ตอนที่ 9 อ้อมแขนของควี !
ตอนที่ 9 อ้อมแขนของควี !
อยู่ๆ ซูยองก็ตกมาจากที่สูงทำให้ควีตกใจ จึงเผลอตะโกนออกไป
“ระวัง” เพราะเสียงใหญ่ทุ้มของเขาทำให้ ซูยองรู้ทันทีว่าคนผมยาวที่คิดว่าเป็นผู้หญิงชาวต่างชาติมาตลอดนั้นเป็นผู้ชาย!!!
เธอตกลงมาในอ้อมแขนที่แข็งแรงของควี และเป็นครั้งแรกที่ซูยองเห็นหน้าควีชัดกว่าเดิม เพราะในขณะนั้นเขาทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ควีผมยาวหน้าสวยคมผิวขาว ปากสีแดงระเรื่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลอมฟ้า
“คุณ!”
“เป็นผู้ชายหรอกเหรอ!” ซูยองมองจ้องมาใกล้ๆ ที่ควีด้วยความตกใจ และสงสัย
ควีเพียงตอบสั้นๆ ว่า
“อืม” เขาตอบพร้อมค่อยๆ อุ้มซูยองวางลง แล้วเดินไปนั่งอีกฝั่ง
“แถม! คุยภาษาเราได้ด้วย!” ซูยองยืนนิ่ง ไม่รู้จะตกใจที่ตกลงมาจากต้นไม้สูงก่อน หรือจะตกใจเรื่องที่เขาคนนั้นเป็นผู้ชายก่อนดี
แย่แล้วๆๆ ตายละฉัน เขาเป็นผู้ชายหรอกเหรอเนี่ย!!!
ซูยองสับสน แต่ก็ตั้งสติไม่โวยวาย และรวบรวมความกล้าสักพัก จนเอ่ยถามออกไป
“เออ… ขอถามได้ไหม ทำไมไม่บอกแต่แรกหละคะ ถามอะไรก็เห็นเงียบตลอดเลย” ซูยองเอ่ยถามอย่างสุภาพกับควี
ควีเงยหน้ามองซูยองช้าๆ
“ข้าคิดว่าไม่บอกจะดีกว่า พอเจ้าหายดีก็ไม่ต้องเจอกันอีกอยู่แล้ว” ควีตอบด้วยเสียงเรียบๆ แต่ฟังดูเศร้านิดหน่อย
“เอ… งั้นคุณชื่ออะไรคะ จะได้เรียกถูก ยังไงก็รู้สึกขอบคุณเสมอนะคะ ที่ช่วยฉันไว้”
“ชื่อข้าคือ ควี”
หลังจากที่ซูยองรู้ว่าควีเป็นผู้ชาย ก็ระวังตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน จะนั่งหรือจะทำอะไรก็ดูเกร็งไปซะหมด เพราะยังไงเธอก็รู้สึกไม่สะดวกใจ ที่ต้องมาติดในถ้ำกับผู้ชายสองต่อสอง
แต่เขาก็ไม่เคยมีทีท่าที่จะทำอะไรไม่ดี อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ น่าจะไว้ใจได้ในระดับหนึ่งหละนะ
ซูยองสงสัยว่าทำไม ควีเรียกตัวเองว่าข้า เรียกซูยองว่าเจ้า คำพูดคำจาไม่เหมือนคนสมัยนี้ แต่ก็ไม่กล้าถามเยอะ ถามเฉพาะเรื่องที่คิดว่าสำคัญ และถามด้วยความระมัดระวัง ส่วนควีนั้นก็ตอบสั้นๆ ในน้ำเสียงเรียบเฉยเสมอ
ด้วยความที่รู้ว่าควีเป็นผู้ชาย ซูยองจึงระวังตัวเป็นพิเศษ ตกกลางคืนนางก็แอบไปนอนกอดกระต่ายอยู่มุมไกลๆ แทนที่จะกลิ้งมานอนซุกในผ้าคลุมควีเช่นเคย
ควีเห็นซูยองนอนห่างๆ กลัวว่าจะหนาวเลยถอดผ้าคลุมมาคลุมให้ แล้วนอนมองหน้าซูยองอยู่ไกลๆ แทน ควีรู้ตัวว่าควรออกห่าง ก่อนที่จะห้ามใจไม่ไหว และไม่อยากทำให้ซูยองรู้ ว่าควีไม่ใช่มนุษย์
รุ่งเช้า
จู่ๆ กระต่ายหายไป ซูยองหาไม่เจอจึงออกตามหาไปทั่ว เดินไปหาจนถึงหน้าปากถ้ำ แต่กระต่ายซน กระโดดหนีไปไกลจนซูยองต้องรีบวิ่งตามไปจับ
“อย่าวิ่งเร็วนักสิเจ้าต่ายน้อย” ซูยองวิ่งเร็วขึ้น เพื่อตามจับให้ทัน
“แนะเรียกแล้วยังจะกระโดดอีก” กระต่ายน้อยยังคงกระโดดเล่นไปเรื่อยๆ
ซูยองกระโดดกึ่งวิ่งตามจับจนลืมดูว่าสุดเขตริมลำธารซะแล้ว และถ้าตกลงไปต้องโดนกระแสน้ำพัดไปแน่ๆ
“แย่ละๆ เหวอออออออออ”
แต่ยังไม่ทันจะห้ามขาตัวเองไว้ทัน เธอก็เผลอกระโดดตามกระต่าย เหยียบเข้าไปในลำธารซะละ
“แต่เอ๊ะ!! ทำไมไม่เปียก เมื่อกี้เราเผลอกระโดดลงมาที่แม่น้ำนี่นา!!! แถมที่เหยียบอยู่ตอนนี้กลายเป็นพื้นหญ้า?”
กระต่ายน้อยกระโดดกลับมาทางถ้ำใหม่ ทำให้ซูยองก้าวขาตามไปแบบไม่รู้ตัว พุ่งตัวกลับไปทิศทางเดิมตาม
“เฮ้ยยไม่จริง นี่เราทะลุมิติหรือไง!!!
ไม่สิ! หรือที่เห็นนี้ มันคือภาพลวงตา???”
ซูยองอุ้มกระต่ายไว้ที่อก แล้วเดินข้ามไป ข้ามมาไปกลับ จนแน่ใจว่าตรงนี้มีภาพลวงตากั้นไว้จริงๆ
“ทางนี้ที่จริง ต้องข้ามไปไม่ได้นี่นา เรากระโดดตามกระต่ายมาโผล่อีกฝั่งเฉยเลย” พอซูยองก้าวเท้ากลับ ก็เห็นว่าอีกฝั่งที่ก้าวมามองยังไงก็เป็นภาพลำธารน้ำเชี่ยวขั้นแน่ๆ แต่พอก้าวขาออกไป กลับกลายเป็นพื้นดินธรรมดา ทำให้แน่ใจว่าต้องมีภาพลวงตาตรงจุดนี้
อ่อ ทางแบ่งเขตจะมีจุดตัดที่มองไม่เห็น ถ้าเป็นมนุษย์จะเห็นเป็นภาพลำธารน้ำเชี่ยวขวางกั้น ใครเห็นก็ไม่กล้าเดินข้ามมาแน่ๆ แต่เพราะกระต่ายไม่เห็นภาพมายา กระต่ายจึงกระโดดผ่านภาพลวงนั้นมาได้
เมื่อซูยองก้าวข้ามนอกเขตมาแล้ว ก็กะเดินออกไปเรื่อยๆ เพื่อรีบหาทางออกจากป่า แต่ดันมาเจอกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ดูไม่น่าไว้ใจ
พวกเขาก้าวเข้ามาใกล้ เหมือนในความฝันที่ซูยองเคยเห็น และซูยองก็เริ่มจำเรื่องราวในฝันได้ทันที
แต่!
มันไม่ใช่แค่ฝัน มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก!!!
ไม่นะ พวกนั้นหนิ!!!
“ตามหาซะตั้งนาน” กลุ่มชายแปลกหน้าพูดพร้อมรีบวิ่งเข้าประชิดตัวซูยองทันที
แย่และ!!
ต้องหนี!!!!!
โปรดติดตามตอนต่อไป …