ตอนที่แล้วตอนที่ 13 พิธีกรรมของอายุ (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 ครั้งเเรก

ตอนที่ 14 จะสู้ต่อหรือไม่ (ฟรี)


ฟางหมิงกุ้ย ตกใจในทันทีเเละก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดสิ่งใด

ทันใดนั้น เด็กผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามา “ไม่มีทาง! เธอผู้นี้เป็นของข้า”

ซองซินหนิงใบหน้าเปลี่ยนสี ขณะที่พูดตอบกลับด้วยความเยือกเย็น “นี่เเกเป็นใคร เเกอยากจะสู้กับฉันงั้นหรือ?”

ใบหน้าของเด็กชายซีดเผือด เขาตอบกลับ “ตะ ตะ เเต่ว่า...เจ้ามีผู้หญิงถึงสองคนเเล้ว”

“ก็สองคนมันไม่พอไงล่ะ” ซองซินหนิงตอบกลับอย่างนิ่งๆ

เด็กชายผู้นั้นไม่ตอบกลับใดใด มองไปยังเฉียนยี่ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด เเละก้าวถอยหลังจากไป

ทว่ามีจำนวนเด็กฝึกกลุ่มนึงออกันมาดูเหตุการณ์ หนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนคือเพื่อนของเด็กชายด้วย

หนึ่งในเด็กหนุ่มลักษณะค่อยข้างสูงเดินผ่านกลุ่มเด็กๆที่มุงกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ “ซองซินหนิง เจ้าไม่คิดว่าที่เจ้าทำนี่มันเกินไปหน่อยหรอกเหรอ กลุ่มของพวกเราให้ความเคารพ เเละทำตามความต้องการของเจ้าทุกอย่าง เเละข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาทำร้ายน้องชายข้าหรอก”

เฉินยี่พอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ เขาผู้นี้คือ อู๋จิน  ความสามารถเเละอันดับในการฝึกของเขานั้นไม่ได้ต่างกับซองซินหนิงมากนัก

“ข้าเพิ่งจะเเกล้งน้องชายของเจ้าไป ทำไงดีล่ะทีนี้??” ซองซินหนิงหัวเราะเย้ยเยาะ ตอบกลับอย่างเยือกเย็น

อู๋จินมีความคิดที่อยากจะฆ่าซองซินหนิงทันที “เราสองคนมีความแตกต่างไม่มากนักนะ และที่จริงข้าก็คิด... ว่ามันก็พักนึงเเล้วที่ได้ต่อสู้อย่างจริงจัง!”

“นั่นเป็นเพราะเจ้ากลัวที่จะต่อสู้กับข้า ไม่ใช่ข้าฉันกำลังหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับเจ้า” ซองซินหนิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขายืดตัวราวกับพร้อมที่จะต่อสู้ ทั้งยังเเกว่งมีดไปมาบนอากาศ

ซองซินนิ่งหัวเราะอย่างเยือกเย็น “อู๋จิน เจ้าไม่น่าโง่ที่จะเชื่อการจัดลำดับคะเเนนบ้านั่น! เอาอย่างนี้ดีไหม เราไปที่ห้องต่อสู้กันเลยในตอนนี้ ข้าจะไม่ปราณีเจ้าเเต่อย่างใด”

เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างซองซินหนิงเเล้ว การแสดงออกทางสีหน้าของอู๋จินก็ชักไม่แน่นอน

ในขณะที่หันหลังให้กับอู๋จิง ซองซินหนิงพูดอย่างสบาย ๆ “อู๋จิน หากเจ้าต้องการเข้าร่วมกองกำลังกับคนอื่น ๆ ก็รีบเข้าล่ะ ข้าจะเปิดจุดพลังกำเนิดที่สองในอีกสองเดือนเเล้ว!”

ร่างอันสั่นเทาของอู๋จินเต็มไปด้วยความกลัว ต่างกับเมื่อครู่ที่ต้องการจะฟาดฟันซองซินหนิง

เด็กฝึกที่อยู่รอบๆตกใจขึ้นมาทันที ทั้งยังให้ความเคารพซองซินหนิงมากขึ้น ฟางหมิงกุ้ย ไม่ช้าที่จะเดินไปยังซองซินหนิง “ข้าจะทำตามที่เจ้าต้องการทุกอย่าง”

ซองซินหนิงกล่าวพร้อมกับชี้ไปยังฟางหมิงกุ้ย “เฉียนยี่ นางผู้นี้คู่ควรเเก่เจ้า คนพวกนี้มีความสงสัยในตัวเจ้า เเสดงความเเข็งเเกร่งเเละพลังให้พวกนี้คลายสงสัยหน่อยเป็นอย่างไร เผื่อมันจะลดความวุ่นวายต่างๆได้บ้าง”

เฉียนยี่ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะให้นางผู้นี้ติดตามหรือปรนณืบัติ เเต่ทว่ามองไปยังสายซองซินหนิงก็ต้องปล่อยไปตามสถานณการณ์

หลังจากที่เฉียนยี่กลับมายังที่พัก ก็ยังอดคิดไม่ได้ถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

ซองซินหนิงกล่าวมานั้นถูกทั้งหมด ในที่ค่ายฝึกนี้ ความเเข็งเเกร่งคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนอยู่รอด ทว่าหากไม่มีซองซินหนิง เขาอาจจะตายไปเเล้ว

เเม้เเต่อันดับที่สองของการฝึกอย่างอู๋จิน ยังต้องยอมถอยให้กับซองซินหนิง ทว่าฟางหมิงกุ้ยเธออยู่เพียงอันดับล่างๆของการฝึก เธออาจจะไม่ได้คิดมากหากต้องติดตามใครสักคน

เฉียนยี่เริ่มเข้าใจในทันที ทั้งหมดที่ซองซินหนิงกำลังถ่ายทอดให้เขา

ฟางหมิงกุ้ยขึ้นไปยังเตียงของเฉียนยี่ เเต่ด้วยการฝึกที่เเสนเหน็จเหนื่อยเเละทรมาน ทำให้เฉียนยี่ไม่ได้สนใจเธอ เพียงเเต่ลูบเอวที่โค้งเว้านั้นเเหละหลับไป

เธอยังคงติดตามเฉียนยี่อยู่ไม่ห่าง เเม้เฉียนยี่เองจะไม่เคยได้สัมผัสตัวเธอก็ตาม เเละในกลุ่มชั้นเรียนในตอนนี้ เฉียนยี่ก็เข้าสู่ลำดับที่สิบ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาจากความพยามของเฉียนยี่ล้วนๆ โดยเฉพาะชั้นเรียนของเครื่องจักร เเละอาวุธ เเละความสามารถของเขาใกล้จะถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุด เเม้จะมีปัญหากับชั้นเรียนฟิสิกส์เล็กน้อย เเต่ทว่าเรื่องของการต่อสู้เขาก็ทำได้ดีในการอยู่ลำดับที่ยี่สิบ

ชีวิตการฝึกในค่ายเเห่งนี้ไม่มีคำว่าน่าเบื่อเเต่อย่างใด

ณ วันหนึ่งขณะชั้นรียนเครื่องจักรกล เฉียนยี่ได้สร้างกระสุนที่มีความเเม่นยำสูง หลังจากการล้มเหลวในการทดลองหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้ผลงานอันน่าพึงพอใจ การทำกระสุนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เเต่กระสุนที่ดีเเละมีคุณภาพที่เเม่นยำนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

นี่เป็นทักษะในการบำรุงรักษา ด้วยความสามารถของเฉียนยี่ เขาสามารถซ่อมปืนที่พังเเละมีความเสียหายให้กลับมาใช้ได้ดี ทว่าเครื่องมืออื่นๆด้วยเช่นกัน

ในณะที่เฉียนยี่กำลังชื่นชมผลงานของเขา เสียงเล็กของเด็กผู้หญิงก็ดังขึ่น “ช่างน่าทึ่งมาก!”

เขาไม่ช้าที่จะหันไปตามเสียงนั้น

ลักษณะของเธอนั้น เป็นเด็กสาวที่มีรูปร่างงดงามได้สัดส่วน สูงราวๆร้อยเจ็ดสิบได้ เธอผู้นี้มีชื่อว่า มีมี่ เธอเป็นหนึ่งในชั้นเรียนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตการฝึกขึ้นอยู่กับผู้ใด ลำดับของเธอนั้นสูงกว่าเฉียนยี่เเละยังคงที่อยู่ในลำดับที่หกมาตลอด

“มันก็เเค่โชคช่วยน่ะ” เฉียนยี่ตอบกลับ พร้อมกับโยนกระสุนปืนออกไปข้างๆ

เธอหยิบกระสุนขึ้นมาอย่างช้าๆ “ข้าก็เเค่สนใจ ทว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ไม่ว่าจะกระสุน หรือปืนที่พัง จริงไหม?”

“ข้าไม่ได้เก่งไปกว่าเจ้าหรอก”เฉียนยี่จำได้ว่าคะเเนนของมีมี่ไม่ได้ต่ำไปกว่าเขาเลยสักนิด

“ความสามารถ ต่อให้มากเเค่ไหนก็ไม่พอหรอก ให้ข้าบอกไหมล่ะ เจ้าน่ะไม่ได้สนใจฟางหมิงกุ้ย ทำไมเจ้าไม่มาคู่กับข้าซะเลยหล่ะ” มีมี่กล่างตรงไปตรงมาอย่างไม่อ้อมค้อม

“เป็นคู่กัน เจ้าหมายความว่าคู่ในเเบบไหน” เฉียนยี่กล่าวอย่างขมวดคิ้ว

“ข้าหมายถึงในการต่อสู้ต่างหากล่ะ” ทันใดนั้นเธอขยับไปใกล้เฉียนยี่เเละกล่าวต่อ “เจ้าเองดูจะไม่ได้สนใจในตัวผู้หญิงสักเท่าไร ข้าเองก็เช่นกัน ถ้าเรามาเป็นคู่ต่อสู้ร่วมกัน ทีมของพวกเราน่าจะไปได้ดีมากทีเดียว”

เฉียนยี่ค่อข้างพอใจกับสิ่งที่เธอกล่าว “ขอข้าคิดดูก่อน”

ในไม่กี่เดือนต่อมา มีมี่เเละเฉียนยี่ยิ่งใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเป็นการไล่ฟางหมิงกุ้ยทางอ้อม

ซองซินหนิงเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร เขาต้องการเพียงให้เเค่เฉียนยี่มีคู่ที่เป็นเด็กสาวก็เท่านั้น เเละจริงๆเเล้วมีมี่ก็เเข็งเเกร่งมากกว่าฟางหมิงกุ้ยเสียด้วย

การฝึกการต่อสู้ของเฉียนยี่เเละมีมี่นั้นบ่อยมากขึ้น การต่อสู้ในเเบบของเธอนั้นราวกับมีความชำนาญมาก การจู่โจมเเละการปกป้อง เเละการจู่โจมเเบบคาดไม่ถึง การต่อสู้ของเธอเเข็งเเกร่งกว่าเฉียนยี่มาก

ซองซินหนิงได้กล่าวเป็นการส่วนตัวกับเฉียนยี่ว่าเธอผู้นี้เคยได้รับการฝึกอย่างหนักมาก่อนที่จะเข้ามายังค่ายฝึกเเห่งนี้

ในทางตรงกันข้าม เฉียนยี่ต่อสู้ในเเบบของเขา ไม่ได้เร่งรีบหรือบ้าบิ่นที่จะอยากเอาชนะ เขาพ่ายเเพ้เเก่เธอ เเต่ศักยภาพในตัวนั้นเพิ่มขึ้น

มาจนถึงช่วยกลางปี พวกเขาต้องเข้าร่วมการทดสอบที่มีความสำคัญอย่างมาก

เด็กฝึกราวๆสิบคนนั้นถูกโยนลงในภูเขาที่กว้างใหญ่ พร้อมกับเหล่านักรบมืดหลายร้อยคน

ภายในเวลาสิบวัน เด็กฝึกจะต้องหาวิธีเอาตัวรอดเเละต่อสู้กับมัน ทว่าในเวลานี้ศัตรูของพวกเขาไม่ใช่เพียงเหล่านักรบเผ่าพันธุ์ เเต่รวมไปถึงเพื่อนรวมชั้นเรียนที่ลงสนามกับพวกเขาด้วย

การทดสอบนั้นง่ายมาก หากใครที่สามารถฆ่านักรบเผ่าพันธุ์มืด หรือเพื่อนร่วมสนามรบได้ เขาจะผ่านบททดสอบ หากผู้ใดสามารถทำได้ในจำนวนที่มาก เขาผู้นั้นจะได้รับรางวัลเป็นพิเศษ

หากผู้ใดไม่มีความสามารถในการฆ่า เขาผู้นั้นควรซ่อนตัวให้ดี เเละหากเวลาผ่านไปสิบวัน ถือว่าการต่อสู้นั้นจบลง

เด็กฝึกทุกคนจะได้รับมีดธรรมดาคนละหนึ่งเล่ม ซึ่งนี่เป็นเพียงอาวุธที่ได้รับอนญาติในการใช้เท่านั้น

เมื่อความมืดเข้ามาถึง เสียงของสัญญาณการทดสอบนั้นได้เริ่มขึ้น!!!

เฉียนยี่เข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว เเละพยามซ่อนตัวเองอยู่ในความมืด

เขาสังเกตทุกอย่างรอบๆ เเละเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ความรู้จากการเอาตัวรอดใรสนามรบของเขานั้นช่วยได้มา เขาเคลื่อนไหวอย่างระวัง

เฉียนยี่ค่อยย่องผ่านต้นไม้ใหญ่ๆ เเละหลบอยู่ให้เงาความมืด ไม่ไกลมากราวๆสิบเมตร ทันใดนั้นเขาเห็นการต่อสู้เกิดขึ้น มีเด็กเพียงหนึ่งคนที่รอด เเละที่ล้มลงหมดสตินั้นเต็มไปด้วยรอยเเทง

ความชนะนั้นยังไม่สร้างความพึงพอใจที่ควร หลังจากที่เขาเเทงศพซากศพอยู่หลายหนเขาดึงนกหวีดออกมาจากศพ เเละสบถในขณะที่สำรวจบาดเเผลของเขาเอง

นกหวีดนี้มีลักษณะพิเศษ เมื่อมันถูกเป่าด้วยพลังเเห่งต้นกำเนิด เสียงจะเเผ่ออกไปไกลหลายกิโลเมตร หลังจากนั้นครูฝึกที่อยู่ตามบริเวณใกล้ จะเข้ามาตรวจสอบผลการต่อสู้ในทันที ทั้งจะพาคนที่ผ่านการทดสอบออกจากสนามรบ

นกหวีดที่คาอยู่ในปากเเต่ไม่มีเสียงใดใดออกมา เเละที่คอของเด็กฝึกคนนั้นมีมีดเเหลมทะลุออกมา

เด็กหนุ่มหันไปด้วยความตกใจ ชี้ไปยังมีมี่ เเละสิ้นลมไปในที่สุด

เมื่อเดินไปยังศพของเหล่าเด็กๆ มีมี่ดึงมีดออกเเละหยิบนกหวีดขึ้นมาเก็บไว้ ความพิเศษของนกหวีดนี้มีอีกอย่าง คือมันจะกำกับชื่อเเละหมายเลขประจำตัวของเด็กฝึก อย่างเเน่นอนว่าหากผู้ใดสามารถเก็บนกหวีดได้มากที่สุด ลำดับก็จะสูงขึ้น เเต่ทว่าสูญเสียนกหวีดไป เเม้จะรอดชีวิต อันดับก็จะตกลงมา

เธอหยิบมีดขึ้นมาเก็บ เเละสังเกตุเห็นการเคลื่อนไหว “นั่นใครที่อยู่ตรงนั้น ข้าบอกให้ออกมา!!!”

-------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด