ 10: ศาสตราจารย์สเนป
HPST ตอนที่ 10: ศาสตราจารย์สเนป
ถ้าให้อีวานพูดถึงทริปนี้ในหนึ่งคำ คำนั้นคงเป็นคำว่า‘แย่’
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพิจารณาถึงตอนที่พวกเขามาถึงฮอกวอตส์ รถดันน้ำมันหมดและไปชนเข้ากับต้นวิลโลว์จอมหวด ทำให้มันเป็นทริปแห่งหายนะจริงๆ
กิ่งไม้ทุบไปที่รถ อีวานหลับตาของเขาจากความกลัว ขณะที่ได้ยินแฮรี่กับรอนกรีดร้องไปด้วย
รถยนต์เสียหายแทบจะทั้งคัน เศษกระจกบาดใบหน้าของพวกเขา
อีวานพยายามดึงไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ รถกำลังสั่นคลอนอย่างแรงทำให้แฮร์รี่กับรอนชนเข้ากับเขา ข้างนอกนั้น กิ่งก้านของมันใหญ่พอ ๆ กับรถ กำลังทุบหลังคารถทำให้มันบุบลง
“วิ่งงงงง!” รอนตะโกนออกมาแล้วเปิดประตูด้วยกำลังทั้งหมดที่เขา แต่เขาก็ถูกตบกลับเข้าไปด้วยกิ่งอีกอัน
“พวกเราเสร็จแน่” ถ้ากิ่งตีเข้ากับหลังคารถอีกครั้ง หลังคารถได้พังลงมาอย่างแน่นอน
ทันทีที่ทั้งสามถอดใจ อยู่ๆรถก็สตาร์ทขึ้นมาแล้วขับพาพวกเขาทั้งสามออกไปตรงนั้น
ก่อนที่อีวานจะมีโอกาสถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาก็ถูกโยนออกจากรถ และข้างๆเขาคือแฮร์รี่,รอน และกระเป๋าของทั้งสามคน จากนั้นเขาเห็นรถขับออกไปไกล
“นายว่าพวกเราโชคร้ายเกินไปหรือเปล่า ต้นไม้มีตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมต้องมาชนกับต้นที่มันทุบเราคืนได้” รอนพูดอย่างฉุนเฉียวขณะมองไปที่ไม้กายสิทธิ์ของเขาที่หักไปตอนที่แลนดิ้ง มันมีแค่ไม่กี่ชิ้นที่ยังติดกันเป็นชิ้น
เขามองกลับไปที่ต้นไม้ที่หมุนแขนของมันอย่างคุกคาม
“รีบไปกันเถอะ” แฮรี่พูดขึ้นอย่างเหน็ดเหนื่อย “พวกเราต้องเข้าไปปราสาทเดี้ยวนี้ เพราะอีวานต้องได้รับการคัดสรรเข้าบ้าน”
นี่ไม่ใช่สิ่งที่รอนกับแฮรี่คิดว่าจะมาโรงเรียนกันแบบนี้ เด็กหนุ่มสานคนทั้งหนาวและเจ็บไปทั้งตัว พวกเขาคว้ากางเกงของเขา และลากมันเข้าไปในประตูโอ๊ค
“ดูสิ พวกเขาเริ่มไปแล้ว” รอนพูดขณะมองเข้าไปในหน้าตา “พวกเราต้องรีบแล้ว ฉันเห็นศาสตราจารย์มักกอนนากัล เอาหมวกคัดสรรออกมา”
แฮรี่กับอีวานมองเข้าไปในหน้าต่าง ตรงที่รอนชี้ไป
ในโถงใหญ่ เทียนนับไม่ถ้วนลอยอยู่กลางอากาศ ด้านล่างคือต้นอาหารยาวที่เต็มไปด้วยผู้คน เรียงรายด้วยจานสีทองและแก้วน้ำ และดวงดาวมากมายทอแสงอยู่บนเพดาน
จากที่อีวานเคยอ่านในประวัติศาสตร์ของฮอกวอตส์ เพดานถูกร่ายมนต์ในสะท้อนท้องฟ้าด้านนอก
อีวานเห็นนักเรียนใหม่ตั้งแถวยาว หนึ่งในนั้นคือจินนี่ ที่กำลังมองไปรอบๆเพื่อหาพวกเขา
ไม่นานหลังจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลวางหมวกคัดแยกฮอกวอตส์ลงบนเก้าอี้หน้านักเรียนใหม่
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเริ่มประกาศชื่อและเด็กหนุ่มผมบลอนด์เดินออกมา แล้วสวมหมวกคัดสรร
“จากโถงทางเดินไปที่โถงหลักน่าจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที ฉันหวังว่าพีฟส์ (Peeves) จะมาขวางเรานะ”
“เดี้ยวก่อน!” แฮรี่พูดเสียงเบา “มีที่ว่างตรงโต๊ะของอาจารย์ สเนปไปไหน?”
“ใครจะรู้ บางทีเขาอาจจะป่วย” รอนตอบอย่างมีหวัง
“บางทีเค้าอาจจะลาออกเพราะเขาเป็นอาจารย์วิชาป้องกันศาสตร์มืดไม่ได้” แฮรี่พูดอย่างตื่นเต้น
“บางทีเค้าอาจจะถูกไล่ออกเพราะมีคนเกลียดเขาเยอะแยะไปหมด!” รอนพูดด้วยความตื่นเต้น
“บางทีเค้าอาจจะยืนรอเราอยู่ที่ประตู เพื่อฟังคำอธิบายจากพวกเราว่าทำไมพวกเราไม่นั่งรถไฟมาโรงเรียน” อีวานถอนหายใจ
เขาเห็นชายร่างผอมที่มีผิวขาวซีด จมูกใหญ่ทรงตะขอ และฟันสีเหลืองที่ไม่สม่ำเสมอ ยืนอยู่ด้านนอกประตูปราสาท มองพวกเขาอย่างเย็นชา
รอยยิ้มบนใบหน้าของสเนปบอกพวกเขาทั้งสามว่าพวกเขาเจอปัญหาเข้าแล้ว
“ดูสิ ฉันเจอใคร แฮรี่ พอตเตอร์คนดัง กับผู้ติดตามทั้งสอง” อีวานรู้สึกได้ถึงสายตาที่น่ารังเกียจของสเนปที่มองผ่านเขาไป “พวกเธอคงจะเบื่อรถไฟโรงเรียน แล้วตัดสินใจหาความสุขเล็กๆสินะ”
“ศาสตราจารย์ พวกเราไม่สามารถจะผ่านทางเข้าที่สถานีคิง...”
“เงียบ!” สเนปพูดอย่างเย็นชา “ตามชั้นมา!”
แฮร์รี่ อีวานและรอนตามสเนปขึ้นบันไดไปยังโถงทางเข้าอันกว้างขวาง ซึ่งสะท้อนด้วยแสงคบเพลิง กลิ่นของอาหารอร่อยโชยออกมาจากโถงหลัง แต่สเนปก็นำพวกเขาออกจากความอบอุ่นและแสงสว่าง ลงมาที่บันได้หินแคบๆลงไปที่ดันเจี้ยนด้านล่าง
“ศาสตราจารย์ พวกเราต้องไปที่โถงหลัง” แฮรี่รวบรวมความกล้าพูดออกไป
“เงียบ!” สเนปขัดแฮรี่อีกครั้ง “เข้าไป!” เขาพูด แง้มประตูออกมาแล้วชี้ไปตรงนั้น
ภายใต้การจับตาของสเนป พวกเขาทั้งสามสั่นเทาในห้องทำงานของเขา
บนกำแพงมืดๆถูกเรียงรายไปด้วยชั้นที่มีโหลแก้ววางอยู่ ซึ่งมีสิ่งที่น่าสยดสยองดองไว้อยู่ในนั้น เตาผิงนั้นดำมืดและว่างเปล่า
สเนปปิดประตู แล้วหันมามองที่พวกเขา
อสรพิษร้ายจ้องมองเหยื่อของเขาก่อนจะเอ่ยถาม “พวกเธอทำอะไรมากับรถนั่น?”
“อะไรนะ?” รอนอุทาน เขากำลังสงสัยว่าสเนปรู้เกี่ยวกับรถได้อย่างไรหรือเขาสามารถอ่านความคิดได้
“วีสลีย์ คิดสิ ฉันรู้ว่าในสมองเธอคงว่างเปล่าแต่ฉันอ่านความคิดเธอไม่ได้” สเนปหยิบเดลี่พรอเฟ็ตขึ้นมา “พวกเธอถูกเห็น!”
เขาโชว์ให้ทั้งสามเห็นหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์: ‘รถฟอร์ดบินได้ทำให้มักเกิ้ลประหลาดใจ’
เขาเริ่มที่จะอ่านออกมา “มักเกิ้ลสองคนในลอนดอน ทำใจให้เชื่อว่าตัวเองเห็นรถเก่าๆบินข้ามตึกไปรษณีย์ ในตอนเที่ยงที่นอร์ธโฟล์ก,คุณนายเฮตตี้ เบลิส,ตอนเธอกำลังตากผ้า…..แองกัส ฟลีท ที่พีบเบิล แจ้งตำรวจ….หกหรือเจ็ดมักเกิ้ลได้ ถ้าจำไม่ผิดพ่อของเธอทำงานอยู่ฝ่ายการใช้สิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลในทางที่ผิด?” เขาพูดพร้อมกับมองไปที่รอนแล้วก็ยิ้มอย่างน่ารังเกลียด “แหม่ แหม่….ลูกชายของเขา…...”
อีวานพึ่งสังเกตว่าแฮรี่กับรอนมีท่าทีที่สลด และดูเหมือนกับคิดว่าถ้าผู้คนได้รู้เข้า คุณวีสลีย์ได้ปรับแต่งรถให้บินได้ ผลรับที่ตามมาจะหายนะแค่ไหน
“หลังจากการค้นไปรอบๆสวน ฉันได้พบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ดูเหมือนจะเกิดเขึ้นที่ต้นวิลโลว์จอมหวดที่แสนมีค่านะ”
“ต้นไม้นั่นทำความเสียหายได้เยอะกว่าพวกเราเสียอีก” รอนบ่นออกมา
“เงียบ!” สเนปขัดอีกครั้ง สายตาของเขาเปลี่ยนไปที่อีวาน “และก็คุณ คุณอีวาน เมสัน ฉันคิดว่าคุณน่าจะเป็นนักเรียนคนแรกที่ถูกไล่ออกในวันแรกของการเรียน”
“ไม่ คุณจะไล่อีวานออกไม่ได้” แฮรี่ตะโกน
“ก็เห็นๆว่าฉันมีสิทธิ!” สเนปหันกลับไปมองที่แฮรี่กับรอน “แต่น่าเสียดายที่พวกเธอไม่ได้อยู่บ้านของฉัน และการตัดสินใจไล่พวกเธอออกก็ไม่ได้อยู่ที่ฉันด้วย ดังนั้นฉันไปพาคนที่มีความสามารถที่จะทำมันได้มา พวกเธอรออยู่ที่นี่ ฉันไปหาใครที่ไล่พวกเธอได้”
แฮรี่มองไปที่หลังของสเนปขณะเขาออกจากห้องไป และพยายามปลอบอีวาน แต่เขาไม่รู้หาคำไหนมาพูดได้ และถ้าหากสเนปไปตามและพาศาสตราจารย์มักกอนนากัล อาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ พวกเขาก็จะหาทางรอดได้ยากแล้ว
เธออาจจะแฟร์กว่าสเนป แต่เธอก็เป็นคนเข้มงวดมากเช่นกัน
ถ้าอีวานถูกไล่ออกโดยสเนป เขาและรอนคงถูกลงโทษไม่ตามกันโดยมักกอนนากัล และเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนหลังจากโดนไล่จากฮอกวอร์ต ครอบครัวเดอสลีย์คงไม่ต้อนรับเขา บางทีเขาอาจไปช่วยแฮกริดและเป็นผู้ดูแลของโรงเรียน
ขณะที่แฮรี่กำลังจินตนาการว่าอะไรจะเกิดขึ้น ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็เดินเข้ามาพร้อมกับสเนป
ริมฝีปากของศาสตราจารย์มักกอนนากัลนั้นบางมาก ทันทีที่เธอเข้ามาเธอก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น ทำให้เด็กผู้ชายทั้งสามคนสะดุ้ง แต่เธอมันชี้ไปที่เตาผิงที่ว่างเปล่า ซึ่งทันใดนั้นเปลวไฟปะทุขึ้นในทันที