ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ข้าคือจักรพรรดิ (ฟรี 25/8/2020)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 เขตสัตว์อสูร (ฟรี 29/8/2020)

ตอนที่ 17 ไม่กล้ามองหาความตาย (ฟรี 27/8/2020)


การแสดงออกของหยุนหลินนั้นน่าเกลียดมากลู่เฟิงออกตัวขนาดนี้เขายังจะพูดอะไรได้อีก

ไม่ใช่ว่าลู่เฟิงดักทางเขาไว้หมดแล้วหรอกหรอ?

หากเขายังดื้อดึงต่อไปอาจจะกระทบต่อเเผนหลักของเขา ทั้งในวันนี้เขาเกรงว่าเกาชุนจะไม่ปล่อยให้เขารอดชีวิตออกไป

สิ่งสำคัญก็คือเขาจำเป็นจะต้องยอมลู่เฟิง จักรพรรดิอาณาจักรหนานหยาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการฆ่าคนในอาณาจักรเพียงเเค่คนสองคน กระทั่ง สิบ ร้อย หรือ พัน ยังจะมีใครกล้ามีปัญหา?

ไม่มี!

ตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อใดก็ตามที่จักรพรรดิทรงพิโรธแม้จะฆ่าคนไปนับล้านก็ไม่นับว่าเป็นความผิด?

หยุนหลินไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับลู่เฟิงต่อเขาได้สูดลมหายใจเข้าลึก"ข้า หยุนหลิน เข้าใจเจตนาของฝ่าบาทแล้ว!"

"เจ้ามีไหวพริบที่ดี เอางี้เป็นอย่างไรมาอยู่กับข้า ข้าจะให้เจ้าขึ้นเป็นแม่ทัพ!"ลู่เฟิงได้กล่าวพูดอย่างรวดเร็ว

บรรดาข้าราชบริพารกลุ่มหนึ่งได้ดูแปลกไปชั่วขณะ ทุกคนต่างก็รู้ว่าราชวงศ์อาณาจักรหนานหยานไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายหยุนกง ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดออกไปนี้ไม่เท่ากับเป็นการขุดหลุมฝัง หยุนหลิน หรอกหรอ?

ดังนั้นหาก หยุนหลิน กลับไปที่นิกายหยุนกง เขามีแนวโน้มที่จะสงสัยความภักดี

หยุนหลิน ที่ตระหนักได้ถึงปัญหาร้ายแรงเขารีบกล่าวพูด"ขอบคุณสำหรับพระทัยของฝ่าบาท แต่ข้า หยุนหลิน ไม่คิดที่จะผันตัวเป็นคนของศาลในขณะนี้!"

เขาได้กล่าวพูดเพื่อตัดปัญหา

โม่เฉียน เเละ โม่เต๋า เองก็ยังขมวดคิ้วเล็กน้อย

ลู่เฟิง ไม่ได้พูดอะไรต่อเป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว

เขามองไปที่ โม่เฉียนและกล่าวถาม"โม่เฉียน เจ้ายินดีรับข้อเสนอของข้าหรือไม่?"

โม่เฉียนได้คร่ำครวญเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม"ตั้งแต่สมัยโบราณหญิงสาวมักชมชอบบุรุษที่แข็งแกร่งเสมอมา หากการประลองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฝ่าบาทได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ข้ายินดีที่จะเป็นนางสนมของพระองค์!"

"ฮ่าฮ่า,หวังว่าเจ้าจะไม่กลับคำ!"

"เลิกประชุมได้!"

"ขอฝ่าบาททรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!"

ลู่เฟิง ได้เดินออกจากห้องโถงเจิ้งหลงและกลับไปที่ห้องนอนของเขา

"ฝ่าบาท ท่านต้องการทำแบบนี้จริงหรือ ? ในนิกายหยุนกง มีผู้เชี่ยวชาญที่แข๘งแกร่งจำนวนมาก หนึ่งเดือนต่อจากนี้พวกเขาย่อมส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมาจัดการฝ่าบาทอย่างแน่นอน!"

ในระหว่างทางกลับไปที่ห้อง ฮวามู่หลาน ได้กล่าวบอกลู่เฟิง อย่างกังวล

แต่ลู่เฟิงกลับยิ้มเเละตอบกลับเพียงเล็กน้อย"มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ข้าต้องยอมรับ"

"แต่..."

"ไม่มีแต่..."

ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ"ข้าคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยาน ข้าย่อมไม่ยินยอมให้พวกนิกายหยุนกงทำอะไรตามอำเภอใจ ในฐานะจักรพรรดิข้าจะต้องลงมือจัดการพวกมันด้วยตัวเอง"

ฮวามู่หลานได้อ้าปากค้างและพยายามจะเกลี่ยกล่อมอีกครั้งแต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดโน้มน้าวและตอบกลับเบา ๆ"มู่หลาน จะขออยู่เคียงข้างพระองค์!"

"นั่นรวมถึงการปฏิบัติรับใช้ข้าในห้องนอนด้วยหรือไม่?"ลู่เฟิง ได้กล่าวหยอกล้อมู่หลาน

ใบหน้าของมู่หลานแดงระเรื่อเธอได้ตอบกลับ"ฝ่าบาทมู่หลานเป็นเพียงแค่หญิงสาวที่หยาบกระด้างไม่เหมาะที่จะปรนนิบัติให้กับฝ่าบาทอีกทั้งยัง..."

"หากใครมันกล้าบอกว่ามู่หลานของข้าเป็นหญิงสาวที่หยาบกระด้าง ข้าจะฆ่ามันซะ!"

ลู่เฟิงได้จับมืฮวามู่หลานด้วยรอยยิ้ม"ในสายตาของข้า เจ้าเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนที่สุด!'

ฮวามู่หลานอดไม่ได้ที่จะเขินอาย"ฝ่าบาทอย่าได้ล้อเล่นเลยข้า..."

"ฝ่าบาท ราชเลขาทั้งสี่ ต้องการที่จะพบพระองค์!"

ในเวลานี้เอง เสียงของข้าราชบริพารคนนึงก็ได้วิ่งติดตามมารายงานลู่เฟิง

"เฮ้อ มาจนได้!"

ลู่เฟิง รู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เขารู้ว่า ราชเลขาเหล่านี้ มาหาเขาเพราะต้องการให้เขายกเลิกความคิดในการประลองหนึ่งเดือนต่อจากนี้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เเปลกใจ เหล่าราชเลขาเหล่านี้ทำงานในราชสำนักมาหลายปีอีกทั้งยังจงรักภักดีต่อราชวงศ์นี่เป็นสิ่งสำควรที่ข้าราชบริพารควรทำ

ลู่เฟิง ได้คิดอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจไม่พบพวกเขา

เขาไม่แน่ใจว่าจะโน้มน้าวให้คนเหล่านั้นเห็นด้วยกับตัวเองยังไง

ดังนั้นเขาจึงได้โอบดึงฮวามู่หลานเข้ามาและกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเธอ

หลังจากที่ฮวามู่หลานได้ยินเธอก็หัวเราะเบา ๆ พร้อมกับตอบกลับ"มู่หลาน จะไปจัดการเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทเอง!"

"ดี,รีบไปเถอะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ในห้องนอน!"ลู่เฟิง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ใบหน้าของ ฮวามู่หลานแดงระเรื่อเธอรีบโค้งศีรษะต่ำและรีบไปที่ห้องศึกษาของจักรพรรดิ

หลังจากฮวามู่หลานจากไปใบหน้าของลู่เฟิงก็กลับมาหนักอึ้งอีกครั้ง"เหลือเวลาเพียงหนึ่งเดือนข้าจะต้องยกระดับความแข็งแกร่งให้ได้อย่างน้อยระดับ 6 ขั้นรวมพลังหยวน ด้วยวิธีนี้ข้าถึงจะมีโอกาสต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของนิกายหยุนกงได้"

ด้วยความลังเลเขาได้หันศีรษะไปยังทางออกและมุ่งหน้าออกจากที่นี่

ทางด้าน ราชเลขาทั้งสี่ ทันทีที่พวกเขาเห็น ฮวามู่หลานมา แต่ไม่พบ ลู่เฟิง พวกเขาก็กล่าวถาม"คุณหนูมู่หลาน ฝ่าบาทอยู่ไหนงั้นหรือ?"

"วันนี้ฝ่าบาทปะทะคารมกับเสนาบดีโม่เต๋าจนเหนื่อยล้า ท่านจึงได้เดินทางกลับไปพักผ่อนและปล่อยให้ข้ามาบอกท่านราชเลขาทั้งสี่ว่าท่านจะไม่เปลี่ยนเเปลงความคิดเดิม"ฮวามู่หลาน ได้ตอบกลับ

"อา..."

ราชเลขาทั้งสี่คุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับพูดกับฮวามู่หลาน"คุณหนูมู่หลาน ได้โปรดช่วยโน้มน้าวฝ่าบาทด้วยเถิด ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสี่จะคุกเข่าจนตายภายในห้องศึกษาเเห่งนี้"

"เข้ามา!"

ฮวามู่หลาน ได้ตะโกนออกไป เหล่าขันทีหลายคนได้เดินเข้ามาพร้อมกับช่วยพยุงราชเลขาทั้งสี่ออกไป

"พวกเจ้าทำอะไร ปล่อยพวกข้าเดี๋ยวนี้นะ!"

ราชเลขาทั้งสี่รีบดิ้นรนแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักรบ แต่ในพระราชวังขันทีเป็นตัวแทนของฝ่าบาทพวกเขาไม่กล้าที่จะใช้ความรุนแรง

ฮวามู่หลานได้หัวเราะเบา ๆ "ฝ่าบาท ได้ตรัสไว้ว่าหากพวกท่านตั้งใจจะคุกเข่าอยู่ที่นี่ก็ให้ส่งคนมากลากตัวพวกท่านกลับไป หรือไม่ หากพวกท่านดื้อดึงก็ปล่อยให้คุกเข่าจนตายภายในห้องศึกษาแห่งนี้!"

"..."

เหล่าราชเลขาทั้งสี่รู้สึกตกตะลึง แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงเยาว์วัย แต่พระองค์สามารถมองการณ์ไกลและพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ

หากฝ่าบาทตรัสมาเช่นนี้พวกเขายังจะทำอะไรได้อีก?

ดังนั้นราชเลขาทั้งสี่จึงได้จ้องมองไปที่ฮวามู่หลาน"คุณหนูมู่หลาน ได้โปรดทูลฝ่าบาทด้วย พวกเราจะเคารพการตัดสินใจของฝ่าบาท!"

พวกเขารู้ดีว่าไม่สามารถบังคับลู่เฟิงได้ ในเมื่อจักรพรรดิตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วพวกเขายังต้องฝืนรั้งจนตัวตายไปทำไมอีก

ฮวามู่หลานได้ตอบกลับ"ท่านราชเลขาทั้งสี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปทูลฝ่าบาทเกี่ยวกับคำพูดของพวกท่าน!"

ราชเลขาทั้งสี่ได้สั่นศีรษะด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเดินออกไป

ฮวามู่หลานได้หัวเราะเบา ๆ ดูเหมือนทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การคำนวณของลู่เฟิง

แต่เมื่อเธอคิดอีกสิ่งหนึ่งที่ลู่เฟิงบอกเธอรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ได้หายไป กลับกันมันเป็นความสับสนปนความเขินอาย

เพราะลู่เฟิงบอกว่าหลังจากเธอแก้ไขปัญหาของราชเลขาทั้งสี่เสร็จแล้วเขาจะไปรอเธออยู่ที่ห้องนอน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด