PTH40 อสรพิษอัสนีเขาเดี่ยว
ณ สถานที่แห่งหนึ่งใกล้กับภูเขาป่ารกชัด คนในชุดคลุมทองสามคนปรากฏกายออกมาจากข่ายอาคมเคลื่อนย้าย
ผู้ที่ปรากฏตัวอายุประมาณ 30 ปี กลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง สมควรอยู่เขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 4 แต่หนึ่งในคนเหล่านั้น มีผู้หนึ่งที่กลิ่นอายโดดเด่น สมควรอยู่เขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5
ชุดคลุมที่คนเหล่านี้สวมใส่ทำจากวัสดุชั้นดี พลังป้องกันไม่ธรรมดา มีสัญลักษณ์ของเหยี่ยวทองคำปักอยู่ ซึ่งหมายความว่าคนเหล่านี้สมควรเป็นคนของวังเหยี่ยวทองคำ
“ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เป็นเพียงผู้ฝึกตนไร้สังกัดระดับล่าง แต่กลับรนหาที่ตาย” หนึ่งในคนทั้งสามกล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
ห่างออกไปจากคนเหล่านั้น มีคนผู้หนึ่งในอาภรณ์ดำ กำลังเดินตรงมายังทิศทางพี่พวกมันอยู่ ซึ่งคนผู้นั้นคือเว่ยสั่ว
พวกมันมองว่า การที่เว่ยสั่วเดินทางมายังภูเขารกร้างแห่งนี้ ไม่ต่างไปจากการรนหาที่ตาย เพราะที่นี่มีอสูรระดับ 3 ขั้นกลางอยู่มากมาย
โดยทั่วไปแล้ว เขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 สามารถรับมือกับอสูรระดับ 2 ขั้นกลางได้ เขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3 ก็สามารถรับมือกับอสูรระดับ 3 ขั้นกลางได้เช่นกัน แต่หากถูกอสูรเหล่านั้นรุมล้อม อาจเปลี่ยนจากฝ่ายที่ล่าเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง คนของวังเหยี่ยวทองคำรู้ว่าเว่ยสั่วไม่ได้อยู่ในเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 4
ภูเขาแห่งนี้มีนามว่าว่านเฉอ เป็นป่าชื้น รกชัด ภายในเต็มไปด้วยหินรูปร่างประหลาด พืชพันธุ์ที่เติบโตดูน่าหวาดกลัว หากมองจากภายนอก ภูเขาแห่งนี้รกชัดยิ่งกว่าภูเขาที่ขึ้นชื่อภายในเมืองจิตวิญญาณสูงสุด
ภายในภูเขามีอสูรอาศัยอยู่หลายชนิด ตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึงระดับ 3 ส่วนใหญ่ล้วนเป็นอสูรที่มีพิษ ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5 ก็ใช่ว่าจะเอาชีวิตจากที่นี่ไปได้ง่ายๆ แต่เว่ยสั่วกลับไม่กังวลแม้แต่น้อย
ก่อนจะขึ้นเขา เว่ยสั่วถ่ายปราณเข้าสู่จี้หยกที่พกติดตัวมา เพื่อให้พร้อมใช้งานยามจำเป็น นอกจากนี้ยังกระตุ้นยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่ง สร้างม่านพลังสีทองราวกับระฆังคุ้มกายเอาไว้ ก่อนจะมุ่งขึ้นภูเขาไป
แต่เมื่อขึ้นเขาไปได้ไม่ไกลนัก บางสิ่งที่ยาวประมาณ 2 ฉื่อ พุ่งลงจากต้นไม้เข้ากระแทกม่านพลังคุ้มกายเว่ยสั่วดังปัง!
เว่ยสั่วชงักฝีเท้า สังเกตุเห็นสิ่งที่พุ่งเข้าชนม่านพลัง เป็นงูยาวสองฉื่อ ร่างกายเป็นสีม่วงมีลวดลายคล้ายกับต้นไม้ในป่า แต่กลับมีกรงเล็บคู่หน้ายื่นออกมาคล้ายเหยี่ยว ปีกไม่ใหญ่นัก ศีรษะขนาดใหญ่ลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ดวงตาแดงฉานน่าสะพรึงกลัว
มันคืองูปีก อสรพิษระดับ 3 ของป่าแห่งนี้
เมื่อลอบจู่โจมไม่เป็นผล ไม่อาจทะลวงม่านพลังคุ้มกายเว่ยสั่วได้ มันจึงเปล่งเสียงเล็กแหลม ก่อนอสรพิษในลักษณะเดียวกันอีก 4 ตัวจะกระพือปีกทะยาน โฉบเข้ามาพร้อมกับคมเขี้ยวหมายขบกัดเข้าบริเวณลำคอของเว่ยสั่ว
“ฮ่าฮ่า ผู้อาวุโสกล่าวไม่ผิด”
ตอนนี้เว่ยสั่วกำลังถูกอสูรระดับ 3 ขั้นกลาง 5 ตัวรุมจู่โจม เป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงพลัว แต่เว่ยสั่วกลับดูมีความสุขพร้อมกับนำยันต์สีขาวใบหนึ่งออกมา
ยันต์หมอกปกคลุม!
เว่ยสั่วกระตุ้นยันต์หมอก หมอกควันสีขาวปกคลุมโดยรอบ อสรพิษที่อยู่ในรัศมีของหมอกถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้ช้าลง
วิชาลับอสรพิษอัสนี!
วิชากระบี่วารี!
เว่ยสั่วใช้สองวิชาในเวลาไล่เลี่ยกัน เล็งไปที่ศีรษะของอสรพิษอย่างแม่นยำ
อสรพิษอัสนีขนาดเล็ก 10 ตัวผสานเป็นหนึ่ง ฟาดผ่าเข้าร่างอสรพิษ ทำให้มันร่วงลงพื้น ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ปราณกระบี่วารีจะซ้ำเข้าที่บริเวณศีรษะ แต่ดูราวกับไม่ได้สร้างความเสียหายให้มันมากนัก
ในชั่วอึดใจก่อนที่อสรพิษจะฟื้นตัวได้ทัน อสรพิษอัสนีและปราณกระบี่วารีจู่โจมซ้ำเข้าใส่และสังหารมันได้ในที่สุด
การจะสังหารอสรพิษประหลาดนี้หนึ่งตัว ต้องใช้สองวิชาผสานและจู่โจมสองชุดติดเพื่อสังหารมันให้ตายสนิท
เมื่อเห็นหนึ่งในพวกมันถูกสังหาร อสรพิษที่เหลือเปล่งเสียงร้องราวกับคลั่งแค้น ดวงตาแดงก่ำ พุ่งเข้าจู่โจมเว่ยสั่ว แต่เว่ยสั่วไม่หวาดกลัว ใช้วิชาอสรพิษอัสนีและปราณกระบี่วารีจู่โจมสังหารพวกมันทีละตัว
ไม่นานนักพวกมันทั้งหมดก็ถูกสังหาร เหลือเพียงซากร่างที่ไร้วิญญาณ
“ฮ่าฮ่า!”
เว่ยสั่วหัวเราะลั่น หากคนของวังเหยี่ยวทองคำมาเห็นเว่ยสั่วในยามนี้เข้า พวกมันคงคิดว่าเขาเป็นบ้า เพราะการสังหารอสรพิษที่น่าวะพรึงกลัวเหล่านี้ได้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เว่ยสั่วกลับหัวเราะสะใจ
“ตูม!”
บอลเพลิงระเบิดใส่ร่างอสูรระดับ 1 ตนหนึ่ง ไม่นานก็มีอสูรระดับเดียวกันอีก 3 ตัวมุ่งเข้าจู่โจม แต่ก็ถูกบอลเพลิงระเบิดร่างจนเละ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เข้ามาให้หมดเลย!”
เหตุที่เว่ยสั่วจู่โจมได้อย่างมีความสุขแบบนี้ก็เพราะเขาได้คำแนะนำจากชายชรามา
เดิมทีเว่ยสั่วคิดจะกลับไปเหมืองแห่งเดิมที่เคยไป ชายชราบอกว่า ราชาด้วงแดงที่เคยจู่โจมเว่ยสั่วด้วยแมลงสีดำนั้น สมควรเป็นวิชาของมัน นอกจากนี้ชายชรายังเล่าว่า อสูรที่มีอายุยืนยาว ได้กินของที่เป็นประโยชน์ในการยกระดับพลัง พวกมันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าอสูรขั้นสูง จากข้อมูลที่เว่ยสั่วได้รู้ เขาคาดเดาว่าราชาด้วงแดงที่ปรากฏตัวออกมานั้น อย่างน้อยต้องมีอายุได้ 800 ปี เพราะมันทรงพลังและมีเปลือกคุ้มกายที่แข็งกว่าด้วงแดงทั่วไปมาก
ต่อให้เป็นวิชาในเขตขั้นวัฏจักรสวรรค์ก็ใช่ว่าจะทะลวงผ่านเกราะคุ้มกายของมันได้ง่ายๆ แต่หากทะลวงเกราะมันเข้าไปได้ สมควรสังหารมันได้ไม่ยาก
แต่เมื่อได้ลองขบคิดถึงข้อดีข้อเสียต่างๆ เว่ยสั่วก็ยอมถอดใจไม่ไปเพราะหากถูกด้วงแดงนับพันรุมล้อม ตัวเขาคงไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นภูเขาว่านเฉอแทน
ชายชราได้บอกเล่าถึงสิ่งที่รู้เกี่ยวกับอสรพิษปีกที่พบ ว่ามันคืออสูรระดับ 3 ขั้นกลาง แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัว ผู้ฝึกตนได้ถูกพวกมันเอาชีวิตมาแล้วมากมาย ต่อให้เป็นเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5 ก็ยากจะรอดพ้นหากถูกพวกมันรุมล้อม จุดแข็งของพวกมันคือการลอบจู่โจมและความเร็วที่คล้ายอัสนี ทั้งยังสามารถพลิกแพลงเคลื่อนไหวกลางอากาศได้ราวกับกระบี่บินทำให้ยากจะจับทาง
ดังนั้นหากมีม่านพลังที่แข็งแกร่งพอ และสามารถหน่วงให้พวกมันช้าลงได้ อสรพิษเหล่านั้นก็ไร้ซึ่งความน่ากลัวไป
ก่อนจะมาที่นี่เว่ยสั่วจึงได้เตรียมสิ่งต่างๆเพื่อรับมือตามที่ชายชราได้ชี้แนะ ระฆังทองคุ้มกายของเว่ยสั่วที่กระตุ้นเอาไว้ถึง 2 ชั้น มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่จะคงสภาพอยู่ได้เพียงชั่วธูปไหม้หมดดอก
นอกจากนี้เว่ยสั่วยังเตรียมยันต์ที่ใช้หน่วงการเคลื่อนไหวของพวกมัน จนทำให้เขามีเวลามากพอที่จะจู่โจมสังหาร
เมื่อจัดการอสูรโดยรอบไปหมดแล้ว เว่ยสั่วเร่งดื่มโอสถฟื้นปราณเพื่อฟื้นฟูพลัง
“อย่าเพิ่งรีบร้อนไป อีกเดี๋ยวจะถึงคราวของพวกเจ้าแล้ว!” เว่ยสั่วส่งสายตายียวนให้กับอสรพิษประหลาดที่ปรากฏตัวออกมาเพิ่ม
“อะไรอีกหล่ะเนี่ย?”
ในชั่วพริบตานั้น พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังสนั่น ร่างอสรพิษขนาดใหญ่เลื้อยออกมาจากหลุมบนพื้น
ทั่วร่างของมันปกคลุมด้วยเกร็ดสีทองแดงขนาดเท่าเหรียญ ลำตัวขนาดใหญ่และยาว ดูทรงพลังไม่ธรรมดา ยามชูคอสูงยิ่งกว่ามนุษย์ ไม่ต่างไปจากหอคอยที่แข็งแกร่งมั่นคง
ดูจากขนาดศีรษะและปากของมันแล้ว น่าจะกลืนเว่ยสั่วเข้าไปได้ทั้งตัว กลางหน้าผากมีเขาสีเหลืองงอกออกมา
“อสรพิษอัสนีเขาเดี่ยว!”
เมื่อเห็นลักษณะของอสรพิษขนาดใหญ่ชัดๆ เว่ยสั่วถึงกับเปล่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ พร้อมกับกระตุ้นยันต์เพลิงระดมจู่โจม แล้วอาศัยจังหวะนั้นหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต...