บทนำ
บทนำ
ก่อนออกรบในครั้งนี้ เขาคิดว่าเป็นเพราะได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากองค์ฮ่องเต้ เขาคือองค์ชายเฟยเทียน คือองค์รัชทายาท แต่ไม่คิดเลยว่าการสู้รบยาวนานนับเดือนเช่นนี้ ซากศพที่กองสูงเป็นภูเขาซากมนุษย์ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในอากาศผสานกับเสียงร่ำไห้และเสียงสาปแช่ง เพราะเหตุใดกันเขาเพียงแค่ต้องการรวบรวมแผ่นดินมังกรให้เป็นแผ่นดินเดียว
การศึกที่ยืดเยื้อความสูญเสียมีมากขึ้น ไม่มีกองหนุนมาช่วย คล้ายปล่อยให้เขาตายในสนามรบ!
องค์ชายเฟยเทียนแม้เพียงสิบเจ็ดชันษา ทว่าในมือนั้นถือกระบี่อาบโลหิต ดวงตายังจับจ้องเบื้องหน้า ทหารของเขาสู้สุดใจ คนเหล่านี้ต่างหากที่เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็น ‘ครอบครัว’ เหนื่อยล้าจนมือที่จับกระบี่แทบยกไม่ขึ้น ทั้งเหงื่อและเลือดไหลรวมกัน ท้องฟ้าขมุกขมัวเหลือเกิน
นี่คือวันแห่งความตายของเขาเช่นนั้นรึ?
ไฉนฮ่องเต้ไม่ส่งกองหนุมมาช่วย หากเพียงต้องการกำจัดเขา ผู้ซึ่งเกิดจากฮองเฮาที่พระองค์มิรักใคร่ ไยต้องส่งเขามาสนามรบเช่นนี้ หรือเพื่อให้เขาตายอย่างสมเกียรติ
เสียงหัวเราะดังกึกก้องเย้ยหยัน ณ เวลานี้ความตายมิได้น่ากลัว หากแต่การที่องค์ฮ่องเต้ประสงค์จะให้เขาตาย แต่ต้องนำผู้อื่นมาตายด้วยเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ? คนเหล่านี้ล้วนมีครอบครัว มีคนที่เฝ้ารอพวกเขากลับไป ผิดกับเขาที่ไม่มีผู้ใดต้องการแม้แต่จะเห็นศพด้วยซ้ำ! หากเพียงเขาแข็งแกร่งเข้มแข็งเพื่อยืดหยัดได้นานกว่านี้ ให้ทหารของเขาได้ล่าถอยหลบหนีได้ทัน คงเป็นการดีไม่น้อย
พลันลมพายุหมุน ท้องฟ้าที่มึนครึมเปิดออกด้วยแสงจากฟากฟ้า กองเพลิงเบื้องหน้าหมุนเป็นเกลียวตามกระแสลมบังเกิดเป็นรูปร่างมังกรขนาดใหญ่ต่อหน้าองค์ชายเฟยเทียน ในเวลานี้เขากลับยืนมองด้วยความสงบ ไม่มีท่าหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกแต่อย่างใด
ดวงตาที่จ้องมองเป็นลูกไฟร้อนแรง ส่งเสียงคำราม ปลายหางสะบัดไปมาก่อนฟาดลงพื้นเกิดรอยแยกบนแผ่นดิน เสียงคนหวีดร้องโหยหวน แต่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่ง หรี่ตามองไร้ความขลาดกลัว
“เจ้าจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา แต่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน”
“ข้ายินดี”
เสียงหัวเราะคำรามของปีศาจมังกรเพลิงดังกึกก้อง
“เจ้าจะมิถามรึว่าสิ่งใดที่เจ้าต้องเสียไป”
“หากได้ในสิ่งที่ข้าต้องการ ข้ายินดียิ่ง!”
“ดี! เจ้าจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา”
องค์ชายเฟยเทียนรับข้อเสนอ ไม่สนใจว่าตนเองจะเป็นเช่นไร หากเวลานี้เขามีชัยชนะ ทำให้พลทหารที่เป็นเสมือนครอบครัวแท้จริงของเขาได้กลับบ้าน แม้เขาเหลือสิ่งใดเลยก็ตาม
เสียงคำรามของมังกรเพลิงดังกึกก้อง ร่างมังกรเพลิงโผขึ้นท้องฟ้า พ่นไฟใส่ฝ่ายศัตรูขององค์ชายเฟยเทียน เพียงพริบตาเบื้องหน้าปรากฎทะเลเพลิง ทหารฝ่ายตรงข้ามตัวติดไฟวิ่งหนีกันอลหม่าน กลิ่นเนื้อไหม้คละคลุ้งในอากาศ องค์รัชทายาทไม่กะพริบตา จ้องมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า มุมปากยกยิ้ม
ปีศาจมังกรเพลิงร่อนไปมาเหนือซากศพแล้วมาหยุดที่เบื้องหน้าองค์ชายเฟยหยาง มันผงกศีรษะแหงนหน้าบินขึ้นฟ้าก่อนพุ่งดิ่งลงมาสู่ร่างของบุรุษหนุ่มทันที เสียงฟ้าผ่าสนั่นหวั่นไหว แสงเพลิงนั้นห่อหุ้มร่างของบุรุษหนุ่มเพียงพริบตาแล้วหายไป เหลือเพียงบุรุษผู้หนึ่งที่ยืนสงบนิ่ง เสื้อคล้ายถูกฉีกขาดจนเปิดเปลือยเรือนร่างท่อนบน ปรากฏรูปมังกรสีแดงเพลิงตวัดเกี่ยวท่อนแขนซ้าย ส่วนศีรษะของมังกรอยู่บนหัวไหล่และปลายหางตวัดรัดรอบข้อมือ
นิ่งนานเหมือนชั่วกัปกัลป์ องค์ชายเฟยเทียนยกมือข้างซ้ายขึ้นดู ปรากฏเห็นกรงเล็บยาวงอกออกมา มือซ้ายราวกับไม่ใช่มือของมนุษย์แต่กระนั้นก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้เจ้าของท่อนแขน ราวกับยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อจิตยอมรับ เล็บยาวนั้นก็กลับหดสั้นเข้าเป็นปกติ เว้นเสียแต่รูปมังกรเพลิงสีแดงบนท่อนแขนซ้ายของเขา
เพียงท้องฟ้าเปิดออก เมฆทมิฬเคลื่อนผ่านไป ยังมีกองเพลิงอยู่เบื้องหน้า แต่มีเสียงโห่ร้องดีใจที่ได้รับชัยชนะดังก้องสนามรบ
ว่ากันว่ามังกรเป็นสัตว์ของเทพปกป้องชนชั้นเทพ ทว่ามีมังกรบางตนทีมิอาจละกิเลศตัณหา ถูกขับลงจากสวรรค์กลายเป็นมารมิใช่เทพ มังกรเพลิงตนนี้ก็เช่นกัน มันเสพสุขกับการล่าและสังหารชีวิตอย่างไร้เหตุผล ไม่ละอายต่อความผิดบาปที่ตนกระทำ แม้สวรรค์ขับลงมาเพื่อให้มันได้สำนึกผิด ทว่ามันกลับเคียดแค้นชิงชังสรรค์ หลายร้อยปีผ่านมาไม่อาจตระหนักถึงความผิดของตนเอง จากเทพจึงกลายเป็นมารปีศาจ เมื่อพบเจอผู้มีจิตเรียกร้องหาปีศาจ มันจึงปรากฏกายและขอแลกเปลี่ยนในสิ่งที่อีกฝ่ายปรารถนา โดยการสิงสถิตที่ท่อนแขนเพื่อหลบเลี่ยงการตามล่าของเทพสรรค์
บัดนี้องค์ชายเฟยเทียน กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกร การรบอย่างโหดเหี้ยม ผู้คนหวาดกลัวไม่กล้าแม้จะเอ่ยชื่อ แม้ทำไปเพื่อแผ่นดิน แต่เพราะความเหี้ยมโหดนี้จึงถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาท แม้องค์ฮ่องเต้ปรารถนากำจัดลูกคนนี้เพียงใด แต่ทรงทราบดีว่า หากไร้ชายผู้นี้แล้ว คงมิมีผู้ใดนำทัพทหารได้ยิ่งใหญ่เท่านี้อีกแล้ว.