ตอนที่ 6 อาณาจักรเเห่งรุ่งอรุณ (ฟรี)
เมื่อฉางจิงจบการสอนของวันนี้ เฉียนยี่ก็ออกจากห้องเรียน ในมือของเขาคือสมุดที่เต็มไปด้วยเนื้อหาเเละคำศัพท์ต่างๆที่เขาต้องท่องจำให้ขึ้นใจ เพื่อที่จะผ่านการสอบในเดือนหน้า หากไม่เเล้วนั่นการเฆี่ยนสิบครั้งบนหลังของเขาจะต้องเกินขึ้นเเน่ๆ
ณ ตอนนี้มันทำให้เฉี่ยนยี่รู้สึกได้ว่าการเฆี่ยนตีนั้นเป็นเรื่องปกติของเจ้าหน้าที่ที่นี่เลยหล่ะ
การเรียนเเละฝึกซ้อมไม่ได้เร่งให้เร็วขึ้นหรือช้าลง เนื่องด้วยเด็กๆทุกคนต่างต้องใช้เวลาในการท่องจำเเละเรียนรู้
เมื่อถึงเตียงนอน เฉียนยี่ไม่เเม้เเต่จะมีเวลาทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เขาหลับไปพร้อมกับความเหนื่อยล้า เเละเช่นเคย เสียงปลุกในเวลาเดิม เขางัวเงียตื่นขึ้นเเละเพิ่งรู้ตัวว่าเขายังไม่ได้ทบทวนสิ่งที่เรียนมาเมื่อวานเเม้เเต่น้อย
ทว่าคืนหลังการฝึกซ้อมเด็กส่วนใหญ่ยืนยันที่จะไม่นอนเพื่อเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอักษรอียิปต์โบราณ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในหริบตาเดียว
เฉียนยี่เฝ้ารอการเรียนในครั้งที่สองกับอาจารย์ฉางจิงอย่างจดจ่อ นั่นก็เพราะมีการสอบในช่วงสามสิบนาทีเเรก เเละเเล้วในระหว่างการสอบ เขาบรรจงเขียนทุกสิ่งที่เขาตั้งใจฝึกฝนเเละอ่านมา
เเละนั่นเองทำให้เขาได้รับลำดับที่ห้า จากจำนวนเด็กทั้งหมด ลำดับสี่คนเเรกนั้นคว้าไปโดยตระกูลฉี พวกเราเล่าเรียนตำราพวกนี้มาตั้งเเต่เล็ก หากเค้าไม่เคยได้รับการสอนมาบ้างเเล้ว เเน่นอนว่าลำดับที่หนึ่งนั้นต้องเป็นของเฉียนยี่เป็นเเน่
เเละจากการสอบครั้งนี้ มีเด็กทั้งหมดสิบคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
‘’ เอาหล่ะ พวกเธอที่ไม่ผ่านการสอบจะต้องรับผลของการไม่ตั้งใจกับชั้นเรียนของฉัน!” เธอดึงเส้ออกมาเเละฟาดอย่างรุนเเรง
จากการลงโทษครั้งนี้ทำเอาเด็กบางคนทนความเจ็บปวดไม่ไหว จนมีเด็กถึงสองคนตายไปจากการถูกเฆี่ยน!
ในบททดสอบนี้เฉียนยี่รู้ได้ในทันทีว่า ผู้หญิงคนนี้นั้นมีความโหดร้าย ทั้งยังจะมากกว่าหลงไฮ่อีกด้วย
เเละจากการสอบครั้งนี้เด็กๆทุกคนตื่นตัวกับการฝึกฝนเเละการเรียนมากยิ่งขึ้น
ฉางจิงให้เจ้าหน้าที่ที่ลักษณะดุร้ายนี้มาเอาศพเด็กสองนี้ออกไป เเละเริ่มการสอนในบทใหม่ทันที
“สงครามเเห่งรุ่งอรุณ” คือคำที่เธอเขียนบนกระดาน
เธอกล่าวอย่างหนักแน่น "สงครามเเห่งรุ่งอรุณสิ้นสุดลงเมื่อ 1200 ปีก่อน ... "
สงครามเเห่งรุ่งอรุณเกิดขึ้นในทวีปนิรันดร์ล่างของโลก เป็นการเริ่มขึ้นของเผ่าพันธ์มนุษญ์เผ่าพันธ์เเรก
ในช่วงของสงครามนั้น มนุษย์ได้ทำการเผาไหม้ของถ่ายหิน, ขับเคลื่อนพลังงานไอน้ำ, การใช้อาวุธปืน เครื่องจักรต่างๆ เพื่อต่อสู้กับด้านมืด!
สิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลากว่าร้อยปีสำหรับชะตากรรม หลังการตื่นรู้ขึ้นของพลังดั้งเดิมของมนุษย์ก็ช่วยปลุกให้เขาตื่นขึ้น เเต่มนุษย์ต้องจ่ายค่าตอบเเทนอันเลวร้าย ประชากรทั้งหมดที่เหลืออยู่หลังสงครามเป็นเพียงหนึ่งในสิบจากทั้งหมด แต่ในที่สุดพวกเขาก็ยังเอาชนะเผ่าพันธุ์มืด
ขับไล่เผ่าพันธุ์เเห่งความมืดออกจากเมืองแห่งนิรันดร์ แล้วก่อตั้งอาณาจักรแรกของราชอาณาจักร ฉิน คือจุดเริ่มต้น
นี่เป็นเพียงการเริ่มสงครามเท่านั้น ในระหว่างพันสองร้อยปีนั้น เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ยึดครองทวีปทั้งสี่ของโลกทั้งส่วนล่างและส่วนกลาง และเริ่มมองไปที่ทวีปด้านบน จักรวรรดิ ฉิน ย้ายเมืองหลวงอย่างเป็นทางการและพาครอบครัวที่โดดเด่นที่สุดมาสู่ทวีปใหม่ เเต่ละเมืองก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากรุ่งอรุณแห่งสงครามในทวีปนิรันดร์คืน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเริ่มเปลี่ยนไปและทรัพยากรมีน้อยลงมาก จนในที่สุดโลกก็กลายเป็นโลกเเห่งขยะขนาดใหญ่ และเผ่าพันธุ์มืดที่ไม่พอใจกับการเสียหายของพวกเขาอีกครั้ง
การเล่าเหตุการณ์นั้น ทำเอาเฉียนยี่ตัวสั่นเทาไปยังกระดูกสันหลังของเขา เขาเคยได้ยินผู้ใหญ่คุยกับหลายครั้งในตอนที่เขายังอยู่ในดินเเดนสุสานขยะ มันไม่ใช่เเค่เรื่องเล่า เเต่เป็นความจริง!
เเละใช่ ในระหว่างช่วยพันสองร้อยปีนั้นเอง เผ่าพันธุ์มืดเเละมนุษย์ไม่สามารถยุติสงครามลงได้สงครามเกิดขึ้นในทั่วทุกทวีป ความเกลียดชังเเละการนองเลือดยังฝังอยู่ทุกเเผ่นดิน
หลังจากจบการเรียนเด็กทุกคนต่างรู้สึกงงงวย เเละไม่เข้าใจที่มาที่ไปอย่างถ่องเเท้ นั่นก็อาจจะเพราะพวกเขายังด็กอยู่มาก เเละไม่รู้ว่านั่นมันจะเป็นประวัติศาสตร์ที่มีน้ำหนักเพียงไหน
ไม่ช้าพวกเขาตรงไปที่การฝึกฝนต่อไปทันที เเละเช่นเคยหากผู้ใดมาช้ากว่าเวลา โทษคือการเฆี่ยนสามที
ชีวิตกลับสู่เส้นทางเดิม
เวลาผ่านไป เเละเเล้วก็อีกครึ่งปีต่อมา
ความแข็งแกร่งของ เฉียนยี่ พัฒนาขึ้นอย่างมากภายใน 6 เดือนเขาก็สูงขึ้น 10 นิ้ว นอกเหนือจากการฝึกฝนที่รุนแรงแล้วประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคืออาหาร
อาหารที่ให้แก่เด็กนั้นมีสารอาหารจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซุปที่ให้ในแต่ละวันยังมีตัวยาชนิดพิเศษที่สามารถช่วยกระตุ้นการเติบโต
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สำหรับเฉียนยี่เเล้วมันเหมือนการใช้ชีวิตวนเหมือนเดิมทุกวัน ที่ต่างคือจำนวนคนนั้นลดลงเรื่อยๆ
จำนวนเด็กที่เหลืออยู่ไม่เกิน 50 คนรวมถึงเฉียนยี่และเพื่อนของเขา มีกลุ่มใหม่ที่มาเข้ารับการฝึกฝนราวๆห้าสิบคน เเต่ค่อยข้างจะโตเเล้ว ร่างกายเเละความเเข็งเเรงของพวกเขาไม่ต่างกันเฉียนยี่ไปมาก
อีกหกเดือนผ่านไป จำนวนเด็กก็ลดลงไปอีกถึงห้าสิบคน เเละอีกเช่นเคย จะมีเด็กอีกจำนวนห้าสิบคนเข้าร่วม รวมเเล้วทั้งหมดหนึ่งร้อยคน มันทำให้เขารู้ว่า ทุกๆการหายไปของจำนวนเด็กนั้น จะมีจำนวนเด็กที่เข้ามาเพิ่มให้ครบหนึ่งร้อยคน
เป็นเวลาหนึ่งปีเเล้วที่เฉียนยี่ได้ฝึกอยู่ในค่ายนี้ เเละจู่ๆสัญญาณการเรียกรวมตัวของพวกเขาก็ดังขึ้น
ในระหว่างการเรียงเเถวนั้น เฉียนยี่ได้มองไปรอบๆด้วยความระวัง หากเขาขยับมากไปอาจจะถูกการเฆี่ยนได้
เขาชำเลืองมองด้วยสายตาทั้งซ้ายเเละขวา มองไปเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่
นั่นก็เพราะว่าคนในทีม ณ ตอนนี้มีจำนวนสามสิบคน เเละไม่ต้องพูดถุงร้อยคนเเรกที่มาพร้อมเฉียนยี่ พวกเขานั้นได้หายไปตลอดกาลเเล้วล่ะ
จู่ๆในหัวของเค้าก็นึกถึงป้ายสีเลือดตรงทางเข้าที่เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับสู่นรก’
นี่มันค่ายนรกอย่างเเท้จริง!
หลงไฮ่ปรากฏตัวขึ้นมา สายตาคู่นั้นดูโหดร้ายมากกว่าที่เคย เด็กทุกคนส่งเสียงตอบรับอย่างหนักเเน่นเเฝงไปด้วยความกลัว พวกเขาถูกฝึกให้เเข็งเเกร่งเเละมุ่งมั่น เเละนั่นอาจจะทำให้คุณคิดได้ว่าหัวใจของพวกเขานั้นด้านชาไปเเล้วก็ได้
หลงไฮ่รู้สึกพึงพอใจมากและพูดว่า“ไม่เลว! หลังจากกำจัดตัวอ่อนในที่สุด ก็เหลือตัวที่พอจะใช้งานได้…”
หลงไฮ่ยิ้มเล็กๆเเละกล่าวต่อว่า “ข่าวดีสำหรับตอนนี้คือ พวกเธอได้ผ่านไปอีกขั้นนึงเเล้ว เเละหลังจากนี้ล่ะของจริง กฏยังคงเป็นกฏตามเดิม ส่วนข่าวร้าย บทเริ่มต้นของการฝึกมันเพิ่งเริ่มขึ้น!!”
หลงไฮ่ดินหน้าไปมา คำรามเสียงดังก้องใส่หูของเด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง
“ในอีกไม่นานพวกเธอจะเริ่มการฝึกซ้อมอย่างแท้จริง! หนึ่งในพวกเธอได้รับโอกาสในการสังหารเผ่าพันธุ์มืดแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน เเละแน่นอนว่าโอกาสที่จะถูกฆ่านั้นค่อนข้างสูงเช่นกัน สวดวิงวรได้เลย! ในที่สุดฉันก็สามารถบอกพวกเธอได้ว่ามีเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่จะออกไปจากที่นี่ได้”
จากการเเจ้งเเถลงของหลงไฮ ไม่ได้ทำให้เฉียนยี่เก็บมาใส่ใจมาก นั่นก็เพราะทุกสิ่งอย่างมันเหนือการควบคุมของเขามานานเเล้ว
ไม่ว่าโอกาศการรอดจะน้อยเเค่ไหน เค้าก็จะไม่ยอมเเพ้มัน บทเรียนการเอาตัวรอดที่เมืองร้างนั้นได้สอนเค้ามา
เเละชายร่างโตหอบตำราเรียนกว่าร้อยเล่มมาให้เด็กๆ
ปกของหนังสือตัวโต ลักษณะตัวหนังสือเรียบไปกับกระดาษ เเละเขียนว่า “บิงฝา(เคล็ดลับวิชาต่อสู้)” เมืองมองลงไปนั้นเฉียนยี่ก็รับรู้ถึงความเจ็บปวด
ตำราเล่มนี้คือการจัดจำเเนกจุดเเข็งเเละจุดอ่อนต่างๆ หลังจากที่เขาได้รับมันมานั้น เขารู้ทันทีเลยว่าตำราเล่มหนานี่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาได้เลย
เด็ก ๆ ถูกนำตัวไปยังอีกห้องหนึ่ง อาจารย์ผู้สอนที่เดินไปที่แท่นยืนคือฉางจิงภายใต้ความสวยงามของเธอนั้นมีพลังพิเศษมหาศาล
อันที่จริงแล้วเฉียนยี่สังเกตเห็นความจริงที่ว่า หลงไฮ่ไม่ได้เข้ามาใกล้เกินไปกับจางจิง พวกเขามักจะมีระยะห่างระหว่างกันห้าเมตร เเต่กระนั้นเฉียนเข้าใจว่ามันเป็นความกลัว
"หนังสือเล่มนี้เป็นการฝึกอบรมพิเศษ ทหารผู้ที่เป็นเครื่องมือของสงคราม!"
หลังจากได้ยินการเกริ่นของเธอเฉียนยี่รู้สึกตกใจมาก
จากกการใช้ชีวิตในเเคมป์เเห่งนี้ เขารู้ว่าสิ่งที่ยากในเเต่ละวันนั่นคือการมีชีวิตรอด เเม้เขาจะเข้าใจว่าค่ายเเห่งนี้ก็ใช้ทรัพยากรเเละลงทุนกับเด็กๆทุกคนเค่ไหน เเต่ทว่าหลังจากทั้งหมดร้อยชีวิตได้หายไป เเลกมากับหนังสือเล่มนี้เองหรือ?!!!
ฉางจิงรับรู้ถึงความคิดเด็กๆกล่าวว่า “อย่าประเมินตำรานี่ต่ำไปหล่ะ ตรงกันข้าม น้อยคนนักที่จะได้สัมผัสตำราเล่มนี้!! เเละหากว่าคนไหนสามารถที่จะรอดผ่านเเละออกจากค่ายไปได้ นั่นก็หมายความว่าผ่านคุณสมบัติของทหารเเห่งเครื่องมือสงครามได้เช่นกัน เเละในอีกสามเดือนพวกเธอจะได้ฝึกฝนกฏของคลื่นพลัง เเละภายในอีกปีพวกเธอยังจะสามารถที่จะเปิดจุดกำเนิดพลังได้ เเละอย่างที่รู้หากไม่ล่ะก็...หึ หึ
--------