ตอนที่ 26 ตัวประกอบ
ตอนที่ 26 ตัวประกอบ
เจสเปอร์เดินตามผู้ช่วยกำกับคนนั้นเข้ามาที่เต็นท์ในกองถ่าย อย่าเรียกว่าเดินตามเรียกว่าถูกจุงมือมาจะดีกว่า
“ผู้กำกับ คนนี้ๆพอจะรับบท ตัวประกอบที่ว่างอยู่ได้ไหมคับ”
ผู้กำกับหันหลังมาเมื่อได้ยินผู้ช่วยของตนเรียก หากว่าเจสเปอร์ไม่ได้ยินที่ผู้ช่วยผู้กำกับเรียกคนๆนี้ว่าผู้กำกับ เขาคงคิดว่าชายคนนี้คงเป็น ทีมงานของกองถ่ายอย่างแน่นอน ด้วยรูปร่างที่ผอม ไว้หนวดไว้เครา การแต่งตัวเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนต์ ใครละจะเชื่อว่านี้คือผู้กำกับ
“หน้าตา รูปร่างแบบนี้ เกินกว่าบทซะอีก” ผู้กำกับเดินดูรอบๆเจสเปอร์ พลางพูดอะไรที่เขาฟังไม่ได้ศัพท์
“ไม่เลว ไม่เลว หน้าตาดีไม่ต้องพูดถึง แต่รูปร่างผอมบางไปหน่อย น่าจะออกกำลังกายเพิ่มอีกสักหน่อยนะ” ผู้กำกับเดินวนรอบตัวเขาอยู่ประมาณ 10 กว่ารอบเห็นจะได้ ก็เรียก ช่างแต่งหน้าและคอสตูมเข้ามาในเต้นท์ 3-4 คน
“จัดการคนๆนี้ด้วย ดูเหมือน อาเมล จะเจอเพชรเม็ดงามเข้าให้แล้ว อ้อแล้วก็ฉันจะปรับแก้บทสักหน่อย ให้นักแสดงหลักไปพักก่อนได้”
เมื่อผู้กำกับสั่งการช่างแต่งหน้าทำผมก็เริ่มต้นงานทันทีเขาถูกพาไปอาบน้ำ สระผม อย่างรวดเร็ว อาเมลที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับก็วิ่งออกจากเต้นท์ไปอย่างรวดเร็ว การถ่ายทำซีรีย์ ละคร หรือ ภาพยนตร์ ทุกอย่างต้องรวดเร็วว่องไว สังเกตได้จาก ทีมงานทุกคนที่เป็นมืออาชีพมากๆ ไม่ยอมปล่อยให้วินาทีเสียไปป่าวๆเลย เพราะก่อนที่เขาจะเข้าไปอาบน้ำสระผม ทีมคอสตูมเข้ามาวัดขนาดไซส์เสื้อผ้าเขาอย่างรวดเร็ว เมื่ออาบน้ำเสร็จชุดที่พอดีตัวก็ถูกเตรียมเอาไว้ให้แล้ว
เจสเปอร์ใช่เวลาแต่งหน้าทำผมไม่นาน ผู้ช่วยผู้กำกับอาเมล ก็เข้ามาในเต้นท์ที่เขาอยู่ พร้อมกับส่งบทละครให้เขา เพื่ออ่านมัน
“อันนี้เป็นบทคราวๆ นายลองอ่านดู หากไม่เข้าใจก็ถามฉันได้เลย อ้อ ฉันลืมแนะนำตัว ฉันชื่ออาเมล เป็นผู้ช่วยผู้กำกับประจำกองถ่ายเรื่องนี้”
“ผมเจสเปอร์ครับ ว่าแต่ทำไมคุณถึงพาผมมาอยู่ตรงนี้” เดิมทีเขาแค่ต้องการมาออกกำลังกายและหาอาหารกินเท่านั้นแต่เพียงระยะเวลาไม่กี่นาที เขากลับกลายมาเป็นตัวประกอบของละครเรื่องนึงซะอย่างนั้น
“ผมขอโทษที่ลากคุณมาแบบนั้น ผมตื่นเต้นจริงๆเมื่อตอนได้พบกับคุณ เคมีของคุณเข้ากับไอรีนมากๆจนผมควบคุมตัวเองไม่อยู่ มันใช่เวลาไม่นานมากนักสำหรับบทของคุณ น่าจะใช่เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ทางเรายินดีให้ค่าตอบแทนสำหรับการแสดงของคุณ”
อาเมล อธิบายบทละครให้เจสเปอร์ฟังคราว โดยเขารับบทเป็นเพียงตัวประกอบที่มาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ เผอิญพบกับนางเอกที่วิ่งหนีพระเอกจนสะดุดล้มแล้วจึงเข้าไปช่วย และได้มีเรื่องกับพระเอกนิดๆหน่อย ตัวบทค่อยข้างเรียบง่ายเพราะเป็นซีรีย์รักของวัยรุ่น
“ซีรีย์เรื่องนี้ชื่อว่าอะไรนะคับ”
“รักวัยใส อะไรประมาณนี้นะชื่อยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ทางผู้ใหญ่ก็เร่งให้ถ่ายทำกันแล้ว” ท่าทางที่อาเมลตอบออกมานั้นคือดูท่าแล้วชื่อยังเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาอยู่ในขณะนี้แต่เพราะผู้ตัดเร่งงานมาแล้วก็จำเป็นที่จะต้องเร่งถ่ายทำ
รอยยิ้มของเจสเปอร์ปรากฏขึ้นในใจ เขาคิดออกแล้วในอดีตซีรีย์เรื่องนี้จะโด่งดังเป็นพลุแตก ผู้กำกับและนักแสดงต่างได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำปี ดูเหมือนแผนที่เขาวางไว้จะมาถึงเร็วกว่าที่คิด แต่ก่อนอื่นต้องตีสนิทผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับ กองถ่ายนี้ให้ได้ซะก่อน
เจสเปอร์เดินไปรอเตรียมถ่ายตามมาร์คจุดที่ทีมงานบอก ไม่นานไอรีนก็มาถึงเธอถอดชุดออกกำลังกายตัวใหญ่ของเธอลง เผยให้เห็นสปอร์ตบราสีเทาตัวเล็ก รัดรูปให้เข้ากับสรีระเธอมากขึ้น ขับรูปร่างและความเป็นผู้หญิงออกมาให้เห็นจนเด่นชัด
ผิวขาวนวลอมชมพู ยิ่งทำให้น่าทะนุถนอมยิ่งกว่าสิ่งใด ฟ็อกกี้พ่นละอองน้ำออกมา ไหลลงบนใบหน้าของเธอและตามเรือนร่างส่องทอประกายกับแสง
“ทุกฝ่ายเตรียมตัว กล้องพร้อม แสงพร้อม เสียงพร้อม”
“5,4,3,2,1 Action!!”
บรรยากาศรอบข้าง พากันเงียบเสียงลง หลงเหลือไว้เพียงเสียหัวใจที่เต้นดังของเขา ยิ่งเธอเดินเข้ามาใกล้ ใจของเขาก็เต้นรัว หน้าของเขาเริ่มแดง ใบไม้ที่พัดผ่านไป สายลมที่แผ่วเบามาพร้อมกับควันจางๆ ทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้ดูมีชีวิตมีชีวา
ในหัวของเขาตอนนี้ขาวโพล่นไปหมด มีเพียงไอรีนเท่านั้นที่ปรากฏอยู่ในสายตา เธอค่อยๆวิ่งมาหาเขาอย่างช้าๆ ช่วงขาที่เรียวงามรับกับกล้ามเนื้อและทรวดทรงบีบรัดเรือนร่างที่นุ่มนวล แต่สิ่งที่ทำให้เจสเปอร์ไม่อาจละสายตาไปได้เลยคือ 2 เต้าคู่งามที่เคลื่อนไหวตามแรงโน้มถ่วงภายใต้สปอร์ตบราคู่นั่น หน้าอกของหญิงสาวขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปทุกอย่างกำลังพอดี เมื่อเธอวิ่งเข้ามาใกล้เขามากขึ้นกลิ่นหอมจากตัวเธอที่เขาคุ้นเคยก็ลอยเข้ามาในประสาทรับรู้ทั้ง 5 ของเขา
เธอชนเขาจนล้มลงตามบทที่เธอได้รับ มือของเขาคว้าร่างของเธอขึ้นประคอง อ้อมแขนโอบรัดร่างของเธออย่างแผ่วเบา สายตาของเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาเล็กๆคู่นั้นอย่างอ่อนโยน ดวงตาของทั้งคู่จับจ้องกันและกันบังเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ขึ้นในใจของทั้งคู่ เหมือนเมล็ดพันธ์ได้ถูกปลูกลงบนหัวใจของทั้งสองชั่วเวลาขณะนั้นราวกับเวลาหยุดเดิน
“ผู้กำกับคับจะนี้มันนอกบทแล้วนะ”
“ฉันรู้แล้ว เคมีพวกเขาเข้ากันมากจริงๆ เอาล่ะๆๆ คัต!! ตัวประกอบนายเล่นผิดบทแล้วนะ ตั้งใจให้มากกว่านี้หน่อย”
ผู้กำกับตะโกนออกมาราวกับเสียงนาฬิการปลุกให้ตื่น เจสเปอร์พลั่นได้สติ เขาเล่นเกินบทบาทไปมาก
“เมื่อไร นายจะปล่อยฉัน” ไอรีนเองก็หน้าแดงเป็นลูกมะเขือ การโอบกอดเมื่อครู่ทำให้ใจเธอสั่นไม่ต่างกัน
เจสเปอร์รีบคลายอ้อมกอด และ ก้าวห่างออกมาเล็กน้อย พวกเขาไม่กล้าสบสายตาซึ่งกันและกันอีก
“เอาล่ะๆ ถ่ายใหม่อีกรอบนะ ทุกคนเตรียมพร้อม”
“5,4,3,2,1, Action!!”
เหมือนกับภาพรีเพลย์ได้ถูกเปิดย้อน ไอรีนวิ่งเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง เธอวิ่งมาชนเขาแล้วล้มลง ดูเหมือนร่างกายของทั้งคู่จะยังจำปฏิกิริยาเมื่อครู่ได้ วงแขนเจสเปอร์โอบประคองเธอโดยอัตโนมัติ รอบนี้เขาไม่กล้าผิดคิวอีกแล้ว แต่มือเจ้ากรรมก็โอบลอดเอวบางๆปรากฏใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นที่ใบหน้าของไอรีน
“ระวังตัวหน่อยสิ หากล้มไปจะทำยังไง” บทพูดที่เตรียมไว้ ถูกพูดขึ้น ไอรีนพยุงตัวเองขึ้นจากวงแขนของเขาอย่างช้า พร้อมกล่าว ขอบคุณ ไม่นานพระเอกตัวจริงของเรื่องก็วิ่งตามมาถึง
“แกทำอะไรกับคนรักของฉัน” พระเอกละครในเรื่องแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเธอตามบท ละครฉากนี้จะคือฉากช่วยส่งแรงหึงหวนนางเอก จนทำให้พระเอกบอกความในใจออกไป
แต่ทางเจสเปอร์ได้ยินคำพูดชวนเลียนพวกนั้นก็ฉุนเล็กน้อย หากเป็นเรื่องจริงๆเขาคงไม่ยอมให้ใครมาพูดกับไอรีนแบบนี้แน่
‘เอ๊ะ เมื่อกี้เขาคิดอะไรออกมาน่ะ’
‘ฉันกำลังหวงเธอหรอ’
ความรู้สึกที่เขาไม่สามารถอธิบายได้เริ่มชัดเจนมากขึ้น ยิ่งเห็นบทต่อไปที่พระเอกประคองไอรีนเดินออกไป นั้นทำให้เขาแทบบ้า เขากำลังตกหลุมรักเธอเข้าให้แล้ว
“ยอดเยี่ยมมาก พัก 15 นาที เตรียมย้ายโลเคชั่น” ผู้กำกับที่นั่งอยู่หลังมอนิเตอร์ถอดหูฟังลงและนวดหลังคอตัวเองขจัดความเมื่อยล้า ผู้ช่วยผู้กำกับก็พาเจสเปอร์มาดูมอนิเตอร์ ทั้งตั้งเอาไว้ ภาพสะท้อนจากจอมอนิเตอร์แสดงภาพเขาที่โอบกอดไอรีน ในทุกมุมมอง
“เธอสวยมากเลยครับ”
เจสเปอร์พูดออกไปโดยไม่ทันระวัง เสียงนี้ดันไปได้ถึงหูของไอรีนเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีใครรู้ว่าในใจของไอรีนเต้นดังโครมครามขนาดไหน เธอเคยเล่นละครมาหลายเรื่องได้เจอพระเอกมากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ทำให้ใจเธอเต้นแรงขนาดนี้ได้เลย เธอเดินออกจากตรงนั้นอย่างเงียบๆและกลับขึ้นรถตู้ของเธอไป
“ใช่ไหมละเธอสวยมากๆเลย แม้เธอจะมีกระแสไม่ดีแต่ฉันก็ยังอยากให้เธอมาเป็นนางเอกในซีรีย์ของฉัน” ผู้กำกับพูดอย่างภูมิใจ สองมือดอกอกไว้แน่น ใบหน้าเจื่อไปด้วยความสุขที่ได้เห็น เทพธิดาไอรีน อยู่ในละครซีรีย์ที่ตัวเขาเองกำกับ
“ชื่อเรื่องก็ยังไม่มี ไม่รีบภูมิใจไปหน่อยหรอคับ” คำพูดผู้ช่วยผู้กำกับครั้งนี้เหมือนสาดน้ำเย็นปลุกผู้กำกับให้ตื่นขึ้น
“พูดถึงชื่อเรื่อง ผมมีชื่อดีๆลองเอาไปพิจารณาดูไหมครับ” เจสเปอร์ไม่ได้คิดขึ้นมาได้เองแต่มันคือชื่อในอดีตของละครเรื่องนี้ที่ช่วยส่งให้ละครเรื่องนี้เป็นละครที่น่าสนใจ
“ลองเสนอมาเลย ฉันพร้อมรับฟัง”
“รักใสๆของยัยเพี้ยน ดูเป็นไงครับ ใช่ได้ไหม”
“ใช้ได้เลย สื่อความหมายได้ดีแถมยังช่วยเพิ่มความน่ารักให้กับนางเอกของเรื่องได้อีก เอางี้ฉันจะเอาชื่อนี้ไปเสนอผู้จัดดู ขอบคุณเธอมาก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกน่ะ” ผู้กำกับยื่นมือออกมาจับกับเจสเปอร์อย่างเป็นกันเองและมอบนามบัตรของเขามาให้ เจสเปอร์รับมันมาอย่างเต็มใจเท่านี้แผนของเขาก็ถือว่าสำเร็จไปส่วนนึงแล้วส่วนแผนจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป
เมื่อล่ำลาผู้กำกับและผู้ช่วยอาเมลแล้ว เจสเปอร์ก็เข้าไปในเต้นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองพร้อมกับรับเงินจำนวน 200 เครดิตที่ให้เป็นค่าตัวเขาในการแสดง เจสเปอร์เดินออกมาจากกองถ่ายก็พบรถตู้สีดำของไอรีนจอดขวางทางเขาเอาไว้
ผู้จัดการส่วนตัวเปิดกระจกรถลงมา
“ขึ้นมาสิ ไอรีนบอกว่าจะไปส่งเธอนะ”
เจสเปอร์ทำไม้ทำมือเชิงปฏิเสธ เพราะเขากลัวว่า หากใครพบเห็นเขาอยู่กับเธอเป็นการส่วนตัวจะทำให้เธอเกิดข่าวที่ไม่ดีออกมาอีก
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนักข่าวหรอก พวกนั้นเลิกสนใจเธอมาสักพักแล้วข่าวของเธอขายไม่ได้ราคาแล้ว ขึ้นมาเถอะ”
เจสเปอร์เปิดประตูรถขึ้นมาก็พบไอรีนอยู่ภายในรถคนเดียว ฟิล์มที่มืดสนิททำให้ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นภายในได้เลย ส่วนที่นั่งคนขับกับผู้โดยสารก็มีม่านกับกระจกบังเอาไว้ ตลอดทั้งคัน เอาไว้ให้ศิลปินต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถจะได้สะดวก
ไอรีนยังคงสวมสปอร์ตบราตัวเดิมแต่คลุมด้วยชุดวอร์มอีกชั้น สายตาของเขาไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดพวกนี้ได้เลย ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย สรีระที่ถูกสร้างคู่มากับสตรีเพศเป็นสิ่งที่ บุรุษทุกคนอยากรู้และอยากเห็น
ไอรีนเหมือนรู้ตัวว่าเธอกำลังแต่งตัวไม่เหมาะสมอยู่ เธอไม่ได้ตั้งใจยั่วยวนเขาสักหน่อย เพียงแต่เธอลืมไปว่าเธอไม่ได้อยู่ในรถเพียงลำพังอีก
“นายกำลังมองไปที่ไหนน่ะ” เธอรูดซิปขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิด
เจสเปอร์เองก็กลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ และกล่าวขอโทษเธอที่ทำลุ่มหลามใส่ บรรยากาศในรถชวนอึดอัดยิ่งนัก หนุ่มสาวทั้ง 2 แทบไม่ได้พูดจากันเลยตลอดการเดินทาง เจสเปอร์อยากจะตีตาของตัวเองที่ทำชีกอซะเหลือเกิน
“นายยังจำข้อตกลงที่คุยกันได้อยู่ใช่ไหม”
หลังจากที่เงียบใส่กันอยู่นาน ไอรีนก็เป็นคนเริ่มบทสนทนาสักที
“ฉันจำได้ และ ฉันจะช่วยเธอทำมันให้สำเร็จเอง”
“นายจะไม่โกหกฉันใช่ไหม”
“ฉันจะไปโกหกเธอทำไม ถ้าเธอทำมันได้ ในอนาคตฉันก็อาจพาเธอไปผจญภัยในสถานที่สนุกๆได้ตั้งเยอะ ฉันอ่านข่าวเธอมาบ้างแล้วเธอแทบไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยใช่ไหม ตั้งแต่เริ่มเดบิวต์”
ไอรีนไม่ได้ตอบ เธอเพียงแค่พยักหน้าอย่างจนใจ เธอคิดถึงการออกไปเที่ยว เธอคิดถึงการพักผ่อนที่เหมาะสม แต่เธอไม่มีโอกาสพวกนั้นเลย ถ้าเธอไม่ทำงานวงของเธอก็จะไม่มีรายได้ เพื่อนในวงก็อาจไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก เธอไม่อยากให้เพื่อนในวงของเธอต้องแยกย้าย วงของเธอเปรียบเสมือนครอบครัวที่2 เธอไม่อยากให้มันต้องล้มเหลวเหมือนครอบครัวจริงๆของเธออีก
การเดินทางใช้เวลาไม่นานมากนักรถก็มาจอดตรงจุดที่เจสเปอร์บอกไว้ มันคือซอยที่อยู่ห่างจากห้องของเขาอยู่เล็กน้อยแต่สาเหตุที่เขาเลือกให้มาส่งตรงนี้คือมันไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมาเท่าไรนัก
“เอาโทรศัพท์นายมา”
เจสเปอร์ส่งโทรศัพท์ของเขาให้กับเธออย่างว่าง่าย
“นายยังใช้รุ่นนี้อยู่อีกหรอ เอ๊ะๆรูปร่างมันอาจจะเหมือนมือถือรุ่นเก่ารุ่นนั้นแต่ ภายในล้ำสมัยมากเลย มันคือรุ่นอะไรหรอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
ไอรีนถามด้วยความสงสัย ซึ่งก็เป็นคำถามที่เจสเปอร์เองก็ตอบไม่ได้ และดูเหมือนคำถามของเธอไม่ได้ต้องคำตอบจากเขาสักเท่าไรด้วย เธอกดเบอร์โทรศัพท์บนมือถือของเขาพร้อมทั้งโทรออก มีเสียงเพลงดังขึ้นจากภายในกระเป๋าของเธอเล็กน้อย เธอก็ส่งมือถือของเขากลับคืน
“นี้เบอร์ส่วนตัวของฉัน ห้ามให้ใครเป็นอันขาดและที่สำคัญอย่าโทรมา!! ไว้ฉันมีอะไรจะติดต่อไปเอง”
เจสเปอร์ลงจากรถตู้สีดำ เขายืนมองส่งอยู่ตรงจุดเดิมจนลับสายตา
“ฉันว่า ฉันชอบเธอเข้าให้แล้ว”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy