บทที่ 68 เย่โม่กลับมาแล้ว
“เย่โม่ นายกลับมาแล้ว!?” เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเย่โม่ เขากำลังตกตะลึงกับรอยเลือดเหล่านี้จนไม่รู้ตัวว่าซู่เวยได้เดินเข้ามาแล้ว
“ซู่เวย…วันนี้เธอไม่ไปทำงานหรือ?” เย่โม่มองซู่เวยอย่างประหลาดใจ ปกติแล้วเวลานี้เธอต้องอยู่ที่ทำงานแล้วไม่ใช่หรือ
สีหน้าของซู่เวยดูเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย เธอส่ายหัว “เมื่อวานตอนเช้าชิงเชวี่ยถูกตีจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาลยังไม่พ้นอาการโคม่าเลย ฉันเองก็เพิ่งกลับมาจากเยี่ยมเธอ ทำไมฉันไม่เห็นนายเลยล่ะ?”
เย่โม่ตะลึงไปพักหนึ่ง หนิงชิงเชวี่ยถูกทำร้าย? เป็นไปได้อย่างไร? อีกอย่างทำไมซู่เวยถึงรู้เรื่องนี้ได้? คิดถึงจุดนี้เย่โม่จึงถามขึ้น “ทำไมเธอถึงรู้ว่าหนิงชิงเชวี่ยถูกทำร้าย?”
“นายไม่รู้หรือไง?” ซู่เวยถามเย่โม่อย่างประหลาดใจ ตอนแรกเธอคิดว่าที่เย่โม่กลับมาก็เพราะรู้ว่าหนิงชิงเชวี่ยได้รับบาดเจ็บ ไม่นึกว่าเย่โม่จะไม่รู้เรื่องแบบนี้
เย่โม่ถามอย่างมึนงง “หนิงชิงเชวี่ยได้รับบาดเจ็บ...แล้วทำไมผมถึงต้องรู้ล่ะ? เธอบาดเจ็บหนักมากไหม?”
ถึงแม้กับหนิงชิงเชวี่ยแล้วเขาจะไม่ได้มองเธอในแง่ดีนัก แต่ตอนที่หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกทุกข์ใจนั้นคล้ายกับอาจารย์ลั่วอิ่งมาก ดังนั้นเขาจึงยังพอจะรู้สึกเป็นห่วงหนิงชิงเชวี่ยอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางยอมช่วยเธอตั้งแต่แรกแล้ว
“ที่ผ่านมาหนิงชิงเชวี่ยจะนั่งอยู่ตรงนี้ นายคิดว่าฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะ?” ซู่เวยเชื่อว่าเย่โม่ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ จึงได้พูดขึ้น
เย่โม่ขมวดคิ้ว หนิงชิงเชวี่ยพักอยู่ที่นี่? เขาก็เดินทางไปที่อื่นแล้ว ละครบทนั้นก็แสดงจบลงไปแล้ว ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่ต่ออีกเล่า? จากฐานะครอบครัวเธอแล้ว...คงไม่ใช่ว่าเธอไม่มีที่อยู่อื่นหรอกนะ?
เห็นท่าทีสับสนมึนงงของเย่โม่ ซู่เวยก็ได้แต่พูดอีกครั้ง “หลังจากชิงเชวี่ยมาอยู่ที่นี่ เธอก็พักอยู่ในห้องที่นายเคยอยู่ น้อยครั้งที่เธอจะออกไปข้างนอก ทุกวันก็จะนั่งคุยกับดอกไม้อยู่ตรงนี้ บางครั้งเธอนั่งอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย”
หนิงชิงเชวี่ยชอบดอกไม้? เย่โม่มองดอกไม้พวกนี้ด้วยความประหลาดใจ สาเหตุที่ตอนแรกเขาชอบดอกไม้ก็เพราะ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ก็เท่านั้น แล้วทำไมหนิงชิงเชวี่ยชอบดอกไม้? ถ้าเธอชอบดอกไม้จริงๆ...ทำไมตอนที่เธออาศัยอยู่กับเขา 20 กว่าวันเขาถึงไม่เห็นเธอเข้าใกล้ดอกไม้เหล่านั้นเลยล่ะ?
คราบเลือดบนดอกไม้พวกนี้ดึงดูดความสนใจของเย่โม่ ถึงมันเพิ่งจะงอกออกมาแต่เย่โม่ก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ วินาทีที่เย่โม่เห็น ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีขึ้นมาทันที ดินที่นี่ไม่เพียงปลูก ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ได้เท่านั้นแต่ยังทำให้มันงอกได้อีกด้วย
เย่โม่คิดขึ้นมาได้ทันที สาเหตุที่หนิงชิงเชวี่ยปลูกดอกไม้แบบนี้...หรือว่าเธอจะเป็นผู้ฝึกปราณ? แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจได้...ตรงจุดนี้คงจะเป็นจุดที่เขาทิ้งเมล็ดเอาไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง ไม่คิดว่าจะงอกได้แบบนี้
แต่หนิงชิงเชวี่ยรู้ได้อย่างไรว่ามันคือ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ? ทั้งยังดูแลมันดีขนาดนี้อีก?
ตอนที่เย่โม่ยังคงครุ่นคิดอยู่นั้นเอง ซู่เวยก็อธิบายเพิ่มเติม “เหมือนกับว่าชิงเชวี่ยจะเอาใจใส่ดอกไม้ดอกนั้นเอามากๆ ทั้งยังสร้างรั้วขวางเอาไว้ด้วย ทุกๆ วันเธอก็จะนั่งมองมันอยู่อย่างนั้น มีบางครั้งที่เธอจะมองมันอยู่ทั้งวันไม่เบื่อหน่ายเลย เมื่อวานตอนเช้าเธอก็ทำเหมือนปกติทั่วไป ยืนอยู่หน้าแปลงดอกไม้แล้วจ้องมองดอกไม้เล็กๆ ดอกนั้น แต่ตอนนั้นเองที่มีชาย 2 คนบุกเข้ามา ดูท่าทางดุร้ายเอามากๆ”
เมื่อเห็นว่าเย่โม่กำลังตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูด ซู่เวยจึงได้พูดต่อ “ชาย 1 ในนั้นพอเข้ามาก็บอกว่าชิงเชวี่ยหลอกเอาเงินเขาไปแล้วยังมาซ่อนตัวปลูกดอกไม้อยู่ที่นี่อีก ชายคนนั้นหยิบไม้ขึ้นมาท่อนหนึ่งแล้วตีไปที่แปลงดอกไม้ ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นชิงเชวี่ยเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้เอาตัวไปขวางทางไม้แบบนั้น มันตีถูกหลังของหนิงชิงเชวี่ยเข้าอย่างจัง ตอนนั้นกระอักเลือดออกมารดแปลงดอกไม้ตรงหน้า จากนั้นเธอจึงสลบไป”
สีหน้าของเย่โม่เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง ถึงเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมหนิงชิงเชวี่ยถึงดูแล ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ดีขนาดนี้ก็ตาม แต่กับไอ้คนที่มันคิดจะทำลายดอกไม้ของเขา...ตอนนี้เย่โม่รู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว
“ตรวจสอบแล้วหรือยังว่าพวกมันเป็นใคร?” เย่โม่ใจเย็นลงแล้วจึงถามต่อ
ซู่เวยส่ายหัว “ยังไม่รู้เลย…แต่นายต้องระวังตัวเอาไว้หน่อยนะ ตอนที่นายจากไปคราวนั้นก็มีคนมาถามข่าวคราวของนายอยู่หลายคนเลย รวมทั้งยังเอาคอมพิวเตอร์ควบคุมกล้องวงจรปิดไปอีก ฉันว่าคนพวกนั้นน่าจะไม่ใช่คนดีอะไร…นายจะไปไหนก็ระวังตัวไว้หน่อยก็แล้วกัน”
ซู่เวยพูดถึงตรงนี้เย่โม่ก็รู้ได้ทันที คนตระกูลซ่งคงจะรู้แล้วว่าเขาฆ่าซ่งเฉ่าเหวินจึงได้เที่ยวตามหาตัวเขาไปทั่วแบบนี้ เพียงแต่เย่โม่เองก็ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีกล้องวงจรปิดอยู่ เวลานั้นจิตสัมผัสของเขามีระยะอยู่แค่ 5 เมตรเท่านั้น การที่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงกล้องวงจรปิดก็ถือเป็นเรื่องปกติแล้ว
ในเมื่อคนตระกูลซ่งรู้แล้วว่าเขาเป็นคนฆ่าซ่งเฉ่าเหวิน พวกที่ทำร้ายหนิงชิงเชวี่ยก็คงจะเป็นตระกูลซ่งส่งมาสอดแนมเขาแน่นอน พวกมันคงคิดไม่ถึงว่าหนิงชิงเชวี่ยจะย้ายมาอยู่ที่นี่ พวกมันคงรอว่าเย่โม่จะกลับมาหาหนิงชิงเชวี่ยหรือไม่ หลังจากรอได้พักหนึ่งแล้วเห็นว่าเขาไม่กลับมาจึงได้คิดลักพาตัวหนิงชิงเชวี่ยแบบนี้ หลังจากนั้นหนิงชิงเชวี่ยก็เอาตัวเข้าปกป้อง ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ จึงได้เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้
เย่โม่วิเคราะห์เรื่องราวได้เกือบทั้งหมด เขาแน่ใจแล้วว่าเป็นคนตระกูลซ่งที่ทำให้หนิงชิงเชวี่ยได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งเดียวที่เขายังไม่เข้าใจก็คือ...ทำไมหนิงชิงเชวี่ยต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้อง ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ด้วย็็็กดหดสา
คำอธิบายเดียวที่เขาพอจะคิดออกก็คือ...หนิงชิงเชวี่ยรู้ว่าดอกไม้นี้สำคัญสำหรับเขามาก จึงได้ดูแลมันดีแบบนี้ กระทั่งว่าปกป้องมันได้โดยไม่เสียดายชีวิต ถึงแม้คำอธิบายนี้จะลงล็อคที่สุดแต่เย่โม่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี เพราะหนิงชิงเชวี่ยไม่มีทางทำดีกับเขาขนาดนี้แน่
ตระกูลซ่ง ในเมื่อมันต้องการสงคราม...ถ้าอย่างนั้นก็มาฆ่ากันเถอะ! ถ้าตัวเขาเย่โม่ยังกลัวแค่ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลซ่งล่ะก็...เขาคงไม่จำเป็นต้องฝึกฝนแล้ว สู้เขาฆ่าตัวตายไปเลยเสียยังดีกว่า! ไม่ว่าหนิงชิงเชวี่ยจะทำแบบนั้นเพื่อเขาหรือไม่ก็ตาม แต่ในเมื่อเธอช่วยชีวิต ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ของเขาไว้แล้วได้รับบาดเจ็บแบบนี้ เขาก็ควรจะแก้แค้นให้เธอเสียหน่อยแล้ว!
“ซู่เวย…ผมจะไปดูชิงเชวี่ย แต่เธอไม่ต้องบอกชิงเชวี่ยหรอกว่าผมมา” เย่โม่บอกลาซู่เวยแล้วตรงไปยังโรงพยาบาลทันที
ถึงแม้ซู่เวยจะไม่รู้ว่าทำไมเย่โม่ถึงห้ามไม่ให้เธอบอกหนิงชิงเชวี่ย แต่เธอก็ยังรับคำของเย่โม่อยู่ดี นั่นก็เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้หนิงชิงเชวี่ยเหลือเวลาในชีวิตอีกไม่มากแล้ว
เย่โม่เพิ่งมาถึงตรงประตูโรงพยาบาล เขาก็เห็นว่ามีหมอ 2-3 คนกำลังพาหนิงชิงเชวี่ยที่นอนอยู่บนเตียงขึ้นรถไป เย่โม่นิ่งไปพักหนึ่ง หรือว่ากำลังย้ายโรงพยาบาล?
เย่โม่แผ่จิตสัมผัสเข้าไปตรวจสอบอาการของหนิงชิงเชวี่ย เขารู้ทันทีว่าบาดแผลที่เธอได้รับนั้นสาหัสกว่าที่เขาจินตนาการไว้ตอนแรกมากนัก จิตสังหารของเย่โม่พุ่งทะยานทันที! เพื่อปกป้อง ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ แล้วหนิงชิงเชวี่ยถึงกับตกอยู่ในสภาพนี้ เขาไม่มีทางปล่อยตัวการไปแน่!
หนิงชิงเชวี่ยกำลังกอดกระเป๋าพยาบาลใบเล็กของเย่โม่เอาไว้อยู่ ทว่าตอนนั้นเองเย่โม่ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง จิตสัมผัสของเขาบอกว่าในกระเป๋านั้นมีเม็ดหยก 3 เม็ดที่เขาทำเป็นสร้อยให้ซูจิ้งเหวินอยู่ ทำไมไปอยู่กับหนิงชิงเชวี่ยได้? แล้วทำไมถึงมีแค่ 3 เม็ด?
เย่โม่ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าหากหนิงชิงเชวี่ยสวมพวกมันไว้ที่ข้อมือแทนที่จะวางไว้ในกระเป๋าพยาบาลล่ะก็...บางทีเธออาจจะไม่บาดเจ็บเลยก็ได้
ขณะที่เย่โม่กำลังวางแผนจะตามรถพยาบาลคันนี้อยู่นั้นเอง เขาก็ได้ยินพยาบาล 2 คนกำลังพูดคุยกันอยู่
“หญิงสาวคนนี้คงจะเป็นลูกหลานคนรวยล่ะมั้ง เธอเห็นไหมว่าผอ.เดินวุ่นด้วยตัวเองเลยทีเดียว”
“นั่นสิ ว่ากันว่าเธอมีชีวิตได้อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่เธอก็ยังไม่ยอมอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล อยากจะกลับบ้านท่าเดียว ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจแต่เมื่อเทียบเวลาชีวิต 1 เดือนกับต้องนอนเตียงขยับเขยื้อนไม่ได้หลายปีแล้วค่อยตาย...บางทีก็คงจะไม่ต่างกันมากหรอกมั้ง”