บทที่ 76: คริสตัลเวทมนต์
วิลเลียมไม่ได้รีบร้อนออกเดินทางในเช้าวันถัดไป
เขาคิดข้ออ้างที่ดีขึ้นมาว่าเขาต้องเวลาในการหาของขวัญดีๆ สักเจ็ดวันเพื่อจะนำไปยังเมืองดาร์คไนท์
เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น
เหล่าคนใต้บังคับบัญชาของเขาไม่ได้ตกใจอะไร แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าไอเท็มอะไรที่เมืองดาร์คไนท์จะพิจารณาเป็น ‘ของขวัญชิ้นดี’ อันหนึ่ง
หรือว่าจะเป็นมิทริลชนิดพิเศษ?
มันจะล้ำค่าสำหรับราชวงศ์เอลฟ์ปกครองป่าแบล็คลีฟไปกว่าครึ่งงั้นหรอ?
วิลเลียมไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาพาพวกเขาเข้าไปในป่าลึก เดินทางกว่าสิบกิโลเมตรไปยังหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอก เขาสั่งให้องครักษ์ส่วนตัวให้เริ่มการขุดค้น
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมท่านลอร์ดถึงสั่งให้เอลฟ์องครักษ์ทำงานใช้แรงงานพวกนั้น
ในขณะที่พวกเขาขุดไปถึงข้างในประมาณ 10 เมตร แสงสีม่วงจางๆ ก็ส่องประกายออกมาจากพื้น
ทันทีที่เขาเห็นแสงแปลกประหลาดนั่น
ลอทเนอร์ก็กระโดดลงไปในหลุมและกลบที่มาของแสงนั้นด้วยดิน เขายังคงกังวลและกระทืบเท้าลงบนพื้นอีกครั้ง เขากลัวว่าไอเท็มที่ฝังอยู่จะถูกเปิดเผย
คนอื่นๆ เองก็ตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาถึงกลับกลั้นหายใจด้วยซ้ำ…
“พวก… พวกนั้นคือเวทย์… คริสตัลเวทมนต์หรอ?” โอดอมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากด้วยความไม่เชื่อ
เขาสำรวจพื้นที่โดยรอบแล้วจึงรู้ว่าไม่มีคนนอกอยู่ เพียงหลังจากที่ยืนยันสิ่งๆ นั้น เขาก็ขุดคริสตัลสีม่วงที่ฝังอยู่ในหินออกมาช้าๆ และรู้สึกได้ถึงพลังเวทมนต์ที่เปล่งประกายออกมา พลังนั้นแผ่ซ่านออกมาอย่างไม่จำกัด!
เขาจำคริสตัลนี้ได้จากหนังสือโบราณ
ในช่วงสุดท้ายของยุคเอลฟ์ นอกจากนักรบที่ทรงพลังผู้ทำลายทวีปก็อด คริสตัลเวทมนต์เองก็มีส่วนในเรื่องนี้
จักวรรดิหุบเขาเดียวดายในตอนนั้นเป็นจักรวรรดิของคนแคระ พวกเขาครอบครองคริสตัลเวทมนต์ไว้เป็นจำนวนมากและยังสร้างอาวุธเวทย์ทำลายล้างอีกด้วย เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป คริสตัลเวทมนต์จำนวนมากเหล่านั้นก็ถูกใช้จนหมด ด้วยเหตุนี้ คริสตัลเหล่านั้นจึงกลายเป็นของหายากมากๆ
ความหายากของคริสตัลเวทมนต์ทำให้มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่มีส่วนให้การก่อกบฏของเจ้าชายคนแคระทั้งเจ็ดไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อไร้การสนับสนุนจากอาวุธเวทมนต์ คนแคระทั้งเจ็ดตระกูลก็ไม่มีใครกล้าเริ่มเดินเกม
ในยุคปัจจุบัน คริสตัลเวทมนต์ก็กลายเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่หายากมาก
แน่นอนอยู่แล้วว่ามันจะต้องมีคริสตัลเวทมนต์อยู่ในเมืองดาร์คไนท์ แม้แต่เอลฟ์ทั้งสามตระกูลก็มีมันไว้ในครอบครอง
จักรวรรดิมนุษย์ทั้งสามและราชอาณาจักรคนแคระบางที่เองก็ครอบครองคริสตัลนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ขุมพลังแห่งอื่นไม่มีคริสตัลที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ในครอบครอง
แม้ว่าพวกเขาจะมีคริสตัล พวกเขาก็จะไม่แพร่งพรายข้อมูลหรือสร้างอาวุธเวทมนต์ในจำนวนมาก
เหตุผลนั้นธรรมดา
มันคืออาวุธนิวเคลียร์ของทวีปรีเจนดารี!
หากอาณาจักรไม่แข็งแกร่งพอ อาวุธอาจเป็นสาเหตุของการล่มสลายของอาณาจักรนั้น!
ทรราชทั้งห้าของโลกแห่งความจริงนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต
อย่างไรก็ตาม เหล่าทรราชระดับท็อปของทวีปก็อดนั้นเหี้ยมโหดยิ่งกว่าทั้งห้าคนอีกร้อยเท่า
“มันเป็นวัสดุหลักที่จำเป็นในการสร้างปืนใหญ่เวทมนต์, เรือเหาะเวทมนต์ และเมืองลอยฟ้าของชาวมีปีกทั้งหลาย คริสตัล… เวทมนต์?” เอริคเต็มไปด้วยความแปลกใจ อย่างไรก็ตามความรู้สึกนั้นก็แปลเปลี่ยนเป็นความกังวล
อารมณ์ของลอทเนอร์เปลี่ยนมืดหม่นทันที เขาไม่รู้ว่าวิลเลียมค้นพบคริสตัลนั่นได้อย่างไร และมันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามคำถาม เขาแค่อยากรู้ว่าคริสตัลเวทมนต์จะถูกเก็บรักษาได้หรือไม่และจะป้องกันข่าวการค้นพบนี้ไม่ให้แพร่กระจายอย่างไร
วิลเลียมรู้สึกถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของลูกน้องของเขา เขารู้ว่าครั้งนี้เขาใจร้อนเกินไป แต่เขาก็ยังคงอยู่ภายใต้ความสำรวม…
เขาสามารถเห็นระดับความภักดีของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาได้!
วิลเลียมเข้าใจว่าเมืองแห่งรุ่งอรุณนั้นไม่สามารถผลิตปืนใหญ่เวทมนต์ได้ในตอนนี้ เขายังขาดวัสดุจำเป็น, คนสร้าง, พิมพ์เขียว และนักเวทย์อยู่
นอกจากปืนใหญ่เวทมนต์แล้ว วิลเลียมก็ยังไม่สามารถนำคุณสมบัติอื่นของคริสตัลเวทมนต์ไปใช้ประโยชน์อะไรได้!
มันทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เหตุการณ์การค้นพบคริสตัลเวทมนต์นี้ก็เป็นเหมือนกับการที่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้พบเจอกับหญิงสาวที่มีขาเรียวยาวยั่วยวน พวกหัวงูทั้งหลายที่ซ่อนตัวอยู่ก็กำลังเฝ้ารอโอกาสที่จะขโมยรางวัลนั้นไป
อย่างไรก็ตาม
ยิ่งคุณค่าและระดับความขาดแคลนของคริสตัลเวทมนต์สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นในการจะนำมาเป็นของขวัญ
วิลเลียมสามารถใช้คริสตัลเวทมนต์เล็กๆ เหล่านี้มาสร้างความประทับใจที่ดีให้กับตัวเขาได้
อย่างไรก็ตาม การติดสินบนด้วยสมบัติที่หายากระดับนี้ หลายๆ ครั้งมันกลับไม่ทำให้ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
นอกจากเจ้าหญิงแอนนี่ การให้คริสตัลนี้กับคนอื่นๆ ก็จะเป็นการชักนำความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขาออกมาเสียมากกว่า
วิลเลียมสำรวจฝูงชนและพูดอย่างใจเย็น “มีอะไรที่น่ากลัวอยู่ตรงนั้นหรอ? พวกเจ้าทุกคนเป็นคนสนิทและญาติมิตรของเรา เราเชื่อในพวกเจ้าทุกคน”
เอริคและคนที่เหลือยิ้มออกมาแห้งๆ พวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งที่กวนใจพวกเขาคือเหล่าสายลับในเมืองที่ยังระบุตัวตนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คำพูดของวิลเลียมทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นและค่าความสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีต่อท่านลอร์ดก็เพิ่มขึ้น
วิลเลียมหัวเราะอย่างพึงพอใจอยู่ในใจ ระดับความภักดีของเอริคพุ่งขึ้นจาก 850 ไปที่ 930 เขาเป็นคนที่สนับสนุนวิลเลียมอย่างกระตือรือร้นมากที่สุด ก่อนหน้านี้ ระดับความภักดีของเขาขึ้นไปถึง 999 ถ้าวิลเลียมไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆต่อเหล่าคนใต้บังคับบัญชา ระดับความภักดีของพวกเขาก็จะไม่คงที่อยู่ที่จุดสูงสุด
วิลเลียมไม่เคยต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับความภักดีของลอทเนอร์และความภักดีของเหล่าเอลฟ์องครักษ์ที่มากกว่า 950
จากการตั้งค่าของเกม Gods เมื่อค่าความสัมพันธ์ (ความภักดี) สูงกว่า 700 แต้ม ตัวละครนั้นก็จะกลายเป็นคนสนิทและช่วยเก็บความลับ
พวกเขาก็จะเป็นภักดีอย่างมากด้วยแต้ม 800 ถึงมากกว่า
และค่าความภักดีที่มากกว่า 900 แต้มนั้นหมายความว่าตัวละครนั้นจะยินยอมพร้อมใจที่จะสละชีวิตของพวกเขาเพื่อท่านลอร์ดของพวกเขา!
ข้อยกเว้นประการเดียวสำหรับผู้ติดตามของวิลเลียมคือโอดอม!
เขาเป็น NPC ระดับอีปิคที่ระดับความภักดีต่ำที่สุดเพียง 730 แต้มแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ติดตามคนแรกของวิลเลียมก็ตาม มันอาจเกี่ยวข้องกับสถานะของเขาจากการที่เขาเป็นเจ้าชายคนแคระ
แต่ความเชื่อของวิลเลียมที่มีต่อผู้ติดตามของเขายิ่งเพิ่มความภักดีของเขาไปที่ 900…
“ในการจะทำให้ผู้ติดตามภักดี ลอร์ดจะต้องเชื่อในพวกเขา ดูเหมือนเคล็ดลับเล็กๆ นี้ของฉันได้สร้างผลลัพธ์ที่ต้องการให้”
ตำแหน่งของแร่คริสตัลเวทมนต์นั้นเป็นความลับเล็กๆของวิลเลียม
ความลับที่ยิ่งใหญ่นั้นยังคงเก็บเงียบอยู่ในหัวใจของเขา
วิลเลียมหัวเราะอีกครั้งและพูด “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เราไม่มีแผนที่จะขุดคริสตัลเวทมนต์เหล่านี้ออกมาในจำนวนมาก เราแค่ต้องการคริสตัลบางส่วนเพื่อเป็นของขวัญเท่านั้น ในขณะเดียวกัน เราได้แบ่งปันความลับที่ลึกล้ำที่สุดของเรากับพวกเจ้าทุกคน”
“ขอบคุณท่านลอร์ด สำหรับความเชื่อใจในพวกข้า ชีวิตของพวกเราเป็นของท่านลอร์ด” เหล่าคนใต้บังคับบัญชาของเขาโค้งตัวและตบหน้าอกเพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกตัญญู
วิลเลียมยิ้ม “ดีมาก โอดอม เราเชื่อว่าเจ้าจะทำการคุมองครักษ์ของเราได้ดีในขณะที่พวกเขาขุดคริสตัล เจ็ดวันหลังจากนี้ นำมันกลับมาที่นี่ที่เดิมของมัน มันไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยการค้นพบคริสตัลให้คนอื่นได้รู้”
“ครับ ท่านลอร์ด” โอดอมที่กำลังหน้าแดงกำค้อนสายฟ้าที่มีสายฟ้าประกายจางๆ ของเขาแน่น เขารู้สึกตื่นเต้น
มันต้องได้รับการอธิบาย
หลังจากนำเผ่าของเขาเข้าร่วมกับเมืองแห่งรุ่งอรุณ เขาก็ต้องกลัดกลุ้มอยู่ทุกวัน โอดอมต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาให้วิลเลียม
บางครั้ง เขาก็ถึงกับครุ่นคิดว่าถ้าเขาสามารถให้อำนาจของเมืองแห่งรุ่งอรุณมาโค่นราชอาณาจักรคนแคระและฟื้นคืนจักรวรรดิภูเขาแห่งความเดียวดายของเขา
ความรู้สึกสลดใจอัดแน่นอยู่ในอกของเขา แต่ในจิตใจที่สู้กันอยู่ของเขา โอดอมผู้รักความยุติธรรมอยู่เหนือกว่าโอดอมผู้รอบคอบ
“ท่านลอร์ด ขอข้าคุยกับท่านได้หรือไม่?” โอดอมขอด้วยเสียงนุ่มขณะที่เขาเดินมาอยู่ข้างวิลเลียม
“คุยกับเรา? โอ้!” วิลเลียมตบไหล่โอดอมเก้ๆ กังๆราวกับเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาจึงนำทางโอดอมเข้าไปในป่าลึก