บทที่ 236 ข้าจะ...เจ้า 1 (3)
บทที่ 236 ข้าจะ...เจ้า 1
“เป้าหมายของพวกเราในวันนี้ เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”
คาร์ลอธิบายเป้าหมายให้กับกองกำลังของตนได้ทราบ
“มุ่งเป้าไปที่การป้องกันมากกว่าการโจมตี”
โล่เงิน
การป้องกันอันแข็งแกร่งที่คนทั่วไปต่างรู้จักคือฝีมือของราอน โล่เงินของคาร์ลสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากราอน ซึ่งในวันนี้ไม่มีทางที่มันจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่แสดงความกังวลหรือความอ่อนแอให้กับพวกเขาได้เห็น เขาแค่ต้องเปลี่ยนคำสั่งให้ต่างออกไปจากแผนเดิมที่วางไว้
“อย่าออกไปไกลจนเข้าเขตแดนของศัตรู ห้ามอยู่เพียงลำพัง ต้องมีคนอยู่ในกลุ่มสามคนขึ้นไปพวกเจ้าถึงจะเคลื่อนไหวไปปะทะกับศัตรูได้”
แม้ว่าพวกเขาจะมาช่วยอาณาจักรเบร็คแต่คาร์ลก็สนใจชีวิตของตนเองและคนจากอาณาจักรโรมันเป็นอันดับแรก คาร์ลต้องการความมั่นใจว่าตัวเขาเองและคนใกล้ชิดจะไม่มีใครบาดเจ็บหรือล้มตายจากศึกครั้งนี้ นั่นคือสาเหตุที่เขาสั่งให้คนจากอาณาจักรโรมันเน้นไปที่การป้องกันมากกว่าการโจมตี
ยกเว้นเพียงคนเดียว
เชวฮันกระชับดาบในมือของตนให้แน่นขึ้น เมื่อเห็นว่าคาร์ลมองมาที่ตน เขาพยักหน้าให้กับคาร์ลโดยไม่พูดอะไรออกมา
จู่โจมก่อนที่จะป้องกัน
เชวฮันเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ได้รับคำสั่งให้ทำลายศัตรูก่อนที่พวกมันจะข้ามฝั่งมาได้ เชวฮันเข้าใจคำสั่งนี้ได้อย่างแจ่มชัด
ราอนไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ จึงเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว
คาร์ลเริ่มพูดเมื่อเห็นรอยยิ้มบางๆของเชวฮัน
“ทุกคนไปประจำตำแหน่งของตัวเองได้!”
เสียงสะบัดชุดคลุมของกองกำลังนักเวทย์และเสียงขยับชุดเกราะของอัศวินทะลวงฟันดังขึ้นพร้อมๆกันก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะเคลื่อนตัวไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน
คาร์ลก็เริ่มออกเดินเช่นกันโดยมีแมรี่ ฮิลส์แมน เชวฮันและล็อกเดินตามหลังเขาไปติดๆ
“มีบางอย่าง...เกิดขึ้นกับ..ท่านราอนหรือเจ้าคะ?”
เสียงยานๆของแมรี่เอ่ยถามคาร์ลขึ้นมา คาร์ลหันไปมองร่างในชุดคลุมสีดำและสีหน้ากังวลของฮิลส์แมนที่เดินอยู่ข้างๆเธอก่อนจะตอบกลับ
“ใช่ มีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ”
คาร์ลมองเห็นพวกเขาทั้งสองสะดุ้งโหยง
แน่นอนว่าคาร์ลไม่ได้เอ่ยปลอบใจพวกเขาเช่นคำว่า ‘ผ่อนคลายซะ..ไม่มีอะไรต้องห่วง’หรือประโยคที่ว่า ‘พวกเจ้าต้องมีสติและเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างเข้มแข็ง นั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำให้เรารับมือกับสถานการณ์เร่งด่วนได้’
คาร์ลเลือกที่จะพูดความจริงให้กับทั้งสองฟัง
“นั่นคือสาเหตุที่พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องตื่นตัวเสมอและห้ามให้มีอันตรายเกิดขึ้นกับคนอื่นเป็นอันขาด”
แมรี่และฮิลส์แมนเม้มปากแน่นทันที
ห้ามได้รับบาดเจ็บและให้ระมัดระวังตัวเอง
ปากสั่นๆของแมรี่และท่าทางกังวลของฮิลส์แมนกลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
คาร์ลค่อยๆหันหน้าหนีจากพวกเขาทั้งคู่และมุ่งหน้าไปหาใครบางคน
โรสลิน
เขาต้องไปหาเธอ
เธอเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีที่สุดและเขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอ
.
.
.
คาร์ลเห็นแผ่นหลังของโรสลินอยู่ไม่ไกล
ฟริ้ววว ~~~~ ฟริ้ววว ~~~~
เสียงลมยังคงพัดดังให้ได้ยินเป็นระยะๆ เพราะเป็นเวลารุ่งสางจึงทำให้ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่
หุบเขาแห่งความตายเกิดจากหน้าผาสูงชันที่คดเคี้ยวสลับซ้ายและขวาทอดยาวเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร หน้าผาที่โรสลินยืนอยู่เป็นจุดที่สูงที่สุดซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างอาณาจักรเบร็คและอาณาจักรอัสโคซาน
เธอประจำการอยู่ที่นั่นเพื่อตรวจดูกองกำลังของอาณาจักรอัสโคซานที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของหน้าผา ข้างๆเธอนั้นคือกองกำลังนักเวทย์และอุปกรณ์เวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารขนาดใหญ่
ฟรึ่บ!!! ฟรึ่บ!!! ฟรึ่บ!!!
อุปกรณ์เวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารยังคงกระพริบแสงไม่หยุด อัศวินและทหารก็ปรากฏตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้มองไปที่สิ่งเหล่านั้น
“เดี๋ยวเรา---”
ฮิลส์แมนเหมือนกำลังจะพูดอะไรแต่คาร์ลไม่เสียวลาฟังสิ่งที่เขาพูด สายตาของคาร์ลทอดไปยังอีกฝั่งของหน้าผา
มันคืออาณาเขตของศัตรู แสงกระพริบถี่ๆปรากฏขึ้นที่นั่นเช่นกัน
แสงกระพริบจ้าขึ้นข้างๆคาร์ลอีกหนึ่งดวง แน่นอนว่ามันเป็นแสงจากอุปกรณ์เวทย์เคลื่อนย้ายมวลสาร แสงที่เหมือนกันนี้ปรากฏขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของหน้าผาและมีปริมาณหลายสิบดวง
“...สมกับที่เป็นศึกครั้งสุดท้าย”
อีกฝั่งหนึ่งของหน้าผา
ศัตรูจำนวนมากยืนเรียงรายตามช่องว่างของหน้าผาและกำลังจ้องมาที่พวกเขาอย่างไม่ยอมละสายตา จำนวนของศัตรูมีจำนวนมากจนยากที่จะประเมินด้วยสายตาได้
พรึ่บ!!!! พรึ่บ!!!!
ธงอันเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของพันธมิตรไร้พ่ายกำลังพัดกระพือโต้ไปกับสายลม
จำนวนของศัตรูที่ปรากฏโฉมอยู่ในขณะนี้เมื่อเทียบกับทหารที่เข้าโจมตีในอาณาจักรโรมันหรืออาณาจักรคาโร มันดูเยอะกว่าจนน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้อาณาจักรทางตอนเหนือรวมไปถึงอาณาจักรพารันต่างเป็นอาณาจักรแห่งอัศวิน หากต้องสู้กันด้วยยุทธวิธีทางราบอัศวินถือว่ามีความแข็งแกร่งพอตัว หากอัศวินแข็งแกร่งทหารของพวกเขาก็ย่อมแข็งแกร่งเช่นกัน
นอกจากแม่น้ำที่อยู่ด้านล่างของหน้าผาซึ่งเป็นตัวแบ่งเขตระหว่างอาณาจักรเบร็คและอาณาจักรอัสโคซานแล้ว ก็ไม่มีแหล่งน้ำใดอยู่ในบริเวณนี้อีก
“…กระผมคาดเอาไว้แล้วนะขอรับแต่การได้มาเห็นจำนวนของศัตรูด้วยตัวเองแบบนี้..ต้องบอกว่าพวกมันมีจำนวนมากจริงๆ”
“ไม่หรอก..ศัตรูมีเยอะกว่าที่เจ้าบ้านั่นบอกเราต่างหากล่ะ”
“ขอรับ?”
ศัตรูมีจำนวนมากกว่าที่โคลเปย์เคยบอกเอาไว้
มีทหารจำนวนมากเกินไป
“ท่านโรสลิน”
“…นายน้อยคาร์ล”
มือของคาร์ลวางไปที่ไหล่ของโรสลิน คำถามเมื่อครู่นี้ยังคงวิ่งวนอยู่ในหัวของเขา คาร์ลกระซิบบางอย่างกับโรสลินอย่างรวดเร็ว
“คนจำนวนมากขนาดนั้นจะข้ามฝั่งมาด้วยวิธีใด?”
คนจำนวนมาก
ศัตรูจะใช้วิธีใดข้ามฝั่งเข้ามา?