ตอนที่ 8 ลิลลี่เเมงมุมเเดง (ฟรี)

ในสัปดาห์นี้ ชายผิวเข้ม สูงยืนตรงหน้าโพเดี้ยมเเทนที่จะเป็ยอาจารย์ฉางจิง เขามาพร้อมกับกล่องสีทอง เมื่อเปิดดูเเล้วนั้นเต็มไปด้วยปืนหลากหลายประเภท

ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเเน่นิ่งเเละเย็นชาว่า “เรียกข้าว่า ยินหยาง..”  เเละนั่นคือการกล่าวเเนะนำตัวเอง จะว่าเป็นการเปิดการเรียนด้วยก็ว่าได้

การตรวจสอบโดยใกล้แล้วปืนสองกระบอกมีความแตกต่างกัน กระบอกปืนนึงเป็นเงางามเหมือนกระจก ในขณะที่ปืนอื่น ๆ ให้รูปเเบบที่เเตกต่าง

“เเละนี่คือ อีเกิลซีรีย์ อันโด่งดัง มันคืออุปกรณ์พื้นฐานของเหล่าทหาร ว่ากันว่าขึ้นชื่อในเรื่องของพลัง”

จู่ๆเสียงที่ดังเอามากๆ ทำให้สะท้านไปถึงเเก้วหูของทุกคน เเม้กระทั่งผนังห้องเรียนถึงกับร้าวเป็นเส้นๆ

เเละไม่ว่าผนังจะพังทลายลงมา เฉียนยี่ก็ไม่เเม้เเต่จะออกเสียงหรือพูดใดใด ที่ผนังจะเป็นรูอันใหญ่เลยทีเดียวเพียงเเค่การยิงหนึ่งครั้ง หากจะลองจินจาการถึงเเขนขาเเละนั้นก็คงกระจุยระจายไปคนละทิศทาง

“มันมีพลังมากมหาศาลงั้นหรือ? ไม่หรอก!” เสียงอันเยือกเย็นของยินหยางกล่าว

ทว่าปืนในรูปเเบบอื่นนั้นมีเเสงเเละเสียงที่กระทบกัน เเละด้วยเเสงเขียวที่เเผ่ออกมา เมื่อลองจ่อไปที่ผนังเเล้วจู่ๆเสียงก็หายไป

หินที่เเตกออกเป็นเสี่ยงๆอย่างนับไม่ได้ ทำให้เด็กๆไม่สามารถมองไปตามเเรงกระเเทกของสิ่งเหล่านั้น

ในขณะที่เฉียนยี่นั้นเอามือค่อยๆปิดใบหน้าป้องกันเศษที่กระเด็นนั้น เฉียนยี่ไม่คิดเลยว่าพลังลูกไฟสีเขียวนี้จะมีพลังอำนาจมาก!

ชายคนนั้นโบกปืนที่หน้านิ่งพร้อมพูดว่า“นี่คือปืนที่ใช้กำลังแรงเเห่งพลังต้นกำเนิด มันจะไม่เหมือนพลังของปืนกระบอกอื่นเมื่อเทียบกันเเล้ว ทว่าอนุภาพของปืนนั้นเทียบเท่ากับปืนใหญ่ นั่นก็เป็นเหตุผลที่เราชนะการทำสงครามมืดในยุครุ่งอรุณนี้ เเละจนได้มาซึ่งอาณาจักรที่เรามีในทุกวันนี้!”

หลังจากการอธิบายกฏของเเรงพลังของปืน

ปืนเเห่งพลังต้นกำเนิดเเละอาวุธปืนทั่วไป เเตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลไลของการบรรจุดินปืนเเละกระสุนนั้นถูกเเทนที่ด้วยอุปกรณ์บีบอัดพลังงาน จำเป็นอย่างมากที่จะใช้พลังเเห่งต้นกำเนิดในตัวเราเข้าด้วย

เวลานับร้อยนับพันปี ที่เกิดความขัดเเย้ง กระทั่งการต่อสู้ซึ่งให้ได้มาของปืนเเกรนเเมกซ์นั่มทั้งสิบกระบอก มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีบุคคลที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมากมายที่สละชีวิตเเย่งชิงปืนพวกนี้ เเม้ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่วางมือ

เเต่ก็อย่างที่เราเคยได้ยิน เหนือฟ้ายังมีฟ้า เเน่นอนว่าต้องมีปืนที่มีชื่อกว่ากระบอกนี้อยู่

และในวันนี้ปืนที่ทรงพลังนั้นอยู่ในมือของมนุษย์สามกระบอก ห้ากระบอกที่พวกเผ่าพันธุ์มืด เเละอีกสองกระบอกนั้นหายไปอย่างลึกลับ

จากการจัดสรรปืนสิบอันสามารถบอกได้ว่าผู้มีอำนาจในโลกนี้ทั้งสามกลุ่มคือ รุ่งอรุณ, ราตรีอนันต์ และนิวทรัล

สิ้นสุดการเรียนเเละการอบรมต่างๆ เด็กทุกคนต่างให้ความสนใจไม่เว้นเเม้เเต่เรื่องเดียว

หยินหยางได้นำเสนอการเรียน ในรูปเเบบการนำเสนอสามมิติ มันคือปืนโบราณลักษณะสวยงาม

ลักษณะด้านนอกของปืนนั้นเป็นลักษณะปืนโบราณ ด้านหลังตัวกระบอกปืนเป็นสีเงิน ช่วงปากกระบอกเเละตัวถือนั้นมีสีทอง ช่วงตัวนั้นจะเป็นสีเเดงเลือด ออร่าของปืนนี้ส่องประไปไปทั่วสี่ทิศทาง

หยินหยางรวบรวมกำลังการนึกรู้ สีหน้าอันเคร่งขรึม “นี่คือปืนยอดเยี่ยมหนึ่งในสิบของมนุษยชาติซึ่งเป็นปืนที่โด่งดังตัวแรกของอาณาจักร จะเรียกปืนนี้ว่าลิลลี่เเมงมุมเเดง”

เฉียนยี่กล่าวซ้ำ “ลิลลี่เเมงมุมเเดง ” ครั้งหัวใจของเขารู้สึกประหลาดใจกับความรู้สึกแปลก ๆ ของความงามและความลึกลับ ซึ่งทำให้เขาจดจำชื่อนี้ได้อย่างลึกซึ้ง

เด็กคนนึงถามขึ้นมาอย่างกล้าหาญ “มันน มันมีความสามารถพิเศษหรือไม่ครับ?”

“เป็นคำถามที่ดี!” หยินหยางรู้สึกตื่นเต้น ทันทีสีหนน้าเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา พร้อมตอบกลับว่า

“เล่ากันมาปากต่อปากว่า เผ่าพันธุ์ลิลลี่เเมงมุมเเดงนั้น เชื่อว่าทุกครั้งของการตายจะมีดอกขึ้นมายังฝั่งเเม่น้ำ เเละยังเชื่อกันอีกว่าดอกไม้นั่นยังช่วยเปิดจุดกำเนิดพลังได้ด้วย”

ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป บทเรียนของเฉียนยี่ จะเป็นอีกสามหลักสูตรเกี่ยวกับพลังปืน เรื่องเเรกว่าด้วยเรื่องกระเเสพลังงาน การดูเเละรักษา การประกอบปืนเเละการใช้งาน

ในคลาสเรียนทั้งสามขั้นต้นนี้ เฉียนยี่ทำคะเเนนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยลำดับที่ห้า ทำให้ลำดับคะเเนนรวมของเขานั้นเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ห้าสิบ เเละผลประกาศของสัปดาห์นี้ประกาศออกมาเเล้วว่าเขานั้นอยู่ในลำดับที่สิบเก้า

เเม้ความเเตกต่างของสองจุด ระหว่างสี่สิบเก้ากับห้าสิบเอ็ดจะไม่ได้ต่างกันมากนัก เเต่ทว่าลำดับตั้งเเต่ห้าสิบเอ็ดเป็นต้นไปนั้นชะตากรรมของพวกเขาคือความตาย

วันจันทร์ก้าวข้ามมาอย่างรวดเร็ว เฉี่ยนยี่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเขาเข้ามาที่ห้องฝึกนั้น ทาสรับใช้ผิวสีดำนำเลือดชูหยานมาวางตรงหน้าเขา!”

ความรู้สึกนั้นทำให้เฉียนยี่รู้สึกถึงคลื่นพลัง ความถี่ที่กว้าง ตามตำราบิงฝาเฉียนยี่เคยฝึกการเคลื่ยนไหวเป็นคลื่นพลัง เเต่ครั้งนี้มันใหญ่มากกว่าครั้งไหนๆที่เขาได้ฝึก ทว่าไม่มีเลือดซูหยานเเล้วนั้น กำลังคงจะเล็กกว่านี้มาก

โดยปราศจากการการช่วยเหลือใดใด การรับรู้ถึงการสร้างพลังต่างๆของเขานั้นเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ทว่าเลือดซูหยานช่วยเขาได้มากที่จะทำให้เพิ่มคลื่นพลังที่ส่งออกมาจากร่างกายของเขา

เเละเเรงพลังนั้นก็ถึงจุดที่ทันควรจะเป็น เสียงเร้าที่กระทบเเก้วหูของเฉียนยี่ได้หายไป คลื่นพลังค่อยๆเคลื่อนถอยกลับ

ในที่สุดคลื่นลูกแรกก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด!

คลื่นพลังคลื่นลูกเเรกไม่สมบูณ์โดยเเท้ก่อนที่มันจะตีเข้าพลังอีกลูกนึง ทว่าการตีเข้าด้วยกันของพลังอีกลูกหนึ่ง ก่อกำเนิดพลังอีกลูกนึงซึ่งจะมีอานุภาพเนือกว่ามาก

ติ่งติ้งติงติ่งง!! เสียงระฆังยาว เฉี่ยนยี่กลับสู่ความเป็นจริง เเละการฝึกซ้อมได้สิ้นสุดลง

ความยากเเละท้าทายของการฝึดบ่มเพาะเคล็ดวิชาการต่อสู้ คือการสร้างพลังต้นกำเนิดคลื่นเเรก ส่วนที่เหลือตามมาจะง่ายตามลำดับ พลังที่ส่งออกมาจะค่อยๆดูดซึมกระเเสพลังโดยรองรวมเป็นหนึ่งสู่ร่างกายของเรา

หากเฉียนยี่ไม่ได้เลือดซูหยานนั้น เขาอาจไม่สามารถที่สร้างพลังต้นกำเนิดคลื่นกระเเสเเรกมาได้ เเละไม่ต้องพูดถึงคลื่นกระเเสพลังทั้งเก้า ภายในสามเดือนคงจะเป็นไปได้ยาก เลือดซูหยานนี่มันดีเสียจริง

เฉียนยี่ทำได้อย่างน่าทึ่ง เดือนก่อนหน้าเดือนสามเขาสามารถสร้าคลื่นพลังได้ถึงห้าคลื่นกระเเสพลังเลยทีเดียว ฝีมือการฝึกบ่มเพาะเคล็ดวิชาต่อสู้ของเขานั้นดีมาก รวดเร็วเพิ่มมากขึ้น ทว่าภายในครึ่งเดือนนี้เขาคงสามารถสำเร็จการฝึกคลื่นพลังทั้งเก้าได้

เด็กทุกคนต่างง่วงกับการฝึกอย่างตั้งใจกับคลื่นกระเเสพลังทั้งเก้า เเต่ก็มีข่าวลือออกมาเเล้วว่ามีเด็กในค่ายบางคนที่เริ่มพยามเปิดจุดพลังเเรกเเล้ว

เขาชื่อว่า ซูหลาง เขาเกิดจากตระกูลที่มีเกียรติในอาณาจักรนี้ ซึ่งเขามีพรสวรรค์เป็นอันดับหนึ่ง!

ได้ยินเเบบนี้เเล้วใจเล็กๆของเฉียนยี่ถึงกับร่วงลงมา เขาจับเเผลที่อกของเขา หากไม่ใช่เพราะรอยเเผลต่างๆนี่เขาต้องเป็นที่หนึ่งได้เหมือนกัน

ในทุกครั้งของการฝึกฝนการบ่มเพาะพลังนี้นั้น การฝึกพลังนั้นจะเริ่มไปได้สวยทว่ามันเข้าใกล้รอยเเผลเมื่อไหร่ พลังก็จะลดลงทันที ดังนั้นเพื่อการฝึกฝนที่ได้ประสิทธิภาพเขาต้องการพลังงมากกว่านี้

เฉียนยี่ไม่สามารถจดจำเรื่องราวที่ฝากรอยเเผลของเขาไว้ได้เลย เเผลที่เข้าได้มานี่อยู่ในช่วงอายุเพียงเเค่สามขวบเท่านั้น

ช่างน่าเศร้า เพราะมันคือโชคชะตาที่เขาต้องยอมรับ!

ด้วยการฝึกอย่างต่อเนื่องนั้น ประกอบกับความรู้เเละความพยามสามเดือนที่ผ่านมามันทำให้ทักษะเขาเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ทว่าบทเรียนเรื่องเครื่องจักรก็มาถึง

นี่เป็นวิชาที่รวมทุกอย่างไม่เพียง แต่เป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์และข้อมูลอื่น ๆ มากมาย โดยพวกเขาสามารถเข้าใจว่ามนุษย์ใช้เครื่องจักรเพื่อเปลี่ยนโลกและพึ่งพา

เครื่องจักรรุ่นแรกอาศัยถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ไอน้ำ หลังจากการทดลองขนาดเล็กครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จ เครื่องจักรไอน้ำรุ่นแรกปรากฏขึ้นในทวีป

เครื่องจักรมีข้อดีมากมายมันมั่นคงมีประสิทธิภาพและอีกมากมายและ ดีที่สุดเเละยังราคาถูก นอกจากนี้ถ่ายหินนสามารถหาได้ง่ายทุกที่ในเเหล่งอุดมสมบูรณ์

เเม้จะผ่านไปพันปีเเต่เครื่องจักรยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ในที่สุดการทดสอบในเดือนที่สามก็มาถึง เฉียนยี่ผู้ซึ่งได้เสร็จสิ้นการทดสอบพลังเเรงทั้งเก้าเเล้วนั้น จึงไม่ได้ทำให้เค้ากังวลมากนัก

เมื่อผ่านไปสามเดือนโดยไม่มีการเสียชีวิตเด็ก ๆ จนเกือบจะลืมไปแล้วว่าสถานที่แห่งนี้คือค่ายนรกที่ซึ่งกองทหารของจักรวรรดิได้รับเลือก และเป็นค่ายฝึกที่เรียกว่ารุนเเรงเเละดุเดือด!

เดือนที่สี่เริ่มขึ้น บทเรียนใหม่เริ่มต้นด้วยการต่อสู้

จากนี้เป็นต้นไปการฝึกซ้อมจะเข้าข้นมากกว่าเดิม การฝึกการต่อสู้จะมีอาจารย์ผู้รู้มาชี้เเนะเเนวทาง

เเต่ทว่าการฝึกนั้นพวกเขาจะต้องเริ่มต่อสู้กันเอง

เด็กๆต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเเอาตายในสัปดาห์เเรก เเละเฉียนยี่เองเจ็บหนักจากการต่อสู้

การต่อสู้ไม่สามารถทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงไปได้ พวกเขาจะไม่ได้รับเลือดซูหยาน

หากจะว่าค่ายนี้เป็นค่ายที่ไม่ได้งดงามหรือมีศีลธรรมสักเท่าไหร่ก็ว่าได้

การฝึกครั้งนี้ทำให้ลำดับของเฉียนยี่นั้นล่วงลงไปถึงลำดับที่สี่สิบเเปด ผ่านลำดับที่ห้าสิบมาได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อการจัดลำดับสิ้นสุดลง เด็กๆจึงสามารถกลับไปพัก

เมื่อเฉียนยี่เข้ามาที่ห้องเเล้วนั้น  ประตูปิดลง ทันใดนั้น หมัดจากเงามือตรงเข้ามาที่เฉียนยี่อย่างจัง เงานั้นเข้ารวบตัวจากทางด้านหลัง เฉียนยี่เองนั้นพยามขัดขืน

เเละนี่คือบททดสอบจากสิ่งที่พวกเด็กๆได้ฝึกมา มันถูกทดสอบกับเฉียนยี่

------