Ep.81 - พลังธาตุมืด
3/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.81 - พลังธาตุมืด
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ท่าทีของฉินเฟิงกับโจวฮ่าว ดูจะสงบเป็นอย่างมาก
เพราะเสียงกระพือที่ดังมา มันมิได้หนาแน่นอีกต่อไป แต่มีเพียงหนึ่งเท่านั้น!
“ฮี่ฮี่ มีปลาหลุดจากตาข่ายมาได้ด้วยแฮะ นายอยู่เฉยๆเถอะ ตัวนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!”
โจวฮ่าวย่ำเท้าลงกับพื้น ร่างของเขาเป็นประกายวูบไหว ทะยานออกไปสังหารค้างคาวยักษ์อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะถูกค้างคาวยักษ์พวกนี้ไล่ตาม ฉินเฟิงก็ได้สังหารสัตว์ร้ายตามจำนวนการทดสอบผู้ใช้พลังเลเวล G ครบตามกำหนดแล้ว ขณะที่โจวฮ่าวสังหารไปได้เกือบร้อยตัว ยังคงขาดอีกจำนวนหนึ่งถึงจะทำได้ตามข้อกำหนด
ถ้าหากในเหมืองไม่สามารถล่าได้อีกต่อไป เกรงว่าวันพรุ่งนี้โจวฮ่าวคงจำเป็นต้องโดดเรียน!
หลังจากที่โจวฮ่าวสังหารค้างคาวยักษ์ตัวแรกไปแล้ว ก็มีอีกตัวหนึ่งก็บินออกมาจากถ้ำ -แต่แค่ตัวเดียว
คราวนี้ กระทั่งโจวฮ่าวก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกๆ
“เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” ฉินเฟิงโบกมือให้เขา และเดินเข้าไปในเหมือง
ปัจจุบัน ฝุ่นได้ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งปากทางเข้าเหมือง และลึกเข้าไป 50 เมตร เส้นทางก็ได้ถูกปิดกั้นด้วยหินที่พังทลายลงมา
อย่างไรก็ตาม กลับปรากฏรอยแยกหนึ่งตรงพื้นดิน
มันเป็นรอยแยกที่มีขนาดราวๆสองฝ่ามือ เป็นรอยแยกที่ค้างค้าวยักษ์ไม่สามารถบินลอดผ่านมาได้ หากแต่ถ้าพวกมันพับปีก ก็ยังพอที่จะคลานออกมาได้อย่างลำบากลำบน
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของค้างคาวยักษ์อ่อนนุ่มมาก ไม่นาน อีกตัวหนึ่งก็สามารถคลานออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ฉินเฟิงทุบกะโหลกอีกฝ่ายอย่างไร้ความปราณี และกระชากทั้งตัวของค้างคาวยักษ์ที่หัวแบะออกมา
หลังจากที่ถูกดึงออก ก็ปรากฏค้างคาวอีกตัวผุดขึ้นมา
“นายท่าน เจ้าพวกนี้ก็อยากกินผลไม้งั้นหรอ?” ไป๋หลีที่เฝ้าดูการกระทำของฉินเฟิงข้างๆ เอ่ยถามออกมาด้วยความสนอกสนใจ
เมื่อเธออ้าปาก กลิ่นหอมอ่อนๆของผลไม้เสมหะเลือดที่กำลังเคี้ยวก็โชยออกมา กลายเป็นยิ่งกระตุ้นให้พวกค้างคาวเร่งคลานออกมาไวกว่าเดิม
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด!”
ค้างคาวที่กำลังมุดรอยแยกส่งเสียงร้องรุนแรง
พวกมันกำลังคลั่งเพราะกลิ่นของผลไม้เสมหะเลือด!
“ฉินเฟิง เกิดอะไรขึ้นข้างในน่ะ?”
โจวฮ่าวจัดการค้างคาวตัวก่อนหน้าได้แล้ว ก็รีบเดินเข้ามา ไม่ช้าเขาก็พบกับฉากที่ไม่คาดคิดนี้
“ก๊ากฮะฮ่าฮ่า เจ้าพวกค้างคาวยักษ์ทำไมมันโง่แบบนี้ มาเร็ว มาให้ฉันฆ่าเก็บแต้มซะดีๆ ถ้าติดแหง็กอยู่ในรูแบบนี้ มีเป็นร้อยก็ไม่หวั่น ฮ่าฮ่า!”
โจวฮ่าวกล่าวด้วยความตื่นเต้น
ฉินเฟิงส่ายหัวของเขา
“นายควรจะปล่อยให้พวกมันออกมาก่อน เพราะในการบันทึกวิดีโอ การฆ่าแบบนี้จะถือว่าไม่นับ!”
แม้ทางฝ่ายตรวจสอบจะไม่ทราบถึงสถานการณ์ แต่พวกเขาจะตระหนักได้อย่างแน่นอนว่านี่คือการโกง ถึงการนับจำนวนสัตว์ร้ายที่สังหารจะถูกจัดการโดยจักรกล แต่ก็จะมีบ้างที่มนุษย์ลงมาตรวจสอบด้วยตัวเอง
โจวฮ่าวพอคิดถึงเรื่องนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอของฉินเฟิง
หลังจากนั้น โจวฮ่าวก็ได้ต่อสู้กับค้างคาวยักษ์ที่ค่อยๆโผล่มาทีละตัว ทีละตัว ระหว่างสู้ ถ้ามีตัวอื่นมุดเข้ามาก่อนการต่อสู้จะจบลง ฉินเฟิงก็จะใช้มีดกษัตริย์ครามในมือชิงสังหารมัน
แม้ว่าค้างคาวยักษ์ที่รอต่อคิวมุดขึ้นมาตัวต่อไป จะทราบว่าค้างค้าวตัวก่อนหน้ามันตาย แต่มันก็ไม่คิดล่าถอย ค้างคาวยักษ์จำนวนมากยังตัดสินใจคืบคลานมาข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง พวกมันถูกกลิ่นของผลไม้เสมหะเลือดล่อลวงอย่างมิอาจต่อต้าน
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ในบรรดาค้างคาวยักษ์ที่เตรียมจะมุดออกมา น่ากลัวว่าอาจจะมีระดับราชันย์ปะปนอยู่ด้วย
โจวฮ่าวล่าสังหารได้อย่างรวดเร็ว แต่การต่อสู้กับค้างคาวทีละตัว ผ่านไปสักพักแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง หนึ่งชั่วโมงต่อมา โจวฮ่าวก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง ทว่ายังคงเหลือสัตว์ร้ายที่ต้องสังหารตามข้อกำหนดอีก 30 ตัว
ยังไงก็ตาม ค่ำคืนนี้โจวฮ่าวได้มาถึงขีดกำจัดแล้ว!
“เสี่ยวไป๋ เอาผลไม้เสมหะเลือดไปมอบให้เขา” ฉินเฟิงสั่ง
ไป๋หลีแสดงท่าทีไม่ยินยอม แต่สุดท้ายก็มอบผลไม้ให้กับโจวฮ่าว
“แค่ผลเดียว ไม่ให้มากไปกว่านั้น!” ไป๋หลีกล่าว
“ขอบใจนะเจ้าหญิงน้อย!” โจวฮ่าวปากหวาน เขารับผลไม้มา โยนมันเข้าปาก กลืนลงสู่กระเพาะโดยตรง
ทันใดนั้นกระแสพลังบริสุทธิ์จากผลไม้ก็ปะทุออก มันแพร่กระจายไปตามแขนขาของโจวฮ่าว กล้ามเนื้อในส่วนที่บาดเจ็บและอ่อนแอในตอนแรก พลันเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ราวกับว่ามันสามารถใช้งานอย่างเต็มรูปแบบได้อีกครั้ง
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของโจวฮ่าวทะลุขึ้นไปยังเลเวล G3 !
“มาต่อยกที่สองกันเลย!”
โจวฮ่าวเริ่มเผชิญหน้ากับค้างคาวยักษ์อีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา โจวฮ่าวก็บรรลุภารกิจสังหารสัตว์ร้าย 30 ตัวสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ทั้งสองก็ยังไม่มีความคิดที่จะจากไปในทันที
“ฆ่าได้เท่าไหร่ ก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เท่านั้น!” โจวฮ่าวชักมีดสั้นกุมในมือ เฝ้ารอให้ค้างคาวยักษ์โผล่หัวออกมา แล้วสังหารมัน!
ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจขอผลไม้อีกลูกจากไป๋หลี ให้โจวฮ่าวพกติดตัวเอาไว้
“นายฆ่าพวกที่กำลังมุดตรงนี้ไปนะ ฉันขอไปตรวจสอบอีกด้านหนึ่งก่อน”
-ฉินเฟิงตั้งใจจะไปกำจัดกลุ่มใหญ่ของค้างคาวยักษ์เพียงลำพัง!
สำหรับฉินเฟิง แม้ค้างคาวยักษ์เหล่านี้จะมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ G3 -5 และแทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆต่อเขา ทว่าด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาล มันก็น่าจะเพียงพอที่จะนำมาใช้เสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเองได้!
“ไปเถอะ ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ โจวฮ่าวได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของไป๋หลีแล้ว ไหนจะพลังที่ใช้เคลื่อนไหวในพริบตาของมันอีก มองยังไงพลังนั่นก็ช่างเหมาะสมที่จะใช้ลอบสังหาร และใช้หลบหนีได้เป็นอย่างดี! ดังนั้นเขาเลยไม่กังวลว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับฉินเฟิง
แต่เป็นธรรมดาที่โจวฮ่าวจะไม่ทันคิด ว่าการเคลื่อนไหวในพริบตาของไป๋หลี แท้จริงแล้วมันคืออบิลิตี้ที่หาได้ยากยิ่ง
ในเวลานี้ ฉินเฟิงกับไป๋หลีได้มาถึงสุดปลายอีกด้านหนึ่งของฝั่งที่พวกค้างคาวยักษ์กำลังถูกดึงดูด ห่างออกไปราวๆสองร้อยเมตร
นับตั้งแต่ที่เสี่ยวไป๋กลายเป็นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล F รัศมีในการเทเลพอร์ตของมันก็ขยายออกเป็น 1000 เมตร นับประสาอะไรกับแค่ 200 เมตร!
ฉินเฟิงสามารถได้ยินถึงเสียงกระพือปีกของค้างค้าวยักษ์ได้อย่างชัดเจน
“เอาล่ะ ได้เวลาที่พวกเราจะมาทดลองใช้พลังพิเศษธาตุมืดกันแล้ว!”
ฉินเฟิงแช่อยู่ในห้องสมุด เก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆได้มากมายในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมา สังเกตุได้จากบอลไฟยักษ์ที่ปลดปล่อยออกไปเมื่อครู่
แน่นอน ท่านอาจจะกำลังคิดว่าก่อนหน้านี้ ฉินเฟิงเองก็ใช้บอลไฟสังหารไวเปอร์ลงไปเหมือนกันไม่ใช่หรอ นั่นก็ใช่ ใช้พลังไฟเหมือนกัน หากแต่ขนาดของบอลไฟในครั้งนี้ใหญ่โตกว่ามาก เนื่องจากมันถูกเสริมด้วยเทคนิคใหม่ที่เพิ่งเรียนรู้มาลงไป
ฉินเฟิงเดินออกจากมุมหนึ่ง มาอยู่ใกล้กับด้านหลังของค้างคาวยักษ์ เนื่องจากมีโจวฮ่าวอยู่ข้างหน้า คอยล่อลวงพวกมันด้วยผลไม้เสมหะเลือด ค้างคาวยักษ์เหล่านี้เลยไม่คิดจะเหลียวมองกลับมาทางเขาและเธอ
ฉินเฟิงเริ่มระดมพลังสมาธิของตนเอง รูนแห่งความมืดเริ่มแผ่ขยายออกมา
ในช่วงเวลานี้ รอบตัวฉินเฟิงมิได้ถูกห้อมล้อมด้วยเปลวไฟแต่อย่างใด มันมิปรากฏประกายใดๆออกมา ในทางกลับกัน ทั้งคนทั้งร่างของเขากลับจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดอย่างมิอาจจินตนาการได้
ทรงกลมสีดำปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของฉินเฟิง จากนั้นก็เริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
รูนถูกผสมผสานเข้าไปอย่างต่อเนื่อง บอลทมิฬเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นจนถึง 3 เมตร ความมืดอันน่าหวาดกลัวกลืนกินทุกสิ่งอย่าง กระทั่งวิสัยทัศน์ของฉินเฟิงก็ยังเป็นสีดำสนิท!
“เอาไปกินซะ!”
ฉินเฟิงผลักบอลทมิฬไปยังเบื้องหน้าโดยไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ
มันคือความเงียบอย่างแท้จริง ยามเมื่อบอลทมิฬโถมเข้าใส่กลุ่มค้างคาวยักษ์ที่อยู่หลังสุด มันไร้ซึ่งเสียงกรีดร้อง หากแต่ยังคงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกว่าเกิดระเบิดขึ้น
ภายใต้อำนาจของศิลานรก ส่งผลให้พลังของบอลทมิฬพุ่งทะยานไปถึงระดับที่น่าหวาดกลัว!
บอลทมิฬกลืนกินค้างคาวยักษ์ในพริบตา ทุกที่ที่บอลนี้เคลื่อนผ่าน ค้างคาวยักษ์จะร่วงลงกับพื้น สูญสิ้นชีวิตไป
บอลทมิฬลอยไปได้ราวๆ 10 เมตร
ในระยะสิบเมตร เนื่องจากค้างคาวยักษ์กระจุกตัวอยู่กันอย่างหนาแน่น เลยส่งผลให้เพียงการโจมตีเดียว ก็สามารถคร่าชีวิตของค้างคาวยักษ์ไปได้มากถึง 500 ตัว!
ฉินเฟิงเฝ้ามองฉากนี้อย่างลึกล้ำ เขาเหมือนจะเกิดความเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับพลังของรูนมืดขึ้นมาได้อย่างกระทันหัน
“ที่แท้พลังของรูนมืดก็เป็นแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมรุ่นพี่ถึงได้บอกว่าพลังแห่งความมืดทรงอำนาจที่สุด หนึ่งนิ้วแห่งความตาย ... ผลการสังหารของมันก็มาจากรูนมืดเช่นกัน กล่าวได้ว่ารูนมืดคือสัญลักษณ์แห่งความตาย เหมือนกับที่รูนแสงคือสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่นั่นเอง!”
“จงกลับมา!”
ฉินเฟิงมิได้เกลียดชังในรูนมืดของตนเอง สำหรับเขา รูนมืดไม่ใช่ลางร้าย เขาไม่เคยมามัวสนใจคิดว่าพลังในมือของตนเองเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ เพราะค่าของพลัง มันขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานมันแข็งแกร่งหรืออ่อนแอต่างหาก!
บอลทมิฬกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
ท่ามกลางความเงียบงัน ฝูงค้างคาวทยอยกันถูกกลืนกินไปเรื่อยๆ