Ep.94 - โดยรวมแล้วครอบคลุมเลเวล F2
4/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.94 - โดยรวมแล้วครอบคลุมเลเวล F2
เม็ดยาฟ้าฟื้น คือยาสำหรับผู้ใช้วรยุทธโบราณ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกำลังภายใน อุดมไปด้วยสมบัติทางธรรมชาติอันหลากหลาย หลังจากกลืนเข้าไปแล้ว มันสามารถเพิ่มกำลังภายในได้เป็นจำนวนมาก และหลังจากดูดซึมเม็ดยาจนหมด ก็จะสามารถช่วยยกระดับได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงสามารถใช้ในการฝึกฝนเท่านั้น แต่มันยังสามารถใช้เพื่อฟื้นฟูกำลังภายใน ในช่วงเวลาวิกฤตระหว่างการต่อสู้ได้อีกด้วย ทว่าในกรณีหลังค่อนข้างกล่าวได้ว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยสูญเปล่า
และนี่เอง คือเหตุผลที่เม็ดยาฟ้าฟื้นปรากฏขึ้นที่นี่ มิฉะนั้น หากต้องการสิ่งนี้ คงจำเป็นต้องไปซื้อด้วยตัวเองจากเมืองเฉิงหยางโดยตรงเท่านั้น
เม็ดยาฟ้าฟื้นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F เท่านั้นถึงจะใช้ได้ ดังนั้นจึงหาได้ยากยิ่งในเขตเฉิงเป่ย
“ผมต้องการแลกเปลี่ยนเม็ดยาฟ้าฟื้น! 50 เม็ด!” ฉินเฟิงใช้ 5,000 แต้มเพื่อแลกเปลี่ยนกับ 50 เม็ดยา
ส่วน 600 ที่เหลือฉินเฟิงยังไม่ได้ใช่จ่าย เพราะเม็ดยาเหล่านี้ เพียงพอแล้วต่อความต้องการของเขาสำหรับวันนี้
หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็ได้ตรวจสอบอุปกรณ์สื่อสารของเขาอีกครั้ง และพบว่าในบัญชีมียอดเงินทั้งสิ้น 140 ล้านเหรียญ!
50 ล้านมาจากไพ่สีดำที่ได้รับมาจากเจียงเส้าหยาง และอีก 50 ล้านมาจากข่าวที่ขายให้กับซูซิงฝู นอกจากนี้ยังมีอีก 10 ล้านจากทางเครือข่ายนักล่าเงินรางวัลและสุดท้ายเป็นเงิน 30 ล้าน จากการขายวัตถุดิบค้างค้าวยักษ์ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
“งั้นฉันจะซื้อเจ้าสองสิ่งนี้ให้แกก็แล้วกัน!” ฉินเฟิงกล่าวพลางชี้ลงบนอุปกรณ์สื่อสาร
ไป๋หลีฝึกใช้อุปกรณ์สื่อสารมาพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เธอทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายห้องประมูลของกลุ่มหวันซ่ง เธอก็สามารถมองเห็นข้อความมากมายบนหน้าจอ
หากเป็นแก่นพลังงานเลเวล F ธรรมดา จะมีมูลค่าหลายหมื่น แต่ไป๋หลีต้องการแก่นพลังของของราชันย์สัตว์ร้าย ดังนั้นมูลค่าของมันจึงน่าสยดสยองมาก
ก็ลองสังเกตจากการปิดล้อมราชันย์อัศวินดูสิ แค่นั้นพวกคุณก็พอจะคาดเดาได้แล้ว ว่ากว่าจะได้แก่นพลังงานเลเวล F ระดับราชันย์มา มันยากเย็นเพียงใด และแน่นอน ว่าพลังที่บรรจุอยู่ภายในย่อมมีปริมาณมหาศาล ดังนั้นราคาก็เลยมหาศาลอย่างน่าตกใจไม่ต่างกัน
【แก่นพลังงานราชันย์ยักษ์ เลเวล F5 ราคาเสนอขาย 53 ล้าน!】
【แก่นพลังงานราชินีแมลง เลเวล F7 ราคาเสนอขาย 81.3 ล้าน!】
“ว้าว ยอดไปเลยที่รัก!” ไป๋หลีกล่าวด้วยรอยยิ้มหวานเยิ้ม
ฉินเฟิงเลิกคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “แค่พูดขอบคุณ มันยังไม่พอหรอก!”
ไป๋หลีกระพริบตาปริบๆ มันไม่เข้าใจคำพูดของฉินเฟิง
มองไปยังสายตาที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ของไป๋หลี ฉินเฟิงก็เกิดความคิดสนุก อยากจะแกล้งไป๋หลีอีกครั้ง แม้ความรู้สึกผิดจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็อดไม่ได้จริงๆ
“หอมแก้มฉันด้วย” ฉินเฟิงเคาะๆลงบนแก้มตัวเอง
ไป๋หลีโน้วตัวลงทันที แต่แทนที่จะจูบ มันกลับเลียแทน
นี่คือปฏิกิริยาของจิ้งจอกน้อยยามเมื่อมันแสดงออกถึงความสุข ... แทบจะไม่แตกต่างกับหมา
“เอาล่ะ เอาล่ะ พอได้แล้ว”
ฉินเฟิงจับไป๋หลี และรู้สึกว่าการแกล้งเธอ มันกลับเป็นฝ่ายเขาซะเองที่ยากจะข่มอารมณ์
อย่างไรก็ตาม ด้วยการกระทำนี้ ทำให้มุมปากของฉินเฟิงยกสูงขึ้นด้วยความสุข อารมณ์ของเขาผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก
ระหว่างรอส่งมอบสินค้าจากกลุ่มหวันซ่ง ฉินเฟิงก็กลับไปยังบริเวณที่ตั้งเต็นท์ของตน แล้วเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากข้างรถศึกของตนและโจวฮ่าว
“รุ่นน้องโจว รีบๆย่างมันเร็วเข้า ฉันหิวจนจะตาลายอยู่แล้ว!”
“เธอกินไปห้าไม้แล้วนะ แต่ผมยังไม่ได้กินเลย ตัวเล็กขนาดนี้ กินตั้งเยอะได้ยังไง!”
“เหอ? ก็ฉันต้องกินให้มากเข้าไว้ไง จะได้สูงๆซักที!”
“ฝันไปเถอะ เธออายุ 17 ปี แล้ว หมดหวังเรื่องความสูงแล้ว!”
“พูดแทงใจดำ! คอยดูเถอะ วันนี้ฉันจะกินให้หมดเลย ไม่เหลือทิ้งไว้ให้นายซักไม้เดียว!”
ขณะที่ฉินเฟิงเดินเข้าไป เขาก็บังเอิญเห็นลู่เหมิงกับโจวฮ่าวกำลังนั่งล้อมรอบกองไฟ และแย่งปีกไก่ย่างกัน
“โอ้ กลิ่นหอมดีนี่นา” ฉินเฟิงเดินเข้าไปร่วมวง
“ไอ้บ้า! รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า พวกเราเจอปีศาจกระเพาะใหญ่เข้าให้แล้วนะรู้ไหม!” โจวฮ่าวเบ้ปากไปทางลู่เหมิง
ฉินเฟิงประหลาดใจเล็กน้อยที่ทั้งสองเข้าขากันได้ดี แต่เขาก็ยังเข้ามาช่วย
ไป๋หลีขยับจมูกฟุดฟิด ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าอาหารตรงหน้ามีกลิ่นหอมมากกว่าแก่นพลังงานนัก นิ้วของเธอเริ่มขยุกขยิก ย่อตัวนั่งลง
โจวฮ่าวนำวัตถุดิบเหล่านี้มาด้วยก่อนที่เขาจะมายังแนวหน้า ต้องไม่ลืมนะว่ารถของเขามีขนาดใหญ่ แถมยังติดตั้งตู้เย็นขนาดเล็ก ดังนั้นโจวฮ่าวจึงสามารถนำสิ่งของในชีวิตประจำวัน ร่วมถึงหม้อเตาถ่านมาด้วยได้
ระหว่างกินอาหาร ฉินเฟิงก็รู้ได้ในที่สุดว่าทำไมทั้งสองคนถึงอยู่ด้วยกัน
-กลับกลายเป็นว่าหลี่เหยาเหยาทิ้งลู่เหมิงไปอยู่กับเกาหลิงฮาน ดังนั้นโจวฮ่าวกับลู่เหมิงจึงจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา
และในวันเดียว ลู่เหมิงก็ประทับใจกับโจวฮ่าวเป็นอย่างมาก ทั้งสองไล่ฆ่าซากศพเลเวล G ไปกว่า 200 ตัว ซึ่งกล่าวได้ว่าแต้มสงครามที่ทั้งสองได้รับ มันไม่ด้อยไปกว่าแต้มของหลี่เหยาเหยาเลย
มีลู่เหมิงในฐานะเศรษฐีท้องถิ่นคอยยิงสนับสนุน ฉินเฟิงก็ไม่ต้องกังวลว่าโจวฮ่าวจะได้รับบาดเจ็บ
อาหารมื้อเย็นกินเวลายาวนานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งไป๋หลีเองก็ซัดปีกไก่ไปหลายชิ้นมาก หากไม่ใช่เพราะวัตถุดิบหมด ไป๋หลีคงกินได้อีกหลายสิบชิ้น
….
“คืนนี้พวกเราจะไม่ออกล่า”
ฉินเฟิงเอ่ยออกมาเมื่ออยู่ลำพังกับไป๋หลี เขาคิดว่าความแข็งแกร่งของตนถูกเปิดเผยแล้วในช่วงเย็น ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องออกไปสู้ยามค่ำคืนให้ กระตุ้นความสงสัยของผู้คนอีกต่อไป
“แต่ฉันจะอาศัยช่วงเวลาว่างนี้ เพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด!”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็หลับตาลง เริ่มกระตุ้มพลังสมาธิ และรับรู้ถึงการเก็บเกี่ยวในวันนี้
ในวันนี้ ฉินเฟิงได้ล่า และสังหารโครงกระดูกชุดคลุมดำไปกว่า 6 ตัว พลังสมาธิของเขาจึงเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ มันได้มาถึงเลเวล F1 แล้ว
“เสี่ยวไป๋ เอาทุกอย่างออกมา แล้วก็ไปพักผ่อนได้” ฉินเฟิงกล่าว
“รับทราบ!”
ไป๋หลีโยนทุกสิ่งที่อยู่ในพื้นที่มิติของมันออกมา ทันใดนั้น เม็ดสีแดงขนาดเท่าลูกปัดกองใหญ่ก็ร่วงตกลงกับพื้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งเหล่านี้ก็คือแก่นพลังงานที่ไป๋หลีช่วยฉินเฟิงเก็บรวบรวมมาในระหว่างวันนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีกระดูกเหล็กดำอีกหลายชิ้น และแก่นอบิลิตี้สีดำอีก 6 อัน
“แก่นอบิลิตี้ธาตุมืดของสัตว์ร้ายระดับนายพล!”
ด้วยของตรงหน้า อาจพูดได้ว่าการเก็บเกี่ยวของฉินเฟิงในวันนี้มีมากกว่าแต้มสงครามมากนัก แต่กำไรเหล่านั้นจะไม่ถูกเปลี่ยนเป็นเงิน
คนอื่นๆต้องการเครื่องมือมิเตอร์เพื่อแยกรูนธาตุ แต่ฉินเฟิงไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น
“จงดูดกลืน!”
“จงดูดกลืน! จงดูดกลืน!”
หลังจากกลืนกินแก่นอบิลิตี้ทั้งหกเข้าไปในลมหายใจเดียว พลังสมาธิของฉินเฟิงก็ทะยานขึ้นอีกครั้ง
ก้าวขึ้นสู่เลเวล F2 !
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ฉินเฟิงยังค้นพบรูปแบบรูนใหม่ๆ(ที่สามารถใช้เปลี่ยนเป็นท่าใหม่) จากแก่นอบิลิตี้ที่เขาดูดกลืนมันเข้ามาอีกด้วย
เนื่องจากการดำรงอยู่ของศิลานรก อบิลิตี้ธาตุมืดของฉินเฟิงจึงทรงพลังและแกร่งมากกว่าคนอื่นๆถึงสิบเท่า มันรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยพลังพิเศษใหม่เหล่านี้ที่ฉินเฟิงได้รับมา เกรงว่าบางทีกระทั่งชุดคลุมดำกระหายเลือดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกร!
หลังจากดูดกลืนแก่นอบิลิตี้ไป ฉินเฟิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง สายตาของเขาเบนตกลงไปที่กระดูกเหล็ก
ฉินเฟิงต่อสู้ด้วยตนเองในวันนี้ ดังนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่เขารู้ว่ากระดูกเหล่านี้แข็งเพียงใด มันจะต้องเป็นวัตถุดิบชั้นดีอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงมือแห้งเหี่ยวที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงก็เริ่มถือกระดูกเหล็ก เขาพบว่ากระดูกนี้ถูกเสริมความทนทานมา นอกจากจะทำจากเงินแล้ว ยังมีประกายเงางามของเหล็กดำ เขาไม่รอช้า ทำการดูดกลืนมันทันที
จากนั้น ก็ตามด้วยการดูดกลืนเม็ดยาฟ้าฟื้น และแก่นพลังงานอีกจำนวนมาก
ฉินเฟิงทำการกลืนกินและวิวัฒนาการตลอดทั้งคืน
ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นพลังสมาธิ , ความทนทานของกระดูกในร่างกาย หรือกำลังภายใน มันล้วนเพิ่มพูมขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า !
กล่าวอีกนัยนึงก็คือ ณ ขณะนี้ ระดับผู้ใช้อบิลิตี้ และระดับผู้ใช้วรยุทธโบราณของฉินเฟิง ได้มาถึง เลเวล F2 แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น หากเทียบกับผู้ใช้พลังในระดับเดียวกัน เขาจะแข็งแกร่งกว่าถึงหลายสิบเท่า!
เมื่อเส้นขอบฟ้าปรากฏแสงสาดส่องลงมา ฉินเฟิงก็ถอนหายใจอย่างช้าๆ
อาจกล่าวได้ว่าในค่ำคืนเดียว ฉินเฟิงสามารถก้าวกระโดดไปอีกขั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ครอบครองความแข็งแกร่งมากกว่าเมื่อวานหลายเท่า!
“ตอนนี้ ชักจะอยากรู้ซะแล้วสิ ว่าฉันจะสามารถรับมือกับราชันย์อัศวินได้รึยัง”
ฉินเฟิงกำหมัดแน่น บังเกิดความกระตือรือร้นที่จะทดสอบในสิ่งที่คิด!