PTH15 เขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3
“นอนสบายไม่เท่ายันต์เพลิง”
เว่ยสั่วไม่เคยได้จับศิลาวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน เขาจึงเห่อโยนพวกมันลงที่นอนแล้วนอนทับ แต่ด้วยที่ศิลาวิญญาณแข็งไม่เหมือนกับยันต์ จึงนอนไม่สบาย “ผู้อาวุโส… ผู้อาวุโส?” เมื่อเรียกแล้วไม่ตอบ เว่ยสั่วจึงคิดว่าชายชราอาจกำลังดูดซับโลหิตแมงป่องอยู่ เขาจึงเริ่มดูดซับศิลาวิญญาณที่ได้มา
ลมหายใจ จังหวะการเต้นของหัวใจค่อยๆเปลี่ยนไป ศิลาวิญญาณในมือเปล่งแสงสีคราม ปราณที่อัดแน่นซึมเข้าสู่ร่างกาย
ปราณที่อัดแน่นอยู่ภายในศิลาวิญญาณซึมเข้าสู่ร่างอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอุ่นๆสายหนึ่งที่กำลังแล่นไปทั่วร่าง ยิ่งดูดซับมากเท่าไหร่ แสงที่ศิลาวิญญาณเปล่งออกมาก็ยิ่งอ่อนจางลงมากเท่านั้น
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ศิลาวิญญาณในมืออับแสง กลายเป็นเพียงผลึกโปร่งใส ก่อนจะค่อยๆสลายเป็นผง
ฟู่ว~~
เว่ยสั่วผ่อนลมหายใจ ก้มมองศิลาวิญญาณที่สลายไปด้วยความเสียดาย
“ดูเหมือนข้าต้องออกไปหาวิชาระดับสูงกว่านี้มา”
แม้ความรู้สึกยามที่ได้ดูดซับพลังจากศิลาวิญญาณจะเป็นความรู้สึกที่ดี แต่เมื่อเห็นศิลาวิญญาณที่สลายไปก็ยังอดเสียดายไม่ได้
เท่าที่เว่ยสั่วรู้ วิชาจะแบ่งออกด้วยกัน 5 ระดับ ซึ่งระดับของวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดคือระดับสวรรค์ อ่อนด้อยที่สุดคือระดับทั่วไป
แม้ว่าวิชากระบี่วารีของเว่ยสั่วจะเป็นวิชาที่จัดอยู่ในระดับลี้ลับ แต่ก็อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในระดับลี้ลับเท่านั้น
ระดับพลังในเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ เหตุที่เรียกขานว่าทะเลศักดิ์สิทธิ์นั้น เพราะผู้ฝึกตนในเขตขั้นนี้จะสร้างทะเลปราณขึ้นภายในร่าง ยกระดับพลังได้จากการดูดซับปราณจากศิลาวิญญาณและโอสถเท่านั้น เมื่อดูดซับปราณได้จนถึงระดับหนึ่ง ทะเลปราณจะก่อตัวขึ้นภายในตันเถียน หากทะเลปราณก่อตัวได้มากพอ ก็จะถือว่าผ่านเขตขั้นแรกนี้ไป
ยามนี้ทะเลปราณภายในร่างของเว่ยสั่วก่อตัวแล้ว แต่ยังไม่มากพอ… การปรากฏขึ้นของทะเลปราณ ผู้ฝึกตนจะได้ยินเสียงราวกับคลื่นทะเลซัดซาด แต่เว่ยสั่วกลับไม่ได้ยิน เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะวิชาที่เขาฝึกเป็นแกนหลักนั้นมีระดับที่สูงกว่าระดับพลังในตอนนี้เกินไป จึงยังไม่อาจได้ยินเสียง
ด้วยความต่างของระดับวิชา หากเป็นผู้ที่อยู่ในเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 ด้วยกัน แต่อีกฝ่ายฝึกวิชาระดับต่ำกว่า ฝั่งที่ฝึกวิชาที่มีระดับสูงกว่าจะแข็งแกร่งกว่า ด้วยระดับพลังของเว่ยสั่วตอนนี้ใช้ปราณกระบี่วารีได้มากสุดเพียง 20 ครั้ง แต่หากเปลี่ยนให้วิชากระบี่วารีมีระดับต่ำกว่าที่เป็นอยู่ เว่ยสั่วอาจใช้ปราณกระบี่วารีได้มากถึง 200 ครั้ง
ปัญหาไม่ได้มีเพียงจำนวนครั้งที่ใช้วิชาได้ ระดับของวิชาก็เป็นปัญหา เพราะหากระดับพลังไม่มากพอเปล่งอานุภาพวิชาได้เต็มที่ไม่ได้
ภายในแคว้นสวรรค์ลึกล้ำ หากต้องการจะครอบวิชาระดับลี้ลับขั้นสูงย่อมไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเข้าร่วมกับนิกายสักแห่ง จึงมีโอกาสจะได้วิชาระดับสูงเหล่านั้น
การเข้าร่วมนิกายถือเป็นเรื่องดี เพราะผู้ที่เป็นศิษย์นิกายจะได้รับศิลาวิญญาณอยย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเสียคือหากได้เป็นศิษย์ก็อาจจะต้องเผชิญหน้ากับอันตราย
เมื่อไม่กี่ปีก่อน เว่ยสั่วได้ยินข่าวมาว่า นิกายเพลิงสวรรค์ได้ส่งศิษย์จำนวนหนึ่งไปสังหารอสูรระดับสูง แต่สุดท้ายศิษย์เหล่านั้นถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาระกิจในครั้งนั้นไม่สำเร็จ ดังนั้นเว่ยสั่วจึงคิดว่าการได้มีชีวิตเป็นของตนนับเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
“ไม่รู้ว่าวิชาที่ฉุ่ยหลิงเอ๋อร์ใช้ฝึกฝนจะอยู่ระดับไหน… นิกายวายุลี้ลับของนางใหญ่กว่านิกายเพลิงสวรรค์หลายเท่า วิชาที่นางใช้ฝึกฝนอย่างน้อยสมควรอยู่ในระดับพิภพ สาวงามที่เจอในหุบเขาทรายเหลืองก็เหมือนกัน บางทีวิชาของนางอาจเป็นวิชาระดับลี้ลับขั้นสูง”
ข้างเตียงของเว่ยสั่วมีภาพวาดของฉุ่ยหลิงเอ๋อร์ติดอยู่หลายแผ่น แม้ว่าหานเว่ยเว่ยจะงดงาม แต่หากเทียบกันแล้ว แค่ได้มองภาพวาดของฉุ่ยหลิงเอ๋อร์ก็ทำให้เว่ยสั่วเลือดลมพลุกพร่าน
“เอาหล่ะ วิชากระบี่วารีของข้ายังไม่เข้าขั้น แต่หากมันทำให้ข้ายกระดับไปถึงเขตขั้นแก่นทองคำได้ก็นับว่าดี”
แม้ว่าเว่ยสั่วไม่อยากจะอดทนรอ แต่เขารู้ดีว่าการจะได้วิชาระดับสูงมาไม่ใช่เรื่องง่าย จึงตั้งสมาธิดูดซับศิลาวิญญาณเพื่อยกระดับพลังต่อ
…
ตกดึก แสงไฟจากตะเกียงที่จุดไว้ดับไป เว่ยสั่วยังคงดูดซับปราณจากศิลาวิญญาณต่อ ปราณที่ได้ไหลเวียนภายในร่างอย่างต่อเนื่อง บนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลยันต์เพลิงวางอยู่จำนวนหนึ่ง
แม้ไฟจากตะเกียงจะมอดดับ แต่ในชั่วพริบตานั้น บริเวณหน้าอกของเขากลับเปล่งแสงอ่อนจาง ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยก่อนปรากฏเสียงคลื่นทะเลซัดสาดในหัว
“ในที่สุดก็บรรลุเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3!”
เว่ยสั่วลืมตาขึ้นด้วยความตื่นเต้น
หลังจากใช้เวลาเก็บตัวดูดซับปราณและสร้างยันต์เพลิง 5 วันเต็ม ในที่สุดเขาก็บรรลุเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3 เขาสามารถมองเห็นทะเลปราณของตนภายในตันเถียนได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันเชื่อมต่อกับเส้นลมปราณภายในร่างกายของเขา
หากเทียบกับก่อนหน้านี้ ปราณภายในร่างของเว่ยสั่วเพิ่มขึ้นเกือบจะเท่าตัว
“ไม่ง่ายเลยที่จะได้ยินเสียงคลื่นทะเลในตันเถียน”
เว่ยสั่วบรรลุเขตขั้นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ 3 เร็วกว่าที่เขาจินตนาการเเอาไว้ ในความคิดของเขา ต่อให้มีศิลาวิญญาณเพียงพอ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 8 หรือ 9 วันในการทะลวงระดับ แต่เขากลับใช้เวลาเพียง 5 วันก็บรรลุ อาจเป็นเพราะว่าร่างกายของเขาไม่ได้ดูดซับปราณมานาน จึงหิวกระหายและดูดซับเข้าไปได้มาก อีกอย่างอาจเป็นเพราะการสร้างยันต์ที่ทำให้เขาดูดซับปราณได้ดีขึ้น… การยกระดับพลังทำให้เขามีสัมผัสที่คมชัดขึ้น แต่ก็แลกกับการที่ต้องเสียศิลาวิญญาณไปมากถึง 40 ก้อน
“ข้าต้องหาวิธีเอาศิลาวิญญาณคืนมา”
เขาหันมองยันต์เพลิงพลางส่ายหน้า ตอนนี้เขาเหลือศิลาวิญญาณอยู่เพียง 27 ก้อน โลหิตแมงป่องเพลิงก็หมดไปกับการสร้างยันต์แล้ว...