PTH20 ชิ้นส่วนสมบัติ
แมงมุมใยน้ำแข็งคืออสูรระดับ 3 แม้ว่ามันจะถูกกระบี่ใหญ่ของเย่เสี่ยวเจิ้งฟาดฟันเข้าไปเต็มๆ แม้ดูเหมือนกระบี่เมื่อครู่จะบดขยี้มันได้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น มันเพียงเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและถอยห่าง ราวกับมันเพียงบาดเจ็บแต่ยังไม่ถึงตาย
แมงมุมอีกตัวที่ปิดทางออก เห็นเพื่อนของมันบาดเจ็บ มันจึงเร่งยิงใยถักสานปิดทางออกเอาไว้ แล้วมุ่งเข้าหาเย่เสี่ยวเจิ้งทันที
อีกฝั่ง แมงมุมที่ถูกหนานกงยู่ฉิงจู่โจม แม้จะถูกเพลิงแผดเผาทั่วร่าง แต่ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก
ยิ่งเวลาผ่านไป อุณหภูมิภายในถ้ำก็ยิ่งลดต่ำลง ผนังถ้ำและพื้นถ้ำเริ่มปรากฏเกร็ดน้ำแข็งปกคลุม
“จัดการเจ้านี่ให้ได้ก่อน!”
สิ้นคำกล่าวหลินเต้ายี บอลเพลิงจากยันต์เพลิงที่มันซื้อมาก็พุ่งเข้าใส่แมงมุม
เคร้ง เคร้ง!
ทางด้านของเย่เสี่ยวเจิ้ง มันยังไล่ฟาดฟันแมงมุมพลางต้านรับใยที่หมายทะลวงร่าง แม้จะทะลวงร่างของมันไม่ได้ แต่ความเย็นก็สร้างปัญหาให้อย่างหนัก อุณหภูมิของร่างกายลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มขยับเคลื่อนไหวได้ยาก
“ทำไมผิวของมันถึงแข็งขนาดนี้!”
เมื่อเห็นว่าอาการของเย่เสี่ยวเจิ้งเริ่มไม่สู้ดี เว่ยสั่วและเย่กู่เว่ยระดมจู่โจมเข้าใส่แมงมุมตัวนั้น ด้วยอานุภาพที่รุนแรงของยันต์เพลิงจากเว่ยสั่วทำให้มันกระอักโลหิต ยิ่งเสริมด้วยปราณกระบี่วารีและศรวารี อาการบาดเจ็บของมันยิ่งเพิ่มพูน แต่ยังไม่อาจปลิดชีวิตของมันได้
เย่เสี่ยวเจิ้งที่ถูกใยแมงมุมจู่โจมอย่างต่อเนื่อง เริ่มเคลื่อนไหวได้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด จนคมกระบี่ยักษ์ไม่อาจสัมผัสกายแมงมุมได้
โผล๊ะ!
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจเย่เสี่ยวเจิ้ง เส้นแสงสีฟ้าสายหนึ่งพุ่งออกจากมือหนานกงยู่ฉิง ตรงเข้าหาแมงมุมตัวหนึ่งอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าปราณกระบี่เพลิงของนาง จนแมงมุมไม่อาจตั้งตัวได้ทัน ถูกแสงสีฟ้าทะลวงศีรษะระเบิด ก่อนที่เส้นแสงจะกลับเข้าสู่มือนาง
“นั่นมันอะไร? หรือจะเป็นสมบัติที่ทรงพลัง?”
เว่ยสั่วและเย่กู่เว่ยสังเกตุเห็นเส้นแสงเมื่อครู่ อานุภาพของมันทำให้ทั้งสองตกตะลึง การจู่โจมของหนานกงยู่ฉิงเมื่อครู่ ทำให้ปราณในร่างของนางลดลงมาก นางจึงเร่งดื่มโอสถฟื้นปราณเข้าไปทันที
สถานการณ์ที่เย่เสี่ยวเจิ้งต้องเผชิญเลวร้ายลงทุกขณะ เย่กู่เว่ยเริ่มเป็นกังวล จึงนำยันต์แผ่นหนึ่งออกมา
“ยันต์ไม้!”
ยันต์ถูกกระตุ้น ปราณสีฟ้าก่อตัวเป็นไม้ท่อนหนาขนาดเท่าลำตัวมนุษย์ พุ่งเข้ากระแทกแมงมุมที่ถูกยันต์เพลิงแผดเผา
แมงมุมใช้ขาทั้ง 8 ข้างต้านรับ แต่แรงกระแทกก็ทำให้มันกระอักโลหิต
แมงมุมอีกตัวก็มีสภาพย่ำแย่ไม่แพ้กันเร่งยิงใยขึ้นไปบนผนังถ้ำแล้วไต่หนีขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
เว่ยสั่วและคนอื่นๆพยายามกันไม่ให้พวกมันหนี แต่ด้วยความที่มันแข็งแกร่ง รวดเร็ว มีสติปัญญา ต่อให้รุมจู่โจมก็ใช่ว่าจะสังหารมันได้
“บัดซบ!”
เว่ยสั่วไม่อาจสังหารหนึ่งในพวกมันลงได้ จึงตัดสินนำยันต์น้ำแข็งออกมา
ด้วยความที่แมงมุมตั้งใจจะหลบหนี ต่อให้ยิงบอลเพลิงเข้าใส่ก็ใช่ว่าจะโดน
แต่ยันต์น้ำแข็งที่เว่ยสั่วนำออกมา เป็นยันต์ที่จู่โจมเป็นวงกว้าง แม้ราคาจะสูงถึงแผ่นละ 3 ศิลาวิญญาณระดับล่าง แต่ร่างของแมงมุมใยน้ำแข็งขายได้อย่างน้อย 60 ศิลาวิญญาณระดับล่าง เว่ยสั่วจึงไม่เสียดายยันต์น้ำแข็ง
“ยันต์น้ำแข็ง!”
เว่ยสั่วกระตุ้นยันต์ ปราณน้ำแข็งเย็นเฉียบก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็งจำนวนมากเบื้องหน้า อุณหภูมิภายในถ้ำลดลงฉับพลัน หนานกงยู่ฉิงที่เห็นเผยสีหน้าประหลาดใจ ราวกับคาดไม่ถึงว่าคนที่ดูยากจนเหมือนเว่ยสั่วจะมียันต์ระดับนี้
“อย่าหนี!”
ในขณะที่หนานกงยู่ฉิงประหลาดใจอยู่นั้น เว่ยสั่วชี้นิ้วไปยังแมงมุมที่กำลังหลบหนี ก้อนน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว
“เป็นยันต์ที่ทรงพลังมาก!”
ก้อนน้ำแข็งจำนวนมากกระทบร่างแมงมุมทั้งสาม ร่างกายและใยของพวกมันถูกแช่แข็งจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง
เว่ยสั่วใช้ปราณกระบี่วารี คนอื่นๆก็ใช้วิชาของตนระดมจู่โจม จนทำให้ก้อนน้ำแข็งที่แช่ร่างของแมง
มุมทั้งหมดปริแตกและตายไปในท้ายที่สุด
“โชคดีที่น้องเว่ยสั่วมียันต์น้ำแข็ง ไม่งั้นมันคงหนีรอดไปได้” เมื่อจัดการแมงมุมใยน้ำแข็งได้แล้ว หลินเต้ายีก็หันมายิ้มพลางกล่าวกับเว่ยสั่ว
“แต่น่าเสียดายที่ร่างของมันได้รับความเสียหาย ราคาขายคงตกไปเยอะ” เว่ยสั่วจ้องมองร่างของแมงมุมด้วยความเสียดาย
“ไม่ขนาดนั้นหรอก… ถึงผิวนอกของมันจะได้รับความเสียหายก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของมันคือแก่นอสูร” หลินเต้ายีกล่าวพลางเดินไปเด็ดผลหมอกน้ำแข็ง “อีกอย่าง ปราณที่อยู่ในนี้ก็ล้ำค่าไม่แพ้กัน”
เมื่อได้ยินหลินเต้ายีกล่าว เย่เสี่ยวเจิ้งและเย่กู่เว่ยก็เริ่มตื่นเต้น เพราะหากนับรวมซากของงูถ้ำศิลา แมงมุมใยน้ำแข็ง และผลหมอกน้ำแข็ง มูลค่าของพวกมันทั้งหมด อย่างน้อยสมควรขายได้ 350 ศิลาสวรรค์ระดับล่าง หากแบ่งกันทั้งหมด อย่างน้อยก็ได้คนละ 70 ศิลาวิญญาณ
“จริงสิ… ว่าแต่เส้นแสงเมื่อครู่ที่ออกมาจากมือแม่นางคืออะไร? สังหารแมงมุมได้ยังไง?” หลินเต้ายีกล่าวถามหนานกงยู่ฉิง
“ข้าไม่ได้มีระดับพลังสูงส่ง จึงไม่อาจครอบครองสมบัติล้ำ สิ่งที่ใช้จึงเป็นเพียงชิ้นส่วนสมบัติ” นางกล่าวพลางแบมือ “นี่คือชิ้นส่วนสมบัติของข้า ถึงมันจะทรงพลังแต่ก็ใช้ได้เพียงวันละครั้ง แต่ละครั้งที่ใช้ผลาญปราณไปมหาศาล”
“ชิ้นส่วนสมบัติก็เอามาใช้ได้ด้วยเหรอ?” เว่ยสั่วจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือนางพลางอุทาน
สิ่งที่อยู่ในมือของนางมีลักษณ์คล้ายชิ้นส่วนแจกัน หนาเท่าแผ่นกระเบื้อง มีสีน้ำเงินเข้มโปร่งใส และเปล่งแสงอ่อนจางออกมา
เว่ยสั่วรู้ว่าสมบัติในสมัยโบราณส่วนใหญ่จะได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังมีบางชิ้นส่นขอพวกมันที่ยังมีพลังเต็มเปี่ยม การที่ชิ้นส่วนของสมบัติทรงพลังยิ่งกว่ายันต์เพลิงของเว่ยสั่ว แสดงว่าระดับดั้งเดิมของสมบัติมีระดับที่สูงกว่ายันต์เพลิงมาก
แม้จะเป็นเพียงชิ้นส่วนนสมบัติ แต่ด้วยทรงอานุภาพหรือต่อให้ใช้ได้แค่วันละครั้ง ราคาของมันอย่างน้อยสมควรอยู่ที่ 30 ศิลาวิญญาณระดับล่าง
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว… สิ่งที่อยู่ในอกเสื้อของซากศพตรงนั้นมันอะไร?” หลินเต้ายีกล่าวกับหนางกงยู่ฉิง แต่จู่ๆมันกลับสังเกตุเห็นบางอย่าง จึงกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“อะไร!” เว่ยสั่วหันมองไปยังซากร่างของผู้ที่ตายตามหลินเต้ายีบอก แต่ในชั่วพริบตานั้น เปลวเพลิงกลับถูกจุดขึ้นที่มือของหลินเต้ายี!...