ตอนที่ 17 : รับความโกรธอันดุเดือดของคุณหนูสี่
Power Up Artist Yang!
ยูเจี๋ยจ้องเขม็งไปที่ชายสามคนในตรอก แสงแดดจากบนท้องฟ้าพาดผ่านท่ามกลางเงาของกำแพง แต่แสงแดดจ้าที่หลุดรอดผ่านหน้านั้นไม่สามารถปิดบังแววตาของเธอซึ่งเปล่งประกายความโกรธได้
ไม่น่าแปลกใจที่ขโมยทำงานเร็วขนาดนี้! เขาจะต้องมีผู้สมคบคิด โดยให้หนึ่งในนั้นเบี่ยงเบนความสนใจของเธอโดยการคว้ากระเป๋าเหรียญของเธอในขณะที่อีกคนหนึ่งคว้าถุงในมือเธอแน่ สามคนนี้....เธอคาดคิดว่าหนึ่งในชายสามคนนี้วางแผนที่จะพบกันในตรอกนี้เพื่อขโมยของได้แล้ว
เธอมองไปที่ทั้งสามคน สังเกตว่าคอเสื้อที่เธอกำดึงไว้เขาดูแข็งแรงที่สุด ในขณะที่คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของตรอก อีกคนอยู่ในเงามืดดูเหมือนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเข้มเรียบง่าย
คนที่เหลือ ผู้ชาย – หรือเด็กชาย ตัดสินโดยความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ดูแก่กว่าคนรอบ – เป็นคนที่เธอเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ แต่งตัวอย่างหรูหราเมื่อเปรียบเทียบกับสองคนที่เหลือ เด็กชายสวมเสื้อคลุมสีอ่อนและเสื้อคลุมสีไวน์แดงเต็มไปด้วยขนที่พาดบนไหล่ของเขาเพื่อให้ความอบอุ่นจากอากาศในต้นฤดูใบไม้ผลิ หูของเขาเจาะฝังด้วยทองคำเล็กๆในแต่ละรู ด้ายที่เรียงรายอยู่ตามขอบเสื้อคลุมก็เป็นทองคนเช่นกัน
อืม ด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหราของเขา เขาต้องเป็นคนที่รับผิดชอบทุกอย่าง
เมื่อสายตาที่จ้องเขม็งของเธอเปลี่ยนไปเพ่งมองที่เขา นางก็ประกาศว่า “ข้าไม่รู้ว่าขโมยมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย”
เขามองที่เธอ ริมฝีปากของเขาแยกจากกันอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย? เขานี่นะ? เขาเป็นถึง ฟุยี่วชางเป็นที่หนึ่งในจักรวรรดิ์ และเพียงคนเดียว –
ยี่วชางตัดสินใจว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเขาจะยกตัวเองเหนือกว่าและแสดงสถานะอันยิ่งใหญ่ ตรงกันข้าม เขากลับยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ให้กับหญิงสาว “คุณหนู ข้าคิดว่าท่านสับสนระหว่างคนอย่างเขา” เขาแสดงท่าทางกับขโมยที่อยู่ข้างหลังนาง “กับข้า เจ้าเห็นว่าอยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย ความจริงแล้วข้าเป็นคนที่จับเขา เขาเป็นคนที่ขโมยของเหล่านี้ – โอ้ เป็นของแม่นางเองรึ? – และข้าแค่เผชิญหน้ากับเขาเท่านั้น ตอนนี้ข้าพร้อมที่จะจับส่งเขาให้กับเจ้าหน้าที่เช่นกัน”
กรามของขโมยลดลงขณะที่เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เชื่อ ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเขากำลังทำสิ่งที่ดีโดยการปล่อยให้จากไป แต่ตอนนี้มีสาวสวยปรากฏขึ้นความคิดของชายคนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ในขณะเดียวกันยูเจี๋ยก็ปราดมองชายที่ดูรวยอย่างรวดเร็ว “อย่าแม้แต่จะโกหกข้า ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ข้ายังเห็นเจ้าปล่อยให้ขโมยไปหลังจากที่ขโมยของฉัน” เธอเน้นเสียงของเธอที่คำว่า “ฉัน” จากนั้นหยุดครู่หนึ่ง “ฉันจ่ายเงินอันมีค่าของฉันและซื้อของ ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงทำเช่นนั้น?”
พระเจ้า คนและคำแก้ตัวของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถคิดถึงสิ่งที่ดีกว่านี้ได้แล้วหรือ?
เธอสังเกตเห็นว่าเด็กชายสะดุ้งเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหดลงและเขาก็หันหน้าซีดไปหาชายอีกคนที่ยืนข้างหลังเขา “ซีเฉินเดินออกมาและเป็นพยานให้ข้า ข้าเป็นคนเผชิญหน้ากับโจรใช่ไหม?”
ชายในเงามืด – หรือซีเฉิน – ก้าวออกไปด้านหน้า ตอบอย่างนิ่งๆ “ใช่ขอรับ”
ยูเจี๋ยถอนหายใจ “มันไม่เข้าท่าเท่าไหร่หรอกนะ เห็นได้ชัดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเป็นการส่วนตัว เขาจะเป็นพยานได้อย่างไร ถ้าคำให้การของเขาอาจจะเป็นและมีความลำเอียงอย่างแน่นอน?”
ซีเฉินดูสับสนเล็กน้อย ในทางกลับกันคนรวยยังคงทำหน้าบึ้งชี้ไปที่ตัวเอง “เจ้ารู้ไหว่าข้าเป็นใคร เจ้ากล้าสงสัยในคำพูดของข้าได้อย่างไร?”
“ไม่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร” ด้วยการเย้ยหยัน ยูเจี๋ยทำให้เขามองอย่างโมโห “อะไร เจ้าเป็นพระเยซูเจ้าหรืออะไร? ทำไมข้าต้องเชื่อในทุกคำที่เจ้าพูด? มันไม่เหมือนทองคำที่พุ่งออกมาจากปากของเจ้าเมื่อเจ้าพูดหรือทำอะไร”
คนผู้นี้หยิ่งยโสมากในช่วงเวลานี้....
ในขณะที่นางพูดพร่ำเพ้อความคิดหลายอย่างก็หมุนวนอยู่ในใจของยี่วชาง นางกำลังพูดถึงใคร ‘พระเยซูเจ้า’ เป็นใครในเรื่องนี้ ตลอดชีวิตของเขาผู้คนต่างพูดกับเขาด้วยความเคารพเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม แม้ว่าในขณะนี้เขาไม่ได้อยู่ในวังที่ซึ่งเขามีอำนาจเหนือกว่าทุกสิ่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะพบกับหญิงสาวที่มีทัศนคติที่ไม่สุดภาพเช่นนาง!
หญิงผู้ดีจะได้เห็นดีกันเมื่อเขากลับเข้าวัง เขาจะใช้พลังอำนาจของเขาภายใต้มงกุฎที่เขาสวม –
ความคิดของยี่วชาวนั้นถูกขัดจังหวะอีกครั้งเมื่อหญิงสาวเข้ามาใกล้ ปฏิกิริยาตอบกลับอย่างอัตโนมัติเขาก้าวถอยหลัง
“ข้าไม่เคยพบเคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นเจ้า” ยูเจี๋ยโกรธเขาอย่างมาก เธอก้าวเข้าหาเขาเขาก้าวถอย
เธอก้าวตามไปอีกครั้ง “บ่อยแค่ไหนแล้วที่เจ้าถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ยังมีหน้ามาบอกว่าเจ้าบริสุทธิ์?” เขาก้าวถอยอีกก้าว
อีกครั้งเธอก้าวเข้าหาเขา “เจ้า ท่านไม่มีมโนธรรมสำนึก ไม่ควรที่โจรจะมีความประพฤติในศีลธรรมหรือ? ตอนนี้เจ้าแค่ขโมยของจากผู้หญิงอย่างข้าในตลาด แต่ต่อไปเจ้าจะขโมยใครอีก ครอบครัวที่ตกอยู่ในความยากจน? หญิงที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเมื่อสามีเธอได้ตายจากไปแล้วอย่างนั้นรึ? เจ้าจะต่ำสิ้นหมดหนทางขนาดจะขโมยอาหารที่หายากของสุนัขจรจัดหรือไม่? ความรู้สึกสำนึกผิดของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
ขณะที่นางขยับเข้าใกล้ ยี่วชางถูกบังคับให้ต้องเดินถอยหลังหลายก้าวจนกว่าเขาจะอยู่ถัดจากซีเฉินซึ่งดูเหมือนจะงุนงงเหมือนเดิม คำพูดของผู้หญิงคนนี้มีอำนาจมากขนาดไหนที่ทำให้ทั้งคู่ต่างก็ตกตะลึงจนพวกเขาไม่สามารถนึกคำที่จะตอบโต้กลับมาได้? แม้แต่ซีเฉินองค์รักษ์ส่วนตัวของเขาที่ไม่เคยสั่นคลอนต่อความรุนแรงที่สุดจากสิ่งต่าง ๆ ในขณะนี้ยืนอยู่ข้างเขา ยี่วชางยังสังเกตเห็นใบหน้าที่ความหวาดหวั่นจากการโจมตีบนใบหน้าของเขา
องค์รักษ์ส่วนตัวของเขาประหลาดใจมากกับคำพูดของผู้หญิงคนนี้ที่ไม่ได้ทำให้เขาเป็นกังวล แม้แต่จะพยายามปกป้องนายของเขา คนที่เขาควรปกป้องจากเรื่องทั้งหมดหรือไม่?
เมื่อยี่วชางเต็มไปด้วยความโกรธต่อองค์รักษ์ของเขา ซีเฉินดูชื่นชมอย่างเงียบๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มีทักษะที่แข็งแกร่งในการทำให้เจ้านายของเขาไร้คำตอบโต้ เขาคิดอยู่เสมอว่าตั้งแต่นายหนุ่มของเขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหรูหรและคำเยินยออัตตาของเขาก็สูงเกินจริงไปเล็กน้อย ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่เขาได้รับการตำหนิจากผู้หญิงคนนี้
ดวงตาของซีเฉินสบกับหญิงสาวและนางก็จ้องกลับที่เขาเช่นกัน ไม่ต้องการให้นางโอนถ่ายความโกรธนั้นมาที่เขา เขามองนางและทำท่าทางไปที่ยี่วชาง คนที่ยืนอยู่ข้างเขาจากนั้นก็พยักหน้าให้หญิงสาว เขาหวังว่าข้อความเงียบๆของเขาจะถูกส่งไป – ‘ข้าไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ให้ไปลงที่คนนั้น เขาสมควรได้รับมัน’
แม้ว่าหญิงสาวจะเข้าใจความคิดของเขา แต่เธอก็ยังคอยจับตาดูซีเฉินตลอด “อย่างคิดว่าเจ้าสามารถออกจากเรื่องนี้ได้ง่ายๆเช่นกัน เพราะเด็กอวดรวยนั่นทำให้ฉันหงุดหงิด นายทั้งสามคนมีส่วนร่วมในความผิดอย่างเท่าเทียมกัน” เธอจ้องซีเฉินอีก หยิบอุปกรณ์งานศิลปะออกมาจากมือของเขา “พวกนายทุกคนมากับฉันเพื่อตัดสินใจศาล”
ซีเฉินมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน! เจ้านายหนุ่มของเขาแค่อยากจะปล่อยโจร แต่เขาไม่เคยพูดอะไรเลย!
ฟุยี่วชางมองเธอด้วยหน้าตาบูดบึ้ง เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! เขาไม่เคยพูดกับโจรว่ามันไม่เป็นไรที่จะขโมยจากเด็กสาวและเขาก็ไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดของขโมยด้วยเช่นกัน!
โจรมองเธอด้วยน้ำตาเกือบจะผุดขึ้นมาในดวงตาของเขา เขามีส่วนร่วมในเรื่องนี้เต็มๆ แต่เขาแค่อยากได้เงินเพิ่มเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะปั่นป่วนไปในวงกว้างทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้!
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยความหวาดกลัว ยูเจี๋ยมอบรอยยิ้มแสนหวานและชัยชนะแก่พวกเขา เธอไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างเธอจะสร้างความเสียหายด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว ดังนั้น เธอจึงต้องใช้ความคิดและใช้ประโยชน์จากความผิดในใจของพวกเขาทั้งหมด ไม่อย่างนั้น ทำไมชายทั้งสามคนที่แข็งแกร่งกว่าเธออย่างแน่นอน แม้จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยจากคำพูดของตัวเอง?
ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งมีความสนุกมากขึ้น เมื่อมองไปที่การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาในรูปแบบที่แตกต่างกัน
“พวกนายทั้งหมดคิดว่าการลงโทษสำหรับการลักทรัพย์คืออะไร?” เธอครวญครางอมยิ้มเต็มหน้าเธอ “ข้ารู้กฎหมายไม่ดีเท่าไหร่ แต่พวกเขาไม่ตัดมือของพวกคุณสำหรับการขโมยใช่ไหม? ไม่ว่ามือใดขโมยสิ่งใด... ฉับ ฉับ!”