ตอนที่แล้วบทที่ 20 เจียวเหม่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 การประมูล

บทที่ 21 เทศกาลแลกเปลี่ยน


บทที่ 21 เทศกาลแลกเปลี่ยน

เพียงแค่หน้าทางเข้าตระกูลเจียวนั้น กลับมีผู้คนเดินผ่านไปมามากมายทำให้บรรยายกาศดูคึกคักเป็นพิเศษ หน้าประตูนั้นมีทหารยามวัยกลางคนอยู่สองคน แต่ละคนมีระดับแค่พลังมนุษย์ ขั้น 10 เท่านั้น

ในสายตาของกุนไท่นั้นนับว่าอ่อนแอมาก ทว่าในสายตาของคนในเมืองนั้นกลับดูแข็งแกร่ง แต่หากเทียบกับทหารยามหน้าประตูเมืองมันก็คนละเรื่องกัน เพราะพวกมันเป็นคนของเจ้าเมือง และสำนักมังกรคราม!

เจียวเหม่ยพากุนไท่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเจียว ภายในนั้นกว้างขวางเป็นอย่างมาก ตามทางเดินตกแต่งไปด้วยดอกไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆที่สวยสดงามมากมาย มันส่งกลิ่นหอมที่เมื่อสูดดมเข้าไปแล้ว จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

ทั้งสองเดินไปตามทางผ่านสิ่งปลูกสร้างมากมาย ด้านหน้าปรากฏตำหนักใหญ่แห่งหนึ่ง เพียงมองปราดเดียวก็รู้ในทันทีว่า มันจะต้องเป็นที่พำนักของผู้นำตระกูล หรือบุคคลระดับสูงในตระกูลเจียวอย่างไม่ต้องสงสัย

ห้องโถงใหญ่นั้นมีเก้าอี้วางไว้ทั้งสองฝั่งทั้งซ้าย และขวาอย่างละสาม มีหญิงชรากับชายชราสองสามคนสวมใส่อาภรณ์สีขาวนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ทั้งสองฝั่ง ตรงตำแหน่งเก้าอี้ที่อยู่สูงที่สุดของที่นั่งทั้งหกนั้น มีชายวัยกลางคนสวมใส่อาภรณ์สีทองผมยาวสีดำพร้อมกับหนวดเคราที่น่าเกรงขาม ร่างกายแผ่พลังกดดันในระดับหลอมรวมพลัง ขั้นรวบรวมพลังออกมา!

แม้จะเป็นขั้นแรกของระดับรวบรวมพลัง แต่พลังเทียบเท่ากับหนิงหลงที่เป็นศิษย์ของกุนจวิน ส่วนผู้อาวุโสที่นั่งข้างล่างนั้นแม้จะเทียบกับผู้นำตระกูลไม่ได้ แต่ก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ละคนอยู่ระดับสร้างรากฐาน ขั้นวิญญาณทุกคน!

สายตาของผู้นำตระกูลนั้นจ้องมองไปที่เจียวเหม่ยด้วยความรัก และความเอ็นดู แต่เมื่อสังเกตว่าด้านข้างของนางนั้นมีเด็กหนุ่มอายุน้อยผู้หนึ่ง แต่พลังปราณที่สัมผัสได้นั้นถึงกลับทำให้เขาตกตะลึง เพียงแต่สีหน้ายังปกติมิได้แสดงอะไรออกมา ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างแช่มช้าว่า

“เหม่ยเอ่อร์ เจ้าพาใครมาหรือ? แนะนำให้พ่อได้ทำความรู้จักกันเสียหน่อย”

“ท่านพ่อ เขาเป็นน้องชายของข้านามว่า กุนไท่! ข้าพึ่งพบเจอเขาที่ทางเข้าเมือง แต่กลับรู้สึกถูกชะตาด้วย เลยชักชวนให้มาพักที่ตระกูลของเรา เนื่องจากโรงเตี๊ยมในเมืองเต็มหมดแล้วหากท่านพ่อไม่ว่าอะไร ให้น้องไท่พักที่นี่สักระยะได้หรือไม่”

เจียวเหม่ยตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง ดวงตาที่ใสซื่อของนางเต็มไปด้วยความคาดหวังที่ต้องการให้บิดาของตนทำตามในสิ่งที่นางต้องการ

ผู้นำตระกูลเจียวทอดถอนหายใจเมื่อเห็นสายตาบุตรสาวของตนนั้น เขารัก และเอาอกเอาใจนางเสมอมาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยปฏิเสธความต้องการของนางได้เลยแม้สักครั้ง ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ปวดหัวไปตามๆกัน

“ก็ได้ แต่ข้ามีข้อแม้...

“ท่านพ่อกล่าวมาได้เลย!”

เจียวเหม่ยเห็นบิดาตอบตกลงก็ยิ้มร่าเริงออกมามากกว่าเดิม นางเผยความงดงามที่เด็กสาวอายุเพียงสิบเจ็ดปี จะสามารถแสดงออกมาได้ ความงดงามของนางถูกจัดเป็นอันดับต้นๆของเมือง และหากออกไปภายนอก ความงามของนางก็คงจะอยู่อันดับต้นๆอยู่ดี

“ข้าขอพูดคุยกับเสี่ยวไท่เป็นการส่วนตัว!”

ผู้นำตระกูลเจียวกล่าวออกมา พลางจับจ้องไปที่กุนไท่ด้วยสายตาพิจารณา และสงสัยใคร่รู้ กุนไท่คาดเดาได้อยู่แล้วจึงไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด แต่เขากลับยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ใครบ้างละจะไม่สงสัยคนแปลกหน้า ผู้นำตระกูลเจียวคงจะถามถึงตัวตนของเขา และถามถึงที่มาที่ไปของเขาเป็นแน่

หลังจากที่เจียวเหม่ยออกไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่กุนไท่ผู้นำตระกูลเจียวและเหล่าผู้อาวุโสเท่านั้น

“เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหน และจุดประสงค์อันใดที่มาเมืองนี้”

ผู้นำตระกูลเริ่มถามขึ้น เป็นอย่างที่กุนไท่คาดเดา เขาตอบกลับไปด้วยความจริงใจว่า

“ผู้อาวุโส ข้ามีนามว่า กุนไท่ มาจากสถานที่ห่างไกล ข้าเดินทางตามหาทรัพยากรเพื่อใช้ในการบ่มเพาะ จึงบังเอิญผ่านมาที่เมืองนี้ และตั้งใจจะมาพักที่เมืองอี้สักระยะ เพื่อเข้าร่วมเทศกาลแลกเปลี่ยน!”

แม้ผู้นำตระกูลจะยังคงสงสัย และไม่ไว้ใจอยู่บ้าง แต่การแสดงออกของกุนไท่นั้นไม่ใช่ว่าจะดูเป็นศัตรู และความรู้สึกของเขาบอกว่าการผูกมิตรกับกุนไท่นั้นจะเป็นการดีสำหรับตระกูลเจียว ทั้งสองยังพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อย และเริ่มรู้สึกว่ากุนไท่น่าไว้วางใจมากขึ้น หลังจากที่ได้พูดคุย

เขายังคงสนใจในตัวสหายน้อยผู้นี้ด้วยว่ามีพื้นหลังอย่างไร เขาพยายามหลอกถามแต่กุนไท่นั้นกลับฉลาดอย่างมาก ให้คำตอบในแบบที่เขาไม่มีทางรู้ได้

อายุสิบห้าปี ระดับพลังมนุษย์ ขั้น 12 มีทั้งพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ รวมถึงปัญญา และวาจาที่น่าพูดคุยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้นำตระกูลเจียวอยากผูกมิตรกับกุนไท่มากยิ่งขึ้น แล้วมีความคิดแปลกๆที่ว่าน่าจะให้กุนไท่มาเป็นเขยของตระกูลเจียว!

กุนไท่ได้พักในตำหนักที่ดีตำหนักหนึ่ง เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีราวกับแขกผู้ทรงเกียรติ มีทั้งคนใช้ และทหารคุมกันหน้าตำหนักอีกเป็นโขยง สำหรับคนภายนอกนั้นนับว่าเอาใจใส่มาก แต่สำหรับกุนไท่นั้นมันไม่ใช่!

เขารู้ว่ามันเป็นการเฝ้าระวังเขาเสียมากกว่า หากเขามีท่าทีที่ไม่น่าไว้วางใจ ทหารยามเหล่านี้จะไปรายงานผู้นำตระกูลเจียวทันที!

วันต่อมา กุนไท่ได้ออกไปกับเจียวเหม่ย ทั้งสองได้เดินชมเมืองอย่างสนุกสนาน ส่วนวันที่สอง กุนไท่อยู่แต่ในตำหนักเพื่อเก็บตัวบ่มเพาะสำหรับเตรียมตัวในวันที่สาม ซึ่งเป็นเทศกาลการแลกเปลี่ยนของเมืองอี้!

และแล้วมันก็มาถึง กุนไท่เปิดประตูห้องออกมาก็เห็นเจียวเหม่ยที่กำลังนั่งรออยู่ในอาภรณ์สีม่วงที่เพิ่มความงดงามตระการตาขึ้นไปอีก

เมื่อนางเห็นกุนไท่ดวงตาก็เปล่งประกายออกมา พลางเดินเข้ามาหาแล้วกล่าวออกมาว่า

“ในที่สุดเจ้าก็ออกมา ข้าจะพาเจ้าไปแลกของดีๆ ตามข้ามา!”

“คงต้องรบกวนพี่เหม่ยแล้ว หากข้าได้มาเยอะ ข้าจะแบ่งให้ท่านด้วยเลย”

กุนไท่ตอบกลับพลางหัวเราะ นางก็หัวเราะเช่นเดียวกัน ตระกูลของนางร่ำรวยมาก กุนไท่จะให้นางมาแค่ไหนกันเชียว แต่เมื่อเขาให้นางมา นางก็จะรับไว้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร!

เมืองอี้นั้นเต็มไปด้วยเสียงดังอึกทึกมากมาย พวกเขาต่างคาดหวังด้วยความกระตือรือร้นกับเทศกาลในครั้งนี้มาก มีหอประมูลจากเมืองใหญ่มา มันยิ่งทำให้ผู้คนตื่นเต้นมาก เพราะหอประมูลจากเมืองใหญ่ที่มานั้น จะเอาของมีค่า หรือสมบัติหายากมาให้ได้ประมูลกัน นี่ถือเป็นโอกาสของผู้มั่งคั่งอย่างแท้จริง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด