ตอนที่ 15 ภารกิจจากระบบ (ฟรี 23/8/2020)
"ฝ่าบาทพวกเราจะทำยังไงต่อ?"
เกาชุนจ้องมองไปที่ ลู่เฟิง เเละกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักหน่วง
นิกายหยุนกง คือสัตว์ร้ายติดปีก ที่ลู่เฟิง ยังไม่สามารถเอื้อมได้ถึงตอนนี้ การไปล่วงเกินอีกฝ่ายก่อนเวลาย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดี
อย่างไรก็ตามแม้เเต่เกาชุนยังไม่รู้ ลู่เฟิง จะไปรู้ได้อย่างไร
แต่ที่แน่ ๆ เขาจะไม่มีทางถอยและประชันหน้ากับนิกายหยุนกง
ทั้งสองฝ่ายความยุติเพียงอย่างเดียวก็คือความตาย!
ด้วยความลังเล ลู่เฟิง จึงกล่าวสั่ง"หลังจากที่เจ้าออกไปแล้วให้ปล่อยข่าวทันทีว่ามีคนร้ายบุกเข้าไปในค่ายคุมตัวโดยมีเจตนาที่จะช่วยเหลือนักโทษ เปลี่ยนชุดของเขาและนำเขาไปแขวนประจานไว้ที่นอกประตูพระราชวังหลวง!"
"นี่..."
เกาชุน รู้สึกลังเลเล็กน้อย การกระทำเช่นนี้ก็เหมือนกับการฉีกหน้านิกายหยุนกง ถือเป็นภัยร้ายแรงสำหรับอาณาจักรหนานหยาน
เขามองไปที่ลู่เฟิงเเละกล่าวถามด้วยเสียงต่ำ"ฝ่าบาทท่านแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้?"
ลู่เฟิงพยักหน้าเชิงยืนยัน"ข้าแน่ใจ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังเกี่ยวกับอะไร นี่เป็นการเดิมพันของข้า!"
"ถ้าพวกเราไม่ทำอะไรเลย นิกายหยุนกง คงบอกว่าคนฆ่าคนของเขาและป่าวประกาศสงครามกับอาณาจักรเมื่อถึงตอนนั้นเราก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว!"
"แต่ตอนนี้เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากร่างของคน ๆ นี้ได้ ถ้าเกิดนิกายหยุนกง ไร้ยางอายมากพอพวกเขาก็คงจะลงมือและยอมรับว่านี่คือคนของเขา!"
เกาชุน ฟังแล้วรู้สึกชื่นชมความกล้าหาญของลู่เฟิง เขากล้าที่จะเดิมพันกับนิกายหยุนกง
อย่างไรก็ตามวิธีนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเรื่องนี้จบลง นิกายหยุนกงก็คงจะยังสร้างปัญหาให้กับอาณาจักรหนานหยาน
แต่ ลู่เฟิง ได้พูดไปแล้ว เกาชุน จึงไม่ได้แย้งอะไรเขาได้ตอบกลับทันที"ขอรับฝ่าบาท ข้าจะจัดการทันที!"
ลู่เฟิง พยักหน้า
หลังจาก เกาชุน ออกไป ลู่เฟิง ก็ยืนอยู่ที่หน้าต่างของห้องศึกษาของจักรพรรดิเขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านนอกพร้อมกับรอยยิ้ม"ตำแหน่งจักรพรรดิ นั้น กำลังสั่นคลอนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น โม่เต๋า,นิกายหยุนกง เเละ ลุงของข้า ล้วนแล้วแต่เป็นศัตรูทั้งสิ้น"
"หึ ,ก็มาลองดูกันว่าใครกันแน่ที่จะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย!"
...
หลังจากที่เกาชุนแขวนศพผู้อาวุโสเก้านิกายหยุนกง ทางด้านโม่เต๋าก็ได้รับข่าวทันที
"บัดซบ ไอ้จักรพรรดิสุนัขมันกล้าที่จะฆ่าอาวุโสเก้าและเสียบแขวนประจาน ข้าจะไปฆ่ามัน!"หยางปิง ได้กล่าวพูดด้วยความโกรธ
"ถูกต้อง ลู่เฟิง คนนี้ไม่เห็นพวกเรานิกายหยุนกงอยู่ในสายตา ไปฆ่ามันกันเลยเถอะ!"
"ไปกันเถอะ!"
หยางปิง ที่เป็นผู้นำรุ่นเยาว์พวกเขากำลังเดินออกไปข้างนอก
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
โม่เฉียนได้ลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปที่คนเหล่านี้อย่างเย็นชา"ใครก็ตามที่กล้ากระทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาติอย่าหาว่าข้า โม่เฉียน ไม่ได้รักและเคารพสหายในนิกาย!"
ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งของนักรบระดับ 9 ขั้นรวมพลังหยวน ก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา
"ศิษย์น้องเฉียน เจ้ากำลังทำอะไร เจ้าไม่เห็นหรอว่า ลู่เฟิง มันกล้าที่จะดูหมิ่นพวกเรา พวกเรายังจะทนอีกงั้นหรือ?"หยางปิง ได้กล่าวพูดด้วยความโกรธ
โม่เฉียนเพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะหันไปหาผู้อาวุโสอีกคน"ผู้อาวุโสแปด ท่านคิดเห็นอย่างไร?"
ผู้อาวุโสแปดคนนี้รู้สึกคร่ำครวญเล็กน้อยเเละตอบกลับ"ด้วยกำลังของพวกเราตอนนี้คงจะไม่สามารถเป็นคู่มือของ ลู่เฟิง ได้ เราจะต้องยอมปล่อยเรื่องการตายของอาวุโสเก้าไป เพื่อที่เเผนการใหญ่ของพวกเราจะไม่ถูกทำลาย"
หยางปิงเเละพรรคพวกของเขาที่ได้ยินเช่นนั้นพวกเขารู้สึกเสียใจ เเต่ก็ทำได้แค่เชื่อฟัง
"เฉียนเอ๋อร์ เจ้ามีแผนอย่างไรต่อไป?"โม่เต๋า ได้จ้องมองไปที่ บุตรสาวของตัวเองเเละถอนหายใจออกมา
เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย เดิมเขาคิดว่า หากได้รับความช่วยเหลือจากนิกายหยุนกงเขาคงสามารถจัดการลู่เฟิง ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่ส่งไปก็ยังถูกฆ่าตายอีก
โม่เฉียนได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"พวกเราต้องการเวลา ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปก่อน ตอนนี้พวกเรายังไม่สามารถทำอะไรได้"
"งั้นพวกเราจะปล่อยให้ลู่เฟิงมันควบคุมอำนาจทางการเมือง?"
"ไม่ใช่แบบนั้น พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปหา ลู่เฟิง เเละทำให้มันสำนึกเสียใจตลอดไป!"
โม่เฉียนได้เผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอมันเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา
...
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เฟิง ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในห้องโถงเจิ้งหลงเขาจ้องมองไปที่โม่เฉียนและกล่าวพูดเบา ๆ "ท่านเสนาบดี ในศาลเเห่งนี้ไม่ได้อนุญาติให้ท่านนำคนในครอบครัวเข้ามาได้ตามใจเว้นซะแต่จะได้รับบัญชาจากองค์จักรพรรดิ แค่กฏง่าย ๆ ท่านก้ไม่สามารถปฏิบัติได้เเล้ว?"
โมเต๋าได้หัวเราะในใจและลุกขึ้นยืน"ฝ่าบาทแม้ว่า เฉียนเอ๋อร์ จะเป็นบุตรสาวของข้า แต่วันนี้เธอไม่ได้มาในฐานะตัวแทนตระกูลโม่ แต่เป็น นิกายหยุนกง"
เริ่มแล้วสินะ!
ลู่เฟิงได้แอบพูดในใจ เขารู้ดีว่า โม่เต๋า ต้องการใช้สถานะนิกายหยุนกงกดดันเขา
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขากลับเป็นเหมือนปกติและกล่าวถามอย่างแผ่วเบา"นิกายหยุนกง มีธุระอะไรกับเรางั้นหรือ?"
"ฝ่าบาท นิกายหยุนกง ต้องการทำพันธะสัญญาข้อตกลงกับราชวงศ์ ภายในหนึ่งเดือนต่อจากนี้ จะจัดการประลองขึ้นที่ด้านนอกประตูลมปราณ เป็นจำนวนการประลองทั้งหมดห้าคู่ ไม่ทราบว่าฝ่าบาทคิดเห็นอย่างไร?"โม่เฉียน ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วทันที ราชวงศ์ของอาณาจักรหนานหยาน หลงเหลือเพียงเขาเพียงคนเดียว?
ดังนั้นไม่ใช่จะบอกว่าให้เขาออกไปสู้กับคนห้าคนหรือไม่?
นิกายหยุนกง เห็นได้ชัดว่าต้องการใช้โอกาสในการประลองเพื่อสังหารเขา เพราะคนในราชวงศ์ที่หลงเหลือมีเพียง ลู่เฟิง เพียงคนเดียว
เขาคาดเดาเจตนาของอีกฝ่ายได้
ดังนั้นลู่เฟิงจึงต้องการปฏิเสธ
แต่ในขณะนั้นเองโม่เต๋าก็ได้ยืนขึ้นเเละกล่าวพูด"ฝ่าบาทนี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะแสดงให้เห็นถึงบารมีจักรพรรดิของพระองค์ ข้าแนะนำว่าท่านควรเห็นด้วยกับการประลองในครั้งนี้"
"ฝ่าบาท!"
เหล่าข้าราชบริพารกลุ่มนึงได้กล่าวพูดขึ้น
ในบรรดากลุ่มคนเหล่านี้สี่คนที่ลู่เฟิงรับเข้ามาเป็นข้าราชเลขาได้กล่าวพูดเสียงดังสุด
ใบหน้าของ ลู่เฟิง นั้นบิดเบี้ยวเล็กน้อย ดูเหมือนว่า โม่เต๋าพยายามที่จะกดดันตัวเอง
ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ชื่อเสียงของ ราชวงศ์อาณาจักรหนานหยาน ก็จะเสื่อมเสีย เขาที่เพิ่งขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ ก็คงไม่ได้รับความเคารพในอนาคต
ตอนนี้ปัญหาจำนวนมากได้ปรากฏขึ้นในใจของเขา
หากเขาเห็นด้วยมีโอกาสมากกว่า 80% ที่เขาจะถูกตัดศีรษะ หากไม่เห็นด้วยชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ก็จะหายไป
ในตอนนี้ ลู่เฟิง ตระหนักได้แล้วว่า มีเพียงความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้นที่สามารถรับมือวิกฤติทั้งหมดได้
เช่นเดียวกัน ถ้าตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งมากพอเขาย่อมตกลงและจัดการฆ่าคนเหล่านี้โดยตรง
สิ่งที่เขาขาดก็คือความแข็งแกร่ง!
เขาจะต้องพัฒนาความแข็งแกร่งของเขา!
"ติ๊ง ภารกิจหลัก : ทำลายนิกายหยุนกง!"