ตอนที่ 35 ข้อบกพร่อง
ตอนที่ 35 ข้อบกพร่อง
ณ ทางเข้าดันจี้ยนป่าขุนเขา
พื้นที่โดยรอบดันเจี้ยนป่าขุนเขาที่กว้างใหญ่ มีเพียงผู้เล่น 5 คนกำลังนั่งล้อมวงอยู่หน้าทางเข้าพวกเขากำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องราวในดันเจี้ยนทุกคนมีสีหน้าแววตาที่มุ่งมั่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง
“ที่บอกไปก็มีเพียงเท่านี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกนายแล้วว่าจะสามารถพิชิตมันได้ไหม แต่ถ้าให้ฉันประเมินพวกนายมีสิทธิที่จะทำมันได้”
เจสเปอร์ลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นคงพร้อมหันหน้าไปทางปากทางเข้าดันเจี้ยนป่าขุนเขา
“แต่มันไม่บ้าระห่ำเกินไปหน่อยหรอเจสกับแผนการของนาย”
“ใช่ ฉันว่านายมองพวกเราสูงเกินไปหน่อยหรือปล่าว พวกเราไม่ใช่ผู้เล่น Beta แบบนายกันน่ะ”
สีหน้าของทั้งปาร์ตี้ต่างมองอย่างคาดหวังว่าเจสเปอร์จะเปลี่ยนแผนการเมื่อครู่ แต่สายไปแล้ว เจสเปอร์ก้าวเข้าไปในประตูดันเจี้ยนเรียบร้อยแล้ว
“เอางั้นก็ได้ ไหนมื่อเจสเปอร์เชื่อในตัวพวกเราแล้วทำไมพวกเราจะไม่เชื่อในตัวเขากันละ ลุยกันพวกเรา จะได้ลองกันไปเลยว่าสกิลขั้น 2 ที่พวกเราได้รับตอนเลเวล 10 มันจะเป็นยังไง” โบม่อนที่อายุเยอะที่สุดในปาร์ตี้กล่าวปลุกใจเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่จะก้าวเท้าตามเจสเปอร์เข้าไปด้านในดันเจี้ยน
บรรยากาศภายในดันเจี้ยนป่าขุนเขานั้นแตกต่างจากดันเจี้ยนสุสานนักรบโดยสิ้นเชิง เพราะ ที่นี้ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ ท้องฟ้าเปิดกว้างสว่างไสว ให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอิสระอย่างแท้จริง
เมื่อทั้ง 5 คนย่างเท้าก้าวเข้ามาสู่ดันเจี้ยน ฝูงนกในบริเวณนั้นต่างบินขึ้นให้พร้อมๆกันบรรยากาศที่พวกเขาพบเจอไม่ต่างอะไรกับการไปเที่ยวสวนสาธารณะเลย แม้บรรยากาศจะเหมาะแก่การมาพักผ่อนแต่ผู้เล่นทั้ง 5 ไม่มีใครมีท่าทีผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย
‘ฟุ่บ’
มีเสียงมาจากในพงหญ้าด้านหน้าของพวกเขา ทุกคนไม่ต้องรอให้เจสเปอร์สั่งการอีก เพราะก่อนเข้ามาเจสเปอร์ได้บอกแผนการและวิธีพิชิตดันเจี้ยนไว้ทั้งหมดแล้ว
ผู้เล่นทั้ง 5 ต่างกระจายตัวออกจากกันและกัน ในมือถืออาวุธพร้อมโจมตี ธาตุไฟถูกเคลือบลงที่ใบดาบของเจสเปอร์ คันศรจากลูอิสถูกยกขึ้นประทับบ่าพร้อมกันสอดส่องสายตาหาเป้าหมาย
‘ฟิ้ว’
ลูกธนูถูกปล่อยออกไปแล้ว ลูกธนูอันแหลมคมพุ่งไปยังพงหญ้าด้านหน้า มันปักลงบนต้นไม้ที่ว่างเปล่า
-88
ค่าความเสียหายเกิดขึ้นบนต้นไม้ลูอิสยิงเข้าใส่ ต้นไม้ขยับตัวช้าๆกิ่งก้านเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต แต่เมื่อสังเกตดีๆแล้วมันคือ มอนสเตอร์ที่มีรูปร่างคล้ายต้นไม้
[Mandragora LV:14]
[HP : 1050]
[พลังโจมตี : 130 - 150]
Mandragora หรือพืชกินคนในดันเจี้ยนป่าขุนเขาเต็มไปด้วยกับดักธรรมชาติ มอนสเตอร์ของที่นี้จัดว่าไม่ได้แข็งแกร่งมากนักแต่ด้วยการที่มันอาศัยร่วมอยู่กับธรรมชาติได้อย่างแนบเนียนทำให้ผู้เล่นที่ไม่ทันระวังต่างตกเป็นเหยื่อของมัน
หิมะน้อยเองก็ร่ายเวทย์มนต์ FireBall เข้าใส่พืชกินคนพวกนี้เช่นกัน เมื่อลูกบอกไฟของเธอถูกเป้าหมายรอยยิ้มของเธอก็ปรากฏขึ้นให้เห็นเธอยังคงร่ายเวทมนต์ของเธออย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ในเมื่อพืชกินคนพวกนี้เคลื่อนไหวได้ช้าเลยถูกหิมะน้อยซ้อมเอาเป็นเป้าซ้อมร่ายเวทย์ไปเสียอย่างนั้น
ในเมื่อหิมะน้อยขยันฝึกซ้อมขนาดนี้ เจสเปอร์ที่เป็นผู้ชายก็ควรจะมอบรางวัลตอบแทนให้เธอสักหน่อย
“หิมะน้อยที่นี้เหมาะกับการฝึกร่ายเวทย์ของเธอได้ดี ฉันเห็นว่าเธอมีความสุขขนาดนี้งั้นมอนสเตอร์ทั้งหมดนี้ฉันยกให้เป็นของขวัญก็แล้วกัน ลูอิสและโบม่อน จะอยู่เป็นเพื่อนเธอ ส่วนฉันจะไปดูทางข้างหน้าให้ก่อน เสร็จจากตรงนี้แล้วก็ตามมา”
"..."
เจสเปอร์ไม่รอให้คนอื่นได้เอ่ยปากถ้าหากหิมะน้อยจะเข้ามาเป็นส่วนนึงของปาร์ตี้นี้เธอจะต้องยกระดับการเล่นการควบคุมและความเข้าใจพื้นฐานทั้งหมดของเธอให้ทัดเทียมคนอื่นให้ได้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อเวลาผ่านไปคนอื่นๆจะนำหน้าเธอไปไกลจนสุดท้ายแล้วเธอจะเป็นจุดอ่อนที่ยากต่อการพัฒนาของทุกคนในปาร์ตี้
ก่อนที่เข้าดันเจี้ยนป่าขุนเขาเจสเปอร์ได้บอกข้อบกพร่องที่ทุกคนจำเป็นต้องรีบขจัดมันทิ้งเสียก่อนที่จะติดเป็นนิสัย
ในเมื่อลูอิสมีเป้าหมายที่จะเป็นนักล่า(Hunter)สิ่งแรกที่ต้องฝึกฝนเลยคือการกล้าตัดสินใจ กล้าที่จะเปิดฉากการต่อสู้โดยอาศัยระยะห่างของนักล่าเป็นข้อได้เปรียบ
ส่วนโบม่อนตำแหน่งการยืนการตัดสินใจทำได้ดีมากแล้วไม่แปลกเลยที่ในอดีตเป็นนักกวีอันดับ 1 ของ The Era Online ที่กิลด์ชั้นนำต้องการตัว แต่ยังมีส่วนนึงที่โบม่อนยังขาดไปคือการความรู้ความเข้าใจในคลาสต่างๆ ดูเหมือนข้อบกพร่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่หากมีโอกาสได้เล่นบ่อยๆจะจดจำได้เองแต่นั้นคือความคิดที่ผิด หากอยากที่จะเป็นมืออาชีพเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ต้องเก็บให้หมด ยิ่งรู้มากรู้ก่อนยิ่งก้าวนำก่อน เมื่อเอามาผนวกกับตำแหน่งโบม่อนจะช่วยให้การเล่นของเขาประสานงานกับคนอื่นได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับอามมี่ที่เจสเปอร์ใกล้ชิดมาตั้งแต่อดีต อามมี่มีทักษะการควบคุมที่ดี กล้าตัดสินใจ รู้หน้าที่ของตนเองได้ดีแต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไปเลยคือตำแหน่งการยืนคลาสอาชีพอันธพาล แม้ว่าจะทนรับความเสียหายได้บ้างแต่ไม่ใช่หน้าที่ที่เหมาะกับคลาสนี้ อันธพาลมีสกิลที่ทำความเสียหายได้รุนแรงที่สุดในเกมแต่ก็ต้องแลกกับค่าพลังเวทมนต์ทั้งหมดที่มี หากต้องการใช้สกิลรุนแรงแบบนี้การยืนตำแหน่งจะต้องสำคัญที่สุด ไม่ให้ตกเป็นเป้าของศัตรูตั้งแต่เริ่มต้นโดยเด็ดขาด และ การถอยออกมาหลังจากไม่มีค่าพลังเวทมนต์จะต้องทำยังไง นั้นคือสิ่งที่อามมี่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
ส่วนตัวเขาเองจุดบกพร่องที่เขาต้องรีบแก้ไขให้ได้เลยคือการรีบหาผู้เล่นชั้นนำเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดโดยเร็ว แม้เขาจะเป็นสามารถแบกทุกอย่างไว้ที่ตัวเองได้แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างๆก็จะเป็นดังเช่นอดีตที่ผ่านมา หากเขาอยากที่จะขึ้นเป็นสุดยอดกิลด์ที่ทรงพลังกองกำลังหลักก็จะต้องแข็งแกร่งเช่นเดียวกับหัวหน้าด้วย
“เราไม่นำหน้าพวกนั้นมาไกลเกินไปหน่อยหรอ” อามมี่และเจสเปอร์ เดินแยกออกมาจากกลุ่มมาไกลมากเมื่อเจอมอนสเตอร์ระหว่างทาง เจสเปอร์ทำเพียงแค่สลัดพวกมันให้หลุดและมุ่งหน้าต่อไป
“ดันเจี้ยนโหมดยากแห่งนี้เป็นแค่ที่ฝึกซ้อมสำหรับพวกนั้นแต่สำหรับนายมันต่างกัน ถ้านายอยากที่จะแข็งแกร่งก็ต้องอะไรที่มันแข็งแกร่งทัดเทียมกัน”
หลังจากที่เจสเปอร์พูดจบ อามมี่ก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า “เจส นั่นบอสไม่ใช่หรือไง”
อามมี่เหมือนถูกตบหัวอย่างแรง
‘แข็งแกร่งที่เท่าเทียมที่นายพูดถึงคือบอสประจำดันเจี้ยนโหมดยากเลยเนี่ยนะ’
ด้านหน้าของพวกเขามีราชางู นอนขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ลำตัวและเกล็ดของพวกมันพันรอบๆลำต้นไว้หลายรอบ หากคาดเดา ราชางูตัวนี้คงมีความยาวไม่ต่ำกว่า 8 เมตร และด้วยขนาดลำตัวที่หนา ทำให้ขนาดตัวของมันใหญ่มากราวกับงูยักษ์ที่เป็นวัตว์เลี้ยงของเดียโบ ยังไงยังงั้น
[ราชางูแห่งป่าขุนเขา LV25 (Boss)]
[HP : 6135]
[พลังโจมตี : 294 - 365]
[ธาตุ : ไม่ปรากฏ]
[รายละเอียด : ราชางูแห่งป่าขุนเขาเดิมทีเป็นเพียงงูธรรมดาเพียงเท่านั้น แต่ด้วยพลังธรรมชาติจากป่าขุนเขาที่แรงกล้าทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้นานหลายร้อยปีจนในที่สุดมันก็เติบใหญ่ พลังและความแข็งแกร่งของมันคอบช่วยพิทักษ์พื้นป่าที่มันเติบโตแห่งนี้ ตราบนานเท่านาน]
“มาลองดูก่อนเถอะ เหมือนเทคนิค Switch ที่เคยสอนไป หาตำแหน่งสอดประสานให้ดี ใช้สกิลที่มีและถอยออกไปส่วนที่เหลือฉันจะรับมือให้เอง ก้าวพริบตาที่มีนำมันมาประยุกต์ใช้กับการต่อสู้ให้เป็นสไตล์เฉพาะตัวได้ยิ่งดี” เจสเปอร์ตัดสินใจชักดาบของเขาออกมากพร้อมกับพุ่งเข้าใส่บอสที่กำลังหลับอยู่อย่างรุนแรง
‘-110’
เมื่อมันได้รับการโจมตี ทำให้มันตื่นขึ้นจากการนอน การถูกใครปลุกระหว่างที่กำลังนอนหลับสบายใครบ้างที่จะไม่โกรธ มันพุ่งเข้าฉกเจสเปอร์โดยทันที
เจสเปอร์ทำได้แค่เพียงเบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้าง จึงไม่ได้รับความเสียแต่อย่างใด แต่การโจมตีของราชางูยังไม่หมดเพียงเท่านั้นปลายหางของมันอ้อมมาทาง ศัตรูของมัน เพื่อบีบรัด
เจสเปอร์กระโดดถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกพันธนการ เมื่อราชางูโจมตีพลาดก็เป็นโอกาสที่เจสเปอร์จะได้สวนคืน เขาคว้าดาบของเขาวิ่งเข้าใส่และเปิดใช้สกิล
<>
ดาบกรีด เฉือน รอบลำตัวของราชางูอย่างโหดเหี้ยม ลำตัวของมันมีเลือดไหลซึม แต่นั้นก็ไม่ทำให้ความโกรธเกรี้ยวของมันลดน้อยลงเลย
‘ฟ่อ’
เสียงร้องของราชางู ไม่ได้มีไว้แค่ขู่เพียงอย่างเดียว พิษของมันยังถูกปล่อยออกมาเช่นกัน
เจสเปอร์ที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าราชางูสามารถทำอะไรได้บ้าง หลบฉากออกห่างจากบริเวณพิษที่ราชางูพ่นทิ้งเอาไว้
‘-79,-64,81,85,101’
‘ฟุ่บ’
<>
<>
<>
ภายในไม่กี่วินาทีอามมี่ที่แอบอยู่แนวหลังมาตลอดก็พุ่งเข้าใส่ราชางู โดยที่ราชางูไม่ทันสังเกต สกิลคอมโบหมัดต่อเนื่องของคลาสอาชีพคนพเนจร ประเคนเข้าใส่หมัดแล้วหมัดเล่า จนราชางูถึงกับติดสตัน เพียงเมื่อมันตั้งสติได้ ศัตรูของมันก็หนีหายออกไปไกล หลายช่วงตัว
“ทำได้ดีมากอามมี่ แต่ยังไวได้มากกว่านี้นะ ดูฉันให้ดี” คราวนี้สลับการกระทำอีกครั้ง เจสเปอร์ที่เป็นผู้ควบคุมธาตุไม่มีสกิลโจมตีมากนัก แต่สกิลขั้น2ที่ปลดล็อคตอนเลเวล 10 ของเขาก็มี สกิลที่ช่วยในการโจมตีเพิ่มเติมขึ้นมา
[Auto Element]
[รายละเอียด: เมื่อทำการโจมตีมีโอกาสที่จะทำความเสียหายโดยเวทย์มนต์ธาตุ โดยเวทย์มนต์ธาตุที่สุ่มออกมานั่น ผู้ใช้จะต้องเคยเห็นถึงจะสามารถใช้ได้ ข้อจำกัดไม่สามารถใช้เวทย์ที่โจมตีเป็นกลุ่มได้]
เจสเปอร์กระโดดเข้าใส่ราชางูพร้อมทั้งกระหน่ำฟันเข้าใส่ราชางู แม้จะเป็นการโจมตีธรรมดาก็ตาม เมื่อดาบที่เจสเปอร์ฟันลงใส่ราชางู เวทย์ลูกบอลไฟก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่ราชางูทันที
-98,-100,-91,-210
เมื่อลูกบอลไฟตกกระทบสู้ใบหน้าราชางู มีการเผาไหม้เกิดขึ้นบริเวณรอบๆดวงตา รอยไหม้ รอยดำ ยิ่งทำให้ราชางูยิ่งบ้าคลั่ง มันพยายามพุ่งฉกเข้าใส่เจสเปอร์ แต่ตาของมันที่ถูกเผาไหม้ทำให้การมองเห็นของมันย่ำแย่ลง มันโจมตีพลาด
โอกาสมาที่เจสเปอร์อีกครั้ง เขากระหน่ำฟาดฟันใส่ราชางูอย่างต่อเนื่อง ธาตุเวทมนต์ปรากฏขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็นแท่งน้ำแข็งผลลัพธ์เป็นเช่นเดียวกับลูกบอลไฟ แท่งน้ำแข็งปักลงเข้ากลางลำตัวราชางู บริเวณที่ถูกแท่งน้ำแข็งปักมีน้ำแข็งขึ้นมาปกคลุม
มันติดสถานะแช่แข็งไปแล้ว ราชางูไม่สามารถขยับร่างกายของมันได้สะดวกอย่างที่มันต้องการ
“สุดยอด”
อามมี่ที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ ก็ถึงได้เห็นความแตกต่างระหว่างเจสเปอร์และตัวเองที่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ไม่มีคำบรรยายที่อามมี่จะคิดออกในเวลานี้อีกแล้ว ผู้เล่นเพียงคนเดียวสามารถรับมือกับบอสดันเจี้ยนได้ขนาดนี้ยิ่งคิดน่าตื่นเต้น
“เฮ้ยจะยืนอึ้งอีกนานไหมอามมี่ คิดว่าฉันจะฆ่าบอสได้ด้วยตัวคนเดียวหรือไง” เสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือได้ปลุกให้อามมี่ตื่นจากภวังค์ พร้อมกับพุ่งเข้าไป ใช้เทคนิค Switch
เลือดของบอสราชางูเหลือเพียง 25% ลูอิส โบม่อนและหิมะน้อยก็มาถึง แม้ทั้ง 3 ได้รับภาระหน้าที่กวาดล้างมอนสเตอร์ตามรายทางทั้งหมดแต่พวกเขาก็ไม่ทำให้เจสเปอร์ผิดหวัง เมื่อทั้ง 5 คนของปาร์ตี้มากันครบก็เริ่มบรรเลงศึกต่อทันที
เมื่อโบม่อนมาถึงก็บรรเลงเพลง เพื่อบัพเพิ่มความว่องไวให้แก่ปาร์ตี้
ความว่องไวที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเกือบเท่าตัวทำให้เจสเปอร์ ฟาดฟันใส่ราชางูได้มากขึ้นตามด้วยธาตุเวทมนต์ที่สุ่มออกมาโจมตี ยิ่งทำการโจมตีได้มากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ธาตุเวทมนต์จะปรากฏมากขึ้นเท่านั้น
ราชางูใกล้ที่คลั่งเต็มที่แล้ว ลูอิสเริ่มชะลอการยิงของตัวเองลง ส่วนอามมี่เองก็ใช้สกิลก้าวพริบตาถอยออกห่างแล้ว นี้คือ วิธีรับมือกับบอสคลั่งคือให้ผู้เล่นเพียงคนเดียวรับการโจมตีที่บ้าคลั่งของบอสซะก่อน เมื่อทุกอย่างนิ่งแล้ว บอสในร่างคลั่งก็เหมือน หมูที่รอขึ้นเขียง
‘ฟ่อวววว’
<>
เมื่อราชางูเข้าสู่ร่างคลั่ง มันก็ฉีดพิษรอบตัวมันอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนในปาร์ตี้เข้าใจถึงสาเหตุที่ให้พวกตนต้องเร่งพัฒนาตัวเองและปิดข้อบกพร่องต่างให้ได้โดยเร็วรวมถึงเจสเปอร์เองด้วยเช่นกัน
หิมะน้อยที่พึ่งลงปาร์ตี้ดันเจี้ยนครั้งแรกและยังต้องมาสู้กับบอสดันเจี้ยนโหมดยาก ไม่ได้ดูตำแหน่งตัวเองให้ดี พลาดถูกพิษของราชางูเข้า ลำพังแค่ความเสียหายจากการถูกพิษไม่ทำให้เธอถึงตาย แต่ด้วยความที่เธอยังเป็นมือใหม่เลยตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้เธอยืนแช่บ่อพิษอยู่นานเกินไป ในที่สุดค่าพลังชีวิตก็หมดลง
“เจส หิมะน้อยตายแล้ว เอายังไงดี” ทุกๆคนในปาร์ตี้ต่างรนรานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากจะต่อว่าพวกเขาเหล่านี้ก็ไม่ถูกความเสมือนจริงของเกมทำให้คนเราตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการตาย คนที่ไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็คงทำตัวไม่ถูกดังเช่นเหตุการณ์นี้
“สงบสติอารมณ์เอาไว้ โฟกัสกับตำแหน่งตัวเองให้ดีบอสยังอยู่ หากเราพลาดคนต่อไปอาจเป็นคนใดคนหนึ่ง”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ หิมะน้อยตายแล้ว เธอจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าทุกคนในปาร์ตี้ล้มเหลวเพราะเธอเพียงคนเดียว ตั้งสติของตัวเองให้ดี ฉันคนเดียวไม่สามารถปราบบอสตัวนี้ได้ แต่ถ้ามีพวกนาย เราสามารถทำมันได้อย่างแน่นอน ฉันมั่นใจ”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy