ตอนที่ 15 : คนโง่คนไหนกล้าขโมยจากคุณหนูสี่?
Power Up Artist Yang!
ยูเจี๋ยกลับมาโยนกระเป๋าเหรียญที่เบาขึ้นของเธอขึ้นลงในขณะที่อีกมือถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่เพิ่งซื้อมา น่าแปลกที่ผู้ขายที่เธอซื้อของด้วยเขามีวัสดุทั้งหมดในมือและสิ่งที่เขาต้องทำคือการเจาะรูลงในแม่พิมพ์ด้ามแปรงที่ทำไว้แล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าจะเสร็จและยูเจี๋ยสามารถรอได้จากที่เธอไม่มีอะไรทำ
ตอนนี้แม่พิมพ์ดินสออยู่ในถุงรวมกับวัสดุอื่นๆแล้ว แต่แกรไฟต์ยังไม่ได้จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ ยูเจี๋ยวางแผนที่จะไปรับพวกมันทันที สำหรับตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้คือเลือกดูเพื่อหาทุกอย่างที่เธอต้องการด้วยเงินที่มีหรือกลับบ้าน
“มันบ่ายมากแล้วใช่ไหมฮุ่ยเอ๋อ?” ยูเจี๋ยพูดอย่างไม่แยแสในขณะที่ข้างกระเป๋าและเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
“ใช่แล้วค่ะคุณหนู ที่จริงแล้วมันใกล้จะค่ำแล้ว”
ยูเจี๋ยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่เพียงครึ่งวันที่ผ่านไปนับตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในโลกนี้ เธอประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆมากมาย เธอภาคภูมิใจในตัวเองและความสามารถในการผลิตของเธอที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้กลับมาในโลกของเธอ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยูเจี๋ยก็ยืดตัวเองอย่างกระทันหันหันมามองฮุ่ยเอ๋ออย่างรวดเร็วขณะที่หยุดก้าวของเธอ "ฮุ่ยเอ๋ออ!"
หญิงสาวดูสับสน "คุณหนู มีอะไรผิดปกติเหรอ?"
“เรายังไม่ได้กินอาหารเที่ยง!”ยูเจี๋ยกัดริมฝีปากล่างของเธอ เมื่อเช้าสิ่งที่เธอทานคือซุปแก้เมาค้างและเธอหิวมาก “ข้าติดอยู่กับการทำดินสอและทุกอย่าง ทำให้ลืมไปเลย เราต้องไปกินข้าวเที่ยงกันฮุ่ยเอ๋อ เจ้ารู้จักที่ดีๆบ้างไหม?”
“มันสายไปหน่อยแล้วค่ะสำหรับมื้อเที่ยง คุณหนู” ฮุ่ยเอ๋อหัวเราะออกมาอย่างเก้อๆ “แต่คุณหนูจำขนมของป้าที่คุณหนูชอบได้ไหมค่ะ? มันอยู่ที่ริมถนนโน้น เราสามารถไปซื้อได้บ้าง”
ยูเจี๋ยเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล “ฟังดูเข้าท่า” ทั้งสองเดินต่อไปและเธอก็กลับไปโยนถุงเหรียญเช่นเคย
ยูเจี๋ยไม่นึกระวังตัวเลย ไม่ใช่แค่การป้องกันตัวเล็กน้อยเท่านั้น ทุกอย่างดูสมบูรณ์ในวันนี้ ความสำเร็จของเธอในงานทั้งหมดทำให้เธออารมณ์ดี
แต่มีบางอย่าง – การเคลื่อนไหวที่ลุกลี้ลุกลน – ดึงดูสายตาของยูเจี๋ย ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอเข้าครอบงำและในช่วงต่อมาเธอรีบคว้ากระเป๋าตำลึงที่เธอเพิ่งโยนขึ้นไปในอากาศถือมันแนบตัว ขณะที่หัวของเธอหันไปมองเพื่อดูว่าใครทำให้เกิดความกังวลนี้ มันเป็นชายหนุ่มสวมหมวกท่าทางน่าสงสัยมาก มีใบหน้าครึ่งหนึ่งสีเท่า เสื้อผ้าของเขายุ่งเหยิงและฉีกขาด รูปร่างหน้าตาไม่เรียบร้อยดูกระเซอะกระเซิง
ทันใดนั้นคำเดียวปรากฏในความคิดของยูเจี๋ย
ขโมย
สายตาของขโมยได้สบกับเธอชั่วครู่หนึ่ง ยกเว้นในครั้งต่อมาเขาเข้าไปรวมกับฝูชนเหลือเพียงเงาและความพร่ามัว
หายใจเข้าออกลึกๆ ยูเจี๋ยถือกระเป๋าเงินออกมารู้สึกถึงน้ำหนักที่ปลอดภัยของมันในมือเธอ ดีที่เธอจับความรู้สึกได้เร็ว ; มิเช่นนั้นคนอื่นๆจะได้เพลินเพลินกับสิบแปดตำลึงที่หามาได้ยากเย็นของเธอในวันนี้แน่
“เห็นไหม ฮุ่ยเอ๋อ?” ด้วยการแสดงออกอย่างดีใจเต็มใบหน้าของเธอ ยูเจี๋ยโบกถุงเหรียญในมือไปมา “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องขโมยและอะไรทั้งสิ้น ข้าเป็นใคร? หยางยูเจี๋ย ทำไมข้าถึงจะให้ขโมยมาขโมยของจากข้าได้? ข้าจะต้องเป็นคนโง่มากสำหรับพวกมันที่จะทำเช่นนั้นได้”
ยูเจี๋ยคาดว่าฮุ่ยเอ๋อจะพยักหน้าเห็นด้วย เธอไม่คิดว่าจะเจอกับใบหน้าสุดช๊อค – หรือว่ามันเป็นความกลัว? – หน้าฮุ่ยเอ๋อตรงข้ามเธอที่แสดงออกมา เธอจ้องนิ่งที่คุณหนูสี่ด้วยความว่างเปล่า
“ฮุ่ยเอ๋อ เกิดอะไรขึ้น?”
ยูเจี๋ยทำให้เด็กสาวกลัวกับปฏิกิริยาตตอบสนองและทักษะอันยอดเยี่ยวของเธอหรือไม่? จริงๆแล้วเธอต้องเป็นที่น่าประทับใจสำหรับสาวใช้ของเธอ เธอจะลดลงไปอยู่ในสถานะอื่นได้อย่างไร? ไม่มีทางใช่ไหม?
ฮุ่ยเอ๋อชี้มือมาที่มือข้างซ้ายของเธอด้วยนิ้วสั่นเทา “คะ..คุณหนู....!”
“อะไร?” ยูเจี๋ยมองดูมืออันว่างเปล่าของเธอ มีอะไรผิดปรกติเหรอ? “
จากนั้นเธอก็ตระหนักได้
ในช่วงเวลาแห่งชัยชนะและความปลาบปลื้มที่รักษาถุงเงินของเธอไว้ เธอลืมถุงศิลปะที่เธอซื้อจากผู้ขายอย่างสิ้นเชิง ถุงอันมีค่าของเธอที่มีมูลค่ารวมถึงสิบเจ็ดตำลึง เต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนาที่นำดินสอมาสู่โลก....
..หายหมด! มันหายไปหมดเลย!
โจรมันต้องฉกไปจากมือของเธอในขณะที่เธอกำลังหมกมุ่นอยู่กับการรักษาถุงเหรียญของเธอแน่ ทำไมขโมยเหล่านี้จึงมีความคิดสร้างสรรค์? พวกเขาจะนึกถึงวิธีที่ไร้สาระ – แต่มีประสิทธิภาพ – วิธีการแบบนี้ได้อย่างไร?
พูดกันอันเป็นที่รักยิ่งของฉัน! และหมึก! และกระดาษ! และที่สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด แม่พิมพ์ดินสอของฉัน!
ยูเจี๋ยคิดว่าเธอฉลาดมาก มีความสามารถมากๆ ....แต่เธอก็แค่คนโง่ที่หยิ่งผยอง! เธอควรฟังคำเตือนของฮุ่ยเอ๋อ ถ้าเธอยอมรับฟังคำแนะนำดีๆที่บอกกล่าว และแค่เพียงเป็นคนที่ระมัดระวังมากขึ้น....
ยูเจี๋ยอยากร้องไห้
เธอเลือกที่จะทำสิ่งที่สมเหตุสมผลในการปลดปล่อยความคับข้องใจและความโกรธ เปล่งเสียงของเธอ ยูเจี๋ยตะโกนดังก้องไปท่ามกลางฝูงชน
“ขโมย!” เธอชี้ไปที่ทิศทางที่โจรกำลังมุ่งหน้าไป ตะโกนว่า “จับขโมยนั่นที!”
ยูเจี๋ยไม่รอให้ฮุ่ยเอ๋อตอบคำถามใด หรือคิดอะไรในใจเพื่อกำหนดวิธีการตอบสนองที่เป็นตรรกะขึ้น เธอตบไหล่ของสาวใช้อย่างรวดเร็ว ทำให้อย่างมั่นใจ “ฮุ่ยเอ๋อ ข้าจะกลับมาในไม่ช้า”
จากนั้นเธอก็วิ่งตามคนไม่เต็มบาทที่กล้าขโมยอุปกรณ์ศิลปะของเธอ