บทที่ 10 เริ่มต้นการแข่งขันสานสัมพันธ์
บทที่ 10 เริ่มต้นการแข่งขันสานสัมพันธ์
กุนไท่เดินผ่านโต๊ะมากมายที่เรียงรายกันไว้อย่างเป็นระเบียบ มุ่งตรงไปยังโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมีลักษณะพิเศษกว่าโต๊ะอื่น มันมีผลไม้วิเศษจำนวนหนึ่งวางไว้บนโต๊ะที่หากทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้จิตใจของผู้ที่ทานจิตใจสงบขึ้น
เมื่อมองไปยังโต๊ะอื่นแล้ว มันกลับไม่มีแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งมีเพียงโต๊ะนี้โต๊ะเดียวเท่านั้น มันเป็นโต๊ะของทวีปอรุณเบิกฟ้า ที่หัวโต๊ะนั้นมีชายวัยกลางคนเรือนผมสีน้ำเงินเฉกเช่นเดียวกับอาภรณ์ ใบหน้าที่หล่อเหลาแฝงไปด้วยพลังอำนาจลึกลับ พลังปราณที่แผ่ออกมา ทำให้คนรอบข้างต่างไม่กล้าพูดคุยกันเสียงดัง เพราะกลัวจะทำให้บุรุษผู้นี้ไม่พอใจได้ คนผู้นี้คือ กุนจวิน!
“คาราวะท่านพ่อ ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย และเหล่าศิษย์พี่ทุกท่าน”
กุนไท่ประสานมือก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ
เด็กหนุ่มในวันนี้สวมใส่อาภรณ์สีดำที่ปล่อยกลิ่นอายลึกลับแผ่กระจายไปทั่วออกมา ทำให้ผู้สืบทอดของทวีปอื่นที่อยู่ระดับต่ำกว่าสร้างรากฐานถึงกลับหมดสติไปในทันที บางคนที่มีจิตใจเข้มแข็งก็สามารถยืนหยัดต่อกลิ่นอายนี้ได้ เพียงแค่รู้สึกง่วงนอนเท่านั้น พลังปราณในร่างกายหายไปราวกับถูกสูบออกไปทั้งอย่างนั้น
“นะ...นี่มัน อะไรกัน? เด็กคนนี้ให้ความรู้สึกที่พิเศษมาก ถึงพลังปราณจะยังอ่อนด้อยอยู่ แต่ความพิเศษของกลิ่นอายก็ทำให้รู้แล้วว่าเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา”
“ใช่ เด็กหนุ่มผู้นี้ เมื่อกี้นี้เรียกท่านกุนจวินว่า บิดา อย่าบอกนะว่า นี่คือบุตรชายคนเดียวที่เขาร่ำลือกัน!”
คนทั่วทั้งลานกว้างหันมามองเด็กหนุ่มด้วยความตกตะลึงระคนสงสัย เพียงแค่กลิ่นอาย เหตุใดถึงทำให้คนอื่นมีสภาพเช่นนี้ได้ นี่มันเรื่องเล่าในเทพนิยาย หรือนิทานหลอกเด็กจากชนพื้นเมืองใดกันแน่? ถ้ามีคนมาบอกพวกเขา คงไม่มีทางหลงเชื่อกันอย่างแน่นอน หากไม่ได้มาเห็นกับตาตนเอง!
เหล่าคนที่หมดสติไป ต่างได้รับการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสของพวกเขาโดยการส่งพลังปราณเข้าไปยับยั้งกลิ่นอายพิเศษนี้ไว้ เป็นเหตุให้พวกเขาฟื้นตื่นขึ้นจากนิทรา เมื่อพวกเขารู้สึกตัวแล้วก็ตกใจไปตามๆกันกับสภาพของตนเอง
บนที่นั่งแห่งหนึ่ง ชายชราสวมอาภรณ์สีทองลายมังกรปรากฏตัวขึ้น เขาคือองค์จักรพรรดิด้านข้างของพระองค์นั้น มีองครักษ์ที่คอยอารักขามากกว่าสิบคน พวกเขาแต่ละคนนั้นแผ่พลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าพวกที่อยู่หน้าประตูจนเทียบไม่ติด และไม่ได้มีเพียงแค่องครักษ์เท่านั้น ยังมีทั้งองค์ชายจิ้นเหอ และเหล่าผู้อาวุโสระดับสูง รวมถึงเหล่ารุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ติดสอยห้อยตามมาอีกด้วย แต่พวกเขาไม่ได้เข้าร่วม มาเพียงแค่มารับชมเท่านั้น
เมื่อองค์จักรพรรดิปรากฏตัว ฝูงชนพลันกลายเป็นเงียบกริบ องค์จักรพรรดิกระแอมคราหนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเองว่า
“สวัสดีสหายทุกท่าน ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาการแข่งขันที่ข้าตั้งใจจัดขึ้นมา เพื่อเป็นการกระตุ้นขวัญกำลังใจในการต่อสู้ของพวกท่าน ข้าจะบอกกฎกติกา รวมถึงของรางวัลสำหรับผู้ชนะ”
“การแข่งในแต่ละรอบนั้น ผู้ที่สามารถติด 1 ใน 10 ได้ ทวีปนั้นจะได้รับ 1 คะแนน อันดับ 3 ได้ 3 อันดับ 2 ได้ 4 อันดับ 1 ได้ 5 เราจะรวมคะแนนของผู้เข้าร่วมที่จะได้ของแต่ละการแข่งขัน ทวีปที่ได้ 5 อันดับแรก จะได้รับสิทธิ์ในการคุ้มครองภายใต้นามของข้า 10 ปี ส่วนอันดับ 2 และ 3 จะได้เข้าพื้นที่ลับของพระราชวังข้า ส่วนอันดับ 1...
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ทุกคนตั้งใจฟังมาก แค่ติดหนึ่งในห้าก็ได้รับรางวัลที่สุดยอดแล้ว การได้รับการคุ้มครองจากทวีปขนาดใหญ่นั้นเป็นอะไรที่ดีมาก ถึงแม้จะแค่สิบปีก็ตาม แต่ระยะเวลาสิบปีนี้ พวกเขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างก้าวกระโดด
ส่วนอันดับสองกับสามนั้น ได้เข้าไปในพื้นที่ลับ พื้นที่ลับของทวีปมหันตภัยเหนือพิภพ มีคนร่ำลือกันว่าเป็นที่ของบรรพบุรุษราชวงศ์ทิ้งไว้ มีสมบัติจำนวนมาก หากโชคดีอาจจะได้การสืบทอดบรรพบุรุษของราชวงศ์ มันจะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นเป็นทวีปขนาดใหญ่ได้ภายในระยะว่าเพียงแค่พันปี!
“อันดับที่ 1 จะได้โอสถแก่นรู้แจ้ง มันช่วยให้ผู้นั้นรู้แจ้งในระยะเวลา 3 วัน ไม่ว่าใครอยู่ระดับใดก็แล้วแต่ จะทำให้สามารถฝ่าทะลวงไปได้ด้วยการรู้แจ้ง!”
เหมือนมีเสียงซัดสาดคล้ายคลื่นทะเลขนาดยักษ์ ทำให้พวกเขารู้สึกหัวสมองว่างเปล่า คิดไม่ออกว่า พวกเขาหูไม่ดี หรือพวกเขาปัญญาอ่อนกันแน่ องค์จักรพรรดิกล่าวว่าโอสถแก่นรู้แจ้ง!
มันคือโอสถที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง สามารถรู้แจ้งในระดับใดก็ได้ มีโอกาสฝ่าทะลวงระดับที่ใครหลายคนต้องติดคอขวดตลอดชีวิตมิอาจทะลวงระดับไปได้อีก และนี่ตึงเป็นโอกาสของพวกเขา!
“เมื่อตอนที่ข้าเข้าไปในพื้นที่ลับ ข้าได้ค้นพบสิ่งล้ำค่านี้ แต่น่าเสียดายที่สายเลือดราชวงศ์ไม่สามารถใช้โอสถในการเพิ่มความแข็งแกร่งได้ สายเลือดราชวงศ์ของพวกเรานั้นเป็นพลังแฝง แน่นอนว่าเป็นพรอย่างหนึ่งจากบรรพบุรุษ แต่ข้อเสียคือไม่สามารถใช้ยาทิพย์ใดได้ หากใช้จะทำให้สายเลือดเสื่อมเป็นเหตุให้พลังแฝงลดลง แม้จะแข็งแกร่งขึ้นจากยา แต่จะทำให้ความเร็วในการฝึกฝน และพลังต่อสู้ด้อยลงตามไปด้วย รวมถึงทำให้รากฐานไม่มั่นคง!”
องค์จักรพรรดิกล่าวขึ้นด้วยความเสียดาย หากเขาใช้ยาพวกนี้ได้ละก็ จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในทวีปขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว!
ความเสียดายวาบผ่านใบหน้าไปชั่วคณะก่อนจะกลับมาดังเดิม แต่ทุกคนนั้นก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขารู้สึกโชคดี เพราะหากราชวงศ์สามารถใช้ได้ละก็ จะทำให้พวกเขายิ่งหวาดกลัวขึ้นไปอีก แต่นั้นก็แค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น เพราะความจริงตรงหน้าของพวกเขาคือ ราชวงศ์นั้นไม่สามารถใช้ได้
ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม เพราะทวีปที่มีโอกาสได้อันดับหนึ่งมากที่สุดคือ ‘ทวีปอรุณเบิกฟ้า’ ตัวตนของผู้ปกครองที่เป็นตำนานทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว และทุกครั้งที่งานนี้จัดขึ้น เหล่าศิษย์จากสำนักลิขิตสวรรค์จะแสดงความสามารถที่น่าพรั่งพรึงออกมา เป็นเหตุให้ไม่มีใครสามารถโค่นราชาทวีปขนาดกลางแห่งนี้ได้เลย
“ตอนนี้ก็เสียเวลากันมามากพอแล้ว ข้าขอประกาศให้การแข่งขันรอบที่ 1 วางแผนการรบ โปรดส่งตัวแทนทั้งสิบคนออกมา!”
องค์จักรพรรดิกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม