บทที่ 22 การประมูล

บทที่ 22 การประมูล

สิ่งกุนไท่ต้องทำอย่างแรก คือการเอาสมบัติบางอย่างไปแลกเป็นหินจิตวิญญาณ แล้วหอประมูลที่มา ถือเป็นเป้าหมายของเขา

ภายใต้การนำของเจียวเหม่ย กุนไท่ก็ได้มาถึงสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ทรงสี่เหลียมสูงตระหง่าน ทั้งสองรีบเร่งเข้าไปหาผู้ดูแลการประมูลทันที

ผู้ดูแลกาประมูลเป็นชายชราผมขาวโพลนสวมอาภรณ์สีแดงเพลิง รอบตัวมีเปลวเพลิงที่ส่งคลื่นความร้อนออกมา นี่คือผู้บ่มเพาะระดับผู้เชี่ยวชาญ!

ชายชรามองไปหาเด็กหนุ่ม และเด็กสาวทั้งสองอย่างเฉยชา เขาแอบตกใจกับระดับบ่มเพาะ และอายุของกุนไท่ที่ไม่สอดคล้องกัน

“หนุ่มน้อย มีอะไรให้ข้าผู้เฒ่าชงหยวน ผู้นี้ช่วยหรือไม่”

ผู้อาวุโสชงหยวนกล่าวถามขึ้น

“ผู้อาวุโสชง ข้าน้อยกุนไท่อยากจะนำบางสิ่งมาประมูล แล้วหวังว่าท่านจะอนุญาต!”

กุนไท่ตอบกลับไปด้วยความเคารพ พลางสะบัดมือออกไป ก่อนจะปรากฏโอสถจำนวน ยี่สิบเม็ด และหินสามก้อนขึ้น โดยแต่ละอย่างมีสีไม่ซ้ำกันมีทั้ง ส้ม แดง และม่วง

นัยน์ตาของผู้อาวุโสชงหยวนฉายแววตกตะลึง ดวงตาสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น เขาเป็นผู้ดูแลการประลองมาเป็นร้อยปี แล้วเหตุใดจะไม่เคยเห็นของล้ำค่ามาก่อน

แต่เขาบอกได้เลยว่าสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้น นับว่ามีค่ามหาศาล แม้จะนำไปประมูลในเมืองใหญ่ ก็สามารถประมูลได้ในราคาดี เขานำโอสถทั้งยี่สิบเม็ดขึ้นมาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของจริง ก่อนจะกล่าวด้วยความตกตะลึงไม่หาย

“นี่มันโอสถแก่นชีวา! ใช้สัตว์อสูรที่มีอายุเกือบพันปี แถมยังอยู่ระดับผู้เชียวชาญเป็นอย่างต่ำอีกด้วย สวรรค์! นี่มันสามารถทำให้ผู้ที่กินเข้าไปทำให้อายุขัยเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างน้อย 500 ปี!”

ผู้อาวุโสชงหยวนมือสั่นระริกก่อนจะวางโอสถไว้ที่เดิม แล้วหันมาหากุนไท่ก่อนกล่าวขึ้นมาว่า

“หนุ่มน้อย ข้าขอซื้อมันเอง! ข้าให้ราคาสูงที่สุดที่ทำให้เจ้าพึงพอใจ ทั้ง 20 เม็ด ข้าให้ 40 ล้านหินจิตวิญญาณระดับสูง!”

สิ้นเสียงของการเสนอราคาของผู้อาวุโสชง เจียวเหม่ยราวกับถูกฟ้าผ่า นางตัวแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จะได้เห็น หรือเคยได้ยินเงินจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน การค้าที่มากที่สุดของตระกูลนางนั้น มากถึงหนึ่งถึงสองล้านหินจิตวิญญาณระดับสูงเท่านั้น แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าของนาง กลับทำได้มากกว่าตระกูลเจียวของนางถึงยี่สิบเท่า!

กุนไท่ไม่ได้แสดงอาการแต่อย่างใดบนใบหน้า แต่ภายในใจนั้นรู้สึกตื่นเต้น และดีใจที่สามารถได้รับหินจิตวิญญาณระดับสูงมากขนาดนี้ได้!

“ผู้อาวุโสชง ข้าน้อยต้องการเพียงแค่ยี่สิบล้านหินจิตวิญญาณระดับสูงเท่านั้น ส่วนที่เหลือถือเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา”

น้ำเสียงของกุนไท่กล่าวออกมาราวกับว่าของที่ให้ผู้อื่นไปนั้น เป็นเพียงแค่หมั่นโถวชิ้นเดียว ผู้อาวุโสชิงหยวนนั้นเต็มไปด้วยตกใจปนดีใจ แม้จะรู้ว่ากุนไท่ต้องการสร้างสายสัมพันธ์กับเขา

แต่เขาก็มิอาจสามารถปฏิเสธของล้ำค่าเช่นนี้ได้ มันช่างน่าเย้ายวนใจเกินไป! และอีกอย่างการได้รู้จักกับอัจฉริยะผู้นี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะในวันข้างหน้าเขาอาจจะต้องพึงพากุนไท่ ทุกอย่างเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น!

ผู้อาวุโสชิงนึกขึ้นมาได้ว่ายังเหลือของอีกประเภทหนึ่ง เขาหยิบหินทั้งสามสีขึ้นมาตรวจสอบ ก่อนที่สีหน้าจะปรากฏความตกตะลึงอีกครั้ง

“นี่มันค่ายกล! ค่ายกลทั้งสามอันนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูง มีทั้งค่ายกลกับดักมายา ค่ายกลกระบี่โจมตีประสาน และค่ายกลภูติอารักษ์ ค่ายกลทั้งสามนี้ถือเป็นของดี แม้จะมีมูลค่าไม่เท่ากับโอสถก็ตาม ข้าให้ราคาทั้งหมดห้าล้านหินจิตวิญญาณระดับสูง!”

กุนไท่พยักหน้าพลางรับหินจิตวิญญาณทั้งหมดมาก่อนจะขอตัวลา ตอนนี้เขาคือผู้ร่ำรวยที่สุดในเมืองอี้เลยก็ว่าได้ ด้วยเงินจำนวนนี้เขาสามารถหาซื้อทรัพยากร หรือสมบัติที่จำเป็นสำหรับเขาได้

เขาแบ่งหนึ่งล้านหินจิตวิญญาณให้เจียวเหม่ย หญิงสาวรับมาด้วยความยินดีอย่างไม่เกรงใจ เพราะทั้งสองสนิทกันดุจพี่น้องที่แท้จริงเลยก็ว่าได้

ทั้งสองได้ไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อรอเวลาให้โรงประมูลเปิด เมื่อถึงเวลาที่โณงประมูลเปิด ทั้งสองก็เข้าร่วมการประมูลในทันที

กุนไท่นั้นเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับพลังมนุษย์เท่านั้น ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ยังถือว่าอ่อนแอมาก เมื่อคนจำนวนมากเห็นเขามีหินจิตวิญญาณระดับสูงจำนวนมหาศาลแล้วละก็ คนพวกนั้นจะเพ่งเล็งเด็กหนุ่มอย่างไม่ลังเล แต่กุนไท่ได้เตรียมรับมือเรียบร้อยแล้วในตอนที่เขาค้าขายกับผู้อาวุโสชงนั้น

สาเหตุที่เขารับแค่ยี่สิบล้านหินจิตวิญญาณระดับสูง นั่นก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ทำให้เขาได้รับการคุ้มครองจากผู้อาวุโสชง ที่เป็นถึงระดับผู้เชียวชาญ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองอี้เป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับหลอมรวมพลังเท่านั้น

จึงทำให้เขาสามารถใช้จ่ายได้อย่างไม่เกรงกลัวใคร และเมื่อการประมูลจบแล้ว เขาวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางไปเมืองใหญ่พร้อมกับผู้อาวุโสชงอีกด้วย ทำให้เขาไม่มีอันตรายใดๆอย่างแน่นอน

และแล้วการประมูลก็เริ่มต้นขึ้น ผู้คนพลันเงียบเสียงลงทันที ภายในโรงประมูลเป็นพื้นที่กว้างครึ่งวงกลม โดยที่อีกครึ่งวงกลมนั้นเป็นเวที ที่นั่งทั้งหมดมีอยู่สามชั้น สองชั้นแรกเป็นผู้มีทรัพย์ที่ไม่เกินหนึ่งพันหินจิตวิญญาณระดับสูง ส่วนชั้นบนสุดที่เป็นชั้นสามนั้นต้องเป็นผู้ที่มั่งคั่งร่ำรวยเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ กุนไท่และเจียวเหม่ยนั้นอยู่ในห้องเดียวกับตระกูลเจียว

เพราะถ้าเขาแยกห้องจะเป็นอันตรายเอาได้ อย่างแรกเลยคือจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่นเมื่อใช้จ่ายหินจิตวิญญาณมากเกินไป สองหากเขาไปแย่งของบางสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการ เขาอาจจะโดนเพ่งเล็งได้ แม้เขาจะมีผู้อาวุโสชงอยู่แต่การป้องกันปัญหาไว้ก่อนก็เป็นเรื่องที่ดี

และสามเขายังสามารถทำให้ตระกูลเจียว และตัวเขานั้นมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น เพราะทำให้ตระกูลเจียวมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น โดยการที่เขาประมูลของที่เขาต้องการในนามของตระกูลเจียว นี่จึงทำให้พวกเขาได้หน้าไป!

บนเวทีการประมูล ปรากฏหญิงสาวอายุราวสามสิบปี ร่างอรชรของนางนั้นน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก ใบหน้าที่งดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มทั้งหลายที่ได้เห็นต่างฮึกเหิม และกระชุ่มกระชวย ผมสีน้ำเงินของนางจัดทรงให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปอีก นางกวาดตามองไปที่ทุกคนพลางกล่าวขึ้นมาว่า

“ข้าคือผู้ดำเนินการประมูลในครั้งนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”

หลังจากที่นางกล่าวจบ ก็มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งนำหีบสีดำออกมาวางไว้ที่โต๊ะตรงกลางเวที ก่อนจะเปิดออกมาสู่สายตาของทุกคน จากทีแรกสายตาของทุกคนตกอยู่ที่นางนั้น แต่บัดนี้สายตาของพวกเขาเหล่านั้นกลับอยู่ที่สิ่งของภายในกล่องแล้ว

เมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งของนั้นบางคนถึงกับยืนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก บ้างก็เผลอตัวส่งเสียงตกใจออกมา แม้แต่กุนไท่ก็ยังถูกดึงดูดด้วยขิงสิ่งนี้ เขารู้สึกว่าของสิ่งนี้ เขาต้องได้มันมาให้ได้! เพราะมันมีประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก เพราะสมบัติชิ้นนี้คือ......