PTH22 ไม่แปลกที่เจ้ากล้าพูด
“ข้าเนี่ยนะโง่! เจ้าพูดเองว่าชอบหนานกงยู่ฉิงมาก ทั้งยังบอกว่าจะร่วมรักพร้อมกันด้วยสีหน้าจริงจังขนาดนั้น แต่กลับมาบอกว่าหลอกข้า?”
หลินเต้ายีเดาใจเว่ยสั่วไม่ออก เหตุใดเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3 ถึงได้กล้าท้าทายเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 5 ต่อหน้า
“เข้ามาอยู่ใกล้ๆข้า” เว่ยสั่วหันมองคนอื่นๆแล้วตะโกนขึ้น
แม้ว่าดูเหมือนเว่ยสั่วจะไร้หนทางเอาชนะหลินเต้ายี แต่ด้วยสถานการณ์ยามนี้ หนานกงยู่ฉิงและเย่กู่เว่ยไร้ทางเลือก จึงเร่งเข้ามาอยู่ข้างกายเว่ยสั่วเพื่อคอยช่วยอีกแรง
“มีอาวุธอะไรที่ทรงพลัง มีสมบัติอะไรที่ป้องกันแข็งแกร่ง รีบเอาออกมาให้หมด!” เว่ยสั่วกล่าวกับคนอื่นๆ
เย่กู่เว่ยและหนานกงยู่ฉิงเริ่มได้สติ นำสมบัติและยันต์ของตนออกมา
เย่กู่เว่ยนำยันต์สีดำออกมาแผ่นหนึ่ง ถ่ายปราณกระตุ้น โล่สีดำลักษณะคล้ายกระดองปรากฏขึ้นขวางหน้าทั้งหมดเอาไว้
“ยันต์เกราะลึกล้ำ?” เว่ยสั่วประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่านางจะมียันต์ป้องกันที่ทรงพลัง เป็นยันต์ที่มีพลังป้องกันเหนือกว่ายันต์เกราะพิภพของเว่ยสั่วราว 3 เท่า
เว่ยสั่วหันมองเย่เสี่ยวเจิ้ง มันส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีสมบัติเหล่านั้น
“เว่ยสั่ว ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หลินเต้ายีนำยันต์สีดำแผ่นหนึ่งออกมา ถ่ายปราณกระตุ้น ปรากฏม่านพลังสีดำทมิฬขึ้นเบื้องหน้า กั้นขวางเว่ยสั่วเอาไว้
“ฮึ่ม!”
เว่ยสั่วขดปากแค่นเสียง ต่อให้เป็นหมูก็ดูออกว่ามันอยากสังหารเขามาก อีกอย่าง แม้เว่ยสั่วจะทำสีหน้าไม่หวั่นเกรง แต่จริงๆแล้วเขาตระหนกมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้สู้กับมนุษย์ด้วยกัน
เว่ยสั่วไม่เคยเห็นยันต์ที่หลินเต้ายีใช้มาก่อน เขารู้เพียงว่ายันต์ของมันทรงพลัง มีพลังที่น่าเกรงขามไหลเวียน ที่สำคัญบนตัวยันต์ยังมีแถบแสง แสดงว่าเป็นยันต์ที่ใช้งานได้หลายครั้ง
ในชั่วพริบตานั้น หลินเต้ายีชูมือ ขยับมือเป็นท่าทาง ปราณก่อตัวเป็นกล่องสีทองหลายกล่อง รอบๆมีอักขระสลักไว้ เมื่อกล่องเริ่มเพิ่มจำนวนถึง 6 กล่อง หลินเต้ายีบังคับให้ถล่มใส่เว่ยสั่วและคนอื่นๆ
“ช่วยกันรับมือ!”
เว่ยสั่วตะโกนขึ้น เมื่อกล่องที่ตรงเข้าใส่กระทบเข้ากับเกราะของเย่กู่เว่ย เกราะของนางพังทะลายลงในพริบตา
สมบัตินั้นแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ วิญญาณ แท้จริง ลึกล้ำ และเซียน ผู้ฝึกตนทั่วไปที่ออกล่าอสูรระดับ 3 จะใช้สมบติแท้จริงในการสังหารพวกมัน สมบัติระดับนั้นทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว
เมื่อเกราะถูกทำลาย เว่ยสั่วเร่งใช้ปราณกระบี่วารีระดมจู่โจมเข้าต้าน หนานกงยู่ฉิงเองก็ช่วยต้านรับ เย่กู่เว่ยใช้วิชาศรวารีระดมต้านเช่นเดียวกัน
เมื่อต้านรับการจู่โจมได้ เว่ยสั่วและคนอื่นๆก็ระดมจู่โจมเข้าใส่หลินเต้ายี
“เว่ยสั่ว แล้วเจ้าจะเสียใจกับสิ่งที่ทำ”
มันจดจ้องเว่ยสั่วด้วยสายตาอาฆาตแค้น สะบัดมือส่งปราณกระบี่สีทองเข้าจู่โจม
ตูม!
การจู่โจมเมื่อครู่ยังไม่อาจทะลวงเกราะคุ้มกันของเย่กู่เว่ยได้ แต่การจู่โจมในระรอกสอง ปราณกระบี่สีทองฟาดฟันเข้าใส่เกราะ จนมันไม่อาจต้านรับการจู่โจมได้อีก
ตููม!
ในขณะเดียวกันนั้น เว่ยสั่วกระตุ้นยันต์เพลิงตรงเข้าจู่โจมหลินเต้ายี เปลวเพลิงปะทะม่านพลังที่ขวางกั้น แรงระเบิดทำม่านพลังสั่นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ยันต์เพลิง? นี่เจ้า...”
หลินเต้ายีประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าเว่ยสั่วจะมียันต์หลายแผ่น ที่สำคัญ มันยังไม่ทันได้กล่าวจบ บอลเพลิงลูกหนึ่งก็ตรงเข้าใส่ม่านพลังอีกครั้ง การปะทะในครั้งนี้ทำให้ม่านพลังถูกลดทอนกำลังไปมาก
“ยันต์เพลิง? นี่เจ้าซื้อมามากขนาดไหน?”
มันเห็นเว่ยสั่วนำยันต์เพลิงออกมาอีกครั้ง แล้วกระตุ้นจู่โจมเข้าใส่
ตูม!
ม่านพลังยังคงทำหน้าที่เป็นอย่างดีในการต้านรับ แต่ด้วยพลังที่ถูกลดทอนไปมาก ยามนี้จึงไม่อาจคงสภาพของม่านพลังได้อีก
เมื่อม่านพลังถูกทำลาย ก็สบโอกาสให้หนานกงยู่ฉิงและเย่กู่เว่ยจู่โจม แต่ก่อนที่ศรวารีและปราณกระบี่ของพวกนางจะเข้าใกล้ ม่านพลังสีดำกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้วต้านรับการจู่โจมของพวกนางเอาไว้
แต่ในชั่วพริบตาถัดมา อากาศภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นฉับพลัน บอลเพลิงปรากฏออกมาอีกครั้ง
“มิน่าเจ้าถึงกล้าพูดแบบนั้นกับข้า ที่แท้เจ้ามียันต์เพลิงอยู่กับตัวหลายแผ่น”
บอลเพลิงจู่โจมใส่ม่านพลัง หลินเต้ายียังคงสีหน้าสงบก่อนกล่าว
“ยันต์ของข้าใช้ได้ทั้งหมด 12 ครั้ง ถ้าเจ้าคิดว่ามียันต์เพลิงมากพอ ก็จู่โจมเข้ามา!”
หลินเต้ายีไม่ได้กล่าวเกินจริง ก่อนหน้านี้ที่มันออกล่าอสูรกับคนกลุ่มหนึ่ง ทำให้ได้ได้ครอบครองยันต์ม่านพลังทมิฬมา
ม่านพลังหนึ่งต้านรับการจู่โจมจากยันต์เพลิงศิลาวิญญาณได้ 3 ครั้ง หากจะทำลายม่านพลังของมันทั้งหมด อย่างน้อยต้องมียันต์เพลิง 36 แผ่น
หนานกงยู่ฉิงและเย่กู่เว่ยจะลอบโจมตีไม่สำเร็จ สิ่งที่เว่ยสั่วพอจะทำได้คือใช้ยันต์เพลิงเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้
“ยันต์เพลิง 36 แผ่น… จะมีคนโง่ที่ไหนพกยันต์เพลิงมาด้วยมากขนาดนี้” หลินเต้ายีขบคิด...