ตอนที่แล้วตอนที่ 31 สุสานนักรบดุเดือดอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 ปะทะกับโอไบรอัน

ตอนที่ 32 วิธีการลากมอน


ตอนที่ 32 วิธีการลากมอน

“พวกแกว่าไงนะ คัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีวางขายอยู่ในตลาดมากกว่า 100 ฉบับยังงั้นหรอ”

เสียงชายหนุ่มผู้โกรธเกรี้ยวดังขึ้นราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงกลางที่ประชุมเสียอีก

“ใช่คับหัวหน้ากิลจะให้พวกเราทำยังไงต่อไปดี”

“นี้พวแกไม่มีหัวคิดเองกันแล้วใช่ไหม ระดมเงินทั้งหมดในกิลเราแล้วรีบไปซื้อพวกมันโดยทันที อย่าให้กิลด์อื่นรู้ว่าคัมภีร์ชนิดนี้มีข้อดีอย่างไรส่วนในคลังที่เรามีเหลือให้แจกจ่ายให้กับคนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมโดยเร็ว พวกเราช้าไม่ได้ กิลด์ในเมืองอื่นเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชารีบดำเนินการตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาอย่างเคร่งขัด เงินจำนวนมากหลายเหรียญเงินของผู้เล่นในกิลได้ถูกระดมขึ้นอีกครั้ง

แต่สายไปแล้วในแต่ละกิลด์ต่างมีสายลับที่แฝงตัวเข้ามาอยู่เพื่อสืบความลับของอีกฝ่ายอยู่ไม่มากก็น้อย ไม่มีกิลด์ใหญ่กิลด์ไหนจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้เลย เพราะสายลับจะแฝงตัวมาในคราบผู้เล่นทั่วไป ผู้เล่นชั้นสูง หรือแม้กระทั่งผู้บริหารกิลด์ ที่ย้ายข้างตามอำนาจเงิน มีการซื้อตัวผู้บริหารกิลด์อย่างลับๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะกลไกที่ขับเคลื่อนในโลกปัจจุบันนั้นก็คือ เงิน นั่นเอง

“นี้สินะความลับของนาย ไอเดน ฉันปล่อยให้แกโลดแล่นได้อีกไม่นานนักหรอก ให้คนจับจองตลาดไว้อย่าให้คาดสายตา ทางกิลด์เรามีเงินเท่าไหร่รีบระดมมาเราต้องแย่งคัมภีร์พวกนี้มาไว้ให้ได้ ฉันละอยากเห็นสีหน้าของไอเดนจริงๆว่าจะเป็นยังไง”

“ท่านหัวหน้ากิลด์ Outlaws ช่างเฉียบคมยิ่งนัก พวกเราจะรีบดำเนินการตามที่ท่านหัวหน้ากิลด์สั่งโดยทันที”

ไม่ใช่แค่กิล Bloodcommander และ Outlaws เท่านั้นที่ทราบข่าวถึงเรื่องคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตี กิลด์อื่นๆต่างก็ล่วงรู้ข่าวทั้งหมดแล้ว กลายเป็นว่ากิลด์ทั่วทั้งอณาจักรกรีนเวต้ากำลังยื้อแย่งกันซื้อกับคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีกันอย่างบ้าคลั่ง

ระหว่างนั้นเองเจสเปอร์ที่ทำให้ไฟสงครามการค้าลุกหื้อ กลับนั่งสบายใจในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองอัลคาเดีย เพื่อพักฟื้นค่าความเหนื่อยของเขาอยู่นั่นเอง เพื่อนของเขาก็มาถึง

“เฮ้ เจสพวกเรามาแล้ว เอานี้ เขี้ยวหมาป่าสีเทาที่นายต้องการ ฉันกับโบม่อนหามาได้มากกว่า 100 อันเชียวนะว่าแต่นายเอาพวกมันไปทำอะไรตั้งมากมาย”

“เดี่ยวพวกนายก็รู้เอง”

เจสเปอร์ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ด้วยจำนวนเขี้ยวหมาป่าจำนวนมากขนาดนี้การทำ คัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีจะปั่นป่วนตลาดมากขนาดไหนกันนะ

“ว่าแต่โบม่อนไปไหนละ ทำไมนายถึงมาแค่คนเดียว”

“เห็นว่าจะไปรับน้องที่รู้จักคนนึงมาด้วยนะ โบม่อนเลยให้ฉันมาขอนายเรื่องนี้ก่อนเนี่ยแหละ ถึงได้รีบตรงมาที่นี้” อามมี่หลังจากนั่งก็หยิบอาหารและเครื่องดื่มของเจสเปอร์ใส่ปาก กินอย่างเอร็ดอร่อย

โบม่อนมีคนรู้จักด้วยงั้นหรอ ในอดีตโบม่อนแทบไปไหนมาไหนคนเดียวตลอดเจสเปอร์คิดเรื่องนี้อยู่สักพักก็เลิกคิด เดี๋ยวมาถึงก็รู้เองว่าเป็นใคร

“นายเรียกหมอนั่นมาด้วยหรอ นิสัยหมอนั่นก็ดีอยู่หรอกแต่ไอ้นักรบเพื่อนของหมอนั่น ฉันนึกถึงแล้วยังแค้นใจไม่หาย”

อามมี่เรียกเจสเปอร์ให้หันไปมองทางเข้าร้าน ลูอิสกำลังยืนมองหาพวกเขาอยู่หน้าร้าน

“อืมที่ๆฉันจะพาไป หมอนั่นคือกำลังสำคัญเชียวละ” เจสเปอร์ยืนขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกลูอิสให้เขามา

ลูอิสเดินมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มจากทางร้านและดื่มพวกมันหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ดูท่าแล้วคงเหนื่อยมากับอะไรสักอย่าง แต่ความสงสัยของเจสเปอร์ก็ได้รับคำตอบทันที

“ฉันบอกแล้วว่าไม่ไหว แต่ไม่มีใครฟังฉันเลย พวกนั้นยังคะยั้นคะยอให้ฉันพาลงดันเจี้ยนสุสานนักรบโหมดยากเพื่อที่จะเอาเฟิร์สเคลียร์อยู่ได้” เสียงบ่นตัดพ้อถูกกระหน่ำลงกลางวงสนทนาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เจสเปอร์หัวไวกว่าหน่อยก็จับต้นสายปลายเหตุเรื่องทั้งหมดได้

คงเป็นโอไบรอันและกิลด์ BlackRat ที่ล่วงรู้ว่าลูอิสได้เฟิร์สเคลียร์ดันเจี้ยนสุสานนักรบโหมดนรก แต่พวกตนทำไม่สำเร็จจึงหวังว่าลูอิสที่เป็นเพื่อนและเป็นหนุ่งในสมาชิกกิลด์ช่วยพากิลด์ให้ประสบความสำเร็จและคว้าเฟิร์สเคลียร์โหมดยากมาครอบครอง

อามมี่และเจสเปอร์หลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่ลูอิสเล่ามาก็รู้สึกสงสารชายคนนี้อย่างจับใจ เป็นเพราะพวกเขาที่ทำให้ลูอิสเจอเรื่องที่ยากลำบากแบบนี้ ลูอิสยังคงกินอาหารและเครื่องดื่มอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อฟื้นฟูค่าความเหนื่อยกลับคืนมาพร้อมกับผ่อนคลายอารมณ์ของตนเอง เพราะตั้งแต่วันนี้ที่ออนไลน์เขาเกมมา เขาถูกโอไบรอันลากไปช่วยลงดันเจี้ยนมาไม่ต่ำกว่า 3 รอบ ผลลัพธ์ย่ำแย่อย่างหนัก ยังไม่มีโอกาสได้เจอแม้แต่เงาของมินิบอส AbyssGuard เลยสักครั้ง เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาวุธและน้ำยาฟื้นพลังไม่มากมาย เมื่อได้รับจดหมายของเจสเปอร์ชักชวนไปเก็บเลเวลและมีกิลด์ที่ได้เฟิร์สเคลียร์โหมดยากไปแล้ว ภาระของลูอิสก็เหมือนถูกปลดเปลื้องภาระบ้าๆนี้สักที

“เอ๊ะ นายคนนั้นนี้ พี่รู้จักเขาด้วยหรอ” หญิงสาวถามชายอีกคนที่มาด้วยและชายคนนั้นก็คือโบม่อน

“อืม คนนี้แหละที่จะพาพวกเราไปเก็บเลเวล เธอรู้จักเจสเปอร์ด้วยหรอ”

“เขาช่วยให้ฉันผ่านเควสแม่มดขาว ที่ฉันถามพี่เมื่อวานไง” สาวน้อยที่โบม่อนพามาก็คือ หิมะน้อยหรือมาร์กี้ ที่เจสเปอร์ช่วยเหลือไว้ที่ห้องสมุด

โบม่อนเมื่อได้ยินสิ่งที่มาร์กี้เล่ามาให้ฟัง ก็ยิ่งเชื่อในตัวเจสเปอร์มากขึ้น ชายคนที่เขาติดตามเป็นคนที่มีจิตใจดีอย่างแท้จริง แม้กระทั่งเควสลับก็ยังช่วยเหลือผู้อื่นที่ไม่รู้จักโดยไม่ห่วงเอาไว้กับตัวเลย เมื่อคนทั้งหมดมาร่วมตัวกันมีการแนะนำตัวเล็กน้อย หิมะน้อยที่โบม่อนพามา แท้ที่จริงแล้วคือน้องแถวบ้านโบม่อนอายุน้อยกว่าเจสเปอร์ 2 ปี พอดีว่าช่วงนี้เธอกำลังรอผลสอบเข้ามหาลัย ด้วยความว่างจึงได้เริ่มเล่น The Era Online ตามคนอื่นๆเมื่อรู้ว่าโบม่อนพี่ข้างบ้านที่เธอรู้จักก็เล่นเกมนี้เหมือนกัน ประจวบเหมาะกับที่เธอถูกไล่ออกจากปาร์ตี้เก่า การเข้าร่วมปาร์ตี้กับคนรู้จักน่าจะปลอดภัยจากการโดนคนอื่นไล่ออกมากกว่าเป็นไหนๆ

“ในเมื่อมากันพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลยเถอะ กว่าพวกเราจะไปถึงก็คงจะได้เวลา” เจสเปอร์ลุกออกนำปาร์ตี้ทั้ง 5 คน ออกจากร้านในทันที

“เจส จะไปเก็บเลเวลในช่วงกลางคืนจริงๆหรอ ไม่ใช่ว่าการเก็บเลเวลตอนกลางคืนจะอันตรายมากกว่าหรอ”

ทุกคนในปาร์ตี้ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอามมี่ ซึ่งการเก็บเลเวลตอนกลางคืนเป็นช่วงที่อันตรายมาก มอนสเตอร์จะเข้าจู่โจมผู้เล่นโดยอัตโนมัติทำให้หนีไม่พ้นการถูกรุมได้เลย ผู้เล่นหลายๆคนจึงเลือกที่จะพักผ่อนกันอยู่ในเมืองในช่วงกลางคืนมากกว่า

“ถ้าไม่ใช่ตอนกลางคืนแบบนี้ แผนของฉันก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว รีบก้าวเท้าของพวกนายเถอะ” เจสเปอร์รีบเร่งเดินทางต่อไปโดยไม่หยุดพักอีก หิมะน้อยเองที่พึ่งเข้าร่วมปาร์ตี้กับเจสเปอร์ครั้งแรก ทำได้เพียงแค่บ่นเล็กๆน้อยกับโบม่อน

“พี่โบม่อน ฉันไม่ปฏิเสธว่าเขาเป็นคนดีและคนเก่งนะ แต่ที่เขาทำแบบนี้พวกเราจะได้ประโยชน์จริงหรอ ฉันอยากเพิ่มเลเวลของฉันให้มากกว่านี้ไม่ใช่ไปตายนะ”

“ฉันเองก็ไม่รู้ความคิดของเจสเปอร์เองเหมือนกัน ในหัวของเขาคิดอะไรบ้าง ฉันที่โตกว่าเขายังไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่”

“อย่าว่าแต่พวกนายเลย ฉันเองที่รู้จักกับเจสเปอร์มานาน ยังรู้สึกแปลกๆเลยว่าพักหลังๆเจ้านั่นแปลกๆไป แม้นิสัยและหน้าตายังคงเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปฉันเองก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน ว่าแต่น้องหิมะน้อยเดินทางๆนานเมื่อยหรือปล่าว พี่อามมี่อุ้มเธอได้นะ”

หิมะน้อย โบม่อนและอามมี่ ต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ ลูอิสเองที่ได้ยินการสนทนามาตลอดรู้สึกแปลกแยกอยู่บ้าง ถึงแม้เจสเปอร์จะพูดว่าเขาไม่โกรธกับเหตุการณ์ที่โอไบรอันทำไว้ก็เถอะแต่ไม่ใช่ว่าคนในปาร์ตี้พวกนี้จะคิดเหมือนกันกับเจสเปอร์ซะหน่อย อามมี่เมื่อเห็นลูอิสเดินตามอยู่เพียงคนเดียวก็กวักมือเรียกลูอิสเข้ามาพูดสนทนาร่วมกัน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นลูอิสไม่ได้เป็นคนทำแถมนิสัยของลูอิสก็แตกต่างจากโอไบรอันโดยสิ้นเชิง ในเมื่อเจสเปอร์เป็นคนพาลูอิสเข้ามาในปาร์ตี้แสดงว่าเจสเปอร์เชื่อใจหมอนี้ถือว่าลูอิสเป็นส่วนนึงของปาร์ตี้ถึงแม้ว่าลูอิสจะอยู่กิลด์ BlackRat ก็ตาม

เมื่อพูดคุยกันมาตลอดทางความในใจของลูอิสเองก็คลีคลาย อามมี่ได้บอกกับเขาว่าให้เลิกคิดเรื่องโอไบรอันทิ้งไปเสีย ในเมื่อเจสเปอร์ยอมรับในตัวนาย ก็ถือว่านายคือส่วนนึงของปาร์ตี้ของพวกเราอย่างแท้จริง

“เอาล่ะถึงแล้ว และก็มารับนี้ไป” ในที่สุดเจสเปอร์ก็พูดขึ้น พวกเขาเดินทางกันมานานหลายชั่วโมง ท้องฟ้าในตอนนี้เปลี่ยนเป็นมืดครึมแทบทั้งหมด มอนสเตอร์เองก็เริ่มกระหายเลือดมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย เจสเปอร์ยังคงปล่อยให้พวกเขาได้นั่งพักกันเล็กน้อยพร้อมกับบอกหน้าที่ของแต่ละคน รวมทั้งส่งคัมภีร์เพิ่มพลังโจทตีให้กับทุกคนคนละ 5 ม้วน

เมื่อลูอิสได้รับม้วนคัมภีร์มา ก็เปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรวดเร็ว

“เจสเปอร์นายได้คัมภีร์พวกนี้มาได้ยังไง นี้คือม้วนคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีที่กิลชั้นนำต่างแทบจะฆ่ากันตายเพื่อที่จะซื้อพวกมันไม่ใช่หรอ นายมีของพวกนี้ได้ยังไง”

ลูอิสแทบจะร้องออกมาทันทีเมื่อได้พบเห็นม้วนคัมภีร์มากมายที่เจสเปอร์หยิบออกมาแบ่งให้กับคนอื่นๆ คนในปาร์ตี้เมื่อได้อ่านรายละเอียดต่างก็หันมามองที่เขา เจสเปอร์จนใจจึงได้แต่พูดไปด้วยความจริง

“ฉันเป็นคนสร้างพวกมันขึ้นมาเองโดยใช้เขี้ยวหมาป่าสีเทาที่พวกนายหามานั้นละ”เจสเปอร์ยักไหล่อย่างสบายๆเขาถือโอกาสนี้ยืมท่าทางของโอไบรอันมาใช้สักหน่อย น่าจะสร้างปฏิกิริยาให้กับเพื่อนของเขาไม่น้อย

ปฏิกิริยาเป็นอย่างที่เจสเปอร์ต้องการ อามมี่และโบม่อนต่างหักข้อมือตัวเองเตรียมพร้อมมีเรื่องเมื่อเห็นท่าทางของเจสเปอร์เมื่อครู่ ผิดกับลูอิสที่ได้แต่หัวเราะแห้งๆ เมื่อทุกคนล้อเล่นกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่เจสเปอร์จะต้องอธิบายแผนการต่อไป

ลูอิส โบม่อน และ หิมะน้อย อยู่บนหน้าผานี้แหละ คอยป้องกันจุดนี้ให้ดีอย่าให้ใครมอนสเตอร์หน้าไหน โผล่มาโจมตีพวกนายจากข้างหลังได้ ส่วน อามมี่ตามฉันมา นายกับฉันคืนนี้อาจจะต้องรับบทหนักสักหน่อย อามมี่ที่รับฟังโดยไม่ได้เฉลียวใจสักนิดเลยว่าเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังจะพาตนไปพบประสบการณ์สุดบ้าระห่ำ ที่ทำให้ตนนอนไม่หลับไปหลายคืนเลยทีเดียว

เจสเปอร์พาอามมี่เดินแยกออกมาจากกลุ่มอย่างช้า ตลอดทางเจสเปอร์มาร์คจุดสำคัญๆเอาไว้และขอให้อามมี่จดจำมาร์คเหล่านี้ให้ดี และที่สำคัญห้ามลืมทางกลับไปยังหน้าผาที่ปาร์ตี้คงตนตั้งแคมป์เอาไว้โดยเด็ดขาด

“ฟังให้ดีอามมี่งานของนายง่ายมากๆนายเพียงแค่วิ่งจากจุดนี้ไปยังหน้าผาของเราให้ไวที่สุด ทำเสียงเอะอะดังเข้าไว้ ฉันขอเพียงอย่างเดียวอย่าหันหลังกลับมา และความเร็วอย่าตกโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม”

“นายบอกฉันได้ไหมว่านายคิดอะไรของนายอยู่ ทำเสียงเอะอะในตอนนี้ไม่เท่ากับเรียกมอนสเตอร์มาฆาสฉันหรือยังไง”

อามมี่กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวเล็กน้อยเป็นน้ำเสียงที่เพื่อนใช้หยอกล้อกันตามปกติเท่านั้น

“นายไม่ใช่หรอที่บอกว่าอยากเก่งกว่านี้นะ ฉันกำลังจะสอนเทคนิคหนทางลัดความเก่งให้กับนายเชียวนะ ฉันรับรองสนุกแน่ๆ”

เจสเปอร์ก็ตอบกลับเพื่อนของตนอย่างอารมณ์ดี “เอาล่ะพร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมก็เริ่มเลย”

เมื่อเจสเปอร์ให้สัญญาณ อามมี่ก็วิ่งออกไปจากจุดเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของอามมี่ดังกึกก้องไปทั่วตลอดทาง ในเมื่ออามมี่เริ่มต้นแล้ว เจสเปอร์เองก็ไม่รอช้า ออกตัวตามไปเช่นกัน แต่มันเป็นเส้นทางตรงกันข้ามกับอามมี่

เจสเปอร์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เขาสามารถทำได้ ตลอดทางเจสเปอร์เองก็ใช้ดาบของเขาตีกระทบกับกองหินอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงดังไปตลอดทาง

‘เกร้ง เกร้ง ตุ้บ ตุ้บ’

เสียงฝีเท้าหลายคู่วิ่งตามมาในทิศทางของเจสเปอร์ราวกับมีเรดาห์ตรวจจับ เจสเปอร์ไม่หันหลังกลับไปมองเสียงฝีเท้ามากมายที่ตามหลังมา ยังคงวิ่งไปตรงจุดนี้ จุดนั่น จุดโน้น สลับไปมาอย่างช่ำชอง เสียงที่ไล่ตามหลังยิ่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกว่าเสียงฝีเท้าที่ตามมามีจำนวนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาก็หันไปยังทิศทางหน้าผาที่ปาร์ตี้เขารออยู่ทันที

บรรยากาศบนหน้าผาเองก็สงบสุขดีไม่มีมอนสเตอร์ย่างกายเข้ามาตรงจุดพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย มีมอนสเตอร์ 1-2 ตัวเท่านั้น ที่โผล่ออกมาแต่ด้วยสัญชาติญาณของนักล่าอย่างลูอิส ไม่มีทางปล่อยอันตรายเข้ามาใกล้ได้เลย ลูกธนูปักเข้ากับตัวมอนสเตอร์อย่างแม่นยำ หิมะน้อยและโบม่อน ต่างก็รู้สึกอุ่นใจที่มี ลูอิสคอยปกป้อง แต่ความสงบสุขที่พวกเขาพบเจอค่อยๆอันตรธานหายไป อย่างช้า

เสียงฝีเท้าจำนวนหลายสิบคู่ มุ่งตรงมาทางพวกเขาอย่างดุดัน พร้อมๆๆกับเสียงที่คุ้นหูพวกเขา

“โบม่อนร่ายเวทย์สนับสนุนเพิ่มพลังโจมตีเร็วเข้า ลูอิสยิงทุกอย่างที่ขวางหน้าจัดการมันให้หมด หิมะน้อยเธอมีเวทย์มนต์เท่าไร ใส่มาให้หมดไม่ต้องยั้ง และอย่าลืมใช้มัวนคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีละ” พวกเขาทั้ง 3 ต่างงุนงง เมื่อได้รับคำสั่งที่แปลกประหลาดของเจสเปอร์ ยิงใครละ ไหนละศัตรู พวกเราอยู่บนนี้แทบจะไม่มีมอนสเตอร์เข้ามาเลยด้วยซ้ำ แล้วจะใช้ม้วนคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตีไปทำไม

‘ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ’

ด้านหลังของเจสเปอร์ มอนสเตอร์จำนวนนับหลายสิบตัว ยังคงวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ เจสเปอร์เลื่อนมือไปหยิบไอเท็ม 2 ชิ้นจากช่องเก็บของ และเปิดใช้งานพวกมันอย่างรวดเร็ว

[ม้วนคัมภีร์เพิ่มพลังโจมตี ถูกใช้งาน เพิ่มพลังโจมตีและพลังเวทมนต์จำนวนนึง ระยะแสดงผล 29.59 นาที ]

[ผู้เล่นใช้น้ำยา Experience potions จำนวน 1 ขวด ท่านและสมาชิกในปาร์ตี้ของท่านเพื่มค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากมอนสเตอร์จำนวนนึง ระยะแสดงผล 59.59 นาที ]

“บทเรียนที่ฉันจะสอนพวกนายก็คือ ‘วิธีการลากม่อน’ พวกนายจะต้องสนุกไปกับมันอย่างแน่นอน”

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด