บทที่ 74 : ทิศทางของการพัฒนาในอีกหกเดือนข้างหน้า
วิลเลียมรู้ว่าข้อบกพร่องของตัวเขาเองคืออะไร
ไม่ใช่พลังการต่อสู้เพราะมันต้องใช้ประสบการณ์และเวลา แล้วก็ไม่ใช่อัตราเร็วของการก้าวหน้าของเขาที่ช้าเช่นกัน สิ่งที่เขาขาดคืออิทธิพลและอำนาจ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพาผู้เล่นในช่วงเริ่มต้นของเกม เขาเคยเป็นผู้เล่นมาก่อน เขาจะไม่รู้จิตใจของผู้เล่นได้อย่างไรล่ะ?
นอบน้อมกับคนที่แข็งแกร่ง ข่มขู่คนอ่อนแอ เข้าร่วมกับใครก็ตามที่ให้ผลประโยชน์ นี่ล่ะผู้เล่น…
วิลเลียมคิดอยู่เสมอว่าเขานั้นหล่อเหลาและเป็นที่นิยมกับผู้คนเสมอ
แต่ทว่า…
หากจะพึ่งพาแต่ใบหน้าที่งดงามก็ดูจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ และมันก็อาจจะดึงดูดเฉพาะผู้เล่นที่เป็นผู้หญิงที่มีกำลังรบต่ำเท่านั้นอีกด้วย มันไม่ค่อยทำให้แผนการอันทะเยอทะยานของเขาก้าวหน้าเท่าไหร่นัก
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลว่าทำไมวิลเลียมจึงได้มุ่งเน้นความพยายามทั้งหมดของเขาในการพัฒนาเมืองแห่งรุ่งอรุณ
ยังมีอะไรที่อันตรายต่อเมืองแห่งรุ่งอรุณอยู่อีกหรือเปล่า?
ประการแรก พื่นที่ที่ครอบครองอยู่มีขนาดเล็กเกินไป ส่วนใหญเป็นป่าไม้ และพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกนั้นมีกำจัด
ประการที่สอง มีแหล่งแร่มากมายในเมือง แต่เขาไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ออกไป อย่างที่ผู้เล่นหลายคนต่างพูดถึงเหล่าบอสที่มากมายในเมืองรุ่งอรุณ เพราะประชากรนั้นหนาแน่นเกินไป ดังนั้นผู้เล่นสามารถค้นพบเหมืองได้ง่ายดายนัก
วิลเลียมรู้ขีดจำกัดของตนเองดี ทั้งสองอาณาจักรมนุษย์นั้นมีผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมและเจ็ดNPCระดับรีเจนดารีและอีปิคก็เพียงพอแล้ว…
พลังของเขายังเทียบไม่ได้กับสองอาณาจักรมนุษย์ หากพวกเขารู้เกี่ยวกับเหมืองแร่อันล้ำค่าของเขา ดินแดนของเขาคงหนีไม่พ้นสงครามและการทำลายเป็นแน่
ประการที่สาม จำนวนประชากรของเมืองนั้นน้อยเกินไป แม้ว่าเขาจะซื้อทาสมาทุกเดือน ในเมืองรุ่งอรุณก็มีคนแค่ประมาณ 60,000 คนเท่านั้น กองทัพมีทหาร 4,000 นาย และทหารรับจ้าง 800 นาย แม้ว่าจะนับนักรบโถวเหยิน 800 นายที่มาใหม่ ก็มีทหารเพียง 5,600 คนเท่านั้น
แม้ว่าเลเวลและอุปกรณ์ของกองทัพนั้นจะน่าเกรงขาม แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะศัตรูที่มีคนจำนวนมากกว่าเป็นเท่าตัวได้
ประการที่สี่ ทหารจำนวนมากของเขามีพื้นฐานที่อ่อนแอ หากวิลเลียมไปถึงขีดกำจัดสูงสุดของเวอร์ชันเกมอย่างผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแล้ว เขาก็คงสามารถปกป้องรักษากองทัพขนาดใหญ่เพียงลำพังได้
“ถ้าเป็นวิธีนี้ล่ะ...” วิลเลียมนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะของโถงประชุมมองผู้ใต้บังคับบัญชาของตน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “มีสองเส้นทางวางอยู่เบื้องหน้า มีให้เลือกระหว่างการพัฒนาชนชั้นสูงหรือเพิ่มจำนวนทหารเพื่อขยายกองทัพ”
“เมื่อทั้งสองประเทศเริ่มสงคราม เราไม่สามารถหนีพ้นไปได้ เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเรานั้นจะต้องเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งของพวกนั้นแน่ ไม่ว่าเราต้องการหรือไม่”
อเล็กซ์มองไปที่วิลเลียมอย่างชืานชม ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านลอร์ดกล่าวถูกแล้ว หน่วยข่าวกรองที่ท่านต้องการให้ข้าจัดตั้งขึ้นได้รับข้อมูลบางอย่างมา อาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำกำลังจะเริ่มสงครามกันจริงๆ”
“แม้ว่าสถานการณ์จะก่อให้เกิดความล่าช้าในการทำสงครามไม่น้อย แต่ก็จะเริ่มกันจริงๆจังๆในอีกครึ่งปีถัดไป เรายังคงมีช่องโหว่ในทุกกรณี อาณาจักรทั้งสองต่างก็มีความทะเยอทะยาน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะบังคับให้เราเลือกข้าง หากเราเลือกอย่างไม่ระมัดระวัง เราต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อย่างแน่นอน”
“นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง อาณาจักรเหล็กได้นำสายลับมากมายแฝงเข้ามาในเมืองแห่งรุ่งอรุณ แต่เราไม่รู้เจตนาของพวกเขา”
อเล็กซ์มองไปยังโอดอมที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยและการขนส่งของเมือง ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะตำหนิโอดอม
“ท่านลอร์ด ข้าไม่รู้ว่าสายลับได้แทรกซึมเข้าไปในเมืองของเรา นี่เป็นความผิดของข้าเอง ข้ายินดีรับการลงโทษ” โอดอมมองไปยังอเล็กซ์ขณะที่ยืนขึ้นและคำนับด้วยความเคารพ
วิลเลียมผงกศีรษะอย่างไร้อารมณ์ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านผิดพลาด ถูกปรับเงินเดือนสามเดือน แต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสายลับที่แฝงตัวมา ตราบใดที่ท่านจัดการผู้อยู่อาศัยใหม่อย่างถูกต้องเราจะเพิ่มค่าจ้างของท่านในปีหน้า”
“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของท่าน ท่านลอร์ด” โอดอมยิ้มก่อนจะเลิกคิ้วอย่างพึงพอใจไปทางอเล็กซ์
ด้วยอัปกิริยาที่แสดงออกมา โอดอมได้บอกว่าเขาเป็นคนสนิทของท่านลอร์ด อเล็กซ์ควรไปเข้าคิวหากต้องการมาแทนที่เขา
โอดอมสะบัดผมสีทองอร่ามของเขา ก่อนจะนั่งลงช้าๆ
ผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่จะต้องสร้างความสมดุลระหว่างความมีเมตตาและวินัยในการลงโทษที่เหมาะสม
พลังอันยิ่งใหญ่สามารถปกครองผู้คนได้ แต่มันไม่สามารถเอาชนะใจได้
วิลเลียมเชื่อว่าเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แต่มันไม่ใช่ทุกสิ่ง เขาไม่สามารถอ่านความคิดของคนอื่นได้ หากคิดเอาเองก็คงไม่แม่นยำมากพอ เว้นซะแต่ว่า…
ลอทเนอร์กล่าวด้วยความกังวลว่า “หากเราขยายกองทัพ เมืองรุ่งอรุณคงไม่สามารถรับค่าใช้จ่ายได้!”
“งั้นเราก็ต้องหาทางอื่น” วิลเลียมคลี่แผ่นผ้าด้านหลังของเขา มันเป็นแผนที่ใหม่
มันครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็ก แต่มีรายละเอียดมาก มีการกล่าวถึงเมือง, ภูเขา, แม่น้ำ, ทะเลสาบและขุมพลังต่างๆที่มุมตะวันออกเฉียงใต้
เขาชักดาบสายฟ้าออกจากฝัก ก่อนจะชี้ไปยังชายหาดตรงชายทะเลที่อยู่ทางตอนใต้ของทะเลสาบสายรุ้ง “การขยายเมืองรุ่งอรุณในอนาคตจะเป็นตรงแถวๆนี้และภูมิภาคตามแนวทะเล”
เมื่อได้ยินคำพูดของวิลเลียม ลอทเนอร์, โอดอม, อเล็กซ์ และเอริค พนักงานระดับอีปิคทุกคนต่างตกตะลึง
การขยายอาณาเขตนั้นพวกเขาสามารถเข้าใจได้
แต่กับทะเลนั้น?
จะขยายไปยังไงล่ะ?
วิลเลียมสังเกตเห็นการแสดงออกของทุกคน เขารู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “บางทีพวกท่านอาจลืมสิ่งนี้ไป แต่จำไว้ว่า เมื่อนานมาแล้วทวีปรีเจนดารีของเราก็เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของทวีปใน Gods
“สงครามที่เกิดขึ้นได้แบ่งทวีปของ Gods ออกเป็นทวีปที่กว้างใหญ่ต่าง ๆ แล้วก็ยังมีเกาะมากมายในทะเล”
“ทิศทางการพัฒนาของเราในอีกหกเดือนข้างหน้าคือการเดินเรือและการตกปลา”
“การผลิตอาหารของเราไม่สูงพอที่จะสนับสนุนกองทัพขนาดใหญ่ แต่เราพบแผนที่ท่านพ่อและเขาบอกอะไรบางอย่างว่ามีเกาะที่เต็มไปด้วยทรัพยากรตั้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยไมล์ทางตอนใต้ของเมือง”
“การพัฒนาอุตสาหกรรมการเดินเรือและการประมงจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเรา นอกจากนี้อาหารทะเลที่ได้รับจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงของเราได้อีกด้วย”
พวกเขาทั้งสี่มองหน้ากันและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากวิลเลียมได้กล่าวถึงพ่อของเขา ในขณะนี้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้ เนื่องจากจะไม่สุภาพต่อผู้เสียชีวิต
ลอทเนอร์ถามอย่างระมัดระวัง “ท่านลอร์ดพอจะแนะนำอะไรได้หรือไม่?”
“หากเราต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมทางทะเล เราต้องสร้างเส้นทางภูเขาทางใต้จากทะเลสาบสายรุ้ง เริ่มงานพรุ่งนี้เลย!”
“แต่เราไม่มีคนที่สามารถสร้างเรือได้ในเมืองแห่งรุ่งอรุณเลยนะครับ มันจะทำให้เรือรบสร้างออกมาจากความสับสน…” ผู้ที่มีประสบการณ์ในทะเลมักจะถูกคลื่นยักษ์สาดซัด
ทะเลที่ไร้พรมแดน สภาพอากาศที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ อสูรทะเลระดับรีเจนดารีเพียงตนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับเผ่าพันธุ์บนพื้นดิน ลอทเนอร์ที่เป็น NPC ระดับอีปิคนั้นหวาดกลัวยิ่งนัก
“เราต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากท่านลุงลอทเนอร์แล้ว...” วิลเลียมยิ้มขณะมองไปยังลอทเนอร์
ลอทเนอร์ตื่นตระหนก วิลเลียมพูดว่าอะไรนะ?
เขากลัวคำนั้นมากที่สุด คำว่าท่านลุงน่ะ…
น่าเสียดายที่เขานั้นถูกขังอยู่ในห้องประชุมและไม่อาจหลีกหนีออกไปได้
เขาถามด้วยเสียงแหบห้าวว่า “ท่านลอร์ด ข้าจะช่วยท่านได้อย่างไร?”
“พรุ่งนี้พาเราไปที่เมืองดาร์คไนท์ ไม่ว่าจะเป็นการลักพาตัว, ขโมย หรือปล้น เราต้องเอาพิมพ์เขียวการต่อเรือหรือนักต่อเรือมาให้ได้” ลอทเนอร์สีหน้ามืดครึ้มไปทันตา ขณะที่มือของเขาพยายามควานหาจุดที่ปลอดภัย…
อีกสามคนจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่แวววาว!
เมืองดาร์คไนท์ในตำนาน
เมืองที่มีเอลฟ์หลายล้านตน
ถ้านับเพียงในป่าแบล็คลีฟที่เดียว เมืองแห่งนั้นก็มีเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์อาศัยอยู่อย่างน้อยหนึ่งในสามแล้ว
มีโพชั่นแฟรี่กว่าหมื่นตน…
มีมังกรเพชรขนาดมหึมา, มังกรโลหะ และมังกรเงิน…
และต้นไม้แบล็คลีฟศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าเอลฟ์แบล็คลีฟทั้งหมด
มีข่าวลือว่าต้นไม้แบล็คลีฟศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกตั้งอยู่ในเมืองนั้นเป็นต้นไม้ที่สูงนับหมื่นเมตร
อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่านิทานปรัมปราและตำนานจะส่งเสียงออกไปสู่คนภายนอกได้อย่างไร มันก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่หาได้ยาก
คนทั่วไปไม่สามารถค้นหาเมืองนี้ได้พบ!
วิลเลียมแสดงความตั้งใจออกมาในคำพูดของเขา!
เขาต้องการสร้างความสัมพันธ์กับเมืองดาร์คไนท์!
แต่มันช่างยากลำบากยิ่งนัก…
ดูได้จากสีหน้าที่บูดเบี้ยวของลอทเนอร์