ตอนที่แล้วบทที่ 70 : นักแสดง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 72 : ขุดค้นพื้นหลังของเขา

บทที่ 71: การประจบประแจงที่ล้นเหลือ


การย้ายถิ่นฐานของเผ่าทั้งเผ่าไม่ใช่งานที่จะทำให้สำเร็จได้ภายในวันเดียว

วิลเลียมให้น็อกเป็นนำคน 1,000 คนและม้าไปเพื่อติดตามช่วยเหลือพวกเขาในการอพยพ เขานำฟิว โรสเซอร์และคนอื่นๆ บางคนกลับเป็นการส่วนตัว ด้วยฟิว โรสเซอร์อยู่ในกำมือของเขา เผ่าโถวเหยินก็นับว่าสูญเสียผู้นำไปแล้ว พวกเขาจึงไม่อาจกล้าที่จะก่อกบฏขึ้นง่ายๆ

และข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาเพิ่งจะกล่าวคำปฏิญาณความจงรักภักดีไป สำหรับผู้คนในยุคนี้ ความภักดีนั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

แต่เขาก็ต้องคอยระวังเจตนารมณ์ของพวกเขาไว้ นี่เป็นนิสัยหนึ่งที่วิลเลียมคงไว้ตั้งแต่เริ่มต้น

แต่ก็น่าสนใจตรงที่

การเดินทางของวิลเลียมดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้เล่น

ฉางหลี จิ่วเกอลอบสังเกตจากพุ่มหญ้าข้างถนน เขาตรวจความสามารถของพวกเขาทุกคน

แต่คุณสมบัติก็ไม่ได้มีอะไรให้น่าติดตามมากนัก

เขารู้สึกว่านักรบชั้นสูงที่ตามติดอยู่ด้านหลังวิลเลียมนั้นเป็น NPC เอลฟ์ทั้งหมด ในพวกเขานั้นยังมี NPC หัวหน้าและ NPC มาสเตอร์อีกเล็กน้อย…

นี่คืออะไร?

กองทัพของเหล่าบอสหรอ?

สายตาของเขาเลื่อนไปที่โถวเหยินและเขาก็ได้รู้ว่ามันมีทหารโถวเหยินระดับอีปิคอยู่คนหนึ่ง!

“ชิๆ กำแพงเมืองอันนี้สูงสง่าราวกับหน้าผา ถนนนี้…” ฟิว โรสเซอร์หยุด เขาไม่อาจหาประโยคดีๆ สักประโยคได้เลย เขาผงกหัวขึ้นลงก่อนจะพูดขึ้นอีก “มันทั้งสว่างและกว้างขวาง เท้าทั้งสองของข้าไม่รู้สึกเสียดสีกับพื้นเลย ข้ารู้สึกดีกับการเดินที่นี่ ท่านลอร์ด ท่านรู้ว่าต้องบริหารอย่างไร!”

ฟิว โรสเซอร์นั้นคงขยันหมั่นเพียรในการประจบประแจงตลอดทาง

วิลเลียมจ้องไปที่กีบม้าของเขา เขาหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร

ที่สุดแล้ว โถวเหยินคนนี้ก็ประจบเขาได้อย่างนุ่มนวลน่าฟัง แม้แต่โถวเหยินที่ไร้มารยาทอย่างโรสเซอร์ก็สามารถประจบประแจงได้ แน่นอนว่านี่ก็เพื่อทำให้เขาพอใจ!

แม้ว่าวิลเลียมจะไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นผู้นำที่เห็นแก่ตัวที่หากว่ามีใครสักคนมาเลียแข้งเลียขา เขาก็อาจจะให้ประโยชน์ต่อคนๆนั้น!

แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูด “การประจบประแจงเป็นทักษะอย่างหนึ่ง เจ้าจะได้รับรางวัลจากสิ่งนี้ ฉันจะบอกให้คนนำเจ้าไปที่โรงเหล็ก เจ้าจะเลือกชุดอุปกรณ์เงินหนึ่งชุดและจะสร้างอาวุธระดับทองสำหรับเจ้า!”

“น-นั่นมันเยี่ยมไปเลย ขอขอบคุณความเมตตาของท่าน ท่านลอร์ด!” ฟิว โรสเซอร์โค้งด้วยความเคารพในขณะที่เขาประจบประแจงวิลเลียม

“การประจบประแจงเป็นทักษะอย่างหนึ่ง?” เมื่อฉางหลี จิ่วเกอได้ยิน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก

“ไปและทำมันสิ!”

“ฮึ่ม… ฮึม?” ฉางหลี จิ่วเกอพยักหน้าอย่างไม่คิด จากนั้นเขาก็หันกลับไปด้วยความรอบคอบ แองกี้ แฟตตี้อยู่แค่ข้างๆ เขา เขาเองก็กำลังมองไปที่กองทัพที่เพิ่งจะกลับมา

“แก…” ฉางหลี จิ่วเกอชี้ไปที่แฟตตี้ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่น่าฟังออกไป

“มองไปข้างหน้าสิ แกเห็นสัญลักษณ์ไลฟ์สดมั้ย? รีแลกซ์หน่อย!”

“โอ้!” ฉางหลี จิ่วเกอตบหน้าอกของเขาเบาๆ เขาอดกรอกตามองบนไม่ได้ “แกทำให้ฉันกลัวเกือบตาย”

“แต่ฉันก็เริ่มอัดไปแล้ว!” แฟตตี้ยักคิ้วของเขา

“พี่ชาย/พี่ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว”

“เด็กดี” แฟตตี้อยากจะหัวเราะ แต่เขาเห็นว่าฉางหลี จิ่วเกอไม่ได้แสดงสีหน้าอารมณ์ดีอยู่ เขาจึงรีบอธิบาย “แกอยากให้ฉันประจบเขารึไง ถึงจะอย่างนั้นฉันเองก็คิดเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญคือเขาเป็นบอสในตำนานคนหนึ่งเลย บอสระดับอีปิคสามารถประจบเขาได้เพราะทักษะของพวกเขา ผู้เล่นอย่างเรา ระดับมันต่ำเกิน เราคงไม่มีแม้แต่โอกาส”

“ฉันเองก็รู้เรื่องนั้น แต่ถ้าเราไม่ลอง มันก็ไม่คุ้มที่จะทิ้งโอกาสนี้ไป!” ฉางหลี จิ่วเกอมองไปที่กองทัพซึ่งเพิ่งจะกลับมาและได้รับเสียงเชียร์ดังสนั่นจากพลเมืองในทันที

“ฉันมีไอเดีย แต่มันคือ…”

“แกหมายความว่ายังไง?”

“พวกเราพุ่งไปข้างหน้าและตบเขา เราเป็นทหารรับจ้างของเขา พวกเราจะไม่ตายแม้ว่าเราจะบุ่มบ่ามเข้าหาเขา แม้ว่าระดับความสัมพันธ์ของพวกเราจะลดลง มันก็ไม่สำคัญ เรามีโอกาสได้รับมันกลับในอนาคต” ฉางหลี จิ่วเกออยากลองใจจะขาด

ที่สุดแล้ว NPC แต่ละคนก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน

NPC บางคนก็โหด ในขณะที่คนอื่นหัวรั้น

NPC บางคนก็เป็นมาโซคิส พวกเขาจะมีความประทับใจต่อคนอื่นก็ต่อเมื่อคนๆ นั้นทำการตีพวกเขา

ไม่มีใครรู้ว่าบอสระดับรีเจนดารีคนนี้สนใจสิ่งใด

มีเกมโลกสมมุติมากมาย ผู้เล่นหลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตารักษาความสัมพันธ์อันดีกับ NPC ที่เชี่ยวชาญในทักษะต่างๆ พวกเขามีประสบการณ์มากมาย วิธีการเปิดเผยตัวตนในวิธีหนักแน่นและอันตรายนั้นไม่ใช่วิธีที่แนะนำ แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นมากเกิน พวกเขาจะมีโอกาสแค่ครั้งเดียวถ้าพวกเขาลองทำ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ” แฟตโซ (Fatso) กำหมัดของเขา เขาเองก็ยังตัดสินใจที่จะรับความเสี่ยงนั้น

“โอเค แต่ปิดการอัดวิดีโอซะ!”

“โอเค”

“หนึ่ง!”

“สอง!”

“สาม!”

ผู้คนที่คอยเฝ้าสังเกตในที่ลับจู่ๆ ก็มาหยุดกองทัพ การแสดงออกที่ไร้ความปราณีนั้นเกิดขึ้นกับทั้งทหารและพลเรือนจำนวนมาก พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะใครจะทำตัวไร้เหตุผลและวิ่งเข้าใส่กองทัพที่กำลังกลับมา

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด…

พวกเขาทั้งสองได้ยินเสียงแจ้งเตือนถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ลดลง

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดยังไม่เกิดขึ้น

ไม่มีการแจ้งเตือนเรื่องการเพิ่มความสัมพันธ์กับวิลเลียมท่านลอร์ดเจ้าเมืองถึงพวกเขา

แต่เมื่อฉางหลี จิ่วเกอกล้าที่จะเสนอ ชื่อเสียงในการเป็นมาสเตอร์แห่งการประจบของเขาก็ต้องได้ใช้อะไรบ้างแหละ

เขามองไปที่วิลเลียมผู้ซึ่งกำลังมองพวกเขาทั้งสองด้วยความสนใจอย่างสุดใจ เขาดึงแฟตตี้และคุกเข่าลงบนพื้นกับเขา เสียงของฉางหลี จิ่วเกอเต็มไปด้วยความกตัญญู “ยินดีต้อนรับการกลับมาพร้อมชัยชนะ ท่านลอร์ด เมื่อพวกเราทั้งสองเห็น พวกเราก็เต็มไปด้วยความความปิติยินดี พวกเราไม่อาจห้ามตัวเองได้เลย”

ในขณะที่ฉางหลี จิ่วเกอพูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่ดูราวกับว่าเขาทำอะไรผิดและควรจะได้รับโทษ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงนำอาวุธของเขาออกมาด้วยความเศร้าหมองและเล็งไปที่แขนของเขาเอง เขาพูดด้วยความรู้สึกผิด “พวกเรารีบรุดออกมาเพราะความตื่นเต้นที่ไม่ทันได้ห้ามใจ ข้า ฉางหลี จิ่วเกอ รู้สึกสำนึกผิด ข้าจะตัดแขนของข้าออกเพื่อชดใช้ความเลินเล่อ ข้าหวังว่าท่านลอร์ดจะทรงเมตตาพอที่จะให้อภัยข้า”

“น่ากระอักกระอ่วนจริง…” แองกี้ แฟตตี้ตกตะลึง เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อัดฉากนี้ไว้

“เดี๋ยว…”

“ท่านลอร์ด”

“เจ้าเป็นทหารรับจ้างของเรารึเปล่า?” วิลเลียมที่อยู่บนหลังม้าโน้มตัวไปด้านหน้า เขามองไปที่คนทั้งสอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักคนที่เป็นที่รู้จักเหล่านี้ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ฉางหลี จิ่วเกอโชว์ตราบนหน้าอกของเขา เราตอบอย่างสุขใจ “ครับท่านลอร์ด พวกเราเป็นทหารรับจ้าง พวกเราต้องการเข้าร่วมกับกองทัพ แต่พวกเราไม่มีทรัพยากรมากพอ พวกเราจึงเป็นได้เพียงกลุ่มรับจ้างในกลุ่มทหารรับจ้างแห่งรุ่งอรุณ แต่ตราบใดที่พวกเราอยู่ภายใต้การปกครองของท่าน พวกเราก็พอใจแล้ว!”

วิลเลียมหัวเราะ มันเหมือนกับว่าเขาได้เห็นรุ่นน้องที่น่าประทับใจ “โอ้ งั้นหรือ การผลีผลามออกมาต่อหน้าลอร์ดเจ้าเมืองไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แต่เจ้าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการลงโทษได้ ติดตามเราไปที่ภูเขาพรุ่งนี้ ถ้ามีโอกาสให้เจ้าแสดงฝีมือ อย่าทำให้เราผิดหวัง”

“ขอบคุณ ท่านลอร์ดเจ้าเมือง ขอบคุณท่านลอร์ด!” ทั้งคู่พูดขอบคุณซ้ำไปซ้ำมา จากนั้นพวกเขาจึงถอยไปด้านข้างและมองกองทัพเดินผ่านเมืองไป

การถอนหายใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา การเสี่ยงครั้งนี้คุ้มค่า

พลเมืองคนอื่นๆ ลืมเหตุการณ์นี้ไปอย่างรวดเร็วและเริ่มโห่เชียร์กองทัพอีกครั้ง

ทุกครั้งที่กองทัพแห่งเมืองรุ่งอรุณกลับมาพร้อมชัยชนะ พวกเขาจะโบกธงของเมืองและเดินไปรอบๆ เมือง นี่เป็นสิ่งที่วิลเลียมวางแผนไว้แล้ว

เขาต้องการใช้กองทัพเพื่อกระชับความรู้สึกของผู้คนและความปลอดภัยในที่สาธารณะ

ผลลัพธ์ของมันที่ผ่านมามากกว่าครึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดี ผู้คนมากมายถึงกับมองวิลเลียมว่าเป็นความศรัทธาของพวกเขา

ที่สุดแล้ว ลอร์ดเจ้าเมืองก็ไม่สามารถทิ้งระยะห่างจากการพัฒนาเมืองได้

วิลเลียมให้อาหารและน้ำแก่พวกเขา รวมถึงเงินทองและความเจริญรุ่งเรือง พวกเขาจะไม่ปลื้มปิติวิลเลียมได้ยังไงกัน?

แต่สิ่งหนึ่งก็คือ

ความสามารถติดตัวโดยธรรมชาติของวิลเลียมนั้นมีผลอย่างมาก ผลลัพธ์อาจจะไม่ดีเสมอไป แต่ความสัมพันธ์ของพลเมืองก็ดีขึ้นตลอดมา

“พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเขาได้? น่าสนใจ” วิลเลียมยิ้มและกลับบ้านไป เขาไม่ได้เพิ่มความสัมพันธ์ของเขากับสองคนนั้น

การกระทำของพวกเขาเว่อร์ไปหน่อย เขาไม่ได้อยากให้ผู้เล่นคนอื่นทำตามอย่างทั้งสองและมาทำให้ความเจริญก้าวหน้าของเขาในอนาคตยุ่งเหยิง

แต่เผชิญหน้ากับทั้งสองครั้งนี้ทำให้เขาได้โอกาสเติมเต็มความต้องการของเขาในการกระจายข่าวถึงความแข็งแกร่งของเขา จากนั้นผู้เล่นจำนวนมากก็จะมาที่เมืองแห่งรุ่งอรุณ

ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นแองกี้ แฟตตี้หรือฉางหลี จิ่วเกอ พวกเขาก็ต่างเป็นคนดังในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา

ผู้ประกาศข่าวพร้อมฐานผู้ชมที่หนาแน่น และผู้เล่นมืออาชีพที่มาพร้อมกับทักษะที่ไม่ธรรมดาผู้ที่เคยได้เป็นถึงแชมป์ระดับโลกมาแล้ว พวกเขาเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่วิลเลียมสามารถใช้ในการกระจายข่าวถึงความแข็งแกร่งของเขาได้…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด