ตอนที่แล้วBB ตอนที่ 1 บทนำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปBB ตอนที่ 3 ท่านอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์

BB ตอนที่ 2 งามล่มเมือง


BB ตอนที่ 2 งามล่มเมือง

อาณาจักรชิงหลานเป็นอาณาจักรที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขาและธารน้ำ มีพื้นที่อาณาจักรที่ได้เปรียบทางภูมิศาสตร์เป็นอย่างมาก มีประชากรในมากมายและมีดินแดนอุดมสมบูรณ์ ผู้คนที่นี่ทั้งจริงใจและไร้เล่ห์เหลี่ยม ปัจจุบันทั้งสามอาณาจักรต่างถ่วงดุลอำนาจกันอย่างลงตัว ทว่าด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นจึงทำให้อาณาจักรแห่งนี้มีอำนาจต่อรองเหนือกว่าอีกสองอาณาจักรอยู่เล็กน้อย

เหตุผลที่อาณาจักรชิงหลานมีอำนาจในการต่อรองเหนือกว่าไม่ใช่เพียงเพราะข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์เพียงเท่านั้น แต่เป็นเพราะอาณาจักรแห่งนี้มีฮ่องเต้ผู้มีสายตากว้างไกลร่วมด้วย

อาณาจักรชิงหลานยังมีอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์ผู้รบชนะในทุกสงคราม เพียงมีชื่อเยี่ยนซู่อยู่ในอาณาจักร ก็สามารถทำให้แม่ทัพจากอาณาจักรอื่น ๆ เกรงกลัวได้แล้ว

ช่วงหลายปีมานี้ ชื่อเสียงของบุตรชายคนโตของเขา เยี่ยนซีเฉิง ก็โดดเด่นขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ได้ติดตามอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์ไปเอาชนะศึกอยู่บ้าง อายุเพียงยี่สิบปีทว่ากลับได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ตำแหน่งของตระกูลเยี่ยนในใจฮ่องเต้นั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

“องค์หญิง ฝ่าบาทกับท่านแม่ทัพจะกลับมาเมืองหลวงวันนี้ ด้านนอกคงจะมีแต่ประชาชนพากันมาดูกองทัพ ทว่าท่านดูไม่เป็นกังวลเลยนะเจ้าคะ” หญิงรับใช้ที่บนผมมีปิ่นสองชิ้นปักอยู่พึมพำขึ้นระหว่างที่กำลังเสียปิ่นมุกชิ้นสุดท้ายลงบนมวยผมของนายหญิง

หญิงสาวตรงหน้ากระจกสำริดเงยหน้าขึ้น ช่างเป็นภาพที่สวยงามตรึงตายิ่งนัก

ที่โดดเด่นหนือสิ่งใดคือรอยดอกไม้สีชมพูจางดูมีเสน่ห์เย้ายวนที่ประดับอยู่บนหน้าผากผ่อง

มิได้มีใครแต่งแต้มรอยดอกไม้นี้ลงบนหน้าผากงามแต่อย่างไร ทว่าดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นรอยแต่กำเนิด ดอกไม้ดอกนั้นยังมีชื่ออันไพเราะว่าดอกจื่อยวน

เมื่อสิบหกปีก่อนนางได้ลืมตาดูโลกขึ้นในจวนอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์ ในวันนั้นท้องฟ้าครึ่งหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดง กลุ่มเมฆหลากสีก่อตัวขึ้นเป็นรูปพญาหงส์ทะยาน

ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรชิงหลานยินดียิ่งนัก มอบตำแหน่ง “หนิงเฟิ่ง” ให้กับองค์หญิงน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก แล้วยังจัดการหมั้นหมายระหว่างนางกับองค์รัชทายาทซวนหยวนเช่อให้อีกด้วย

เยี่ยนหนิงลั่วนั้นเหมาะสมจะเป็นหงส์ยิ่งนัก นางทั้งมีพรสวรรค์และเฉลียว พื้นฐานร่างกายและกระดูกของนางโดดเด่นยิ่งนักจนสามารถดึงดูดความสนใจจากเจ้าสำนักละอองหมอกซึ่งเป็นหนึ่งในสามสำนักใหญ่ และรับนางเข้าเป็นศิษย์สายตรง

สำหรับอาณาจักรชิงหลานแล้วนับเป็นเกียรติอันสูงส่งยิ่งนัก

เยี่ยนหนิงลั่วยังเป็นต้นแบบให้บุตรีตระกูลชั้นสูงต่าง ๆ เคารพและปฏิบัติตาม ไม่เพียงแต่บุรุษที่หลงใหลในตัวนาง กระทั่งสตรีก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ยวนใจของนางได้

ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยใจคอของเยี่ยนหนิงลั่วค่อนข้างเย็นชา ใบหน้าที่สามารถล่มเมืองทั้งเมืองได้ เมื่อรวมกับท่วงท่าเย็นชาดั่งน้ำแข็งแล้ว ยิ่งทำให้นางดูบริสุทธิ์ราวกับเทพเซียนที่ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนต่างฝันใฝ่และให้ความเคารพนับถือ

หญิงรับใช้ที่อยู่เบื้องหลังยังคงพึมพำบางสิ่งต่อไปในตอนที่เยี่ยนหนิงลั่วพลันลุกขึ้นยืน หญิงรับใช้ตกใจตัวโยน นัยน์ตาเบิกกว้างไม่อาจเอ่ยอันใดออกมา ทันใดนั้นน้ำเสียงหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสง่างามและมีเสน่ห์ก็ค่อย ๆ ดังขึ้น “ไปเถอะ”

หญิงรับใช้ได้ยินดังนั้นจึงหายชะงักค้างไป รีบหยิบผ้าคลุมหน้าผืนบางที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา “องค์หญิงต้องการผ้าคลุมหน้าหรือไม่เจ้าคะ? วันนี้ข้างนอกคนมาก หากท่านออกไปเช่นนี้ต้องเอะอะวุ่นวายเป็นแน่”

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เปิดเผยตัวตนหรอก” เยี่ยนหนิงลั่วกล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นเดินออกไปจากห้อง สายตาพลันมองไปยังมุมหนึ่ง จากนั้นนัยน์ตานางก็ดำมืดลง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “วันเช่นนี้ อย่าลืมจับตามองพวกเขาไว้ให้ดี อย่าให้พวกเขาออกจากบ้านได้ยิ่งดี”

“เจ้าค่ะองค์หญิง”

ท่านอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์ผู้นี้ได้รับความโปรดปรานจางฮ่องเต้ในทุกด้าน เช่น เรื่องอาหารการกิน เรื่องเสื้อผ้า เรื่องการเดินทาง นอกจากในวังหลวงแล้วไม่มีผู้ใดสามารถเทียบมเทียบมท่านอ๋องได้

ทว่าในจวนอ๋องที่แสนใหญ่ที่สถานที่ทุกแห่งเต็มไปด้วยความหรูหราโอ่อ่าแห่งนี้ ยังมีสถานที่หนึ่งที่ดูแล้วไม่เหมือนกับอยู่ในจวนอ๋อง สถานที่นั้นห่างไกลผู้คนและเงียบสงบยิ่งนัก เป็นสถานที่ที่ติดกับเรือนพักของข้ารับใช้และไร้ความประณีตทั้งยังเรียบง่ายที่สุดทั่วทั้งเรือนอ๋อง

ถึงเรือนแห่งนี้จะห่างไกลและเรียบง่าย ทว่าก็เป็นเรือนที่เงียบและสงบสุขยิ่งนัก เป็นเรือนที่ไม่ค่อยมีผู้ใดแวะเวียนมา

ที่สวนด้านนอกมีโต๊ะหินตั้งอยู่ตัวหนึ่ง ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่บนเก้าอี้หิน มองดูแล้วคนผู้นี้อายุราวสิบสามถึงสิบสีปี่ เขามีคิ้วงามนัก นัยน์ตาดั่งนัยน์ตาหงส์ หางตาเอียงขึ้นอย่างมีเสน่ห์ มองแล้วชวนให้รู้สึกมีชีวิตชีวาแจ่มใสยิ่งนัด เขามีผิวเนียน ริมฝีปากสีชมพูอ่อน และมีจมูกโด่งเป็นสัน

ทันใดนั้นประตูภายในเรือนก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นก็แข็งค้างไป

เขาเห็นชายหนุ่มร่างบางคนหนึ่ง ชุดสีม่วงที่สวมอยู่ที่เข้ากับผิวหน้าดั่งหยกขาวได้เป็นอย่างดี มองดูแล้วหล่อเหลายิ่งนัก ผมยาวถูกรวบขึ้นสูงอย่างประณีตด้วยผ้ารัดผมโดยไม่มีผมเส้นใดหลุดออกมา ใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนม้านั่งหินเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อเทียบกับชายหนุ่มชุดม่วงที่ดูงดงามน่ามองผู้เต็มไปด้วยความเมตตาคุณธรรมผู้นี้แล้ว หางตาของชายหนุ่มผู้นี้กลับตวัดสูงขึ้นกว่าเล็กน้อย ทำให้ดูแล้วดวงหน้านี้ดูมีเสน่ห์เย้ายวนแบบชั่วร้ายราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แสนกล

ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยความสับสน “ชิงอวี่?”

ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้นั้น ไม่ใช่ชิงอวี่แต่งเป็นบุรุษมาหรอกหรือ?

ในเมื่อน้องชายแท้ ๆ ของนางยังไม่อาจจำนางได้ นางจึงคิดว่าเช่นนั้นถึงจะจ้องหน้ากัน ผู้อื่นก็ไม่อาจจำนางได้กระมัง

“เหตุใดเจ้าถึงแต่งตัวเช่นนี้?”

ชิงอวี่เหลือบมองเขา “เสด็จพ่อของเจ้ากลับมาแล้ว เจ้าไม่ไปต้อนรับเขาหรือ?”

“ท่านเองก็เป็นเสด็จพ่อของเจ้าด้วยเช่นกัน” ชิงเป่ยโต้กลับพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น

“ข้าบอกเจ้าหลายครั้งแล้ว ข้าไม่ใช่ชิงอวี่ตัวจริง ข้ามาจากอีกโลก มีชื่อว่าชิงอวี่เหมือนกันเท่านั้น”

“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมาจากโลกไหน เจ้าคือชิงอวี่ เป็นพี่สาวของข้า ถึงเจ้าจะไม่ใช่ แต่ตอนนี้เจ้าก็อยู่ในร่างของชิงอวี่ เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เจ้าปฏิเสธไม่ได้”

ตั้งแต่ชิงอวี่มายังโลกอันแปลกประหลาดแห่งนี้เมื่อหกปีที่แล้ว บทสนทนาเช่นนี้จะมีให้เห็นเป็นครั้งคราวยามคนทั้งคู่คุยกัน

โดยเฉพาะตอนที่นางรักษาขาทั้งสองข้างของเขาจนหายดี วินาทีที่เขาสามารถลุกจากเก้าอี้เข็นได้ สายตาที่มองมายังชิงอวี่ก็ดูเหมือนได้ตัดสินใจเรื่องบางอย่างไว้แล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นตนมา เขาก็ตัวติดกับนางราวกับเป็นกอเอี๊ยะหนังสุนัข ทั้งยังกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรทำและถูกต้องแล้วอีกต่างหาก (1)

สิ่งที่ชิงเป่ยมั่นใจนั่นคือคนผู้นี้ไม่ใช่ชิงอวี่ตัวจริงอย่างแน่นอน แถมนางยังมีความลับมากมายซุกซ่อนไว้จนไม่มีใครล่วงรู้สิ่งใดเกี่ยวกับนางเลยเสียด้วยซ้ำ

ดังเช่นที่นางสามารถรักษาขาพิการของเขาที่กระทั่งหมอหลวงยังจนปัญญาให้หายดีได้  แล้วยังมีตอนที่นักฆ่าชุดดำแอบลอบเข้ามาสังหารพวกเขา ชิงอวี่ก็สามารถจัดการคนพวกนั้นโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้อีก

เขารู้เพียงว่านางไม่ทำร้ายเขาอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เสี่ยงชีวิตช่วยเขาในตอนนั้นไว้

ชิงอวี่จ้องตาเขาเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะละสายตาไปและเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเย็นชา “เปลี่ยนชุด แล้วไปกัน”

เทียบกับเด็กหญิงอายุสิบสามถึงสิบสี่ปีแล้ว ไม่ค่อยมีใครสูงและมีรูปร่างเพรียวบางได้เท่าชิงอวี่ ดังนั้นเมื่อนางแต่งกายอย่างบุรุษจึงดูไม่แปลกตา ทว่ากลับยิ่งดูเหมือนบุรุษยิ่งกว่าชิงเป่ยที่เป็นเด็กผู้ชายเสียอีก

แต่อย่างไรชิงเป่ยก็ยังไม่เคยพบเด็กผู้หญิงคนใดที่….. ตรงไปตรงมาเช่นนาง

ยามเมื่อชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสองคนปรากฏตัวขึ้นบนท้องถนน ผู้คนก็เริ่มเอะอะโวยวายขึ้นในทันใด

โดยเฉพาะนัยน์ตาเย้ายวนของชิงอวี่ กระทั่งตอนที่นางไม่ได้ส่งสายตาล่อลวงคน เพียงนัยน์ตาคู่นั้นเหลือบมองไปทางผู้ใดก็สามารถทำให้ผู้คนแทบสยบแทบเท้านางได้แล้ว

หญิงสาวทั้งหลายต่างมีนัยน์ตาส่องประกายใจเต้นแรง ดูท่าพวกนางจะพากันลืมไปเสียสิ้นว่าวันนี้เป็นวันที่พวกนางกำลังรอต้อนรับการกลับมายังเมืองหลวงของท่านอ๋องแห่งความสงบนิรันดร์ ความสนใจทั้งหมดของพวกนางถูกชายหนุ่มทั้งสองจับจอง เพียงให้ได้สบตากับพวกเขาสักครั้งพวกนางจึงจะสงบใจลงได้

เป็นเพราะการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของพวกเขาทำให้จิตใจหญิงสาวของพวกนางเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา ทว่าก็ต้องยิ่งเสียใจและเคืองใจยิ่งนักที่ไร้การตอบรับจากชายหนุ่มทั้งสอง

— หอเมฆาเคลื่อน —

หลังจากที่สามารถหลบออกมาจากฝูงชนด้วยความยากลำบากได้แล้ว กระทั่งชิงเป่ยยังรู้สึกหอบหายใจเหนื่อยอยู่บ้าง

ขาของเขาหายดีมาเป็นเวลาสองปีแล้ว ทว่าเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากเกินไป เขาจึงไม่เคยลุกขึ้นยืนหรือเดินต่อหน้าใครมาก่อน ดังนั้นยามเมื่อต้องฝ่าคนมากเช่นนี้เขาจึงรู้สึกว่ารับมือยากไปหน่อย

ส่วนตัวการที่ทำให้เขาต้องพบเจอกับเรื่องเช่นนี้กลับไม่หอบเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

เชิงอรรถ

(1) กอเอี๊ยะหนังสุนัข หรือ ยาราคาถูกที่ไม่สามารถใช้รักษาโรคอะไรได้ หรือก็คือไร้ค่านั่นเอง