ตอนที่แล้วตอนที่ 28 คาร์ลอสและโรส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 เข้าใจผิด

ตอนที่ 29 ช่างตีเหล็ก คราซ่า


ตอนที่ 29 ช่างตีเหล็ก คราซ่า

เจสเปอร์คิดทบทวนถึงภูเขาแรร์เอิร์ธอีกครั้งอย่างรอบคอบ จึงตกปากรับคำกับช่างตีเหล็ก สมิธ เควสนี้ถึงแม้มันจะลำบากสักหน่อยแต่เขาสามารถทำได้เพียงแต่ต้องอาศัยตัวช่วยเล็กๆน้อย

ก่อนที่จะออกเดินทางเขาต้องเตรียมตัวสักเล็กน้อยเขาซื้อโพชั่นเพิ่มพลังชีวิต รวมทั้งน้ำ อาหารจำนวนมากและที่สำคัญอุปกรณ์ขุดแร่ มีโอกาสได้ทำเควสที่ภูเขาแรร์เอิร์ธทั้งทีจะพลาดการขุดแร่ไปได้อย่างไร

การออกไปเก็บเลเวลหรือทำเควสคนเดียวนานๆสิ่งสำคัญในโลกของ The Era Online ที่เป็นหัวใจหลักเลยคืออาหารและการพักผ่อน การพักผ่อนเราสามารถพักแรมที่ไหนก็ได้ถ้ามีเต้นท์สนาม ราคาของพวกมันก็สูงตามราคาและความจุ แต่การจะตั้งแรมพักผ่อนในเขตเก็บเลเวล ผู้เล่นก็ควรที่จะจัดเวรยามเอาไว้ด้วยเผื่อกรณีถูกมอนสเตอร์โจมตี แต่ภูเขาแรร์เอิร์ธจัดว่าไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เต้นท์สนาม

เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้อย เจสเปอร์ก็ออกเดินทางทันทีโดยมีจุดหมายอยู่ที่ภูเขาแรร์เอิร์ธ เขตเก็บเลเวล 10-15 ระหว่างทางมีผู้เล่นมากมายตั้งปาร์ตี้เก็บเลเวลกันอย่างสนุกสนาน เขตเก็บเลเวล 1-5 ยังคงเนื่องแน่นไปด้วยผู้คน และมันจะเป็นอย่างนี้ไปอีก ระยะเวลานึง เจสเปอร์ยังคงมุ่งหน้าต่อไปในทิศทางที่ไกลจากตัวเมืองมากขึ้น จำนวนผู้เล่นก็เริ่มบางตาลง เพราะมันจะเข้าใกล้เขตเก็บเลเวลที่สูงขึ้นแล้ว

[ติ่ง!! เจสฉันกับโบม่อนกำลังจะออกไปเก็บเลเวลด้วยกันนายสนใจจะไปด้วยกันไหม]

มีข้อความจากอามมี่ส่งเข้ามาเขาเปิดอ่านจนจบก็ส่งข้อความตอบกลับไป

[ตอนนี้ฉันมีธุระสำคัญยังไปด้วยไม่ได้ ให้โบม่อนพานายไปเก็บเลเวล หมาป่าสีเทาดูสิและเก็บเคี้ยวหมาป่ามาให้ได้เยอะๆด้วยละ]

เมื่อตอบข้อความเสร็จ เขาก็ออกเดินทางต่อทันที ซึ่งกว่าที่เขาจะเดินทางมาถึงเขตภูเขาแรร์เอิร์ธก็ใช้เวลาเดินทางนานเกือบ 2 ชั่วโมงสาเหตุที่นานก็เพราะเจสเปอร์ต้องสลัดฝูงมอนสเตอร์ที่คอยโจมตีอยู่ตลอดทำให้เสียเวลาเดินทางไปมากพอสมควร ต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณภูเขาหนาทึบปกคลุมภายในไว้จนไม่สามารถมองเห็นได้เลย แต่ความอุดมสมบูรณ์นี้จะอยู่ได้อีกไม่นานนัก เมื่อผู้เล่นมากมายถาโถมเข้ามาที่จุดเก็บเลเวลนี้เมื่อไหร่ สภาพของมันก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามการบุกรุกพื้นที่

ระบบเกม The Era Online แปลกกว่าเกมอื่นตรงที่ว่า AI.อัลฟ่าจะควบคุมสภาพแวดล้อมพื้นที่เหล่านั้นด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเกิดของมอนสเตอร์ การเจริญเติบโตของธรรมชาติ หากผู้เล่นบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่าหรือแม้กระทั่งขุดแร่จากพื้นที้ไปมาก AI.อัลฟ่าจะคอยๆปรับพื้นที่เหล่านั้นให้อยู่ในระบบสมดุล และยิ่งไปกว่านั้นหากผู้เล่นเผลอไปทำเงื่อนไขพิเศษครบตามข้อกำหนดของอัลฟ่า ก็จะเกิดเหตุการณ์พิเศษที่อาจจะส่งผลดีและผลเสียตามมาได้ อย่างเช่น กลุ่มผู้เล่นทำเงื่อนไขทำลายป่าไม้มากจนเกินไป มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านั้นโกรธแค้นหรือบางกรณีกลายพันธ์จนเป็นระดับบอส ก็มีปรากฏให้เห็นหลายครั้งในอดีตของเขา ผู้เล่นที่เดือดร้อนอาจจะไม่ชอบใจเรื่องแบบรี้เท่าไรนัก แต่นี้แหละคือสีสันที่ AI.อัลฟ่าสรรสร้างให้กับโลก The Era Online

เมื่อเจสเปอร์ก้าวเท้าเขาไปในเขตภูเขาแรร์เอิร์ธและด้วยข้อมูลจากอดีตมีหรือที่เขาจะต้องเสียเวลาในการตามหาช่างตีดาบที่หายไป

สาเหตุที่ใจของเขาสั่นสะท้านหลังจากที่ได้ยิน หัวหน้าช่างตีดาบ สมิธพูดว่าเป็นภูเขาแรร์เอิร์ธก็เพราะว่าเควสนี้เป็นที่โด่งดังมากในอดีตของเขานั่นเอง กิล Blood Cammander ที่ถือว่าเป็นกิลชั้นนำได้ใน The Era ส่วนนึงก็มาจากเควสนี้นั่นเอง แต่ทุกอย่างมันกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาลและเขาเองจะเป็นผู้เปลี่ยนมัน

เจสเปอร์รู้ทุกจุดในภูเขาแรร์เอิร์ธทั้งหมดและล่วงรู้อีกว่า ช่างตีดาบที่หายไปอยู่ตรงจุดไหนของภูเขา และคนสำคัญที่เขาจะต้องช่วยให้ได้คือ ช่างตีดาบที่ชื่อ คราซ่า ที่อยู่ข้างในสุดภายในภูเขาแรร์เอิร์ธ แต่กว่าจะไปถึงที่นั้นจำเป็นต้องผ่านมอนสเตอร์....

ไม่ทันขาดคำ!!

[ค้างคาวหิน : LV 12 ]

[HP : 703]

[พลังโจมตี : 49 - 58]

ค้างคาวหินก็ปรากฏตัวขึ้นในความมืด พวกมันพุ่งเข้าใส่เจสเปอร์อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ตอบโต้พวกมันอย่างคล่องแคล่ว ถึงแท้เลเวลจะห่างกันอยู่บ้างแต่ทักษะในการเล่นเกม The Era มานานของเขา มอนสเตอร์ทั่วๆไปจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

-94,-88

ค่าความเสียหายปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องบนร่างกายค้างคาวหินและเมื่อการต่อสู้จบลง

มีชายหนุ่มที่ชื่อเจสเปอร์กำลังก้มเก็บไอเท็มที่ดรอปออกมาจากค้างคาวหินด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน

“อันนี้สามารถนำไปขายได้ไม่กี่เหรียญทองแดง ชิ้นนี้นำไปทำเป็นยารักษาได้”

เจสเปอร์เก็บของที่ดรอปจากมอนสเตอร์มาทั้งหมด เพราะของทุกชิ้นนั้นมีมูลค่าในตัวของมันอยู่บางอย่างถึงจะเอามาทำอุปกรณ์ไม่ได้แต่ก็สามารถนำมาขายให้กับพ่อค้า NPC ที่รับซื้อได้

“ในที่สุดก็เจอจนได้” ภายในภูเขาแรร์เอิร์ธ มีแร่มากมายให้ผู้เล่นขุด ซึ่งแร่ที่อยู่ตรงหน้าเจสเปอร์คือแร่ Copper ore ที่ถือเป็นแร่เริ่มต้นในการผลิตอาวุธ ชุดเกราะ ขั้นพื้นฐานเขาหยิบที่ขุดแร่ของตนขึ้นมา และเริ่มบรรจง ขุดพวกมันขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน

[Copper ore]

[รายละเอียด: แร่ทองแดงที่ช่างตีเหล็กทุกคนเคยสัมผัส มีโอกาสสำเร็จมากในการหลอมเหลวและขึ้นรูป]

เจสเปอร์ใช้เวลาไม่นานก็ขุดตรงแร่ Copper บริเวณนั้นออกมาทั้งหมด เขาตบช่องเก็บของด้วยความพอใจ หากใครกำลังคิดว่าทำไมเขาถึงไม่ซื้อแร่เหล่านี้เหมือนที่ทำกับแร่ Elunium iron steel ก็เพราะว่าแร่ทองแดงพวกนี้เขาไม่ได้เอามาใช้เองนะสิ และ ราคาของมันยังค่อนข้างผันผวนไม่แน่นอนผู้เล่นรู้ถึงคุณสมบัติของแร่ทองแดงว่าพวกมันสามารถนำเอาไปทำอะไร ผิดจาก Elunium Itron Steel ที่ผู้เล่นยังไม่รู้คุณค่าของพวกมันจึงขายเอาตามอำเภอใจ

เขาปะทะกับมอนสเตอร์มากมายแต่ก็หลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นกลุ่มจำนวนมากเพื่อที่จะเดินทางไปให้ถึงด้านในของภูเขาให้เร็วที่สุด เป็นเวลามากกว่า 5 ชั่วโมงที่เจสเปอร์มุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของภูเขา โดยไม่หยุดพักและในที่สุดเลเวลของเขาก็เลื่อนมาที่เลเวล 10 จนได้ เจสเปอร์จัดการเติมแต้มสถานะลงไปทันที

“ช่วยด้วย มีใครอยู่แถวนั้นไหม ฉันอยู่ตรงนี้” เสียงร้องเรียกที่แผ่วเบาทำให้เจสเปอร์รู้ตัวว่าเขาถึงจุดหมายแล้ว แต่เขายังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือช่างตีดาบที่กำลังร้องเรียกได้เพราะข้างหน้านั่นคือ ก็อบลินภูเขา

[ก็อบลินภูเขา LV:13]

[HP : 815]

[พลังโจมตี : 54 - 64]

ก็อบลินภูเขาพวกนี้อย่าได้ดูแคลนลักษณะและขนาดของมันโดยเด็ดขาด มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีความคิดชั่วร้ายมากกว่ามอนสเตอร์อื่นๆมากเกินคำบรรยาย มันชอบอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆคอยสังหารศัตรูที่หลงเข้ามา หากเป็น NPC หญิงหลงเข้ามาในอาณาเขตของมันต่างก็ต้องพบเจอกับฝันร้ายไปตลอดกาล ก็อบลินจัดเป็นมอนสเตอร์ชั้นต่ำที่ทุกอาณาจักรไล่ล่ากวาดล้าง ทำให้พวกมันต้องอยู่อย่างหลบซ่อนๆ รอเวลาที่จะบุกทำลายศัตรูที่ไล่ล่ามัน

เจสเปอร์ยกดาบสลักอาคมของเขาขึ้นมาเตรียมพร้อม ทักษะเคลือบธาตุลงอาวุธถูกเรียกใช้งานขึ้น

“คนที่อยู่ตรงโน้นได้ยินฉันไหม ช่วยฉันด้วย ได้โปรด” เสียงช่างตีดาบยังคงร้องเรียกเจสเปอร์อย่างต่อเนื่อง

“เงียบโว้ย ไม่เห็นหรือไงก็อบลิน ล้อมรอบอยู่ ถ้าไม่อยากตายอยู่เงียบๆ” ด้วยความรำคาญ เจสเปอร์จึงตะโกนกลับไปและดูเหมือนว่าจะได้ผลช่างตีดาบไม่กล้าที่จะส่งเสียงใดๆออกมาอีก

การปะทะเกิดขึ้นทันที ก็อบลิน 5 ตัว เข้ามาล้อมกรอบเจสเปอร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าตกใจใดๆสำหรับเขาเลย

[Sweep Slash]

เจสเปอร์เปิดฉากการต่อสู้ด้วยสกิล กรีด เฉือน ดาบแต่ละดาบที่พุ่งผ่านก็อบลิน พรากพลังชีวิตของพวกมันไปไม่มากก็น้อย ท่วงทำนองสกิล กรีด เฉือน ยังคงสวยงามดังเช่นทุกครั้ง

ก็อบลินเองรับรู้ได้ถึงอันตรายรีบเรียกพวกของมันเข้ามาเสริมกำลัง เสียบร้องก็อบลินรอบนอกเป็นดังกลองที่ปลุกความฮึกเหิมให้กับพวกมันเป็นอย่างดี เจสเปอร์จำเป็นต้องหลบฉากออกมาจากการถูกล้อม

เจสเปอร์แกว่างดาบของตนเพื่อปัดป้องการโจมตีของก็อบลิน

‘เกร๊ง เกร๊ง’

และส่งดาบสลักอาคมพุ่งแทงจุดตายของก็อบลิน นั้นทันที มันล้มลงและแน่นิ่งไปโดยทันที เพื่อนในกลุ่มของมันเริ่มส่งเสียงแหล่มบาดหูมากยิ่งขึ้น พวกมันเริ่มแตกต่างออกไปจากเดิม สัญชาตญาณดิบของมันถูกปลุกให้ตื่นขึ้น พลังโจมตีและความว่องไวสูงขึ้น แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ มันสมอง

“เมื่อพวกแกกระหายเลือดขนาดนี้ ก็เสร็จฉันละ”

เจสเปอร์ไม่มีเวลาให้พวกเหล่าก็อบลินกลุ่มนี้อีกต่อไป ดาบและโล่ของเขากวัดแหว่ง ปัดป้องเจ้าของมันอย่างสุดความสามารถ ก็อบลินจำนวนมาก ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จนเหลือเพียงไม่กี่ตัว ตาสีแดงฉานของมันจางลงเป็นปกติ ความกระหายของพวกมันหมดลงไปพร้อมกับความกล้า บางตัวเริ่มทิ้งอาวุธบางตัววิ่งหนีออกจากการต่อสู้ สมองของพวกมันกลับมาสั่งการอีกครั้ง อันตรายที่เกิดขึ้นทำให้พวกมันสั่นกลัว แต่เจสเปอร์ยังคงตามฆ่าพวกมันจนหมด ไม่ใช่ว่าเขาไร้คุณธรรมหรือไร้ความเมตตา แต่มอนสเตอร์ก็อบลินจะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีกหากมีพวกมันหลุดรอดออกไปได้ มันจะเรียนรู้ความอ่อนแอที่มันได้เผชิญและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองเพื่อไม่ให้มันอ่อนแอแบบวันเก่าๆอีกต่อไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด เจสเปอร์จะปล่อยให้ค่าประสบการณ์และไอเท็ม หลุดลอยไปได้อย่างไร

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงอย่างแรกที่ผู้เล่นทุกคนเลือกที่จะทำก็คือ ‘เก็บของนั่นเอง’ เขาจะแหกขนบทำเนียมประเพณีนี้ไปได้อย่างไร

“พวกมันตายไปหมดแล้ว ได้โปรดช่วยฉันที”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้เจสเปอร์ไม่มีสาเหตุอะไรที่จะต้องปฏิเสธอีกต่อไปเพราะ เป้าหมายหลักในเควสครั้งนี้คือการช่วยชีวิต ‘คราซ่า’ นั้นเอง

เมื่อแจสเปอร์ไปถึงจุดที่คราซ่าหลบซ่อนอยู่ก็พบว่า คราซ่าเหลือพลังชีวิตอีกไม่มากแล้ว ร่างกายทั้งขาดอาหารและน้ำดื่ม จนไร้เรี่ยวแรงและกำลัง เขาพยุงตัวคราซ่าขึ้นมานั่งและให้น้ำยาเพิ่มพลัง รวมทั้งอาหาร ก่อนที่เขาจะออกเดินทางเขาเตรียมของพวกนี้ไว้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อ NPC ทั้ง 5 ที่ติดอยู่ในภูเขาแห่งนี้นั่นเอง NPC ทั้ง 5 ที่ติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้ในอดีต กิล BloodCommander ของไอเดน ได้เป็นคนช่วยไว้ แต่สามารถช่วยเอาไว้ได้แค่ 2 คนเท่านั้นและในภายหลัง NPC ทั้ง 2 คนต่างทำงานรับใช้ให้กับกิล BloodCommander ทำให้กิลBloodCommanderของไอเดน แข็งแกร่งกว่ากิลอื่นๆทั้งในด้านการเงิน อุปกรณ์ และ อาวุธ ต่างๆ

เพียงแค่ NPC 2 คนนั้นที่ไอเดนช่วยเหลือมา สามารถทำให้กิล BloodCommander อยู่บนจุดสูงสุดเหนือกิลอื่นๆภายในอาณาจักรกรีนเวต้าได้สำเร็จ

“และถ้าฉันคนนี้ช่วยออกมาได้ทั้ง 5 คนละ ผลลัพท์จะเป็นเช่นไร”

แต่จะกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของที่ไอเดนช่วยมาก คนที่มีบทบาทมากที่สุดคือ คราซ่า NPC สายอาชีพดีดาบ ที่มีค่าความเติบโต สูงถึงระดับตำนาน

ค่าความเติบโตคือค่าสถานะลับที่ NPC มีตัวจะมีติดตัวตั้งแต่เกิดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งค่าความเติบโตสูงมากเท่าใด NPC ตนนั้นจะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และ NPCที่มีค่าเติบโตสูงมากยิ่งมีน้อยมากตามไปด้วย  1ในนั้นก็คือ คราซ่า ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานั่นเอง

“ขอบคุณท่านผู้กล้ามากที่ช่วยเหลือข้าในวันนี้ แต่ได้โปรดท่านผู้กล้ายังมีเพื่อนของข้าอีก 4 คนยังคงพรัดหลงกันอยู่ โปรดช่วยพวกเขาเหล่านั้นด้วย” คราซ่าหลังจากที่ได้รับน้ำยาฟื้นพลังและได้กินอาหาร ร่างกายก็เริ่มกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง ส่งสายตาอ้อนวอนมาทางเจสเปอร์

“ข้าได้รับเรื่องมาจากช่างตีดาบสมิธแล้วและให้คำสัญญาแกเขาว่าจะพาพวกท่านกลับไปอย่างปลอดภัย เพราะฉะนั้นโปรดวางใจ หากท่านพร้อมเราจะออกตามหาคนที่เหลือต่อทันที”

ได้ยินดังนั้น คราซ่าก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและถลาล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง เจสเปอร์ส่ายหัวเบาๆให้กับการกระทำแบบนั้น แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลการกระทำเมื่อครู่ของ คราซ่าดี  หากเปลี่ยนเป็นเขาและเพื่อนของตนกำลังตกอยู่ในอันตรายจะเป็นยังไงถึงแม้เขาจะกำลังบาดเจ็บเขาก็จะต้องรีบไปช่วยเพื่อนของเขาให้ได้อยู่ดี....

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด