ตอนที่ 4 การสุ่มอัญเชิญครั้งที่สอง
"ฝ่าบาท มู่หลาน มาช้าไป ได้โปรดลงโทษข้าด้วย"
ฮวามู่หลานได้คุกเข่าข้างนึงเเละก้มศีรษะลงต่ำ
ลู่เฟิง ไม่ได้ตอบทันที ในความคิดของเขาวีรสตรีฮวามู่หลาน สามารถบรรยายออกมาได้อย่างเดียว : สวยงามมาก
ใบหน้าของเธอราวกับนางฟ้าที่งดงาม หากเปรียบกับศตวรรษที่ 21 เธอสามารถเป็นดาราดังได้อย่างแน่นอน
เรือนร่างอันอรชรที่อยู่ในชุดเกราะหนังทำให้เสน่ห์ของเธอยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ยังมีใบหน้าที่เย็นชาสวยงาม เเละ มีรอยเปื้อนเลือดนิดหน่อย ทำให้ เสน่ห์ในแบบสุขุมเยือกเย็นถูกดึงออกมาทั้งหมด
ทั้งหมดที่ว่ามาอยู่ในตัวของสตรีในชุดเกราะหนังเปื้อนเลือดคนนี้
ทหารที่เหลืออีกแปดคนได้จ้องมองไปที่ ฮวามู่หลาน อย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อไม่กี่นาทีก่อน คนที่เหมือนกับเทพสงครามสังหารศัตรูกับกลายเป็นเพียง สตรีที่สวยสดงดงามคนนึงไปได้ ?
ลู่เฟิง ได้ตื่นจากอาการมึนงงเเละรีบเดินเข้าไปหา ฮัวหมู่หลาน"มู่หลาน ข้าต้องขอบคุณเจ้า หากเจ้ามาไม่ทันเวลา ชีวิตของข้าคงจะมอดดับไปแล้ว เจ้าต้องการรางวัลอะไรตอบแทนหรือไม่ ?"
"มู่หลานมาช้าไป ข้าไม่กล้าเรียกร้องขอรางวัลตอบแทน!"ฮวามู่หลานได้ตอบกลับทันที
ลู่เฟิงได้ยิ้มเเละพูดตอบกลับ"ข้าบอกว่าจะให้ก็คือให้ แต่ในเมื่อเจ้าในตอนนี้ยังไม่มีสิ่งที่อยากจะได้ เช่นนั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ไปเช็ดตัวล้างคราบเลือดพวกนี้ออก"
ในขณะที่เขาพูด ลู่เฟิง ก็ยื่นมือไปเช็ดใบหน้าเปื้อนเลือดของฮวามู่หลานด้วยแขนเสื้อตัวเอง"ใบหน้าที่งดงามของเจ้าเปื้อนหมดแล้ว!"
ใบหน้าของฮวามู่หลานได้เเปรเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอได้ลดศีรษะลงเเละไม่กล้ามอง ลู่เฟิง โดยตรง
ลู่เฟิง ผงะ เล็กน้อย นี่ไม่ใช่ศตวรรษที่ 21 เขาไม่คิดเลยว่า วีรสตรีในสงคราม ก็มีด้านที่เขินอายเช่นนี้อยู่ด้วย
เเผ่นดินใหญ่คิวชู คล้ายกับ ราชวงศ์จีนสมัยโบราณอย่างมาก เหล่าสตรีเองก็ยังคงยึดปฏิบัติตามธรรมเนียมทั้ง 4 ประการ ดังนั้น การสัมผัสใบหน้าของสตรีแบบนี้มันย่อมเกินเหตุไปหน่อย
โชคดีที่เขาเป็น เจ้านายของ ฮวามู่หลาน เธอจึงไม่ได้คิดอะไร มิฉะนั้นถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคาดว่ามือที่สัมผัสใบหน้านั่นคงขาดสะบั้นไปแล้ว
"ติ๊ง ความภักดีของ ฮวามู่หลาน ที่มีต่อ โฮสต์เพิ่มขึ้น 5 คะแนน ตอนนี้ ความภักดีในปัจจุบันรวม 85 คะแนน"
ดวงตาของ ลู่เฟิงเบิกกว้างขึ้น เขาไม่คิดเลยว่าการสัมผัสใบหน้าของเธอจะเพิ่มความภักดีได้?
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของ ฮวามู่หลาน โดยไม่รู้ตัว เขาอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันอีกครั้ง เเต่เมื่อเขามองไปที่ดาบยาวในมือของเธอทำให้เขาหยุดมือลง
ช่างเถอะยังมีชีวิตอีกมากในอนาคตค่อยคิดเกี่ยวกับมัน
ลู่เฟิง ได้บอกกับ ข้ารับใช้สตรีในวังสองสามคนให้ไปรับใช้ ฮวามู่หลาน
ในเวลาเดียวกันเขาก็ออกไปข้างนอกวังเเละมองไปที่ทหารองค์รักษ์ทั้งแปดคนที่ติดตามเขาก่อนหน้านี้
เขาได้โค้งคำนับเล็กน้อยเชิงกล่าวขอบคุณพวกเขา เเต่ทหารองค์รักษ์ทั้งแปดกลับตกใจเเละรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที"ฝ่าบาท ท่านไม่ควรทำแบบนี้!"
ลู่เฟิง ได้ผงะไปชั่วครู่ เขาลืมไปว่านี่คือเเผ่นดินใหญ่คิวชู การเคารพวรรณะของเเต่ละชนชั้นนั้นเข็มงวดอย่างมาก และอีกอย่างคนเหล่านี้ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
หากเป็นในยุคสมัยนี้ จักรพรรดิ ไม่สามารถโค้งคำนับให้แก่ทหารใต้บังคับบัญชาได้
มีเพียง อาจารย์ และ บิดา ของตนเองเท่านั้น ที่สามารถให้ความเคารพได้
แม้ว่าการกระทำแบบนี้จะไม่ใช่การกระทำที่ผิด เเต่มันก็เป็นกฏระเบียบที่สืบทอดกันมาช้านาน
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ เหล่าองค์รักษ์ทั้งเเปดที่ตัวสั่นเทิมด้วยรอยยิ้มเขารู้สึกขอบคุณจากใจจริง"วันนี้ ข้า ลู่เฟิง ขอบคุณสำหรับความตั้งใจของพวกเจ้าที่เชื่อมั่นในตัวข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่ปฏิบัติกับพวกเจ้าเลวร้ายอย่างแน่นอน ข้าให้สัญญาในฐานะองค์ชาย เเละ องค์จักรพรรดิในอนาคตของอาณาจักรหนานหยาน"
องค์รักษ์ทั้งเเปดรู้สึกตื่นเต้นเเละรีบกล่าวขอบคุณทันที"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
ลู่เฟิงได้ครุ่นคิดเล็กน้อยเเละกล่าวพูดขึ้น"วันนี้เหล่าพี่น้องทุกคนที่เสียชีวิตในสนามรบทุกคนจะได้รับรางวัลเป็นเงิน หนึ่งหมื่นออนซ์ และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นเงินเดือนทุก ๆ เดือน!"
เหล่าทหารองค์รักษ์ทั้งแปดต่างตื่นเต้นอย่างมากพวกเขารีบทิ้งตัวทั้งหมด"ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงอายุยืนนาน!"
ในใจของพวกเขารู้สึกหดหู่อย่างมากที่เหล่าพี่น้องร่วมรบต่างก็เสียชีวิต แต่มาในตอนนี้ถ้าเกิดพวกเขาหรือเหล่าพี่น้องเสียชีวิตในสนามรบครอบครัวของพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินเดือนทุก ๆ เดือน อาณาจักรหนาหยานก่อตั้งมานานกว่า 500 ปี จะมีสักกี่คนที่ได้รับสิทธิ์พิเศษแบบนี้
ลู่เฟิง รู้ว่าการตอบแทนแบบนี้หมายถึงอะไร
เขารู้ดีว่าอำนาจเงินนั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง ความภักดีต่างห่างที่เขาต้องการ
หากเขาปล่อยให้เเปดคนนี้ไปเผยเเพร่สิ่งที่พวกเขาได้ยิน จะมีทหารในเมืองหลวงกี่คนที่ต้องการที่จะภักดีต่อเขา ? หนึ่งหมื่น ,สองหมื่น,ห้าหมื่น ? นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
"พวกเจ้าไม่จำเป็นจะต้องขอบคุณหรอก เอาล่ะพวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ เเจ้งให้ทหารยามมาเคลียพื้นที่ด้วย"
"ขอรับ!"
หลังจากนั้น ลู่เฟิง ก็แยกตัวกลับไปที่พระราชวัง
เขาได้เข้าไปยังห้องโถงด้านใน เเต่ทว่า ฮวามู่หลาน กำลังอาบน้ำอยู่ เเม้เขาอยากจะเห็นเธอในตอนอาบน้ำ เเต่เขาก็ต้องตัดใจเรื่องนี้
ดีไม่ดีอาจทำให้อีกฝ่ายเกิดความขุ่นเคืองด้วย
เขานั่งลงบนเก้าอี้ในห้องโถงด้านนอกพร้อมกับหลับตาลง
เขาจำได้ว่าเขายังมีโอกาสในการอัญเชิญขุนพลอีกหนึ่งครั้งเขาไม่ลังเลที่จะเรียกมันโดยตรง
"ติ๊ง เริ่มต้นการอัญเชิญ!"
"ติ๊ง อัญเชิญสำเร็จขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ได้รับ ดาบกานเจียง ที่ถูกสร้างขึ้นจากปรมาจารย์ดาบชื่อดัง!"
กานเจียง : ดาบที่ถูกสร้างขึ้นจากปรมาจารย์ดาบ
ระดับ : ดาบระดับสวรรค์ขั้นสูง ( อาวุธวิเศษแบ่งออกเป็นหกระดับ : เริ่มต้น,มนุษย์,ปฐพี,สวรรค์,ศักดิ์สิทธิ์ เเละ เทพ ระดับของอาวุธวิเศษแบ่งออกเป็นสามขั้น ต่ำ,กลาง เเละ สูง)
ลู่เฟิง ได้ขยับดาบยาวในมือ
ใบดาบเป็นสีเงินมีด้ามดาบเป็นสีดำ ทันทีที่เขาวาดฟันออกไปมันได้เกิดประกายลมอุ่น ๆ ขึ้น
ตัวดาบ กานเจียง นั้นสวยสดงดงามราวกับหิมะ มันให้ความรู้สึกที่เยือกเย็นเเละอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
"ดาบกานเจียง ดาบที่ถูกตีขึ้นจากปรมาจารย์ดาบ เป็นไปได้หรือไม่ว่า สิ่งนี้ถูกสุ่มมาให้กับ ฮวามู่หลาน?"
"มันต้องเป็นแบบนั้นเเน่ ๆ !"
"ฮวามู่หลาน เนื่องจากเธอเป็นขุนพลคนแรกที่ฉันอัญเชิญมาฉันจะต้องขอบแทนเธฮสักหน่อย!"
ลู่เฟิง ได้แสดงรอยยิ้มออกมา
ไม่นานฮวามู่หลานก็ออกมาจากห้องโถงด้านใน
เธอได้สวมชุดเกราะหนังที่ชำระล้างแล้ว
ชุดเกราะในวังนั้นเป็นแบบตัดต่ำเล็กน้อย ชุดที่ ฮวามู่หลานสวมออกมาจึงทำให้เห็นร่องอกสีขาวนวล ไม่ต้องพูดถึงว่ามันน่าดึงดูดเเค่ไหน
จู่ ๆ ลู่เฟิง ก็รู้สึกขอบคุณบรรดาจักรพรรดิองค์ก่อนของอาณาจักรหนานหยาน ที่ออกแบบชุดให้ออกมาดูดีแบบนี้
ทันทีที่เขาเห็น ฮวามู่หลาน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
"ฝ่าบาท..."
ฮวามู่หลาน ได้เดินไปหยุดที่เบื้องหน้าของ ลู่เฟิง เเละ โค้งคำยับ การแต่งกายของเธอในตอนนี้ทำให้เธอไม่สามารถทักทายในแบบของแม่ทัพได้
ลู่เฟิง ได้ลุกขึ้นยืน เเละ จ้องมองไปที่ ฮวามู่หลาน"มู่หลาน ไม่จำเป็นจะต้องสุภาพมากไป นับจากนี้ ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านและครอบครัวของเจ้า"
ครอบครัว?
ใบหน้าของ ฮวามู่หลาน ได้แดงขึ้นเล็กน้อย องค์ชายหมายความว่าอย่างไร เขาต้องการจะทำอะไร?
ลู่เฟิงได้พูดขึ้นต่อ"มู่หลานข้ามีของขวัญจะให้เจ้า ลองเดาดูว่ามันคืออะไร!"