ตอนที่ 7 วิธีเฉพาะของทหารเเห่งสงคราม (ฟรี)
ฉางจิงนั้น เวลาเธอไม่ยิ้ม บุคลิกของเธอเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย
ทว่าการเคลื่อนไหวก็ทำให้เธอเองนั้นมีเสน่ห์มากๆเช่นกัน
เสียงเเละการเคลื่อนไหวต่างๆของเธอนั้นดึงดูดทุกคน หรือเเม้เเต่เหล่าอันธพาลยังเปลี่ยนสีหน้าด้วยความกลัว หลงไฮเองก็เเสดงทีท่าไม่ปกติเช่นกัน ทำเอาเฉียนยี่ก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เธอเฆี่ยนเด็กสองคนจนตายไปในวันนั้น
เเละไม่ช้าฉางจิงเริ่มการฝึก เธออธิบายถึงต้นกำเนิดของพลัง เเละวิธีต่างๆในตำราบิงฝา
ในร่างกายของมนุษย์ มีเก้าจุดเเห่งต้นกำเนิดของพลัง
ซึ่งสามจุดอยู่ช่วงล่างของหน้าท้อง อก เเละหน้าผาก
อีกหกจุดนั่นคือ เเขนขา เเละเข่าทั้งสองข้าง ทว่าสิ่งเหล่านี้ คือจุดเริ่มต้นของพลังต่างๆ
จากประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ผ่านสงครามมาได้นั้น จำเเนกถึงพลังที่ไม่สามารถวัดได้จากอนุภาพของมนุษย์ การจุดกำเนิกจุดๆเเรกนั้นเป็นการเริ่มอย่างเป็นทางการที่จะก้าวเข้าสู่กองทัพทหาร
นั่นถือว่าเป็นลำดับเเรกเพียงเท่านั้น เเละไล่ลำดับไปเเต่ละขั้น
เมื่อการเปิดจุดกำเนิดทั้งเก้าครบสมบูรณ์เเล้วนั้น พลังต่างๆจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เเละพลังที่รวมเป็นหนึ่งจะสามารถต่อสู้กับความมืดได้ เเต่นี่เป็นเพียงเเค่พื้นฐานของการเริ่มต้น
ตำราบิงฝาเป็นพื้นฐานสำหรับการฝึกกองทัพของจักรวรรดิ เช่นเดียวกับชื่อมันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของมัน คือความเร็ว ตราบใดที่เราประสบความสำเร็จในการเปิดจุดแรกจากนั้นร่างกายจะเป็นมีพลังเหมือนคลื่นยักษ์ ซ่อนไปมาหลายชั้นราวกับกระเเสของน้ำท่วมท้น
คลื่นพลังชั้นซ้อนทับเช่นคลื่นพลังชนกับจุดพลังแรงเดิมอย่างต่อเนื่อง
มีคู่มืออื่นที่คล้ายกันขั้นตอนการใช้พลังของพวกเขานั้นรวดเร็วมากและบางคนอาจเกินความสามารถของตนเอง กล่าวคือยิ่งฝึกฝนมากเท่าไรการบาดเจ็บจะชัดเจนยิ่งขึ้น กระบวนการค้นหาจะเกิดขึ้นเร็วมาก จากการฝึกฝน มันอาจทำให้ความสามารถต่างๆที่เคยมีได้พังลงไป ไม่เเปลกที่การฝึกฝนนั้นจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
ทว่าเพียงตำราเล่มนี้เล่มเดียวก็ไม่สามารถรอบจากสนามสงครามมาได้ หากเเต่จะต้องฝึกฝนพลังเเละการรู้ท่วงทันสิ่งเหล่านี้อีกด้วย
“เเต่ว่าในการฝึกฝนนั้นมีที่มาที่ไปที่ต่างกันในเเต่ละขั้น เเละที่ผ่านมาก็น้อยนักที่จะผ่านไปได้ทุกขั้นตอน หึ..เพราะงั้นพวกเธอจะกังวลไปทำไม?! จริงไหม”
หากใครก็ตามที่สามารถจะผ่านการฝึกทั้งเก้าจุดสำคัญนั้นไปได้ เขาจะเป็นยอดนักรบ เเต่ทว่าบางคนนั้นสามารถพัฒนาต่ออย่าวไร้ขีดจำกัด ผู้นั้นจะถูกขนานนาม
มันก็น่าคิดนะ หากพิจรณาตั้งเเต่รอบที่เฉียนยี่ได้เข้ามาฝึกที่ค่ายนี้ การฝึกฝนทางร่างกาย เเละความเเข็งเเกร่งของเขานั้นมีอยู่มาก ทั้งยังจะทนทานต่อการต่อสู้ได้ดีอีกด้วย
เเละจากนั้นเป็นต้นมา ตารางการฝึกฝนของเฉียนยี่นั้นคือ สองชั่วโมง ทั้งกลางวันเเละกลางคืน
จำนวนเวลาในการเรียนไม่ได้ลดลงเพื่อให้เขามีเวลาฝึกเพิ่มไม่พอยังจะหนักกว่าปีก่อนอีกด้วย ใบหน้าของพวกเขาค่อยๆเหี่ยวเฉาลง
ในช่วงเวลาเที่ยงตรง พวกเขาถูกเรียกมารวมตัวที่หุบเขาเล็กๆไม่ห่างจากค่ายมาก
ใจกลางหุบเขานั้นมีน้ำพุร้อน เเละมีเสาทองเชื่อมต่อกันอย่างสวยงาม
บริเวรรอบๆการก่อสร้างนั้นมีบ้านเรียงเป็นเเเถวๆบริเวรรอบนอก บ้านเหล่านี้ถูกเคลือบด้วยทองเเดงไร้ซึ่งสนิมเเม้เเต่น้อย เด็กๆถูกเเบ่งออกลุ่ม บ้านหนึ่งหลังจะจัดไว้สำหนับเด็กฝึกสิบคน เเละเเต่ละหลังจะถูกเเบ่งห้องเดี่ยวไว้ต่อเด็กหนึ่งคน นี่คือพื้นที่ฝึกใหม่สำหรับพวกเขา
ผนังมีความหนาแปลก ๆ บริเวรพื้นของเเต่ละห้องประกอบด้วยลวดหนามทองเเดง หากมองผ่านช่องที่อยู่ในห้องจะมองเห็นหลุมทีมืดดำ
เฉียนยี่ทำตามคำสั่งและเข้าไปในห้องเล็ก ๆ มันว่างเปล่าไม่มีเครื่องตกเเต่ง ทว่ามีตู้เล็ก ๆ ห่อด้วยหนัง
เขาถอดเสื้อคลุมด้านนอก กางเกง สิ่งของต่างๆและยัดเข้าไปในตู้ถัดไป
เสียงเตือนภัยอันเเหลมคมดังสั่นสนั่น หลังจากนั้นครู่หนึ่งท่อไอน้ำร้อนจำนวนมากยิงออกมาจากทั้งสี่มุมของห้องและเต็มไปทั่วทั้งห้องอย่างรวดเร็ว
ทาสผิวสีดำ เดินเข้ามา เปิดประตูทองเเดงที่ติดกับผนังห้อง เขาตั้งไม้ซุงสีดำที่น่ากลัว โยนมันเข้าไปเเละปิดประตู ทันใดนั้นก็ปิดประตูเเละออกจากห้องไป
ทันใดนั้นก็มีควันที่พวยพุ่งออกมาจากประตูทองสัมฤทธิ์ มีความสูงครึ่งหนึ่งของร่างมนุษย์ได้ ท่ามกลางไอน้ำทั้งหมดคุณจะเห็นขดควันสีขาวที่แผ่ออกไปอย่างช้า ๆ สุดท้ายไอน้ำสุดท้ายที่ผสมกันเป็นหนึ่งเดียว และกระจายกลิ่นในอาคาร ทั้งยังมีกลิ่นหอมพิกล
ภายในห้องที่ไม้ได้กว้างขวางมาก ความชื้นเล็กๆในห้องนั้นทำให้ห้องนั้นค่อนข้างที่จะอุดอู้
ทว่านั่นทำให้เฉียนยี่หายใจเข้าออกอยากช้าๆ เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่า ในค่ำคืนที่ฝนตกลงมานั้น มันทำให้เค้ารู้สึกถึงความเปลี่ยนเเปลงไปจากครั้งที่อยู่ในที่เดิม
นี่มันคือเเรงสะท้อนพลังต้นกำเนิด!!
เฉียนยี่รู้สึกดีกับสภาพเเวดล้มใหม่นี้ เเต่เเล้วเขาก็ต้องรีบทำใจให้เป็นปกติเเละเริ่มนั่งสมาธิ เนื่องด้วยตำราบิงฝาตรงหน้า คือสิ่งที่เข้าต้องอ่านมันก่อนที่จะนอน ราวกับความง่วงหงาวหาวนอนของเขานั้นถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเมื่อ พลังบางอย่างรอบๆตัวของนั้นกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว
สองชั่วโมงผ่านไป เสียงปลุกก็ดังขึ้น เเม้ทุกคนไม่อยากจะลุกออกจากเตียงเพียงใดก็ตาม
เเละในการฝึกซ้อมช่วงบ่ายนี้ ทำเอาเฉียนยี่ร่าเริงเป็นมาก เนื่องด้วยการฝึกนั้นเป็นไปอย่างไม่หยุดยั้ง จากตำราของบิงฝานั้นกล่าวว่า เพียงเเค่วันเดียวก็สามารถที่จะสร้างกองทัพได้ นั่นหมายความว่าพรสวรรค์ของเขาโดเด่นมาก ทั้งยังสามารถฝึกไปได้ถึงระดับเจ็ดหรือสูงกว่านั้น
ทันใดนั้นเองห้องก็ส่งสัญญาณเสียงเตือนภัยอีกครั้ง กำเเพงที่สั่นสะเทือนมาจากพื้นดิน เเละหมกควันต่างๆถูกกลืนหายไป ทว่าเสียงของเครื่องจักรยังคงทำงาน เเละประตูค่อยๆปิดตัวลง
เฉียนยี่ไม่ได้ใส่ใจกับการเเต่งกายมากนัก เขารีบสวมมันด้วยความเร็วเเละตรงไปยังจุดรวมพล
หลงไฮปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ยิ้มอย่างมีเลศนัยเเละพูดว่า “จากบทเรียนต่างๆที่ผ่านมาพวกเธอคงจะคุ้นๆกับคำว่า” เลือดซูหยาน “พวกเธอคงจะได้ยินหรือผ่านตามาบ้าง”
เขายกมือทำลักษณะถึงขนาดความกว้างความยาว เเละยิ้มอย่างเยือกเย็น “มันเพียงพอที่จะซื้อชีวิตนับสิบ!”
เฉียนยี่รู้ทันทีว่าไม้พวกนั้นไม่ใช่เพียงเศษไม้ธรรมดา เเต่เขาไม่รู้ว่ามันจะมีค่ามากถึงเพียงนี้
***เลือดซูหยาน คือชื่อของไม้ที่มีลักษณะพิเศษ เเต่อาาจะเป็นรูปเเบบของของเเข็ง
หากล่าวนั้น เฉียนยี่นั่นเข้าใจอย่างสุดซึ้งว่าจำนวนชีวิตคนสิบชีวิตนั้นมีค่าเพียงไหน มากกว่าเหรียญทองเเดงใดใดก็ตามเเต่ ก่อนที่เขานั้นจะพบกับหลินชีตง เขาเคยพบเห็นเหรียญทองเเดงอยู่สองเหรียญ เเต่ทว่าเหรียญเงินนั้นเขาไม่เคยพบเจอ
ครู่นึง หลงไฮ่กล่าวอย่างหนักเเน่น “มันจะไม่ใช่เพียงเเค่สิ่งสิ่งนึงเท่านั้น! เเละใช่…คนไหนที่คะเเนนไม่ผ่านเกณฑ์จะไม่สามารถที่จะเข้ารับการฝึกในเรื่องของซูหยานได้ เเต่คนไหนที่ทำได้จะได้รับสองเท่าของเลือดซูหยาน ทว่าคนใดมีคะเเนนอยู่ในสิบอันดับเเรกจะได้เลือดซูหยานถึงสามเท่า!!!” ข้อเสนอในครั้งนี้ทำเอาเด็กๆทุกคนตื่นตัวเป็นพิเศษ
เวลาในอาทิตย์นี้ช่างผ่านไปเร็วกว่าปกติ เเละเฉียนยี่ยังคงอยู่ในลำดับที่ 75 ในอาทิตย์นี้เขาไม่ได้รับรางวัลเลือดซูหยานเลยสักชิ้น
ในคืนที่ประกาศผล เฉียนยี่ไม่สามารถที่จะหลับได้อย่างสนิท
เขานึกไปถึงหัวข้อที่เขาเคยได้รับผ่านๆมา เขาไม่ได้ใส่ใจกับลำดับที่ที่เขาจะได้รับสักเท่าไหร่ เพราะเขาเองทำมาได้ดีมาโดยตลอด เเต่ในครั้งนี้มันต่างกัน เขามักจะรั้งท้ายเสมอ
เขาค่อยๆล้มตัวลงนอน เหม่อมองไปยังเพดานเเละผนังของห้อง ค่อยๆยกมือมาสัมผัสเเผลที่หน้าอกอย่างช้าๆ เเละคิดในใจว่า นั่นก็เพราะเเผลนี่เกิดจากในวันที่เขาต้องเอาตัวรอดจากความหิวโหย เขารู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นคนที่อ่อนเเอที่สุด ณ ตอนนี้
เฉียนยี่เริ่มจะเข้าใจที่กูตั๋วไฮพูดในตอนต้นว่า เเผลนี้ซ่อนความอันตรายอยู่ เพราะทุกครั้งในช่วงการฝึกนั้น เขาจะรู้สึกเจ็บเเผลของเขามากอย่างน่าเเปลกใจ เเต่ด้วยความมุมานะอดทนของเด็กคนนี้ ทำให้เค้ายิ่งฮึดสู้มากกว่าเดิม
พวกเหล่าครูฝึกเริ่มกดดันให้เหล่าเด็กๆพยามมากขึ้นที่จะได้เลือดซูหยาน เขาต้องการจำนวนเด็กที่มีความสามารถที่จะพิชิตเป้าหมายนี้ราวๆครึ่งนึง เเต่นั่นไม่ง่ายเลย
ในทุกค่ำคืนเเม้เฉียนยี่จะยังไม่สามารถได้รับเลือดซูหยานได้ เเต่ภายในใจนั้นไม่เคยยอมเเพ้
ทว่าเขาจะก้าวไปทีละขั้นเเละพยามเเก้ไขจุดบกพร่องนั้นๆ ในทุกทุกหัวข้อการฝึกทุกๆคะเเนนเขาจะสู้มันให้ถึงที่สุด!!!
ถายในหนึ่งอาทิตย์เขาไต่มาจนถึงลำดับที่ 70 เเละ 69 เเต่ด้วยการฝึกอย่างบ้าคลั่งทำให้เขานั้นล้มป่วยลง เเละตกลงมายังลำดับที่ 93
มีผู้หญิงคนนึงเริ่มให้ความสนใจเฉียนยี่ เเละเห็นที่ความพัฒนาเเละมุ่งมั่นที่ดีขึ้นในทุกอาทิตย์
------