Chapter 117 - 118 : อายุน้อย มากความสามารถ, วันเวลาเก่าๆที่ดี (ฟรี)
Chapter 117: อายุน้อย มากความสามารถ
ไม่ใช่ว่ากู้หนิงไม่อยากกินข้าวกับพวกเขา แต่พวกเขาเป็นลูกจ้างนายจ้าง อีกทั้งเธอยังเป็นเด็กสาววัยรุ่น ดังนั้นเธอจึงไม่สะดวกใจที่สังสรรค์กับผู้ชายหลายคน
เธอจึงให้โจวเจิ้งหงขับรถพาเธอมาที่ย่านการค้าเพื่อหาอะไรกิน โจวเจิ้งหงและคนอื่นๆจึงตกลง
ระหว่างทางมาที่ย่านการค้า กู้หนิงโทรหาอาจารย์ฝู เธอถามเขาว่าพรุ่งนี้เขาว่างหรือเปล่า เธอต้องการพบเขา อาจารย์ฝูดีใจที่รู้ว่ากู้หนิงอยู่ที่เมือง G เขาตอบรับคำเชิญของเธออย่างรวดเร็ว เขาเคยสัญญาว่าเขาจะช่วยเธอ และเขาก็หมายความอย่างนั้นจริงๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ถนนพนันหินวันนี้ อาจารย์ฝูก็บ่นกับกู้หนิง เขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือกู้หนิง แต่ปรากฏว่าไม่ใช่
เขายังบ่นอีกว่า อาจารย์ไป๋โอ้อวดต่อหน้าเขา เขาจึงรู้สึกโมโหและเสียใจที่ไม่ได้ไปกับอาจารย์ไป๋วันนี้ กู้หนิงอดหัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอพูดว่า
“คุณปู่ฝู คุณปู่น่าจะบอกว่าคุณปู่รู้จักผู้หญิงคนนั้น และเธอมีหยกที่มีค่ามากกว่าของเขา ที่รอคุณปู่อยู่ คุณปู่เองก็สามารถคุยโวกลับไปได้เหมือนกัน”
“แต่ปู่ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นน่ะสิ! ถ้าเธอเป็นหลาน ปู่คงเกทับเขาไปแล้ว” อาจารย์ฝูกล่าว
“จริงๆแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็คือหนูเองค่ะ”
กู้หนิงมีแผน เธอไม่ต้องการปิดบังความจริงจากอาจารย์ฝู แน่นอนเพราะเธอไม่อยากทำร้ายเขา และเธอต้องการขยายฐานอำนาจของเธอผ่านอาจารย์ฝู
“อะไรนะ?”
อาจารย์ฝูตกตะลึง เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาจึงถามกลับว่า “หลานหมายความว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือหลานอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ค่ะ หนูไม่อยากให้ใครจำได้ เลยแปลงโฉมตัวเอง หนูไม่ได้บอกคุณปู่ เพราะหนูต้องการเงินมากจริงๆ และหนูไม่มีเวลาแล้วด้วย อย่าโกรธเลยนะคะ คุณปู่ฝู” กู้หนิงอธิบาย
ในตอนแรกอาจารย์ฝูก็รู้สึกโกรธอยู่บ้าง แต่หลังจากฟังคำอธิบายของเธอ เขาก็ไม่อยากโทษเธอและต่อว่าเธอ
“เอาล่ะ ปู่ยกโษให้”
ถึงอย่างนั้นกู้หนิงก็ยังกังวลอยู่ “แต่คุณปู่หยวนก็อยู่ที่นั่นวันนี้ หนูไม่ได้เข้าไปทักเพราะหนูต้องการปกปิดตัวตน หนูกลัวว่าคุณปู่หยวนอาจจะโกรธหนู”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เขาโกรธแน่! ถ้าเขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือหลาน เขาต้องโมโหมาก ตอนนี้ปู่สามารถคุยอวดต่อหน้าอาจารย์ไป๋ได้แล้ว และยังทำให้อาจารย์หยวนหงุดหงิดได้ด้วย ฮ่าฮ่า” อาจารย์ฝูรู้สึกตื่นเต้น
“ว่าแต่หลานมีหยกที่ดีกว่าหยกม่วงอีกหรือ?”
“มีแน่ค่ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” กู้หนิงตอบ เธอไม่ต้องการบอกใครเรื่องหยกจักรพรรดิในตอนนี้
“ดี ปู่จะรอ” อาจารย์ฝูเชื่อกู้หนิง เขาเชื่อว่าเธอจะต้องมีหยกที่มีมูลค่าสูงกว่าหยกม่วงแน่นอน
กู้หนิงวางสาย เธอหันไปหาโจวเจิ้งหงและพูดว่า “ลุงโจว รบกวนจองห้องส่วนตัวที่โรงแรมฮวงเติ้ง หนูจะพาลุงไปเจอคนคนหนึ่ง เขาจะช่วยเราจดทะเบียนบริษัท”
“ได้ครับ บอส” โจวเจิ้งหงตอบ เขาไม่ได้ถามว่าคนคนนั้นเป็นใคร
ส่วนอาจารย์ฝูที่กำลังโทรหาอาจารย์ไป๋ หลังจากที่วางสายจากกู้หนิง
“นี่ อาจารย์ฝู มีอะไร? อย่ามารบกวนตอนที่ฉันกำลังชื่นชมหยกม่วงสิ อ่า หยกม่วงนี่ช่างสวยงามเหลือเกิน!”
เวลานี้อาจารย์ฝูไม่หงุดหงิดแต่อย่างใด แต่กลับเอ่ยถามเป็นนัยแทน “อาจารย์ไป๋ คุณคิดว่าความสามารถของผู้หญิงคนนั้นที่ถนนพนันหินเป็นยังไง?”
อาจารย์ไป๋ไม่รู้ความนัยในคำพูดของอาจารย์ฝู เขารู้สึกสนใจหญิงสาวคนนั้น เขาจึงออกความเห็นว่า “เธอเก่งดี แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่เคยได้หยกต่อเนื่องกันถึงสี่ก้อนในครั้งเดียว!”
“ฮ่า ฮ่า! หนูน้อยกู้นี่ยอดเยี่ยมจริงๆ อาทิตย์ก่อนเธอได้หยกไปหลายก้อน และยังได้หยกมีค่าวันนี้อีก และเธอสัญญากับฉันแล้วว่า จะบอกฉันเป็นคนแรกเมื่อเธอได้หยกที่มีค่ามากกว่าหยกม่วงให้ฉันครั้งหน้า ดังนั้นฉันเลยไม่สนใจหยกม่วงของคุณหรอก” อาจารย์ฝูกล่าวอย่างภาคภูมิใจ และโอ้อวดว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับกู้หนิง
“เดี๋ยว เดี๋ยว เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ? ผู้หญิงคนนั้นก็คือเด็กสาวที่ชื่อว่ากู้หนิงที่คุณบอกฉันเหรอ แต่อาจารย์หยวนจำเธอไม่ได้นะ!?” อาจารย์ไป๋ประหลาดใจเมื่อรู้ความจริง เขาไม่อยากจะเชื่อ
ใช่แล้ว อาจารย์หยวนรู้จักกู้หนิง แต่เขาพลาดที่จำเธอไม่ได้ เหตุผลที่ทำไมอาจารย์ไป๋ตื่นเต้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ฝูและอาจารย์หยวนมีอิทธิพลต่อตัวเขาลึกๆ พวกเขายกยอกู้หนิง และพูดถึงเธอหลายครั้ง ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สนใจคนแปลกหน้าอย่างเธอ
กู้หนิงคนนี้ยังเด็กแต่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม ไม่เพียงแต่พนันหินได้หยกไปหลายก้อน เธอยังได้ของเก่าไปสองชิ้น
ความสามารถของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม กู้หนิงบอกอาจารย์ฝูเป็นคนแรกว่าเธอมีหยกที่ดีกว่าหยกม่วง อาจารย์ไป๋ตอนนี้รู้สึกอิจฉาขึ้นมาตะหงิดๆ
หยกที่ดีกว่าหยกม่วงก็ต้องเป็นหยกระดับสูงสุด! เช่น หยกจักรพรรดิ ตาสีม่วง ฮกลกซิ่วและอื่นๆ
คิดได้แบบนี้แล้วอาจารย์ฝูก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ถึงเขาจะรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะได้หยกเหล่านั้นมาครอบครอง แต่เขาเชื่อในความสามารถของกู้หนิง
ไม่ได้การล่ะ อาจารย์ไป๋ตัดสินใจที่จะไปพบเด็กสาวนามว่ากู้หนิง เขาจะไม่ปล่อยให้อาจารย์ฝูได้หยกระดับสูงสุดไปก่อนเขา
“ใช่! นั่นเป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครจำเธอได้ เธอจึงแปลงโฉมตัวเองเสียใหม่ เอาล่ะ ฉันต้องไปเดินยืดเส้นยืดสายซักหน่อย เด็กน้อยกู้ไม่ได้มาเมือง G บ่อยๆ เธอชวนฉันไปกินข้าวกับเธอพรุ่งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ ใช่ไหม? ฮ่าฮ่า” อาจารย์ฝูกล่าวด้วยความภูมิใจ จากนั้นก็วางสายไป
ที่จริงแล้วอาจารย์ฝูพอจะเข้าใจว่า ทำไมกู้หนิงถึงเลือกที่จะบอกความจริงกับเขา แต่เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจให้รกสมอง ถึงอย่างไรเขาก็ยังประทับใจในตัวเธอ อีกอย่างเธอเป็นคนมีความสามารถ ดังนั้นเขาจึงต้องการผูกมิตรกับเธอและคอยสนับสนุนเธอ
ยังไม่ทันที่อาจารย์ไป๋จะตอบกลับ อาจารย์ฝูก็วางสายไปแล้ว เขาหงุดหงิดและเกือบปาโทรศัพท์ลงพื้น
Chapter 118: วันเวลาเก่าๆที่ดี
เขาโทรกลับทันที แต่อาจารย์ฝูไม่รับสาย อาจารย์ไป๋เริ่มกระสับกระส่าย และเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น?” ชายวัยกลางคนเดินลงบันไดมา เขาสังเกตเห็นอาจารย์ไป๋กำลังเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน
ชายวัยกลางคนคนนี้เป็นคนเดียวกับที่กู้หนิงเจอวันนี้ ที่ทุกคนเรียกเขาว่าประธานไป๋ ลูกชายของอาจารย์ไป๋ ‘ไป๋หลินเว่ย’
“อาจารย์ฝูบอกพ่อว่า ผู้หญิงที่พวกเราพบวันนี้คือเด็กที่ชื่อว่ากู้หนิง อาจารย์ฝูและอาจารย์หยวนพูดถึงเธอหลายครั้งต่อหน้าพ่อ เขายังพูดอีกว่า ถ้าเธอมีหยกที่ดีกว่าหยกม่วง เธอจะบอกเขาเป็นคนแรก! หยกที่ดีกว่าหยกม่วงก็ต้องเป็นหยกระดับสูงสุดเท่านั้น! หยกที่อยู่เหนือหยกทั้งปวง!” น้ำเสียงของอาจารย์ไป๋หงุดหงิด ราวกับว่าเขาได้พลาดหยกระดับสูงไปแล้ว
“อะไรนะครับ? ผู้หญิงที่เราเจอวันนี้คือเด็กคนเดียวกันกับที่ลุงฝูเคยพูดถึงก่อนหน้านี้? เป็นไปได้ยังไงที่ลุงหยวนจะจำเธอไม่ได้?” ไป๋หลินเว่ยแปลกใจ
ไป๋หลินเว่ยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกู้หนิงมามาก เขาทั้งชื่นชมและสงสัยในตัวเธอ
“อาจารย์ฝูบอกว่าเธอไม่อยากให้ใครจำได้ เธอเลยแปลงโฉมตัวเองใหม่ ขนาดอาจารย์หยวนเองยังจำเธอไม่ได้เลย เด็กคนนี้จะไปกินข้าวกับอาจารย์ฝูพรุ่งนี้ พ่อเองก็จะไปด้วยเหมือนกัน! พ่อจะไม่ปล่อยให้อาจารย์ฝูชิงตัดหน้าไปก่อนพ่อแน่” อาจารย์ไป๋กล่าว แต่อาจารย์ฝูไม่รับโทรศัพท์เขานี่สิ เขาจะทำอย่างไรดี? โอ้ เขาควรโทรหาอาจารย์หยวน
ดังนั้นอาจารย์ไป๋จึงโทรหาอาจารย์หยวน
กู้หนิงก็ได้โทรหาอาจารย์หยวนด้วยตัวเองทันทีที่วางสายจากอาจารย์ฝู เธอคิดว่ามันเป็นการเสียมารยาทที่เธอจะไม่บอกอาจารย์หยวน
อาจารย์หยวนก็ประหลาดใจที่ได้รู้ความจริงว่าผู้หญิงที่เขาเจอวันนี้คือกู้หนิง เขาตกใจกับความสามารถที่โดดเด่นของเธอที่สามารถพนันหินได้หยกต่อเนื่องกันถึงสี่ก้อน และรูปลักษณ์ภายนอกเธอเปลี่ยนไปไม่เหลือเค้าเดิม แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้ต่อว่าเธอแต่อย่างใด
เมื่ออาจารย์ไป๋โทรหาอาจารย์หยวน เขาพบว่ากู้หนิงก็ได้เชิญอาจารย์หยวนเช่นเดียวกัน เมื่ออาจารย์ไป๋บอกความตั้งใจของเขาว่า เขาเองก็อยากไปร่วมทานข้าวด้วยอาจารย์หยวนจึงตอบตกลง
ตอนนี้กู้หนิงรู้สึกอยากกินสเต๊ก ดังนั้นเธอจึงไปร้านอาหารตะวันตก
ในขณะเดียวกัน ลี่เจินเจินก็กำลังกินข้าวอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง พวกเธอพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เมื่อลี่เจินเจินเห็นกู้หนิงเดินเข้ามา เธอก็อารมณ์เสียและกระสับกระส่าย
ทำไมกู้หนิงถึงอยู่ที่เมือง G? เธอมาแก้แค้นเหรอ?
ลี่เจินหยู พี่ชายของลี่เจินเจิน ได้ตรวจสอบเบื้องหลังกู้หนิงแล้ว เขาพบว่ากู้หนิงเป็นเด็กสาวธรรมดาๆที่มาจากครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอเรียนไม่เก่งและไม่เป็นที่ชื่นชอบของญาติๆ แต่กู้หนิงที่พวกเขาเห็นนั้นแตกต่างจากข้อมูลที่ได้รับ
กู้หนิงในสายตาพวกเขามีพรสวรรค์ในการพนันหิน และทำเงินไปร้อยล้านหยวนเมื่อครั้งก่อน และยังต่อสู้เก่งอีกด้วย เธอสามารถสู้กับผู้ชายตัวโตหลายคนและส่งพวกเขาไปนอนในโรงพยาบาล
กู้หนิงนั้นลึกลับและยังเป็นปริศนา ลี่เจินเจินจึงเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ
เธอไม่กลัวว่ากู้หนิงจะแจ้งจับเธอ เพราะกู้หนิงไม่มีหลักฐาน แต่ลี่เจินเจินกังวลว่ากู้หนิงจะแก้แค้นเธอ
“เจินเจิน มีอะไรรึเปล่า?” เมื่อเห็นสีหน้าลี่เจินเจินเปลี่ยนไป หญิงสาวสวยที่อยู่ตรงข้ามลี่เจินเจินเอ่ยถามด้วยความห่วงใย เธอเป็นเพื่อนสนิทลี่เจินเจิน ‘ซู่จิง’
“ไม่มีอะไร” ลี่เจินเจินดึงสติตัวเองกลับมา
ถึงแม้เธอกับซู่จิงจะเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับกู้หนิง มันน่าอาย เธอไม่อยากเสียหน้า ลี่เจินเจินอยากจะซ่อนตัวไม่ให้กู้หนิงเห็นเธอ แต่โชคไม่เข้าข้างเธอ ตอนนี้กู้หนิงสังเกตเห็นเธอแล้ว กู้หนิงไม่มีทางปล่อยลี่เจินเจินหนีไปจากเรื่องคราวก่อน แน่นอนว่าเธอไม่ได้มาฆ่าลี่เจินเจิน แต่เธอจะทรมานลี่เจินเจินอย่างแน่นอน
ถ้ากู้หนิงเป็นเพียงเด็กสาวที่อ่อนแอ เธอคงจะถูกทำลายศักดิ์ศรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเมื่อกู้หนิงเห็นลี่เจินเจิน เธอก็เดินตรงดิ่งมาหาลี่เจินเจินด้วยสายตาเย็นชาทันที
ลี่เจินเจินเริ่มประสาทเสีย แต่ถึงอย่างนั้นศักดิ์ศรียังค้ำคอเธออยู่ เธอจึงไม่ได้หนีไป และหันหน้ามาเผชิญกับกู้หนิงแทน
“โอ้ นั่นไม่ใช่คุณลี่หรอกหรือ? บังเอิญจัง! ฉันอยากจะคุยกับคุณถึงวันเวลาเก่าๆของเราพอดีเลย ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่” กู้หนิงเอ่ยอย่างมีเลศนัยด้วยรอยยิ้มที่ฉายชัดบนใบหน้า คนอื่นอาจจะคิดว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกัน แต่ลี่เจินเจินรู้ว่ากู้หนิงหมายความว่าอะไร
กู้หนิงต้องการทำร้ายเธอ!
ลี่เจินเจินพยายามระงับความประหม่าของเธออย่างสุดความสามารถ เธอจึงเอ่ยเสียงเรียบไปว่า
“คุณกู้ ฉันไม่ได้รู้จักกับคุณดีขนาดนั้น ฉันคิดว่าเราไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกัน”
“พวกเราไม่รู้จักกันดีก็จริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราก็ลืมไม่ได้ จริงไหมคะ?”
ลี่เจินเจินตัวแข็ง เธอเข้าใจดีว่ากู้หนิงพูดถึงอะไร แต่เธอแสร้งทำเป็นสงบและปฏิเสธว่า “ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร กรุณาปล่อยให้พวกเราอยู่ตามลำพังด้วย คุณกู้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง เอาล่ะ ฉันเองก็ต้องไปกินข้าวเหมือนกัน โอ้ ถือซะว่าเป็นคำเตือนจากเพื่อนนะคะ โปรดระวังตัวไว้ด้วย คุณลี่” พูดจบ กู้หนิงก็ผละจากไป
ลี่เจินเจินไม่พอใจอย่างมาก ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มด้วยความกลัวและความโกรธ กู้หนิงเตือนเธอให้ระวังตัว แสดงว่ากู้หนิงจะทำร้ายเธอใช่ไหม
“เจินเจิน เกิดอะไรขึ้น? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?” ซู่จิงสังเกตเห็นว่าพวกเธอน่าจะมีปัญหากัน อีกอย่างลี่เจินเจินดูหวาดกลัว
แปลกมาก!
“เราไม่รู้จักมักคุ้นกันหรอก ฉันมีเรื่องทะเลาะกับเธอมาก่อนน่ะ” ลี่เจินเจินไม่ได้โกหก แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียด
ถึงแม้ซู่จิงจะสงสัย เธอก็ไม่ถามอะไรลี่เจินเจินต่ออีก พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความจะไม่มีความลับต่อกัน
ลี่เจินเจินหมดความอยากอาหาร แต่พวกเธอก็เกือบทานข้าวเสร็จแล้ว ลี่เจินเจินอยากจะกลับบ้านให้เร็วที่สุด ดังนั้นเธอจึงบอกซู่จิงว่าจะรีบกลับ
กู้หนิงหัวเราะเยาะเย้ยในใจ แต่ก็ไม่ได้รั้งพวกเขาเอาไว้ เธอไม่อยากเสียเวลากินข้าวของเธอไปกับลี่เจินเจิน
ลี่เจินเจินบอกลาซู่จิง และมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
หลังจากกินข้าวเสร็จ กู้หนิงก็ไปซื้อของใช้จำเป็น ของพวกนี้เป็นของที่เธอจำเป็นต้องใช้ในอพาร์ทเม้นท์
ลี่เจินเจินไม่สบายใจจนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน เธอหายใจไม่ทั่วท้องและเหงื่อออกเต็มตัว ลี่เจินหยูสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เขาจึงถามน้องสาวด้วยความห่วงใย
“เจินเจิน เกิดอะไรขึ้น? น้องดูแย่มาก”
“หนูเพิ่งเจอกู้หนิงมา เธอบอกหนูว่าให้ระวังตัวเอาไว้ หนูคิดว่าเธอต้องมีแผนทำร้ายหนูแน่ ดังนั้นหนูเลยกลับบ้านเร็ว” ลี่เจินเจินกล่าว น้ำเสียงของเธอสั่นเทา
“อะไรนะ? น้องไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ลี่เจินหยูตกใจและเป็นกังวล