คาถาส่งท้าย
ชีวิตของคนเรามีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ
เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อยู่ข้างเราเขาจะอยู่ข้างเราได้นานแค่ไหน สิ่งที่เราทำได้ก็คือเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมันและอยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขที่สุด
ผมพูดได้เต็มปากแบบไม่อายเลยว่าผมร้องไห้มาสามวันติดแล้วหลังจากที่ไอ้แมทได้จากไป พวกเราทุกคนต่างเสียใจมากในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผมที่สนิทกับมันมากกว่าคนอื่น ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเสียสละตัวเองได้มากมายถึงขนาดนี้
มากถึงขนาดตายแทนกันได้ ...
ร่างของไอ้แมทถูกพี่ยูตะและพี่พิมพ์เอาไปฝังเก็บไว้อย่างดีเพื่อไม่ให้มีใครนำพลังนั้นออกมาจากร่างมันได้อีกตามจดหมายที่มันเขียนทิ้งเอาไว้ในคอนโด ผมคิดว่าสงครามระหว่างแม่มดขาวและแม่มดดำคงจบสิ้นแต่เพียงเท่านี้ เพราะทายาทคนสุดท้ายของตระกูลแม่มดขาวก็ได้จากไปแล้ว รวมถึงแม่มดดำก็ถูกพี่ยูตะฆ่าตายไปแล้วด้วย สองสามวันต่อมาข่าวการพบศพเกือบร้อยศพภายในโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองก็ดังไปทั่วโลก ว่ามีลัทธิหนึ่งที่ทำการบูชายัญตนเองด้วยการฆ่าตัวตายหมู่ ไม่มีใครรู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นอกจากพวกเรา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเตียงที่หอใน มือของผมหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือขึ้นมาอ่าน มันเป็นจดหมายที่ไอ้แมทเขียนทิ้งไว้ล่วงหน้าก่อนมันจะจากไป เนื้อหาในจดหมายที่ผมอ่าน ยิ่งทำให้ผมอดคิดถึงมันขึ้นมาไม่ได้ ผมหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านทวนซ้ำเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
ถึงทุกคน
ถ้าพวกมึงเห็นจดหมายฉบับนี้ กูคงได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว
ไง กูขึ้นต้นประโยคได้ดีใช่ไหม ... ไม่ซีเรียสกันนะ ยิ้มมมมมมมมมม
พวกมึงคงอยากรู้ว่าทำไมกูถึงทำแบบนี้ อย่างแรกเลย กูอยากขอโทษไอ้ชา ขอโทษที่ทำให้มึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องพวกนี้ ทุกอย่างเป็นเพราะแม่กู มึงมันก็แค่คนที่ซวยได้รับหนังสือนั่นไปเพื่อเป็นภาชนะให้กูฆ่า บอกตามตรงว่ากูเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เร็ว ๆ นี้เอง กูเครียดมาก กูไม่รู้จะทำยังไง จะให้กูฆ่ามึง กูก็ทำไม่ได้ มึงเป็นว่าที่พี่ภรรยากูนี่เนอะ 5555
ที่กูเคยถามมึงว่าถ้ากูทำผิดกับมึงมาก ๆ มึงจะทำยังไง กูคิดว่าเรื่องนี้กูทำผิดกับมึง กูรู้ว่ามึงต้องโกรธกูแน่ ๆ ที่เลือกทำแบบนี้ แต่มันไม่มีทางอื่นแล้วจริง ๆ ว่ะเพื่อน กูหวังว่ามึงจะหายโกรธกูเร็ว ๆ นะ
ไอ้คีย์ มึงเป็นเพื่อนที่กูรู้สึกว่าเหมือนพ่อกูเข้าไปทุกวัน มึงดูแลใส่ใจ คอยช่วยเหลือทุกคนเป็นอย่างดี คอยห้ามเวลาพวกกูกัดกัน คอยรับฟังปัญหาทุกอย่าง กูดีใจนะที่มีเพื่อนดี ๆ อย่างมึง หัดยิ้มบ่อย ๆ นะ ไม่ใช่แค่เจอหน้าพี่ฟองแล้วยิ้ม กับพวกกูก็หัดยิ้มให้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำหน้านิ่ง เก๊กหล่อ 5555
ส่วนไอ้อิฐ ตอนแรกกูคิดว่ามึงต้องหมั่นไส้และเหม็นขี้หน้ากูมากแน่ ๆ ที่ไปแย่งกี้มาจากมึง แถมยังมาเข้ากลุ่มเพื่อนของมึงอีกต่างหาก แต่มึงกลับไม่โกรธกูสักนิดเลย ยกเว้นตอนลิเวียธานเข้าสิงนะ 5555 มึงเล่นเกมชนะกูตลอด แต่กูขอเฉลยไว้ตรงนี้เลยว่ากูแกล้งอ่อนให้มึง 5555 เรื่องกี้ ตอนนี้กูคงไม่ได้อยู่ดูแลน้องเขาแล้ว กูไม่โกรธนะ ถ้ามึงอยากจะกลับไปจีบกี้อีกครั้ง เออ ... กูลืม มึงต้องไปขออนุญาตไอ้พี่ขี้หวงน้องก่อนด้วยนี่หว่า ...
พี่ยูตะ พี่พิมพ์ ผมฝากร่างผมให้พวกพี่ไปฝังด้วยนะครับ ร่างผมจะไม่มีวันเน่าเปื่อยเพราะมีพลังนั้นสิงสถิตอยู่ ขอบคุณที่คอยอยู่ช่วยพวกเราจนถึงวินาทีสุดท้ายนะครับ ผมไม่รู้ว่าแผนการที่ผมได้วางไว้มันจะสำเร็จไว้ตามเป้าหมายหรือเปล่า แต่ถ้ามันสำเร็จก็ทำตามนี้ครับ
สุดท้าย ขอบคุณระยะเวลาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ขอบคุณเรื่องร้าย ๆ ที่ทำให้กูได้มาพบเพื่อนดี ๆ อย่างพวกมึง กูไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกทำแบบนี้
รักพวกมึงทุกคนนะ
แมทธิว J
ลายมือหวัด ๆ บนกระดาษที่ผมอ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ ผมยิ้มให้กับกระดาษแผ่นนั้น ตอนนี้ผมก็พอทำใจได้แล้วว่ามันจากไป แต่ก็อดใจหายคิดถึงมันไม่ได้อยู่ดี
“พรุ่งนี้วันหยุดยาว ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันไหม กูเจอโปรเครื่องบินถูก ๆ ด้วย” เสียงดังมาจากไอ้อิฐที่กำลังนั่งเล่นแล็ปท็อปยู่บนเตียง
“มึงว่าไงไอ้ชา ไปไหม สักสองวัน คลายเครียด ไหน ๆ ก็ผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปแล้ว” ไอ้คีย์พูดเสริม
“ก็ดีนะ ไปก็ไป” ผมตอบพวกมันกลับไป
ดีเหมือนกัน ไปเที่ยวเล่นพักผ่อนกันสักที ผมคิดเล่น ๆ ว่าถ้ามีไอ้แมทไปเที่ยวกับพวกเราสักครั้งมันก็คงจะดีไม่น้อย ผมจำได้ว่าต้นปีที่ผ่านมาพวกเราไปเที่ยวเชียงรายด้วยกัน มันเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีมากเลย ถ้ามีโอกาสไปกับเพื่อน กับคนที่เรารัก
“กูไปด้วยได้เปล่า” เสียงทุ้มห้าวเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ผมไม่มั่นใจว่าผมหูฝาดไปหรือเปล่า ... แต่เมื่อกี้ ผมได้ยินเสียงไอ้แมท
“ไอ้คีย์ มึงได้ยินเหมือนที่กูได้ยินไหม” ผมร้องถามไอ้คีย์ หันมองซ้ายมองขวาไปรอบห้องด้วยความดีใจ ไอ้คีย์เองก็รีบลุกขึ้นยืนหันมาหาผม มันมองไปรอบ ๆ ก่อนหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง มันยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนหันมาพูดกับผม
“มึงได้ยินไม่ผิดหรอก ไอ้แมทมันมาหาพวกเรา” ไอ้คีย์พูด
“จริงเหรอวะ ทำให้พวกกูมองเห็นมันเร็วไอ้คีย์” ไอ้อิฐพูดเร่ง ไอ้คีย์เลยเอามือมันมาแตะที่เปลือกตาของพวกเราทั้งสองคน ซึ่งจะทำให้พวกเรามองเห็นวิญญาณได้
ร่างโปร่งแสงของแมทธิวปรากฏขึ้นหลังจากที่ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มันส่งยิ้มกว้างให้กับพวกเรา ก่อนเดินมานั่งที่เตียงของผม
“ได้ข่าวว่ามีคนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่สามวันสองคืนพอกูตายไป” ไอ้แมทพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
นั่นไง ... มาถึงก็กวนด้วยการล้อผมเลย
“มึงไม่ต้องกวนตีนกูเลยไอ้แมท มึงเป็นไงบ้าง” ผมถามมันกลับด้วยความเป็นห่วง
“กูสบายดี หลังจากวันนั้นรู้ตัวอีกทีกูก็ได้ไปเจอกับแม่ ได้ไปโผล่ที่หลุมศพพ่อที่อเมริกา เสร็จแล้วก็มาโผล่ที่นี่เลย สงสัยไอ้คีย์คงเป็นยมทูตที่ต้องส่งกูไปนรกเพื่อพิพากษาล่ะมั้ง แต่ก่อนกูไป กูมีเวลา 13 วันตามกฎใช่ไหม กูขอไปเที่ยวกับพวกมึงก่อนละกัน” ไอ้แมทพูดพร้อมกับหันไปหาไอ้คีย์ในตอนท้าย
“ได้ดิวะ อยู่จนครบ 13 วัน แล้วมึงค่อยไปก็ได้” ไอ้คีย์พูด
“เรื่องที่มึงบอกว่ามึงแกล้งอ่อนให้กูตอนเล่นเกมนี่มึงโม้เปล่าวะ” ไอ้อิฐพูดขึ้นมาบ้าง
“ไม่ได้โม้ กูอ่อนให้มึง ไม่งั้นกูชนะทุกตาอะ”
“ถ้ามึงไม่ใช่วิญญาณนะ กูจะท้าแข่งซะเดี๋ยวนี้ให้รู้ผลไปเลย แล้วถ้าแพ้กูจะโบกหัวให้คว่ำ”
“เหรอ เดี๋ยวคืนนี้กูจะหลอกผีให้มึงไม่ต้องหลับต้องนอนเลย”
“ไหน ๆ ยืดหัว ยืดแขน โชว์ให้กูดูสกิลผีมึงหน่อย”
ผมกับไอ้คีย์หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ไอ้อิฐนี่เก่งได้แม้กระทั่งกับผีจริง ๆ ผมอยากให้พวกเรามีเวลาแบบนี้อยู่ด้วยกันตลอดไปเลย แต่ความเป็นจริงมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขตของมัน แต่อย่างน้อย ๆ พวกผมก็มีเวลาอยู่กับไอ้แมทต่ออีกสักนิด ให้มันได้สร้างความทรงจำดี ๆ ไว้กับพวกเรา
ผมจะไม่มีวันลืมเลย ...
ว่าครั้งหนึ่งผมมีเพื่อนที่ชื่อว่า แมทธิว ...
สนามบิน
ในที่สุดพวกเราก็ฝ่าการจราจรที่แสนติดขัดในเมืองหลวงมาถึงสนามบินจนได้ การไปเที่ยวในครั้งนี้ประกอบไปด้วยคนทั้งหมด 6 คนคือ ผม ไอ้คีย์ ไอ้อิฐ พี่ฟอง ใยไหม สุกี้ และอีกหนึ่งวิญญาณคือแมทธิว ผมหันไปมองน้องสาวตัวเองแล้วก็ยังอดสงสารไม่ได้ ตานี่บวมเชียว ดูท่าจะร้องไห้หนักกว่าผมน่าดู แต่ก็ยังดีที่มีไอ้แมทกับไอ้อิฐคอยปลอบใจอยู่ น้องสาวผมนี่มันเสน่ห์แรงจริง ๆ มีผู้ชายประกบข้างทั้งคนทั้งผี
“เอาน่ากี้ พี่มีเวลาอยู่กับกี้อีกตั้งหลายวัน อย่าคิดมากซิ” ไอ้แมทพูดพร้อมกับเอามือโปร่งแสงของมันลูบหัวน้องสาวผมเบา ๆ
“กี้ไม่ต้องคิดมากหรอก ผู้ชายมีเยอะแยะดั่งฝูงลิง ถึงไม่มีไอ้แมทก็ยังมีพี่ มีอีกหลายคนให้กี้เลือก” ไอ้อิฐพูดขำ ๆ ปลอบใจน้อง
“อ้าวไอ้อิฐ พูดงี้ก็หล่อดิวะ”
“กูก็หล่ออยู่แล้วปะ หรือมึงจะเถียง”
“โอย เฮียสองคนไปเล่นตลกกันไหม กี้ปรับอารมณ์ไม่ทันแล้วเนี่ย ไม่รู้จะเศร้าหรือจะขำดี ทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้” กี้พูดขึ้นมา ดูเจ้าตัวจะยิ้มขึ้นมาได้นิดหนึ่ง
“ถึงพี่จะไม่ได้เป็นคนแล้ว แต่พี่ก็รักกี้มากนะครับ” พูดจบผีแมทธิวก็บิดนิ้วท่ามินิฮาร์ทส่งให้น้องสาวผม ตั้งแต่มันกลายเป็นผีนี่มันหยอดมุกจีบข้ามหน้าข้ามตาผมมาก แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมรู้ดีว่ามันเหลือเวลาไม่มากแล้ว ให้มันมีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถอะ
“ไรวะอิฐ แค่นี้มึงต้องแอบมองแรงใส่กูด้วยเหรอ” ไอ้แมทหันไปพูดใส่ไอ้อิฐที่แอบทำท่าล้อเลียนมัน
“กี้ไปหลงไอ้นี่ได้ไง พี่นี่ไม่เข้าใจเลย มุกจีบสาวมันแต่ละมุกนี่พอ ๆ กับไอ้คีย์เลยนะ”
ว่าแล้วบุคคลที่สามก็กระแอมขึ้นมาเสียงดัง พี่ฟองที่เดินมาข้าง ๆ ไอ้คีย์ถึงกับหัวเราะขำ สงสัยเจอมาเยอะ โดนมาเยอะกับอะไรแบบนี้
“เฮ้ย ! ไอ้อิฐระวัง” ไอ้แมทพูด แต่เหมือนจะไม่ทัน
ด้วยความที่มัวแต่คุยกันเพลิน ไอ้อิฐเลยเดินไปชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาดีเลยทีเดียว แต่เหมือนจะเดินมากับแฟนหนุ่มของตัวเอง กระเป๋าเดินทางของทั้งคู่ร่วงลงไปกองกับพื้นพร้อมกับร่างของผู้หญิงคนนั้น ไอ้อิฐเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วยประคอง แต่แฟนหนุ่มของผู้หญิงคนนั้นช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นมาก่อน
หญิงสาวเงยหน้ามองหน้าของไอ้อิฐ ดูอึ้งไปสักพักเหมือนเจอคนรู้จัก ก่อนจะชักสีหน้าใส่
“ขอโทษทีครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ไอ้อิฐรีบพูดขอโทษขอโพยผู้หญิงคนนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
พูดจบเธอก็ดึงแขนแฟนหนุ่มของตัวเองพร้อมกับกระเป๋าเดินทางจากไป ผมได้ยินน้ำเสียงนั้นแล้วถึงกับงง ไอ้อิฐก็คงจะไม่ต่างกัน เสียงผู้หญิงคนนั้นแข็งมาก ราวกับโกรธไอ้อิฐมาจากชาติปางก่อน
“เอ้าเฮ้ย ขอโทษก็แล้ว ทำไมต้องดึงหน้าใส่แบบนั้นวะ ทำอย่างกับกูไปอ้วกทิ้งไว้ที่หน้าบ้านเขาอย่างงั้นแหละ แต่เอ๊ะ กูว่าน่าคุ้น ๆ” ไอ้อิฐพูดขึ้นมาแบบไม่เข้าใจ
“กูก็ว่ากูคุ้นหน้าผู้หญิงคนเมื่อกี้นะ” ไอ้คีย์พูดขึ้นมา
“คนรู้จักเหรอคีย์” ใยไหมที่ยืนข้างผมถามไอ้คีย์
“ไม่แน่ใจว่ะไหม ขอนึกแป๊บ เฮ้ย ! กูนึกออกแล้ว มึงไม่ได้ไปอ้วกไว้ที่หน้าบ้านเขาหรอกไอ้อิฐ มึงอ้วกทิ้งไว้บนรถเขา”
“ฮะ !”
To be continued …
I am the soul