บทที่ 2
บทที่ 2
รินรดาหยิบแท็ปเล็ตออกมาแล้วนั่งทำงานของตนไปพลางๆ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอได้ยินเสียงประตูเปิดและตามมาด้วยชายร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีขาวขุ่นกับกางเกงยีนสีซีดจาง ใบหน้ามีแต่หนวดเครารุงรังแถมสวมแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่ ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องแล้วหยุดที่เธอ แม้จะสวมแว่นตาสีดำอยู่แต่รินรดาก็รู้สึกได้ว่าเขาจ้องเธอเขม็ง
“ยุทธอยู่ไหน”
“เอ่อ...คุณยุทธไปซื้อกาแฟค่ะ”
“นานหรือยัง”
“ไม่นานค่ะ เพิ่งออกไปไม่ได้สวนกันเหรอคะ”
“ถ้าเห็นแล้วจะถามเหรอ”
รินรดาอ้าปากค้าง เขาช่างไร้มารยาทเสียจริง พูดกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอก็ไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับคนแบบนี้แต่ถ้าจะให้ลุกออกมาก็เกรงว่าจะดูเหมือนเธอร้อนตัวเกินไป ชายร่างใหญ่เหลียวซ้ายแลขวาอย่างหงุดหงิดเพราะไม่มีใครอื่นนอกจากผู้หญิงผอมกะหร่องคนนี้ เขามองมาทางเธอแล้วถอนหายใจหนักๆ เสยผมยาวปรกบ่าของตน
“นั่งรอก่อนดีกว่าค่ะ คุณยุทธออกไปเดี๋ยวเดียวก็เข้ามาแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ทิ้งออฟฟิศไปทั้งที่ไม่มีใครอยู่หรอกค่ะ”
คำพูดของเธอมีเหตุผลและฟังขึ้น เขายักไหล่เหมือนไม่สนใจคำพูดของหญิงสาวแปลกหน้าแต่ก็นั่งลงที่เก้าอี้ว่างใกล้ๆ เธอ รินรดาแอบมองคนตัวใหญ่ที่นั่งใกล้ๆ ยากจะคาดเดาว่าเขามีธุระอะไรเพราะดูๆ ไปคงไม่ใช่ชิปปิ้ง หรือถ้าจะมาติดต่องานก็ควรจะแต่งตัวให้สุภาพกว่านี้ แต่พอพินิจเสี้ยวหน้าด้านข้างที่เธอลอบมองก็รู้สึกคุ้นตาแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“คุณรินครับ กาแฟเย็นแสนอร่อยมาแล้วครับ” ยุทธก้าวเข้ามาพร้อมกาแฟเย็นในถุงกระดาษแบบโบราณ แล้วเขาก็ชักสีหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รินรดา
“ขอบคุณมากค่ะ” รินรดายื่นมือไปรับแล้วยิ้มให้เช่นทุกครั้ง
แต่ชายหนุ่มที่นั่งใกล้ทำเสียงไม่ค่อยพอใจในลำคอ รินรดาขมวดคิ้วแต่ก็แสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วลุกขึ้นยืน
“รินขอตัวก่อนนะคะ”
“ให้ผมไปช่วยไหมครับ” ยุทธเสนอตัวแบบไม่เกรงใจคนที่นั่งรอ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณยุทธดูแลแขกของคุณดีกว่า รินเสร็จธุระแล้วก็จะกลับเลยค่ะ”
“โอเคครับ”
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ ในลำคอ ร่างบางเดินออกไปแล้วเขาจึงถอนแว่นกันแดดออก
“หัวเราะแบบนี้หมายความว่าไงวะ”
“น่าเบื่อผู้หญิงแบบนี้” เขาทำหน้าเบื่อหน่าย
“หมายความว่าไง แกไม่เคยเจอคุณรินแล้วจะรู้ได้ไงว่าเธอเป็นคนยังไง”
“ดูก็รู้แล้ว นี่คงหลอกแกออกไปซื้อกาแฟให้กินละซิ”
“โธ่ไอ้คุณเพลิงครับ กระผมทำให้คุณรินด้วยความเต็มใจขอรับ” ยุทธส่ายหน้าไปมา “เอาล่ะ ว่าแค่คุณเพื่อนมาหากระผมถึงที่ทำงานแต่หัววันแบบนี้มีอะไรให้รับใช้”
ชายหนุ่มแหงนหน้าหัวเราะ “หาคนกินเบียร์”
“กูว่าแล้ว” ยุทธหัวเราะ “ทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะ”
“พูดมากจริงจะกินไหม?”
“เพิ่งบ่ายสองเองนะขอรับ”
“ก็กูอยากกิน คุณมึงจะมีปัญหาไหม?”
ยุทธโคลงศีรษะไปมาแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดหมายเลขโทรตามพนักงานอีกคน “ช่วยเข้าออฟฟิศหน่อย พี่มีธุระสำคัญมาก”
“ว่าง่ายๆ ค่อยน่ารักหน่อย”
“อย่ามาพูดแบบนี้กับกูเชียว ขนลุกวะ” ยุทธทำหน้าขยะแขยงแล้วเดินไปเก็บกระเป๋าสะพายแบบผู้ชายของตน “ไปๆ จะไปกินที่ไหนก็แล้วแต่เจ้ามือเลยขอรับ”
“ดีมากเพื่อน” ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดีกว่าตอนเข้ามามาก ทั้งสองก้าวออกมาจากออฟฟิศ ชายหนุ่มหนวดเครารุงรังมองไปยังร่างบางที่กำลังถ่ายรูปโกดังเก็บสินค้า “เขาทำอะไรของเขา”
“ถ่ายรูปโกดังเอาไปให้ลูกค้าดู ประมาณว่าบริษัทของเขามีที่จัดเก็บสินค้านำเข้าส่งออกนั้นแหละ”
“เดี๋ยวนี้ต้องทำแบบนี้แล้วเหรอ”
“เออ” ยุทธพูดแบบตัดบทเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง
“น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ นี่ถ้ากูไม่มาขัดคอ เอ็งก็คงจิ๊จ๊ะกับหล่อนไปแล้วซิ”
“ขอเถอะ ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนผู้หญิงที่คุณมึงรู้จักหรอก”
“ขนาดนั้นเชียว” ชายหนุ่มหัวเราะน้ำเสียงเยอะเย้ย “ผู้หญิงรายไหนก็รายนั้น ขอให้มีเงินไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
“เปลี่ยนเรื่องเถอะวะ คุยกับคนมีเงินแล้วป่วยจิต”
ชายหนุ่มผมยาวมองร่างบางอีกครั้งแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก เขาเจอผู้หญิงมาเยอะ ยอมสยบแทบเท้าเขาทั้งนั้น แน่นอนว่าเพราะเขาปรนเปรอพวกหล่อนด้วยข้าวของเงินทอง แต่เมื่อเขาเบื่อก็ดีดพวกหล่อนทิ้งได้ง่ายดายเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน เขาแต่งตัวซอมซ่ออย่างนี้ก็เลยทำเป็นเมินใส่ ลองเขาใส่สูทผูกไทคงต้องรีบใช้มารยาหญิงตะครุบเขาแน่
ผู้หญิงนะ...รายไหนก็รายนั้น เงินเท่านั้นแหละที่จะมัดใจได้ เรื่องความรักมันมีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ!.