ตอนที่ 5 อุปกรณ์ VR
ตอนที่ 5 อุปกรณ์ VR
“ว่าแต่ทำไมชุดแกวันนี้ มันสกปรกอย่างนี้ละ เอ้า...นี้เสื้อคลุม จะปล่อยให้หนุ่มหล่อมหาลัยแต่งตัวสกปรกได้ยังไงจริงไหม”
ชายที่นั่งข้างๆส่งเสื้อของตัวเองมาให้เขา เจสเปอร์พยักหน้ารับแล้วก็ยื่นแผ่นโฆษณานั่นกลับไปให้ชายข้างๆดู
“แกว่าไงอามมี่...สนใจพวกมันไหม”
ชายที่นั่งข้างๆเจสเปอร์ก็คือ อามมี่ เพื่อนสนิทที่เจสเปอร์ไว้ใจที่สุด ไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปีอามมี่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ครั้งนี้ย้อนเวลากลับมาเขาต้องตอบแทนอามมี่มากกว่าชีวิตที่แล้วให้ได้
อามมี่รับแผ่นโฆษณามาดูก็ตกใจราคาเล็กน้อย เพราะเงินที่มีอยู่มีเพียงแค่ 2000 เครดิต และเงินทั้งหมดนั่นคือเงินที่ต้องใช้ทั้งเดือน แต่ราคาอุปกรณ์ VR ที่เจสเปอร์ส่งมาให้ดู รุ่นต่ำสุดของเจ้าหมวกนี้ราคาของมันก็สูงถึง 3500 เครดิต ชายหนุ่มแม้ดูสนใจแต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจไม่ได้
“แกจะซื้อมันจริงๆหรอ เราสองคนลองไปใช้ที่ร้านอินเตอร์เน็ตรายชั่วโมงก่อนจะดีกว่าไหม”
ในอดีตเจสเปอร์และอามมี่ก็เคยใช่วิธีนี้ เล่นจากร้านอินเตอร์เน็ตรายชั่วโมงไปก่อน แต่เขาไม่อยากจะเลือกวิธีนี้ สาเหตุเป็นเพราะหมวกรุ่นต่ำสุดอัตราการซิงค์และการควบคุมจัดว่าย่ำแย่เอามากๆมีอัตราความเข้ากันได้อยู่แค่ 60% แล้วยิ่งหมวกในร้านอินเตอร์เน็ทมีคนใช้หลายคนอัตราการซิงค์ข้อมูลก็ยิ่งลดต่ำลงเหลือ 53% แต่พวกเขาก็ยอมทนเล่นมันอยู่หลายเดือนถึงพอจะมีเงินซื้อหมวกรุ่นราคาต่ำสุดมาใช้ได้
อัตราการซิงค์ความเข้ากันได้ของระบบหากต่ำกว่า 50% จะไม่สามารถเข้าเกมได้
รุ่นเริ่มต้น อัตราการซิงค์ระหว่าง 50-60% การควบคุมจะมีติดขัดและอาการหน่วงพอสมควร
รุ่นปานกลาง อัตราการซิงค์ระหว่าง 60-65% การควบคุมจะดีขึ้นจนไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีอาการหน่วงหลงเหลืออยู่
รุ่นซิลเวอร์ อัตราการซิงค์ระหว่าง 65-70% อาการติดขัดและอาการหน่วงจะหมดไป
รุ่นโกลด์ อัตราการซิงค์ระหว่าง 70-75% ผู้ใช้งานจะรู้สึกพลิ้วไหวเหมือนบินได้เลยทีเดียว
รุ่นแพลทตินั่ม อัตราการซิงค์ระหว่าง 75-80% ไม่ต้องพูดถึงเลย ทัศนีย์ภาพในการมองเห็นดีขึ้น การควบคุมไหลลื่นไม่มีสะดุด
รุ่นไดมอน อัตราการซิงค์ระหว่าง 80-90% นี้คือเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนการเล่น VR ให้สะดวกมากยิ่งขึ้นการควบคุมตัวละคร ทัศนะวิสัย ระบบการสื่อสาร และ การเข้าใช้งาน ยกระดับจนถึงที่สุด
รุ่นท็อปสตาร์ อัตราการซิงค์ระหว่าง 90-100% เรียกว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกไปเลยก็ว่าได้ ทุกอย่างสูงมากกว่ารุ่นก่อนมาทั้งหมด และร่างกายจะไม่ได้รับผลกระทบจากการใช้งานก็ว่าได้
มันก็เหมือนคนที่เคยขับรถสปอรต์มาตลอดแล้วอยู่ดีๆต้องมานั่งขับรถสามล้อนั่นละเป็นใครก็ไม่อยากจะกลับไปใช้อีก
เจสเปอร์รู้ดีถึงความล้ำหน้าของอุปกรณ์พวกนี้ทั้งหมด แต่อุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นใน ปีเริ่มต้นกว่ามันจะถูกผลิตและพัฒนา หลังจากเกม The Era Online เปิดให้บริการมา 2-3 ปี รุ่นแพลทตินั่ม-ท็อปสตาร์ จะถูกผลิตขึ้นมันเป็นราคาที่คนธรรมดาแทบจะเอื้อมไม่ถึง รุ่นแพลทตินั่ม กับไดมอน คือสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคอย่างแท้จริง เปลี่ยนจากการสวมหมวกเป็นการเข้าใช้งานในเครื่องแคปซูล ส่วนเครื่องท็อปสตาร์เจสเปอร์ยังไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน เพราะไม่ใช่แค่มีเงินก็ซื้อมันได้แต่คนๆนั้นต้องมีเส้นสาย หรือ แม้กระทั่ง อำนาจ เท่าที่ทราบมา มันถูกออกแบบตามสรีระร่างกายของผู้เล่นคนนั่น และยิ่งพิเศษไปกว่านั่นคือ DNA ที่คนใช้ต้องสอดคล้องกับเครื่อง ไม่มีใครสามารถเข้าใช้งานเครื่องนี้ได้เลยนอกจากเจ้าของคนนั่นคนเดียว ขนาดผ่านไป 6 ปีตั้งแต่เริ่มผลิต แต่กลับมีผู้ที่ได้ใช้งานน้อยกว่า 30 เครื่องในโลก
เพราะผู้ผลิตเครื่องนี้คือ Phoenix Studio แต่เพียงผู้เดียว บริษัทจะสั่งผลิตให้คนที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆเช่น เจ้าชาย นายกเทศมนตรีหรือกษัตริย์ของแต่ละประเทศ รวมถึงผู้เล่นชั้นนำที่มีศักยภาพโดดเด่น เป็นต้น
แต่ก็ไม่ใช่เจ้าชายหรือกษัตริย์ทุกคนที่จะได้รับ เมื่อเกม The Era Online เปิดให้บริการเกมนี้ก็ก้าวเหนือเกม VR ทั้งหมดในโลกอย่างรวดเร็ว การเติบโตแบบบ้าคลั่งนี้
รัฐบาลของประเทศที่ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเคยพยายามฮุบกลืนบริษัท Phoenix Studio แต่ก็เสียเวลาเปล่า แถมยังส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงถึงบรรดาผู้เล่นในประเทศอย่างมาก เหตุการณ์ที่เจสเปอร์จำได้ก็คือประเทศ A มหาอำนาจของโลกที่เป็นฐานที่มั่นของบริษัท Phoenix Studio พยายามเข้าซื้อกิจการทั้งหมด ไม่เพียงแค่ Phoenix Studio จะตอบโต้กลับไป บรรดาผู้เล่นที่ลงทะเบียนในประเทศ A ทั้งหมดถูกระบบปรับลด EXP&DROP ลงถึง 25% เกิดฝูงจรชนขึ้นประท้วงที่หน้าบริษัทอย่างหนักมีการปาข้าวของทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายเจ้าหน้าที่พนักงาน บริษัท Phoenix Studio จึงลงดาบขั้นสูงสุดคือลด EXP&DROP ลง 50% พร้อมตั้งค่าหัวผู้เล่นทุกคนในประเทศ A ทั้งหมด โทษการตายคือถูกระงับการใช้งาน 3 วัน
ผู้เล่นประเทศ A สูญเสียหนักมาก มีคนประท้วง กับการกระทำของระบบ แต่ก็ฟ้องร้องอะไรตามกฏหมายไม่ได้เพราะข้อตกลงในการเข้าใช้งานเป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับไว้แล้วตั้งแต่สร้างตัวละคร มีคนหลายล้านคนฟ้องร้องบริษัทแต่ผลสุดท้ายก็ถูกบริษัทฟ้องกลับจนหมดตัว ไม่นานนักบริษัทก็ออกประกาศเตือน กลุ่มคนประท้วงหากไม่ยอมเลิกการประท้วงหรือทำการปลุกปั่นอันเป็นผลเสียต่อเกม The Era Online บัญชีของพวกเขาจะถูกแบนตลอดชีพ ผู้ประท้วงจึงลดน้อยลงในเมื่อพวกเขาสูญเสียไปอย่างมากแต่ดาบของพวกตนยังไม่ได้รับการชำระ ดาบทั้งหมดจึงถูกหันไปทางรัฐบาลที่ก่อเรื่องขึ้นมา รัฐบาลชุดนั้นทั้งหมดถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และยังต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับผู้เล่น และยังเคยมีเจ้าชายของประเทศ P ที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก ได้ท้าทายบริษัท Phoenix Studio ด้วยเช่นกันสุดท้ายผลลัพธ์ ก็คล้ายคลึงกับ รัฐบาล A เจ้าชายถูกประชาชนเรียกร้องให้สละราชสมบัติ ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครกล้าใช้อำนาจกับทางบริษัท Phoenix Studio อีกเลย.
ในหัวของเจสเปอร์เขาต้องการซื้อรุ่นปานกลาง ที่มีราคา อยู่ที่ 1 หมื่นเครดิต ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบซื้อรุ่นที่เหนือกว่าในตอนนี้ เพราะ แค่รุ่นปานกลางก็ได้เปรียบผู้เล่นคนอื่นส่วนใหญ่มากพอสมควร แล้วราคารุ่นซิลเวอร์ ก็มีราคาสูงมากถึง 5หมื่นเครดิต ขนาดพนักงานบริษัทยังได้รับเงินเดือนเพียงแค่ 5พันเครดิตต่อเดือน ไม่ต้องพูดถึงรุ่นโกลด์ที่มีราคา 2 แสนเครดิตเลย
“เรื่องเงิน ไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการเอง. ได้เวลาเข้าเรียนแล้วฉันไปก่อนนะ ไว้เลิกเรียนแล้วไปเจอกันที่ห้างช็อปปิ้งมอลล์ละกัน”
เจสเปอร์พูดจบก็ลุกเดินจากไปทันที ทิ้งอามมี่ให้นั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ที่เดิม พร้อมแผ่นโฆษณาที่ปลิวไสวอยู่ในมือ
ชายหนุ่มจะไม่สับสนได้อย่างไร...เขาคือเพื่อนที่สนิทกับเจสเปอร์มากที่สุด รู้เรื่องของเจสเปอร์ดีกว่าใคร การเงินของเพื่อนคนนี้จัดว่าย่ำแย่เอามากๆ แต่ในเมื่อเจสเปอร์รับปากกับเขาแล้วอามมี่จึงได้แต่ยอมตกลงตามน้ำไป ก่อนที่อามมี่จะลุกเดินไปทิศตรงข้ามกับเจสเปอร์ โดยมีจุดหมายอยู่ที่โรงยิมของมหาลัย ซึ่งนั่นเป็นที่ๆเขาต้องเข้าเรียน
อามมี่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 อายุ 21 ปี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา เอกศิลปะการป้องกันตัว อามมี่ชื่นชอบการต่อยมวยแบบผสมผสาน(MMA) แต่ถึงกระนั้นก็เถอะถ้าให้รับมือกับผู้ชาย 4-5คน อามมี่ก็โกยหน้าตั้งเหมือนกัน
………………………………………………………..
“หมอนั่นมาละ ใส่หมวก ใส่ผ้าปิดปากคนนั้นไง คิดว่าตัวเองเป็นดาราแล้วละสิถึงแต่งตัวแบบนั้น”
กลุ่มผู้ชาย 3 คนมองตรงมาที่เจสเปอร์ เขาเดินผ่านคนกลุ่มนั้นไม่ได้สนใจอะไร เพราะเคยเห็นสายตาแบบนั้นมาจนชิน
“เอาอย่างนี้...พวกเราตามมันเข้าไปตอนนี้อาจารย์ก็ยังไม่มา คนอื่นในห้องก็ไม่ค่อยเยอะ พวกเราน่าจะจัดการมันได้”
เจสเปอร์เหมือนจะรู้ตัวว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นกับตน...ใช่สิเขารู้ตัวอยู่แล้วเพราะในอดีตเขาจำเหตุการณ์นี้ได้แม่นยำ วันนี้เมื่อครั้งก่อน เขาได้ถูกพวกมันทั้ง 3 คน รุมทำร้ายและโดนพวกมันขโมยเงินไปจนเกือบหมดตัว แต่ครั้งนี้ชายหนุ่มจะไม่ปล่อยให้พวกมันทำอะไรได้ง่ายๆอีก
เจสเปอร์ยังไม่ตรงเข้าไปที่ห้อง เขายืนอยู่ตรงระเบียง ถอดหมวก ถอดผ้าปิดปากออก ก็ตามผลลัพธ์ผู้หญิงที่เห็นหลายคนเริ่มตรงเข้ามารุมล้อมเขามากกว่า 10คน เจสเปอร์ไม่ปฏิเสธพวกที่มารุมล้อมเลย แถมยังส่งยิ้มกลับไปให้สาวๆพวกนั่นอย่างอารมณ์ดี กลุ่มชาย 3 คนนั่นก็ทำอะไรไม่ได้ แถมผู้หญิงพวกนี้ถึงจะตามกริ้ดผู้ชาย แต่ฤทธิ์เดชของพวกเธอน่ากลัวอย่าบอกใคร
พลังการด่าสูงส่งจนแทบมุดแผนดินหนี...หากคุณไม่ได้มีใบหน้าที่หนาพอจะทนทานต่อคำด่านานาชนิดแล้วละก็...ขอแนะนำว่าทางที่ดีอย่าได้ไปมีเรื่องกับเหล่าผู้คลั่งไคล้พวกนี้จะดีกว่า
‘ใครจะบ้าไปมีเรื่องกับพวกผู้หญิงพวกนี้กัน!’
ยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นไส้ ชายเหล่านั่นจึงทำได้แต่ ด่าเจสเปอร์อยู่ในใจ สาเหตุก็ไม่ใช่อะไร อิจฉาในหน้าตาและรังเกียจฐานะทางการเงิน
เจสเปอร์เลือกที่นั่งตรงกลางห้อง มีคนมานั่งรอบข้างมากมาย แต่เขาก็มีสมาธิและจดจ่อในเนื้อหาการสอนของอาจารย์ได้จนจบคาบ แต่จะให้จากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็กระไรอยู่…หากไม่ตอบโต้กลับไปบ้าง สุดท้ายก็เป็นเหยื่อให้คนอื่นมาเคี้ยวเล่นอยู่ดี การทำดีกับใครสักคนก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายคู่ควรกับสิ่งนั้นหรือป่าว?
เจสเปอร์ยังนั่งอยู่ที่เดิมในขณะนี้นักศึกษาคนอื่นเดินออกไปแล้ว แต่ภายในห้องก็ยังมีคนหลงเหลืออยู่ เขาเดินไปทางชาย 3คนที่จ้องจะหาเรื่องตอนก่อนเข้าเรียน
“ฉันได้มันมาแล้ว เบอร์ของผู้หญิงที่ชื่อ แคทารีน ปี3 คณะเอกการแสดง ที่นายให้ฉันไปขอมาเมื่อวานนะ?!” เจสเปอร์พูดกับชายคนที่นั่งอยู่ทางริมซ้าย ที่ชื่อว่า อดัม
ในอดีตแก๊งนี้เคยแตกเพราะเรื่องผู้หญิงที่ชื่อแคททารีน คนที่ชื่ออดัมตามจีบแคททารีน แต่ใครจะไปรู้ บิลลี่ ที่อยู่ในแก๊งก็กำลังแอบคบกับผู้หญิงคนนี้เช่นกัน เพียงแต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เจสเปอร์เพียงแค่เร่งมันให้เกิดขึ้นไวกว่าเดิมก็เท่านั้น
“แกพูดเรื่องอะไร แล้วแกรู้เรื่องนี้ได้ยังไงเจสเปอร์” อดัมตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด บิลลี่เองก็เช่นกัน อดัมลุกขึ้นเพื่อจะจับคอเสื้อเจสเปอร์
เขาไม่ได้หลบจากการจับของอดัม เจสเปอร์แค่ผลักโต๊ะเลคเชอร์ที่ตั้งไว้ให้ตกลงมาปิดทางออกระหว่างเขากับอดัม เมื่ออดัมกำลังจะยกโต๊ะที่บังอยู่ออก หมัดดุ้นๆก็ตรงเข้าที่ใบหน้า หมัดนี้ไม่ได้มาจากใครที่ไหน มันมาจากบิลลี่สมาชิกในแก๊งของเขานั้นเอง
ผลลัพธ์ก็เป็นดังที่คาดไว้ ปลุกกระแสลมนิดหน่อย ยังไงไฟก็คือไฟ มีแรงลมเข้าปะทะ สุดท้ายก็ลุกกระพือ เขาไม่ได้สนใจเรื่องสนุกตรงหน้าอีกต่อไป เพียงแค่ยิ้มให้กับผู้หญิงในห้อง แล้วเดินจากไป เป็นปีศาจที่ลอยนวลโดยสิ้นเชิง
.......................................
ขณะนี้เวลา บ่าย 2 โมง ไม่มีคาบเรียนแล้วในวันนี้ เรื่องสนุกก็ผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังอีกนานกว่าจะถึงเวลานัดกับอามมี่ เขาซื้ออาหารกลางวันที่โรงอาหารมานั่งกินเงียบๆมีเรื่องต้องวางแผนที่จะทำอยู่มากมายภายในหัว
‘พรุ่งนี้ เกม The Era Online กำลังจะเปิดฉันรู้มาว่ามีคนรอเล่นเกมนี้กันทั่วโลกเลย’
‘แหงสิ...ฉันกับพี่ชาย ได้จองที่ในร้านอินเตอร์เน็ตสำหรับวันพรุ่งนี้ยาวถึง 10 วันเลยละ!’
‘ตอนนี้ร้านอินเตอร์เน็ตจองยากชะมัด นายกับพี่ชายนี้โคตรโชคดีเลยที่จองได้ ว่าแต่ช่วยจองให้ฉันได้ไหม ถ้าจองได้ฉันเลี้ยงข้าวทุกวันเลย ฮ่าฮ่า’
‘หึ ก็แค่จองได้ 10 วันทำเป็นคุยโม้ ฉันซื้อหมวกรุ่นเริ่มต้นมาแล้วจะบอกให้’
‘ซื้อหมวกมาแล้ว!! นายนี้รวยมากจริงๆฉันรู้มาว่ารุ่นเริ่มต้นของหมวกรุ่นนี้ก็ราคาสูงถึง 3500 เครดิตแล้ว กว่าจะเก็บเงินได้ถึง คงต้องไปรับงานพาร์ทไทม์อีกหลายเดือนแน่ๆ’
เจสเปอร์ได้ยินบทสนทนาเรื่องเกม The Era Online อยู่ทุกที่ในมหาลัย มีคนอวดตัวเป็นผู้รู้อยู่เยอะมาก แถมบางคนยังโม้หนักว่าเป็นผู้เล่น Beta(ผู้เล่นกลุ่มแรกที่ได้เข้าเล่นในช่วงทดลอง) ซึ่งความจริงแล้วกลุ่มที่ได้รับสิทธิให้เข้าร่วมการทดสอบมีจำนวนที่น้อยมากๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้เล่นชั้นนำหรือกิลด์ชั้นนำเสียมากกว่า
The Era Online ไม่ต้องการการทดสอบหรือการทดลองเล่นจากมนุษย์ แค่ปัญญาประดิษฐ์ที่ควบคุมโลก The Era เอาไว้ก็ครอบคลุมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะทั้งหมดได้ละเอียดกว่าผู้เล่นมาทดสอบซะอีก
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy