บทที่ 24
บทที่ 24
ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ แผ่นหลังของเธอชิดบานประตูและถูกกักขังด้วยสองแขนของเขาที่เท้ากันไม่ให้เธอหลบหนี ริมฝีปากของเขาหยอกล้อริมฝีปากของเธอก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดอย่างดูดดื่ม สองขาของพิชชาแทบไร้แรงทรงตัวจนต้องยกมือขยุ้มปกเสื้อสูทของเขาอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายผ่าวร้อนราวจับไข้ รสหวานจากริมฝีปากหญิงสาวทำให้เดวิทดูดดื่มอย่างลืมตัว เขาลดมือที่เท้าประตูอยู่ลงแล้วใช้มือข้างหนึ่งรั้งเอวบางมาแนบชิด ส่วนอีกมือประคองใบหน้าหวานให้รับจูบร้อนแรงจากเขา ความไม่ประสาของเธอยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้เดือดพล่านจนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวแต่ก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้เขาก็ถอนจูบอย่างเสียดาย เพียงริมฝีปากของเขาถอยห่างจากเธอ หญิงสาวก็แทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น
“พิชชา” เขาพยุงเธอไว้
“คุณจะฆ่าฉันหรือไง” พิชชาเอ่ยเสียงแผ่ว “ฉันหายใจไม่ออก”
เดวิทมองใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อทั้งโกรธและอายในเวลาเดียว เขาขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด “เวลาจูบก็หายใจทางจมูกซิ”
“นายจูบตั้งนานฉันจะขาดใจตาย” พิชชาทำเสียงแข็งใส่เขา
“ของผมนี่แหละถึงจะเรียกว่าจูบ ของคุณมันเด็กๆ เขาทำกัน” เดวิทแหงนหน้าหัวเราะแล้วสบตาดวงตากลมโตคู่สวย เขาใช้นิ้วเกี่ยวพันเส้นผมของเธอแล้วยกขึ้นแตะริมฝีปากของเขาเบาๆ “ให้ผมสอนคุณเอาไหม”
“คนบ้า!” พิชชาผลักเขาออกสุดแรง “นายมันคนฉวยโอกาสที่สุด”
แรงของพิชชาไม่ได้มากมายอะไรนักแต่เดวิทก็ยอมผละถอยห่างจากหญิงสาว พิชชาค้อนเข้าให้ก่อนจะหมุนตัวบิดลูกบิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
“เปลี่ยนใจได้นะพิชชา ผมสอนให้ไม่คิดค่าบริการเลย”
“ไปให้พ้นเลยคนบ้า!!”
เดวิทหัวเราะอย่างมีความสุข ความปรารถนาในใจมีมากขึ้น ตอนนี้เขาไม่ได้อยากได้เพียงแค่จูบของเธอเท่านั้น แต่เขายังปรารถนาจะเป็นคนสอนเธอทุกเรื่องราวหฤหรรษ์บนเตียงนอนเสียแล้วซิ
ชีควาคิมเดินมาส่งสาริศาที่ห้องนอนของเธอ วันเวลาเหมือนไม่กี่วันแต่มันยาวนานในความรู้สึกที่เขาไม่ได้เฉียดใกล้เธอเลยทั้งที่เขาถวิลหารสหวานรัญจวนใจจากหญิงสาวปรารถนาจะกอดเธอไว้จนรุ่งสางเช่นที่เคยอยู่ด้วยกันในทะเลทราย
“ท่าทางคุณเดวิทจะปราบพิชชาเสียอยู่หมัดเชียว” สาริศาชวนคุยเหมือนจะชั่งใจตัวเองมากกว่า แม้บางสิ่งจะตัดสินใจแล้วแต่ความลังเลก็ยังสั่นคลอนหัวใจอยู่
“เพื่อนของคุณเป็นคนดี” ชีควาคิมเอ่ยด้วยความจริงใจ แม้จะรู้จักกันไม่นานก็พอจะดูออกว่าพิชชาเป็นคนตรงไปตรงมา แม้การพูดจาจะเหมือนเด็กที่ชอบโต้เถียงตลอดเวลาก็ตาม
“ขอบคุณค่ะ” สาริศาลังเลอยู่หน้าบานประตู
“ขอบคุณเรื่องอะไร?”
“สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา” เธอแหงนหน้ามองใบหน้าคมเข้ม สีหน้าเย็นชาแต่แววตาแน่วแน่ที่จ้องมองราวกับเธอกระต่ายป่าที่พญาเหยี่ยวหมายจะเป็นอาหาร
“ถ้ารวมถึงเครื่องบินเดินทางกลับด้วยละก็...ผมตอบตรงนี้เลยว่า ‘ไม่เป็นไร’”
ชีควาคิมหมุนตัวกลับ เขาไม่ต้องการอยู่เผชิญหน้าเธอนานกว่านี้ เขาอยากคว้าเอวบางมาชิดใกล้แล้วกระหน่ำจูบให้หายแค้นหรือไม่ก็บีบคอเธอให้สิ้นลมคามือเพื่อลงโทษที่เธอทำเขาปวดใจ ร่างสูงก้าวออกมาได้เพียงสองก้าวก็ชะงักเท้าไปทันที ร่างเล็กผวาเข้ากอดจากด้านหลัง เขาก้มมองมือเรียวเล็กที่กอดเอวเขาไว้รู้สึกได้ถึงใบหน้าของเธอที่แนบกับแผ่นหลังของเขา
“คืนนี้คุณอยู่กับฉันนะคะ” สาริศาเอ่ยเสียงสั่น “ได้โปรด...คืนสุดท้ายสำหรับเรา”
ชีควาคิมไม่ต้องรอให้สาริศาอ้อนวอนเขาอีกชายหนุ่มหมุนตัวกลับแล้วช้อนร่างเล็กอุ้มตัวลอยเข้ามาในห้องใบหน้าคมเข้มโน้นลงมาแนบริมฝีปากกับริมฝีปากหวานที่เผยอขึ้นรับอย่างยินดีทั้งสองแลกจูบอย่างดูดดื่มและดื่มด่ำไม่ต่างจากคนกระหายน้ำ มือเรียวเล็กผลักเสื้อของเขาออกปรารถนาจะแตะต้องผิวกายของเขาอยากแนบชิดยิ่งกว่าที่เคย ชีควาคิมวางร่างบางลงบนที่นอนแล้วจัดการถอดเสื้อของตนเองออกอย่างรวดเร็ว แผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรีที่แสนสง่าปรากฏเบื้องหน้า สาริศาสั่นสะท้านด้วยแรงพิศสวาทที่เอ่อล้น เธอยกสองแขนคล้องคอเขาเพื่อที่ได้จูบเขาอีก เขาสอดมือไปเลื่อนชุดราตรีสีดำของเธอแล้วเลื่อนมันออกจากร่างเนียนนุ่ม ผิวกายขาวนวลปรากฏเบื้องหน้า เขาพึมพำอะไรบางอย่างในลำคอก่อนจะ ริมฝีปากร้อนดูดกินยอดอกสวยของหญิงสาวจนเธอครวญครางออกมาอย่างสุดจะทนกลั้น ปลายนิ้วของเขาสัมผัสทรวงอกเธอยิ่งทำให้เธอเร่าร้อนทุกนาที เธอแอ่นอกเข้าหาปรารถนาจะให้เขากลืนกินเธออีก เรียวลิ้นของเขาสร้างความร้อนแรงให้เพลิงพิศสวาทได้ไม่รู้จบ มือใหญ่เลื่อนลูบไล้ขาอ่อนก่อนจะใช้ปลายนิ้วสำรวจใจกลางอิสตรีสาริศามึนเมาและรุ่มหลงรสสัมผัสของเขาทุกจังหวะที่เขากดปลายนิ้วเธอก็ส่งเสียงครางออกมา ร่างของเธอสั่นเทาด้วยความปรารถนา ช่างหนุ่มเร่งเร้าด้วยปลายลิ้นและนิ้วมืออย่างผู้ชำนาญจนหญิงสาวหวีดร้องด้วยความหฤหรรษ์
แล้วชีควาคิมก็เป็นฝ่ายตกอยู่ภายใต้แรงปรารถนา เขาต้องการเธออย่างไม่อาจควบคุมได้อีก แต่สาริศาพลิกตัวเองขึ้นคร่อมร่างหนา ผมของเธอยาวลงมาคลุมเนินอก เธอดูคล้ายประติมากรรมแกะสลักที่งดงามได้รูปภายใต้แสงจันทร์ สาริศาสัมผัสได้ถึงแท่งหินที่แสนแข็งแกร่งเธอยกสะโพกของตนขึ้นแล้วกดลงเพื่อให้แก่นกายของเขาแทรกผ่านกลีบดอกไม้อย่างแนบสนิท
“วาคิม...วาคิม” สาริศาได้แต่พร่ำเรียกชื่อเขาขณะที่ทั้งสองผสานกายเป็นเนื้อเดียว ชายหนุ่มยันตัวเองขึ้นเพื่อจะได้จูบเธออีกในขณะที่สะโพกของหญิงสาวเคลื่อนไหวอยู่บนกายของเขา
มันช่างแนบแน่นและเป็นหนึ่งเดียวราวกับทั้งสองเกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน ชีควาคิมพรมจูบทั่วใบหน้าลากปลายลิ้นมาที่ลำคอแล้วหยอกล้อกับยอดอกที่ปรากฏเบื้องหน้า การหยอกเย้าของเขายิ่งเพิ่มความรัญจวนใจให้ทั้งคู่ เธอช่างหาญกล้าที่จะควบคุมม้าพยศอย่างเขา ความแข็งแกร่งที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยมานานทำให้เขาทรงพลังและคล้ายไม่เคยอิ่ม สาริศากอดรัดเขาไว้พร้อมกับสะอื้นไห้เรียกชื่อเขาอย่างหมดการควบคุม มือของชีควาคิมลูบไล้แผ่นหลังประคองเธอเอนไปด้านหลังขยับให้เธอนอนหงายในขณะที่ทั้งสองยังคงเป็นหนึ่งเดียว เขาครอบครองเธออย่างดื่มด่ำลึกซึ้ง เขาจูบเธอพร้อมเคลื่อนไหวรุนแรงรวดเร็วกว่าเดิม พาเธอเดินทางไปแตะขอบรุ้งที่ปลายฟ้า ร่างหนากระตุกและสั่นด้วยแรงปรารถนาในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องอย่างเปี่ยมสุข
ชายหนุ่มประคองหญิงสาวให้นอนหนุนท่อนแขน เขาลูบไล้ร่างเปลือยเปล่าแผ่วเบาอย่างปลอบโยน ไม่มีคำพูดใดที่จะเอื้อนเอ่ยแทนความรู้สึกในใจได้ทั้งหมด ทว่าร่างกายได้แสดงออกแทนไปหมดแล้ว หญิงสาวลืมตาในแสงสลัว สาริศายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าคมเข้มอย่างหลงใหล ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่หรืออาจจะไม่มีอีกแล้วที่เธอจะได้อยู่ในวงแขนของเขาอีกอย่างนี้
“ริต้าผมไม่อยากให้คุณเจ็บ” ชีควาคิมครางเสียงต่ำในลำคอ เพียงสัมผัสแผ่วเบาของเธอก็ทำให้ร่างกายของเขาตื่นตัวอีกครั้ง
“วาคิมค่ะ...ได้โปรด” สาริศาเว้าวอนด้วยเรือนร่าง เธอเบียดอกสวยแนบชิดแผงอกของเขาร่างกายเธอผ่าวร้อนเมื่อต้นขาของเธอเสียดสีกับต้นขาของเขา
ชายหนุ่มไม่รอให้เธอเรียกร้องอีก ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากหวานอย่างลืมตัว เขาดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากของหญิงสาว ขณะที่เธอเริ่มขยับตัวเสียดสีกับเขา เขาผละจากริมฝีปากเพื่อเสาะหาทรวงอกสวย เธอครางด้วยความเสียวซ่านและเปรมปรีย์เมื่อเขาลูบไล้เธอด้วยเรียวลิ้น เธอกระซิบเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผลอจิกเล็บเข้ากับแผ่นหลังของเขา ชีควาคิมพลิกตัวหญิงสาวนอนคว่ำเขาจูบรอยแผลของเธอราวกับร่ายมนต์เยียวยา รอยแผลจากอุบัติเหตุที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาทั้งสองให้เปลี่ยนไปตลอดชีวิต เขาจูบมันอย่างไร้ความรังเกียจและมองว่ามันช่างคล้ายรอยสักรูปผีเสื้อและเขาอยากเห็นเธอโบยบิน มือใหญ่ช้อนสะโพกเธอขึ้นแล้วแทรกแก่นกายเข้าหา หญิงสาวผวาเฮือกแล้วครางอย่างไม่รู้ตัว เขาสวมกอดเธอจากด้านหลังแนบแน่นจนเหมือนเป็นหนึ่งเดียว
“ริต้า...คุณหวานเหลือเกิน” เขาพึมพำชิดริมหูแล้วขบเม้นติ่งหูของหญิงสาวขณะที่สะโพกของเขายังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหนักแน่น
“วาคิม...” สาริศาได้แต่เรียกชื่อของเขา เขาแข็งแกร่งและทรงพลังสร้างความร้อนแรงให้ร่างกายและหัวใจที่เคยเยียบเย็นของเธอ เขาปลดปล่อยเธอจากแดนน้ำแข็งด้วยไฟพิศสวาทที่แสนเร่าร้อน
“ริต้า...คุณเป็นของผม...ยอดรักของผม”
ร่างใหญ่โถมใส่ไม่หวั่นว่าร่างเล็กจะต้านทานได้หรือไม่ ระลอกคลื่นของชีวิตสาดซัดเมื่อแรงปรารถนาระเบิดตัวหัวใจของหญิงสาวเต้นแรงและหวีดร้องอีกครั้ง เขาครางอย่างสุขสมก่อนจะค่อยๆถอนแก่นกายแล้วนอนเคียงข้างเธอ เขาประกาศตัวเป็นเจ้าของเธอและเธอก็ยินดีและเต็มใจ เพราะหัวใจของเธอมีเพียงเขาเท่านั้น ไม่ว่านานเพียงใดเธอก็จะรักเขาเช่นที่เคยผ่านมา.